Group Blog
 
All blogs
 

กระเป๋าใบใหญ่ อันตรายต่อสุขภาพ !!!

ผู้หญิงที่ชอบสะพาย "กระเป๋าใบใหญ่" โปรดระวัง.... ระวังจะต้องไปหาหมอให้รักษาอาการปวดหลัง ปวดไหล่ ปวดคอ เผลอๆ อาจมีอาการ "ปวดหัว" ร่วมด้วยเพราะพิษสงของ "บิ๊ก แบ๊ก" ที่ใส่ของได้เยอะ แต่ก็ก่ออาการเจ็บปวดให้ร่างกายได้เยอะเช่นกัน ยิ่งตอนนี้ที่ผู้หญิงหันมาใช้ "กระเป๋าใบโตๆ" กันเยอะ ตามเทรนด์แฟชั่นกระเป๋าที่มีออกมา

ทั้งนี้ จากบทความด้านสุขภาพของสำนักข่าวรอยเตอร์ ได้พูดถึงเทรนด์แฟชั่นกระเป๋าสตรีในปัจจุบันว่า มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าแต่ก่อน แล้วก็หนักมากขึ้น สายสะพายก็ยาวขึ้น เนื่องจากเทรนด์แฟชั่นกระเป๋า ซึ่งดีไซเนอร์ได้หยิบเอารูปลักษณ์ของกระเป๋าใส่เอกสาร มาผสมผสานกับกระเป๋าถือสำหรับผู้หญิงออกมาเป็นกระเป๋าใบโต ที่ "จุของ" ได้จุใจ ผู้หญิงช่างหอบ (ของ) โดยผู้บริโภคสินค้าไม่รู้เลยว่า การสะพายกระเป๋าที่หนักมากเกินพอดี สามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพ ทำให้เกิดอาการ ปวดไหล่ ปวดคอได้ !!!

"ดิฉันเจอคนไข้หญิงหลายรายแล้วที่มาหาหมอด้วยอาการปวดคอ ปวดหัว แล้วสิ่งแรกที่ดิฉันทำเวลาตรวจคนไข้ที่มีอาการเหล่านั้นก็คือ ขอดูกระเป๋าถือของพวกเธอก่อนเลย แล้วลองยกดู จากนั้นก็เอาไปชั่งน้ำหนัก ปรากฏว่า กระเป๋าของคนไข้เหล่านั้นจะมีน้ำหนักเฉลี่ยอยู่ราว 3.1-4.5 กิโลกรัม ยิ่งพวกที่สะพายกระเป๋าหนักมากๆ เราก็จะพบว่า ยิ่งมีอาการปวดเหล่านั้นรุนแรงมากขึ้น" เจน แซดเลอร์ แพทย์หญิงของโรงพยาบาลเบย์เลอร์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ ในเมืองการ์แลนด์ มลรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา บอก

ขณะที่ วิลเลี่ยม เคส นักกายภาพบำบัดของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในเมืองฮิวส์ตัน รัฐเท็กซัส ได้พูดถึงอาการปวดไหล่ ปวดคออย่างรุนแรงว่า สามารถกลายเป็นสาเหตุนำไปสู่อาการปวดหลังช่วงบน เลยจากบริเวณเอวขึ้นไปได้ด้วย โดยอาการปวดเหล่านั้น อาจจะสำแดงอาการออกมาเวลานั่งทำงานอยู่หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือเวลาออกกำลังกาย เล่นกีฬา !!!

