Group Blog
 
All blogs
 

เพียงเปิดใจ

ถ้าไม่อยากถูกไฟลวก ก็อย่าเล่นกับไฟ
ไม่อยากจมน้ำ ก็อย่าลงน้ำ
ไม่อยากเจ็บ ก็อย่ารู้สึก
ไม่อยากตายเพราะรัก ก็อย่ารัก
ถ้าไม่อยากสูญเสียคนรอบข้าง ก็อย่าแสดงอารมณ์
ไม่อยากร้องไห้พรุ่งนี้ วันนี้อย่าหัวเราะ

หลายคนคงเคยได้ยินหรือไม่ได้ยินประโยคนี้
หากเราคิดที่จะรักใครสักคนแล้ว
บางครั้งเราก็ไม่ได้ดูหรือเห็นถึงส่วนที่เลวร้ายของเขาคนนั้น
มันเป็นความจริงที่หลายคนต้องยอมรับความจริงที่เกิดขึ้น

คนบางคนไม่กล้าที่จะรักใครสักคน
เพียงเพราะว่าหวาดกลัวกับความรัก
กลัวความจริงที่วันหนึ่งเรา และ เขาไม่ได้อยู่เคียงข้างกัน
นั่นแหละคือความคิดที่ผิดมหันต์ เพราะว่า…
เธอได้ปิดกั้นความรู้สึกของตัวเธอเอง

ความกลัวเป็นเหมือนเกราะที่ทำให้ใครหลายคนไม่กล้าที่จะรักใครได้
หากเพียงแค่เราเปิดใจรับใครสักคนเข้ามา
เพียงครั้งเดียวก็ทำให้เราได้รู้ว่าโลกที่สดใสเป็นเช่นไร
ไม่ใช่คิดกลัวกับเรื่องของอนาคตที่มันกำลังจะเกิดขึ้น
เพราะการที่เรากลัวมัน ก็อย่าหวังเลยว่าคุณจะมีความสุขได้
หากคุณยังกลัวเหมือนกับข้อความข้างบนแล้ว
คุณจะไม่รู้จักกับคำว่า “รัก” เลย

เปิดใจที่รับใครสักคนศึกษาดูใจกัน
เพราะวันหนึ่งคุณจะกล้าพูดได้เลยว่า
“ความรัก” ทำให้อะไรบนโลกนี้น่าอยู่มากกว่าเดิม…

ที่มา saranair.com




 

Create Date : 18 มิถุนายน 2552    
Last Update : 21 มิถุนายน 2552 9:59:55 น.
Counter : 375 Pageviews.  

ทำไงให้รักกับงานไปกันได้ด้วยดี

คนเราพอถึงช่วงอายุนึงที่ต้องมีความรักก็คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ แต่ในขณะเดียวกันเมื่อเรียนจบและมีคุณสมบัติเพียบพร้อมพอที่จะทำงานได้ ทุกคนก็ต้องมีอาชีพการงานเป็นของตัวเองเช่นกัน ซึ่งเรื่องงานกับความรักนี่บางคนสามารถสร้างสมดุลให้ทั้งสองอย่างไปด้วยกันได้ดี ทว่าบางคน เอ๊ะ ทำไมกลับไม่สามารถทำให้ทั้งสองอย่างนี้ไปกันได้น้า

งั้นสัปดาห์นี้ เรามาหาวิธีทำให้ “งานกับความรัก” เคียงคู่กันไปด้วยดีเถอะเนอะ เพราะใครๆย่อมอยากให้ชีวิตของตัวออกมาในรูปการณ์นี้ทั้งนั้น เอ้า ดังนั้น ความรักกับการงานจะเดินไปด้วยกันได้อย่างพอเหมาะพอเจาะ ก็ต่อเมื่อ…

