Girls Gang ทริปสมุยเริงร่า (วันที่สอง-เกาะนางยวน)
วันเสาร์ที่ 23 พ.ค.52.....
ตื่นแต่เช้า (กว่าวันทำงานอีกแน่ะ) เดินลงมากินมื้อเช้าที่ห้องอาหารค่ะ  อาหารหลักๆ พวกบรรดาไข่ทั้งหลาย เบคอน แฮม ข้าวต้มสั่งได้นะคะ ส่วนขนมปัง ชา กาแฟ น้ำผลไม้ นม โยเกิร์ตทั้งหลายเดินไปตักเองได้เลย  เติมพลังกันซักนิด เพราะคาดว่าวันนี้มีโปรแกรมเที่ยวทั้งวัน เดี๋ยวหิวง่ะ  ตบท้ายด้วยข้าวต้มปลาร้อนๆ อีกชาม ใส่ทูพีชเล่นน้ำวันนี้ พุงย้อยได้ที่พอดีเรย 555  คุณแฟนเอ็นจอยอีตติ้ง.....  แปดโมงกว่าๆ ได้เวลาที่เรานัดเรือหางยาวไว้ค่ะ ติดต่อกับทางรีสอร์ทไว้เมื่อวานนี้ว่าขอเช่าเหมาลำ โดยปกติราคาเหมาลำ 2000 บาทนะคะ แต่พวกเรามีกัน 8 คน ทางเรือเลยขอเพิ่มเป็น 2300 บาท อุปกรณ์ดำน้ำทั้งหลายทางรีสอร์ทมีให้ยืมฟรีค่ะ เรือมารอที่ชายหาดที่พวกเราเล่นน้ำกันมะวานนี้ แต่เช้าวันนี้น้ำใสแจ๋วมากๆๆ สาวๆ ตื่นเต้นกันใหญ่  ถ่ายรูปชายหาดจากบนเรือค่ะ  ขนาดลุยน้ำมาแล้วนะคะ ยังเห็นเท้าอย่างชัดเจนเพราะน้ำใสขนาด  หันไปถ่ายรูปที่จามจุรีจากบนเรือ  ยกขบวนกันลงเรือ.....  ช่างภาพ (จำเป็น) เริ่มทำหน้าที่เช่นเคย.....  .....แช๊ะ.....  เรือเริ่มมุ่งหน้าออกจากเกาะเต่า ไปเกาะนางยวน  นั่งเรือมาไม่ถึงสิบนาที ถึงแล้วค่ะ เกาะนางยวน  ภาพเกาะนางยวนในบางมุม.....      เรามากันค่อนข้างเช้า เลยยังไม่มีนักท่องเที่ยวซักเท่าไร  ได้แต่ถ่ายรูป เล่นน้ำบริเวณตื้นๆ เพราะกลัวสิ่งมีชีวิตที่อยู่ใต้น้ำ ก็เพราะน้ำทะเลมันใสแจ๋วซะปานนั้นเลยทำให้เห็น อ้ายตัวนี้อย่างชัดเจน แหยงๆ กันอ่ะค่ะ  และไม่ได้มีเพียงตัวเดียวด้วยนี่จิ อยู่กันเป็นกลุ่มเป็นก้อน สามัคคีกันเจงๆ  พวกเราก็เลยไม่อยากกวนใจเจ้าถิ่น เกรงใจอ่ะค่ะ ถ่ายรูปมุมอื่นๆ กันไปเรื่อยๆ สาวๆ กับสะพานไม้ สัญลักษณ์ของเกาะนางยวน  รวมกลุ่ม Girls Gang บนสะพาน (ยังเดินไปไม่ถึงชายหาดซักกะที อิอิ)  คุณแฟน ช่างภาพส่วนตัวเริ่มหามุมถ่ายรูปให้.....  ภาพเบื้องหลังค่ะ  เดินมาถึงชายหาดบนเกาะนางยวนแล้ว  กับคุณเพื่อน สาวหน้าหวานประจำแกงค์  ภาพเดี่ยว ที่คุณแฟนพยายามหามุมให้สุดฤทธิ์.....   ภาพเบื้องหลัง.....  