"กระเป๋าใบใหญ่มากๆ กำลังมีคนนิยมถือกันเยอะมาก มันดูสวยดีหรอกเวลาผู้หญิงสะพาย แต่ผมไม่รู้ว่า พวกเธอพอมีความรู้ถึงผลร้ายของกระเป๋าเหล่านั้นบ้างหรือเปล่า การนวด หรือกินยาแก้ปวด เป็นแค่การบรรเทาอาการเพียงชั่วคราว แต่วิธีรักษาที่ดีที่สุดก็คือ การให้ความรู้ ความเข้าใจแก่ผู้บริโภค และคนไข้"

ว่าแล้วในโอกาสนี้ คุณเคสเลยถือโอกาสฝาก "คำแนะนำ" ถึงบรรดาดีไซเนอร์ด้วยว่า "น่าจะมีการทำป้ายเตือนผู้บริโภคห้อยติดไว้ที่กระเป๋าทุกใบให้รู้ว่า การสะพายกระเป๋าที่มีน้ำหนักมากเกินไป อาจเป็นอันตรายต่อคอและไหล่ได้"

แต่ที่น่าจะเป็น "ประโยชน์ทันตา" ทันใจยิ่งกว่านั้นก็คือ นักกายภาพบำบัดท่านนี้ ยังมีคำแนะนำดีๆ มาฝากถึงผู้บริโภค หรือผู้ที่กลายเป็น "คนไข้" ไปแล้วด้วยว่า ควรจะปฏิบัติตัวอย่างไร หากต้องสะพายกระเป๋าใบใหญ่ และหนัก !!!

ทั้งนี้ คุณเคสแนะนำว่า ควรพยายามเดินตัวตั้งตรง ศีรษะตั้งตรง ไหล่ตั้งตรงไว้เสมอ อีกทั้งควรจะหมั่นสลับสับเปลี่ยน สะพายกระเป๋าที่มีขนาด และน้ำหนักแตกต่างกันบ่อยๆ

นอกจากนี้ เคสยังมีคำแนะนำฝากถึงเด็กๆ ซึ่งทุกวันนี้ต้องสะพายกระเป๋าใบโต แบกของหนักไม่แพ้ผู้ใหญ่เช่นกันว่า เด็กๆ ทั้งหลาย ไม่ว่าวัยไหน ควรจะสะพายกระเป๋าที่มีน้ำหนักไม่เกิน 10-15% ของน้ำหนักตัว

ยกตัวอย่างก็คือ หากเด็กมีน้ำหนักตัว 45 กิโลกรัม ก็ไม่ควรสะพายกระเป๋าที่หนักเกินกว่า 4.5 กิโลกรัม-6.75 กิโลกรัม และกระเป๋าแบ๊คแพ็ค หรือเป้สะพายหลัง คือกระเป๋าที่เหมาะที่สุดสำหรับใส่ของหนัก ซึ่งไม่ใช่เฉพาะกับเด็กเท่านั้น แต่ยังเหมาะกับผู้ใหญ่ที่ชอบแบกของเยอะๆ ด้วย

แต่น่าเสียดายที่กูรูด้านแฟชั่น กลับมีความเห็นว่า นี่ไม่ใช่กระเป๋าที่เข้าตาคนรักชอบแฟชั่น และฟันธงเลยว่า ไม่จ๊าบ !!!

"เทรนด์แฟชั่นกระเป๋าตอนนี้ก็คือ ถ้าไม่ใหญ่เบิ้มไปเลย ก็เล็กจิ๋วไปเลย คนสมัยนี้นิยมไปออกกำลังกายที่ยิม แล้วยังต้องมีรองเท้าสำรองอีกตั้งหลายคู่ แล้วไหนยังเครื่องสำอางอีก ทำให้มีข้าวของต้องขนใส่กระเป๋ากันเยอะแยะ เป้สะพายหลังนั้นเหมาะสำหรับนักเรียนเอาไว้ใส่หนังสือ แล้วก็ผู้บริโภคที่ไม่สนใจเรื่องการแต่งตัว แต่ไม่ใช่กระเป๋าที่จะโดนใจคนอินเทรนด์แน่นอน" แอลเลน แคมปูซาโน ประธานคณะกรรมการของคัลเลอร์ แอนด์ เทรนด์ ซึ่งมีหน้าที่คาดการณ์เทรนด์แฟชั่น บอก