1. คุณสนุกกับงาน ขณะเดียวกัน คู่รักก็มีเวลาให้กันด้วยแบบนี้ รับรองงานวิ่งฉิว ส่วนความรักก็ไปโลด คิดดูเดะ ตอนไปหางานทำ คุณก็รู้ว่าตัวเองชอบและเหมาะกับงานด้านไหน ดังนั้น พอเรียนจบปุ๊บก็ได้งานดั่งใจปั๊บ (อาจเป็นจังหวะที่บริษัทที่คุณอยากทำงานด้วยกำลังมองหาพนักงานที่มีคุณสมบัติอย่างคุณพอดี) แล้วพอมีความรักขึ้นมา ก็ปรากฏว่าคนรักของคุณไม่บ้างานเกินไป จึงพอเหลือเวลามาเอาใจใส่คุณด้วย โอ๊ย ถ้าลงตัวแบบนี้ คุณก็ลักกี้ทั้งเรื่องงานกับความรักน่ะเซ่

2. ถือคติ ปัญหาเรื่องงานเก็บไว้แก้ที่ทำงานไม่เอาเก็บกลับบ้านมาเป็นอารมณ์ ดังนั้น คู่รักจึงจ๋าจ๊ะใส่กันได้เวลาอยู่บ้าน ไม่ใช่ทำหน้าหงิกหน้างอใส่กันจนทำให้บ้านไม่น่าอยู่ แล้วจะลักกี้ (โชคดี) ในความรักได้ไง อย่าลืมนะเวลาคุณอยู่กะคนรักควรพูดกันเพราะๆ มีคะ, ขา, ครับ, ฮะ แล้วเชื่อดิ่ งานกับความรักก็จะไปด้วยกันได้ดีเองแหละ

3. ถ้าคู่รักทำงานในสายงานใกล้เคียงกัน จึงสามารถปรึกษาหารือกันได้ ส่วนเรื่องรัก หากพอใจอะไร หรือผิดใจกันเมื่อไหร่? ก็พูดคุยกันได้อีก เอ้า ในเมื่องานการยังปรึกษากันได้ แล้วเรื่องความรักทำไมจะคุยกันไม่ได้จริงมะ หากเป็นซะงี้ คู่นี้ก็เข้าข่ายโชคดีอีกแย้ว

4. ตั้งใจไว้ตั้งแต่เริ่มทำงานเลยว่า จะแบ่งเวลาให้กับงานและความรักพอๆ กัน ฉะนั้น ถ้ากำลังทำงาน ก็จะต้องไม่ให้เวลางานมาเบียดเบียนเวลาที่จะได้พบปะพูดคุยหรือไปเที่ยวกับคนรัก ถ้าคุณมีสติที่จะยึดมั่นกับทั้งสองสิ่งนี้ ในอัตราส่วนเท่าๆ กัน ว้าว! เป็นงี้ก็แจ๋วไปเลย

5.ห้ามนำเรื่องความรักมาหัวเสียในที่ทำงานแม้ความรักจะไม่ราบรื่นไปซะทุกวัน แต่คุณไม่มีวันที่จะเอาปัญหาในเรื่องรัก ติดมาหัวเสียกับใครในที่ทำงานเด็ดขาด เรียกว่ารู้จักแบ่งเรื่องงานกับความรักออกจากกันอย่างชัดเจนไง

6. มุ่งมั่นทำงานและทุ่มเทให้งานพอๆ กับทุ่มเทและเอาใจใส่คนรักมีนะที่คู่รักบางคู่ ต่างรู้และเข้าใจว่างานนั้นมีความหมายต่อคนที่เค้ารักมากแค่ไหน จึงไม่จู้จี้จุกจิกหรือสร้างความรำคาญใจให้อีกฝ่าย ทั้งคู่จึงทำงานได้สะดวก เมื่อทั้งงานและรักไปด้วยกันได้ ก็แฮปปี้เอนดิ้ง แหงๆ ไชโย

ขอขอบคุณข้อมูลจาก ไทยรัฐ




 

Create Date : 18 มิถุนายน 2552    
Last Update : 19 มิถุนายน 2552 16:52:05 น.
Counter : 270 Pageviews.  