ทั้งทริป มีภาพรวมกลุ่ม 8 ชีวิต รูปนี้รูปเดียว PS. คุณแฟนของเราทำตัวเนียนไปกับผองเพื่อนในกลุ่มเราอีกแว้วว เกือบยกแกงค์เป็นเด็ก MBA มีเด็ก MACA แทรกเข้ามาคนนึง คือ คุณแฟนนี่เอง   ลงเล่นน้ำที่ชายหาด ตัวเริ่มเปียกเป็นลูกหมาตกน้ำ  อยู่บนเกาะนางยวนกันจนสาย นักท่องเที่ยวเริ่มมากันแล้ว พวกเราก็เลยลงเรือไปดำน้ำรอบเกาะเต่ากันดีกว่า ช่วงที่ดำน้ำรอบเกาะเต่า ไม่ได้ถ่ายรูปกันเลยค่ะ เพราะแต่ละคนโดดลงทะเลดำน้ำดูปลา ดูปะการังกันหมด กล้องถ่ายใต้น้ำก็ไม่มีซะด้วยสิ ได้เวลาเที่ยงกว่าแล้ว รีบนั่งเรือกลับมาที่พักเพื่อเตรียมตัวเช็คเอ้าท์  เสียดาย....อยากค้างที่นี่ต่ออีกซักคืน ยังรู้สึกไม่จุใจเลยอ่ะ อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เช็คเอ้าท์ที่พักเรียบร้อย แล้วรถของจามจุรีก็ไปส่งเราที่ท่าเรือเวลาบ่ายสองนิดๆ เรือออกจากเกาะเต่าบ่ายสามพอดี นั่งหลับสลบไสลไปตามเคย  ถึงเกาะสมุยประมาณห้าโมงเย็น รถตู้ของ บ.ลมพระยา ไปส่งที่ IBIS เลยค่ะ  พักผ่อนในห้องพักได้แป๊บเดียวก็หิวข้าวกันแล้ว เพราะวันนี้เที่ยวกับเดินทางทั้งวัน ยังไม่ได้กินข้าวมื้อเที่ยงกันเลย วันนี้ไม่มีโปรแกรมเลยค่ะว่าจะไปกินที่ร้านไหนดี เดินลงไปถาม reception ข้างล่างแนะนำว่า fisherman village อยู่ใกล้ๆ จะเดินไปทางชายหาดก็ได้ใกล้ๆ แต่มันมืดแล้วพวกเราหวั่นๆ เกรงจะเป็นอันตรายต่อคนทั่วไป....อ่ะ ม่ายช่าย จะเป็นอันตรายต่อสาวๆ ว่าแล้วก็เลยเดินมาเหมารถสองแถวหน้าโรงแรมคนละ 60 บาท ทั้งขาไปและขากลับนัดแนะเวลารับกลับกันเรียบร้อย  หาร้านที่บรรยากาศชิว ชิว ริมทะเล (แต่ราคาอาหารไม่ชิวด้วยนะคะ แพงเอาการ)  หลังจากอิ่มท้องกันแล้วก็เดินเล่นย่อยอาหาร รอเวลารถสองแถวมารับ เดินไป เดินมา แวะกินโรตี เป็นของหวานตบท้ายด้วยเลยแระกัน  กลับถึงโรงแรมประมาณสามทุ่มกว่าๆ มีปาร์ตี้กันเล็กน้อยอีกเช่นเคย แต่ไม่ดึกมาก เพราะพรุ่งนี้มีโปรแกรมเที่ยวแต่เช้า.....  Girls Gang ทริปสมุยเริงร่า (รีวิวห้องพัก.....จามจุรีวิลล่า-เกาะเต่า)
ขอแยกบลอค รีวิวที่พักต่างหากนะคะ
เพราะภาพเยอะพอสมควร เกรงว่าจะโหลดนานน่ะค่ะ ภาพแรก..เป็นทางเดินขึ้นเขาซะส่วนใหญ่ รูปนี้ทางเดินไป reception  มุมติดต่อ ต้อนรับค่ะ  เข้ามาเช็คอินที่พัก จองไว้ห้องแบบสุพีเรีย 3 ห้องติดกัน มีเตียงเสริม 2 ห้อง เดินขึ้นเขาหลัง reception ก็เป็นมุมที่พักของพวกเราแล้ว ห้อง 12, 13, 14 ค่ะ  พวกเราจองห้องพักที่อยู่ชั้นบน เดินขึ้นบันไดอีกนิดจะเจอระเบียงห้องพัก  อีกด้านเป็นระเบียงห้องที่อยู่ถัดไป มีประตูเชื่อมถึงกัน