ต่อเรื่องนี้ อาจาร์ยอลัน เฮดจ์ แห่งมหาวิทยาลัยคอร์แนล ผู้เชี่ยวชาญวิชาว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับเครื่องกลหรือเครื่องใช้เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่มนุษย์ ก็เล่าถึง พวกแล็บท็อป หรือคอมพิวเตอร์แบบพกพาว่า เป็นตัวการที่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพแบบนี้ขึ้นมา ทั้งยังเล่าเป็นความรู้ว่า ท่าของผู้หญิงที่แบกของหนักโดยเอาของทูนไว้บนศีรษะ เอาตะกร้าทูนไว้บนศีรษะ หรือผูกของไว้ที่หลัง นั้นคือท่าแบกของหนักที่ไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ แต่การสะพายกระเป๋าหนักๆ ไว้ที่ไหล่เพียงข้างเดียวนั้น เป็นท่าที่ทำให้เกิดอันตรายต่อคอ หัวไหล่ และหลัง ดังนั้น หากชอบแบกกระเป๋าใบใหญ่ เพราะรู้สึกว่า ทำให้ดูเป็นคนอินเทรนด์ ก็ต้องพยายามใส่ข้าวของในกระเป๋าให้น้อยเข้าไว้ เพื่อกระเป๋าจะได้ไม่หนักมาก




 

Create Date : 06 เมษายน 2552    
Last Update : 7 เมษายน 2552 12:17:35 น.
Counter : 361 Pageviews.  

ระวัง! สารฟอกขาวในตะเกียบ

เวลารับประทานก๋วยเตี๋ยว ใคร ๆ ก็คงต้องใช้ตะเกียบในการรับประทาน แต่ทราบหรือไม่ว่า ในตะเกียบนั้นมีสารฟอกขาวอยู่ด้วย วันนี้เกร็ดความรู้มีมาบอกกัน...
อันตรายจากสารฟอกขาวที่อยู่ในตะเกียบ เป็นชนิดเดียวกับสารฟอกขาวที่ใช้แช่ถั่วงอก โดยสารฟอกขาวจะมีสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์เป็นส่วนประกอบ เมื่อโดนน้ำร้อนหรือของที่มีอุณหภูมิสูง สารซัลเฟอร์ไดออกไซด์จะเปลี่ยนเป็นสารซัลฟูริค หรือสารชนิดเดียวกับในแบตเตอรี่รถยนต์ สารดังกล่าวจะละลายออกมาจากตะเกียบ ปะปนอยู่ในอาหารที่กินเข้าไป หากผู้ที่เป็นโรคหอบหืด หรือคนแพ้ง่ายจะมีอาการทันที แต่หากร่างกายแข็งแรงสารเหล่านี้ก็จะสะสม ในร่างกาย ซึ่งการปนเปื้อนของสารจะละลายออก มาเมื่อตะเกียบถูกน้ำร้อนหรือความร้อน เช่น การ กินสุกี้ หรือหม้อไฟต่าง ๆ แต่ถ้านำไปใช้กับอาหาร ที่ไม่ร้อนก็ไม่พบว่าสารฟอกขาวเจือปนออกมา

สำหรับอันตรายของสารฟอกขาวที่เข้าไปสะสมในร่างกายจะค่อย ๆ ทำให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายต่ำลง และเกิดโรคต่าง ๆ ได้ง่ายกว่าปกติ เพราะเมื่อร่างกายไม่มีภูมิต้านทาน ถ้าได้รับเชื้อต่าง ๆ จะไม่มีระบบการทำลาย และสิ่งต่าง ๆ ที่เข้าสู่ร่างกายได้ง่ายนั้น จะไปสะสมทำให้เกิดโรคอื่น ๆ ที่จะกระตุ้นให้เกิดโรคมะเร็งได้