8 วิธีถนอมรักให้ยืนยาว

“กว่าที่คน 2 คน จะรักกันได้ก็ยากพออยู่แล้ว แต่การถนอมความรักที่มีต่อกันให้ยั่งยืนยาวนานนั้น ยากยิ่งกว่า”

ใครก็ไม่รู้พูดถึงการครองรักนี้ไว้ตรงใจดีเหลือเกิน เคยลองถามคนอื่นๆ ดูถึงเรื่องนี้ ก็มีเสียงยืนยันสนับสนุนท่วมท้นจากผู้มีประสบการณ์ว่า จริงของเขาค่ะ งานนี้ชัวร์ไม่มีมั่วนิ่ม…ได้ยินอย่างนี้แล้วบรรดาคนโสดทั้งหลายก็อย่าเพิ่งขยาด กลัวความรักกันไปเสียหมดนะคะ ใจเย็นๆ ก่อน เพราะถึงการรักษาความรักไม่ให้จืดจางนั้นจะยาก ก็ใช่ว่าจะไม่มีหนทางเสียเลยซะทีไหน
ถ้าคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่อยากให้ชีวิตคู่ของคุณอบอวลไปด้วยความรัก ความสุข คุณและเขาคนนั้นก็ไม่ควรขาดเรื่องสำคัญต่อไปนี้…

1. ซื่อสัตย์ต่อกัน

เรื่องของความซื่อสัตย์ ซื่อตรงต่อกันนั้น นับเป็นหัวใจสำคัญของการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในครอบครัว เพราะสิ่งนี้หมายรวมไปถึง การให้เกียรติ ความไว้ใจ เชื่อถือศรัทธาระหว่างคนในบ้าน การโกหกหลอกลวงและไม่ซื่อตรงต่อกันนั้น เป็นต้นเหตุให้ครอบครัวมากมายต้องแตกสลายมาแล้ว ดังนั้นถ้าไม่อยากต้องมานั่งกลุ้มใจในภายหลังก็อย่ารินอกใจกันกันเด็ดขาด

2. เปิดเผย จริงใจ

ความปรารถนาดีอย่างจริงใจ เป็นสิ่งที่คนรักกันควรมอบให้โดยไม่ต้องร้องขอ ความกล้าที่จะติเตียน ชี้แนะถึงข้อผิดพลาด และบกพร่องในทุกๆ เรื่อง และต่างพร้อมรับฟังเพื่อช่วยกันแก้ไขข้อบกพร่อง จะทำให้รักของคุณไม่มีวันจืดจางอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นจงอย่ากลัวที่จะพูดความจริงกับคนที่คุณรัก

3. หนักแน่น ไม่ใช้อารมณ์

แม้ว่าจะรักกันเพียงใดก็ตาม แต่เมื่อใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันแล้ว เป็นธรรมดาที่จะต้องมีเรื่องกระทบกระทั่ง โต้เถียงทะเลาะกันบ้าง ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร เพียงแต่ต้องไม่ลืมตัว ระบายความรู้สึกออกมาด้วยการใช้อารมณ์โกรธเกรี้ยว ดุด่าทำร้ายกัน ในการแก้ปัญหา แม้ว่าจะไม่พอใจขนาดไหนก็ควรตั้งสติ ข่มใจให้สงบเพื่อหาทนทางแก้ไข ปัญหาที่เกิดขึ้นก็จะคลี่คลายไปในที่สุด