เปิดไปมาหากันได้  พอเดินพ้นจากระเบียงเปิดประตูเข้าไปก็จะเจอห้องโถงเล็กๆ ที่ทุกห้องจะมีเหมือนกันหมดและมีประตูเปิดห้องโถงหากันได้ด้วยค่ะ ดีจริงๆ เลย เหมือนอยู่บ้านเดียวกันเลยอ่ะ เปิดประตูหากันได้ตลอดเวลา  พ้นจากส่วนห้องโถงที่มีเบาะนั่งเล่นกับตู้เย็นแล้ว ก็เป็นส่วนของห้องนอน  อีกมุมนึงที่มองจากห้องนอนไปที่ห้องโถงด้านนอก  มุุมต่างๆ ภายในห้องนอน  ประตูห้องน้ำค่ะ  ภายในห้องน้ำ กว้างมากๆ  อีกซักมุม  ในห้องน้ำสามารถเปิดประตูตู้เสื้อผ้าที่อยู่ในห้องนอนอีกด้านได้เลย  อีกมุมที่มองเห็นส่วนพื้นที่อาบน้ำ  เครื่องทำน้ำอุ่นมีให้พร้อมค่ะ  ของใช้ต่างๆที่ทางรีสอร์ทจัดเตรียมไว้ให้ในห้องน้ำ  ปิดท้ายรีวิวห้องพักด้วยรูปห้องพักแอบซีวิวเล็กๆตรงระเบียงหน้าห้อง  Girls Gang ทริปสมุยเริงร่า (วันแรก-เกาะเต่า)
ที่มา ที่ไป.....
ทริปนี้มีการวางแผนล่วงหน้ากันตั้งแต่ปีที่แล้ว (แพลนล่วงหน้านานมากๆๆๆ) เหตุเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่พวกเรากำลัง (สุมหัว) ช่วยกันทำรายงานที่บ้านเพื่อน แล้วจู่ๆ ก็มีใครบางคนในกลุ่มเปรยๆ ว่าอยากไปเที่ยวเกาะมัลดีฟท์ จุดประกายต่อมอยากเที่ยวของผองเพื่อน สุดท้ายลงมติได้ว่า..ไปสมุยดีกว่า ....สนับสนุนนโยบายท่องเที่ยวไทย (จริงๆ แล้วกลัวเสียตังค์เยอะตะหาก อิอิ) หลังจากนั้นเราก็วางแผนเก็บเงินทุกคนเดือนละพัน กันเผื่อใครเปลี่ยนใจ เดี๋ยวทริปจะล่มซะก่อน เลยจ่ายมาก่อนเลยซะดีๆ ใครเปลี่ยนใจไม่ไป ไม่คืนเงินเฟ้ย ถือว่าจ่ายเงินกองกลางมาแร้ววว .......เกริ่นที่มาซะยาว เริ่มไปสมุยกันเลยดีกว่านะคะ  วันศุกร์ที่ 22 พ.ค.52 พอสอบ ป.โท เสร็จปุ๊บ พวกเราก็แพ็คกระเป๋า ออกเดินทางเที่ยวทันที นัดเจอกันที่สนามบินสุวรรณภูมิตอนหกโมงเช้า ไป TG ไฟล์ท 7.45 น.  หลังจากเช็คอินที่สนามบินเรียบร้อยแล้ว ก็เดินไปตรงทางออก ต่อรถเพื่อขึ้นเครื่องบินอีกครั้งนึง ใช้เวลาเดินทางแป๊บเดียว ได้ยินเสียงประกาศบนเครื่องบินด้วยว่า วันนี้อากาศที่สมุยดีมาก เดินทางมาถึงก่อนเวลาสิบนาที ลงจากเครื่องบินแล้วก็มาต่อรถเพื่อเข้าสนามบิน ได้ยินเสียงแซวเล็กๆ จากกลุ่มคนที่เดินทางขึ้นเครื่องมาลำเดียวกันว่า สาวๆ กลุ่มนี้มาเก็บตัวนางงามกันหรือเปล่านี่ อิอิ...