ดังนั้น หากต้องใช้ตะเกียบชนิดดังกล่าวในการกินของร้อน ๆ สามารถป้องกันได้ด้วยการแช่ในน้ำร้อนประมาณ 3-4 นาที แล้วเทน้ำทิ้งไป จากนั้นจึงนำตะเกียบมาใช้ได้ ส่วนตะเกียบชนิดไม้ไผ่แม้จะไม่มีสารฟอกขาว แต่ต้องทำความสะอาดให้ดีและทำให้แห้งเพื่อไม่ให้เกิดเชื้อรา เพราะจะทำให้เกิดสารอัลฟาทอกซิน หรือสารก่อมะเร็งได้

ครั้งหน้าจะใช้ตะเกียบก็อย่าลืมทำความสะอาดให้เรียบร้อยก่อนนำมาใช้ จะได้ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ




 

Create Date : 06 เมษายน 2552    
Last Update : 6 เมษายน 2552 17:11:00 น.
Counter : 483 Pageviews.  

กรมขนส่งเตือน นั่งรถตู้โดยสารเถื่อนอันตราย

กรมการขนส่งทางบก เตือน ใช้รถตู้ป้ายดำอันตราย ย้ำเพื่อความปลอดภัยขอให้ผู้ใช้บริการเลือกใช้รถตู้ถูกกฎหมาย พื้นแผ่นป้ายสีเหลือง ตัวเลขทะเบียนสีดำ พร้อมระบุชื่อเส้นทางและเครื่องหมายแสดงการเข้าร่วมบริการ

นายชัยรัตน์ สงวนชื่อ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า หลังได้รับเรื่องร้องเรียนผ่านศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ 1584 เรื่องการให้บริการของรถตู้ป้ายดำที่วิ่งรับส่งผู้โดยสารในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมถึงระหว่างจังหวัด ในเรื่องสภาพตัวรถที่ไม่ปลอดภัย และการให้บริการที่ไม่เป็นธรรม รวมทั้งพฤติกรรมของผู้ขับรถที่ไม่เหมาะสม เช่น สภาพตัวรถที่เก่า การเพิ่มที่นั่งเกินจากที่กำหนด การเก็บค่าโดยสารเกินจริง การขับรถด้วยความประมาท หรือการก่ออาชญากรรมในรูปแบบต่างๆ

ผลการตรวจสอบของกรมการขนส่งทางบก พบว่ารถตู้ป้ายดำที่ได้รับการร้องเรียนดังกล่าว เป็นรถตู้ผิดกฎหมายที่วิ่งรับส่งผู้โดยสารโดยไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบการขนส่งเป็นรถโดยสารประจำทาง ซึ่งยากต่อการตรวจสอบและติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินการตามกฎหมาย

การนำรถตู้ผิดกฎหมายออกรับส่งผู้โดยสาร มีความผิดฐานประกอบการขนส่งโดยมิได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2 หมื่นถึง 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ยังมีความผิดฐานใช้รถไม่ตรงตามประเภทที่จดทะเบียนไว้ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท

ส่วนการนำรถตู้โดยสารออกให้บริการรับส่งนอกท้องที่ที่ได้รับอนุญาต หรือออกนอกเส้นทางจากที่กำหนดไว้ จะมีความผิด ต้องระวางโทษปรับคันละไม่เกิน 5,000 บาท

กรมการขนส่งทางบกจะดำเนินการเข้มงวดตรวจสอบและลงโทษผู้ฝ่าฝืนอย่างจริงจัง ดังนั้นเจ้าของรถและผู้ครอบครองรถ หรือผู้ประกอบการขนส่งที่นำรถมาประกอบการขนส่งโดยผิดกฎหมายดังกล่าวยุติการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมาย และเพื่อความปลอดภัยขอให้ประชาชนเลือกใช้แต่รถตู้ถูกกฎหมาย ซึ่งสังเกตได้จากสีพื้นแผ่นป้ายทะเบียนรถเป็นสีเหลือง หมายเลขทะเบียนรถสีดำ และเป็นตัวเลขทั้งหมด เช่น 10-1234

ส่วนด้านข้างตัวรถต้องระบุชื่อผู้ประกอบการขนส่ง หรือเครื่องหมายแสดงการเข้าร่วมบริการ พร้อมชื่อเส้นทางและหมายเลขเส้นทาง เพื่อความสะดวกในการตรวจสอบเมื่อเกิดปัญหาจากการใช้บริการ

ที่มา : คม ชัด ลึก




 

Create Date : 01 เมษายน 2552    
Last Update : 1 เมษายน 2552 10:27:30 น.
Counter : 588 Pageviews.  