4. ร่วมทุกข์ร่วมสุข

ในยามที่เกิดปัญหาขึ้นหรืออุปสรรคในครอบครัว ต้องร่วมมือร่วมใจและอดทนที่จะฝันฝ่าต่อความยากลำบากไปด้วยกัน เป็นเรื่องที่สำคัญมากอีกข้อที่ไม่ควรมองข้ามไป การปลุกปลอบคอยเป็นกำลังใจต่อกันในยามยาก ย่อมจะทำให้เกิดความเข้าอกเข้าใจจนเกิดเป็นความเป็นความผูกพันที่จะทำให้ ความรักที่มีต่อกันแน่นแฟ้นเพิ่มมากขึ้น

5. มีน้ำใจช่วยเหลือกัน

การแสดงน้ำใจด้วยการช่วยเหลือคนในครอบครัว หรือคู่ชีวิตของคุณ โดยไม่ดูดายทอดธุระให้เป็นหน้าที่ของใครเพียงฝ่ายเดียว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่จะทำให้ความรักในหัวใจระหว่างกันไม่เหือดแห้งหายไป

6. ให้อภัยเมื่อทำผิด

สุภาษิตเขายังบอกว่า “สี่ตีนยังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง” แล้วจะประสาอะไรกับคนธรรมดาๆ อย่างตัวคุณเองหรือคนที่คุณรัก ที่คงจะต้องมีเรื่องผิดพลาดในชีวิตขึ้นบ้าง จงให้อภัยและให้โอกาสเขาแก้ตัวใหม่อีกครั้ง

7. ไม่ริดรอนความเป็นส่วนตัว

ถึงแม้ว่าจะรักกันปานใด แต่มนุษย์ทุกคนยังคนรักอิสระ และต้องการเก็บความเป็นส่วนตัว (แม้จะเหลืออยู่ไม่มากนัก) เพราะฉะนั้นต้องเคารพในความเป็นส่วนตัวของอีกฝ่าย ไม่ก้าวก่าย วุ่นวาย และให้อิสระในการใช้ชีวิตต่อกันบ้าง หมดสมัยแล้วกับการที่จะต้องฝืนใจทำสิ่งที่ไม่ชอบเพื่อเอาใจกัน ถ้าทำได้อย่างนี้ชีวิตคู่ของคุณก็จะแฮปปี้ ไม่มีปัญหา

8. บอกรักกันบ้าง

แม้จะไม่บอกด้วยคำพูดตรงๆ แต่การกระทำที่แสดงออกถึงความรักตามสไตล์หรือแบบฉบับของคุณเอง ที่จะสื่อสารให้อีกฝ่ายได้รับรู้ถึงความรู้สึกรักที่คุณมีให้ จะเป็นน้ำจิ้มรสเด็ดที่จะช่วยให้ชีวิตรักของคุณทั้งสองมีสีสันมากขึ้น ความโรแมนติก สวีทหวานแหววนานๆ เอามาใช้ให้ชุ่มฉ่ำหัวใจเสียบ้าง ก็ไม่เสียหายหรอกนะคะ


โดย: มนตรา
ข้อมูลบางส่วนจากชุดวิชาครอบครัวศึกษา เรื่อง ครอบครัวที่ดี ของกรมการศึกษานอกโรงเรียน กระทรวงศึกษาธิการ




 

Create Date : 11 มิถุนายน 2552    
Last Update : 15 มิถุนายน 2552 13:47:23 น.
Counter : 294 Pageviews.  

รักอย่างไรไม่เป็นทุกข์

แอบหลงรักรุ่นน้อง หนุ่มช่างกลอกหัก ผูกคอตาย
ดาราดังถูกทิ้ง เมายาแก้ทุกข์ เศร้าซ้ำโดนแอบถ่าย
นักศึกษาสาวปิดห้อง ปาดข้อมือเหตุอกหัก โชคดีเพื่อนช่วยไว้ทัน

ปัจจุบันหญิงชายมักตัดสินปัญหาความรักด้วยความรุนแรง เพื่อไม่ให้ความรักก่อเกิดความทุกข์ จนต้องทำร้ายตัวเราเองและครอบครัว ผศ.พญ.สุทธิพร เจณณวาสิน ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ อธิบายว่า รักอย่างไรไม่เป็นทุกข์ ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราคิดหรือมองความรักเป็นอย่างไร