ก็สาวๆ ทั้งแก๊งค์เลยอ่ะ เดินเข้าไปรอกระเป๋านานพอสมควร พวกเราก็หามุมถ่ายรูปไปเรื่อย แบบว่าสวยอ่ะ ไม่เหมือนสนามบินที่อื่นๆ เลย  เดินลากกระเป๋ามาที่ด้านหน้าสนามบิน เพื่อมาขึ้นรถตู้ที่หน้าสนามบิน ได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมห้องที่เรียน ป.โท ด้วยกันเป็นคนเกาะสมุย ติดต่อรถตู้ให้มารับส่งพวกเราเที่ยวในวันแรก สบายไป... ไหว้พระใหญ่เอาฤกษ์เอาชัยก่อนค่ะ  ไหว้พระ ทำบุญ ถ่ายรูป เสร็จก็นั่งรถเที่ยวรอบเกาะ แดดตอนสายๆ ถ่ายรูปสวยแต่ร้อนชะมัด ว่าแล้วพวกเราก็ขอหลบมุมไปนั่งทานข้าวมื้อเช้า + มื้อเที่ยงหลบแดดดีกว่า วนรถหาร้านอาหารส่วนใหญ่ยังไม่เปิดกันเลย สุดท้ายเพื่อนในกลุ่มนึกขึ้นมาได้ว่าเคยหาข้อมูลก่อนมาสมุย ว่ามีร้านอาหารชื่อ โกเซ้ง น่าจะโอเค มาถึงที่ร้านยังไม่มีลูกค้าเลยค่ะ แต่อารมณ์หิว ไม่สนใจอะไรแระ สั่งอาหารก่อนเลยละกัน เท่าที่จำได้....มีข้าวผัดปูจานใหญ่...อร่อยมากกกก  จานอาหารร้านนี้สีสันสดใสมากค่ะ  อีกเมนูที่ประทับใจมากมายก่ายกอง น้ำพริกไข่ปู  ไข่เจียวปู....(เก็บกดค่ะ อยากกินปูเลยสั่งอะไรก็ ปูๆๆ) แอบแหว่งไปนิดนึง คุณเพื่อนแอบชิมไปแร้วว  ที่มาของภาพไข่เจียวปูแหว่งๆ  รสชาติดีมากมาย.....  มีแกงจืดอีกอย่าง  ข้าวผัดปูอร่อยจนติดใจเลยสั่งใหม่อีกรอบ แต่เปลี่ยนเป็นข้าวผัดกุ้ง ไม่ค่อยอร่อยอ่ะ สู้ข้าวผัดปูไม่ได้ ที่ร้านนี้อาหารใส่จานใหญ่มาก สั่งไม่กี่อย่างก็อิ่มแล้ว จานสุดท้ายเป็นพระเอกของมื้อนี้ ปลาจาระเม็ดนึ่งบ๊วยค่ะ.... ตอนแรกก็ตั้งใจว่ามื้อนี้กะกินอะไรเบาๆ รองท้องไปก่อน เดี๋ยวค่อยไปซีฟู้ดกันมื้อเย็น แต่คุณเพื่อนนางหนึ่งเกิดอยากกินขึ้นมา ก็เลยโอเช...สั่งมา 1 ตัว  ทางร้านชงชามาให้ชิมค่ะ คุณเพื่อนติดใจกันใหญ่ ชาเข้มข้น หอมมันดีแท้  พออิ่มแล้ว คิดเงินค่าอาหารมื้อนี้หมดไป 1,800 บาท ค่าอาหารและเครื่องดื่มแบบปกติราคาประมาณพันบาท แต่มีปลาจาระเม็ดนึ่งบ๊วยจานเดียว 800 บาท!!! โอ้ว...พระเจ้า.... เห็นราคาแล้วอยากกินเข้าไปทั้งก้าง ทั้งหัวปลา ทั้งจานเลยทีเดียวเชียว หลังจากอิ่มท้องกันแล้ว เดินทางต่อไปที่ท่าเรือ บ.ลมพระยา เพราะวันนี้มีโปรแกรมไปค้างที่เกาะเต่า  ระหว่างรอลงเรือ นั่งอ่านแผนที่เกาะเต่าที่เค้าแจกให้ฟรี  พวกเราจองตั๋วไปกลับผ่านเวบไซต์ของ บ.