เตือน!! กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปบ่อย ระวังไต

เตือนกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปบ่อยระวังไต

นพ.นรังสันต์ พีรกิจ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า การรับประทานอาหารกึ่งสำเร็จรูปเพียงอย่างเดียวอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ เพราะส่วนประกอบหลักจะเป็นพวกคาร์โบไฮเดรต ส่งผลให้ร่างกายขาดสารอาหารอื่นๆ ที่จำเป็น โดยเฉพาะโปรตีนจากเนื้อสัตว์และผัก ดังนั้น เมื่อปรุงอาหารประเภทนี้ ควรใส่อาหารชนิดอื่นๆ ลงไปด้วยเช่น ผักสด เนื้อสัตว์ หรือไข่ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบทุกหมู่เพียงพอกับความต้องการ

ทั้งนี้ เนื่องจากอาหารประเภทบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปส่วนใหญ่มีโซเดียมจากเกลือและผงชูรส ในเครื่องปรุงประมาณร้อยละ 5 - 6 เมื่อบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเพียง 1 ซอง อาจจะทำให้ร่างกายได้รับโซเดียมสูงถึงร้อยละ 50 - 100 ของปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวัน หากร่างกายได้รับโซเดียมมากเกินความต้องการอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน จะมีผลต่อระบบการทำงานของไต หรือคนที่เป็นโรคไตอยู่แล้ว ก็จะเกิดปัญหาการคั่งของโซเดียม อยู่ในร่างกายทำให้เกิดปัญหาความดันโลหิตสูงได้


ที่มา : INN




 

Create Date : 31 มีนาคม 2552    
Last Update : 31 มีนาคม 2552 18:50:47 น.
Counter : 434 Pageviews.  

อันตรายจากการกินของดอง

1. ปวดท้องน้อย

จะปวดเวลาที่ใกล้จะมีประจำเดือนมากหรือช่วงมีประจำเดือน 1-2 วันแรกจะปวดมากผิดปกติ (ถึงกินยาแก้ปวดก็ไม่หาย หรืออาจจะทุเลาแค่นิดหน่อย)

2. มีตกขาวเยอะมากกว่าปกติ

เวลากินของดองเสร็จแล้ว สักพักร่างกายจะขับตกขาวสีขุ่น ๆ ขาวหรือขุ่นเหลือง-เขียว ออกมาเยอะและมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกมาด้วย

3. คันยิบ ๆ ตลอดที่จุดซ่อนเร้น

เวลาที่มีตกขาวออกมาเยอะ (เนื่องจากตกขาวเกิดอาการอักเสบ) ถ้าหากว่ามีอาการเริ่มต้นนี้ แนะนำว่าควรไปตรวจที่แผนกสูติฯ ตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ทันที (ตรวจภายใน อุลตร้าซาวน์ ตรวจมะเร็งปากมดลูก ตกขาว ช็อกโกแลตซีสต์)

ถ้าอายุน้อย ควรตรวจตั้งแต่แรกจะดีมาก (ถ้าบางคนไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อนก็บอกหมอได้) เพื่อป้องกันสุขภาพไว้ก่อน แต่ทางที่ดีควรจะงดกินของดองไปตลอด

รู้อย่างนี้แล้ว ก็อย่ากินของดองมากจนเกินไป เพื่อสุขภาพที่ดี.




 

Create Date : 28 มีนาคม 2552    
Last Update : 28 มีนาคม 2552 14:23:53 น.
Counter : 419 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  

icy_cute
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]







CO.CC:Free Domain
Friends' blogs
[Add icy_cute's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.