คนเราควรมีความรักที่จะทำให้ตัวเราและคนที่เรารักมีความสุข แต่ส่วนใหญ่ปัญหาเกิดจากการที่เรารักเขาแต่เขาไม่รักเรา ทำให้เป็นทุกข์ ซึ่งทางจิตวิทยามองว่า ความรักที่ดีต่อสุขภาพหรือสุขภาพจิตนั้น ควรเริ่มมาจากการรู้จักรักตัวเองเสียก่อน การรักตัวเองไม่ใช่เป็นการเห็นแก่ตัว แท้จริงแล้ว หากรู้จักรักตัวเองอย่างพอเพียงจะเห็นถึงคุณค่าของตัวเอง ความรู้สึกโหยหาความรักจากผู้อื่นก็จะมีอิทธิพลน้อยลง

อยากให้มองความรักว่า ความรักไม่จำเป็นต้องเกาะติด เมื่อรักกันได้ก็ย่อมเบื่อหน่ายจืดจางได้เช่นกัน หากต่างฝ่ายรู้จักสร้างความสุขด้วยตัวเองได้ ก็จะช่วยให้สัมพันธภาพดีขึ้น การทำให้ความรักมากด้วยความสุขนั้น มีคำแนะนำรักอย่างไรไม่เป็นทุกข์ ดังนี้

คนเราควรมีความสุขได้ด้วยตนเอง ควรปรารถนาให้ผู้อื่นเกิดความสุข ยินดีเมื่อคนที่เรารักมีความสุข ลดความคาดหวัง หากไม่สมหวังจะได้ไม่ต้องเสียใจมาก ยอมรับความแตกต่าง หากอีกฝ่ายคิดไม่เหมือนกัน ยอมรับความเปลี่ยนแปลง หากความรักไม่เหมือนเดิม ให้ยังมีความรู้สึกที่ดีต่อกัน ไม่ควรทำแต่สิ่งที่ตัวเองชอบ หรือสิ่งที่ตนคิดว่าดีให้คนอื่นเพียงอย่างเดียว มีความเกรงใจและเอาใจเขามาใส่ใจเรา พูดจาชื่นชมในสิ่งดีของกันและกัน เป็นอีกหนึ่งวิธีการมอบความรัก หมั่นแสดงออกซึ่งความรักให้กันและกัน
การจะรักใครควรรักอย่างมีสติ ไม่ทุ่มเทจนหมดตัว อย่าปล่อยให้คนเพียงคนเดียวเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง ยังมีใครอีกหลายคนที่เรารักและรักเรา

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
momypedia.com




 

Create Date : 09 มิถุนายน 2552    
Last Update : 10 มิถุนายน 2552 12:38:13 น.
Counter : 305 Pageviews.  

ไว้อ่าน…เมื่อทะเลาะกับแฟน

ชีวิตคนเรามีอะไรมากมายที่ผ่านเข้ามาให้ซึมซับรับรู้


ในชีวิตคนเรามีผู้คนมากมายที่ผ่านเข้ามาให้รู้จักมักคุ้น
แต่ในผู้คนมากมายเหล่านั้น
อย่างน้อยคงต้องมีใครบางคนที่ทำให้เรารู้สึก “ไม่ธรรมดา”
ที่จะนึกถึง เรียกว่าเป็น “ความพิเศษ”
ที่เราจะยกเว้นเอาไว้จากความปกติทั่วไปของจิตใจ
ก็ในเมื่อคำว่า “พิเศษ” หมายถึงความจำเพาะ ความแปลกแยก ความดีงาม ความอบอุ่นในหัวใจ
กระนั้นทำไมเราไม่ปฏิบัติต่อเขาให้ตรงกับที่ใจคิด


ให้ “ความรู้สึกดีดี” จากจิตใจที่ดีดี
ให้ “ความอาทรถึง” จากจิตใจที่นึกถึง
ให้ “ความห่วง” จากจิตใจที่เป็นห่วง
ให้ไปเถอะ ให้ไปอย่างดีดี แต่มี “สติ”
ให้ไปเถอะ ให้ไปอย่างอบอุ่น แต่ไม่ “คุกรุ่น”
ให้ไปเลย ให้ไปเท่าไหร่ก็ได้ แต่เมื่อให้ไปแล้วต้อง “ไม่ร้อนรุ่มกลัดกลุ้ม”

และหากเมื่อใดจิตใจอาจระส่ำระสาย สะดุดกับอะไรขึ้นมาบ้าง
ก็จงหยุดพักตรึกตรอง อย่าปล่อยให้พายุอารมณ์โถมพัด
“สิ่งดีดี” จนกระจัดกระจาย
เพราะ “การให้ความหมาย” ไม่ใช่ “การตั้งความหวัง”
คนสองคนให้ความหมายซึ่งกันและกัน แต่คนสองคน
“จะไม่ตั้งความหวังในกันและกัน”
เพราะการตั้งความหวังมักนำพาซึ่ง “การเรียกร้อง”
“ความอยากเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ” โดยที่ไม่รู้ตัว
มันร้อนนัก หนาวนัก และไม่เป็นสุข
เราต้องไม่ลืมปรับอุณหภูมิจิตใจเอาไว้ที่องศาอุ่นๆ
หากเริ่มรู้สึกตัวว่า ความร้อนเริ่มทวีขึ้น เราต้องค่อยๆ
เดินออกมาสูดอากาศเย็น
หากตรงกันข้ามเราก็ต้องหลบเร้นจากความหนาวมาหาไอแดดเช่นกัน
และอย่าลืมว่า “ความพิเศษ”
ไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นพิเศษมากหรือพิเศษสุด
หรือพิเศษอย่างยิ่งในคนคนเดียว
ทั้งเราและเขาอาจจะมีคนพิเศษในวิถีชีวิตได้หลายลักษณะ
พิเศษในเรื่องนั้น พิเศษในเรื่องนี้
ในเมื่อหัวใจเป็นของเรา
เราก็ย่อมเลือกให้ความพิเศษกับใครก็ได้ที่เราจะไม่ต้องแลกกับความทุกข์อย่างพิเศษกลับมา


จงให้ “ความพิเศษ” เป็นชีวิตชีวา
เป็นแววตาที่แจ่มใส
เป็นความห่วงใยที่เมื่อนึกถึงทีไรก็ยิ้มได้
ไม่วิ่งหนี แต่ไม่วิ่งตาม
ไม่หักห้าม แต่ไม่กระโจนใส่
ไม่เป็นน้ำตาลที่หวานอ่อนไหว
แต่เป็นความอบอุ่นในหัวใจและเอื้ออาทร
จงเป็นความแจ่มใสในอารมณ์ของตัวเอง เป็นความชุ่มชื่น สดใส เช่นสายน้ำ
เป็นสีสันงดงามเช่นมวลผกา เป็นสีเขียวของใบไม้
ที่เย็นที่ตาและที่ใจ
และที่ตรงนี้ จะอีกนานเท่าใด ไม่ว่า “คนพิเศษ” คนนั้นจะอยู่ใกล้หรือต้องจากกันไกล
“ความพิเศษ” นั้นก็จะคงอยู่อย่างมีคุณค่า ณ ที่เดิม ที่ซึ่งใจข้างซ้ายตรงกัน

ขอบคุณบทความจาก FW




 

Create Date : 05 มิถุนายน 2552    
Last Update : 8 มิถุนายน 2552 17:14:51 น.
Counter : 335 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  

icy_cute
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]







CO.CC:Free Domain
Friends' blogs
[Add icy_cute's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.