ลมพระยา ไว้ก่อนแล้ว เรือไป - กลับ คนละ 900 บาท พอไปถึงท่าเรือก็ไปรับตั๋วเดินทางได้เลย  เรือออกจากท่าเวลา 12.30 น. พวกเราเลยได้แต่รอ  เริ่มมองหากิจกรรมทำเพื่อฆ่าเวลา  จะรอเฉยๆ ก็แลดูจะผิดคอนเซปต์กลุ่มไปนิดนึง ว่าแล้วก็เลยเดินไปหามุมถ่ายรูปดีกว่า วิญญาณนางแบบ (จำเป็น) เริ่มเข้าสิงร่างแต่ละนาง  สาวๆ ทั้งหลาย กับการโพสท์ท่าถ่ายรูป  ได้เวลาลงเรือแล้วค่ะ  บรรยากาศภายในเรือ น่าสบายนะคะ  เรือออกจากท่าได้ไม่เท่าไร เผลอแป๊บเดียวแต่ละนางคอพับคออ่อนหลับกันเป็นแถว  ตื่นอีกทีถึงเกาะเต่าพอดี เดินลากกระเป๋าไปที่ท่าเรือ รถของจามจุรีวิลล่ามารอรับอยู่แล้วค่ะ เพราะจองผ่านเน็ตก่อนเรียบร้อยแล้ว รีสอร์ทอยู่ใกล้ๆ กับท่าเรือเลย นั่งรถไปแป๊บเดียว พอถึงปุ๊บก็มีรถกอล์ฟมารับ  นั่งพักให้หายร้อน นั่งกินผลไม้ต้อนรับที่ทางรีสอร์ทจัดไว้ให้ในตู้เย็น  แล้วก็ได้เวลาไปเล่นน้ำทะเลกันที่ชายหาดของรีสอร์ทดีกว่า.... ที่นี่มีหาดส่วนตัวเป็นของรีสอร์ทเลยค่ะ เพราะงั้นสบายใจได้ว่า ผู้คนไม่พลุกพล่านแน่นอน เป็นส่วนตัวดี ทางเดินไปหาดค่ะ  วิวที่เห็นชายหาดของจามจุรีค่ะ ถ่ายจากทางเดินลงไปที่หาด  พอไปถึงชายหาด ลงเล่นน้ำกันทันที วันนี้คลื่นแรงค่ะ และชายหาดที่นี่มีหินเยอะพอสมควร โดนหินบาดกันถ้วนหน้า แต่พวกเราก็ไม่หวั่น ดำน้ำดูปลา เล่นน้ำกันสนุกสนาน  จนใกล้ค่ำเดินกลับไปที่ห้องพัก อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมตัวไปดินเนอร์ริมทะเลกันต่ีอ  บรรยากาศที่ระเบียงห้องอาหารของรีสอร์ท  กลุ่มเราไปกันตั้งแต่หัวค่ำ ยังไม่ค่อยมีแขกซักเท่าไร พอดึกๆ แล้วถึงมีลูกค้าพอสมควร ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติทั้งนั้นเลย  ใกล้ๆ ที่เรานั่งมีโขดหินรูปเต่า เป็นสัญลักษณ์ของที่นี่ด้วย  ตอนนั่งดูที่ริมระเบียงมันเหมือนเต่าจริงๆ นะ แต่ไหงถ่ายรูปออกมาไม่ยักกะเหมือนแฮะ มื้อนี้พวกเราเน้นเป็นอาหารจานเดียวกันซะส่วนใหญ่ แบบใครอยากกินไรสั่งกินเองไปเลย สุดฮิตของกลุ่มคือ สปาเก็ตตี้ คาโบนารา สั่งมา 4 จาน ใจตรงกันขนาด แล้วก็มียำต่างๆ ส้มตำ หมึกกระเทียม ตบท้ายด้วยค็อกเทลคนละแก้วก่อนเดินกลับไปห้องพัก สาวๆ ในกลุ่มปาร์ตี้กันต่อที่ห้องพักอีกเล็กๆ ก่อนแยกย้ายกันเข้านอนเร็วกว่าปกติ เพราะพรุ่งนี้มีโปรแกรมไปเกาะนางยวน  ไหว้พระประจำปี.....ที่เชียงราย....(วันที่สาม-เชียงแสน)
วันจันทร์ที่ 9 ก.พ.52 .....
ตื่นนอนแต่เช้า ลงมาทานมื้อเช้าแบบ ABF ที่ห้องอาหารของโรงแรม ก่อนจะเก็บของเช็คเอ้าท์เพื่อเดินทางกันต่อค่ะ  ระหว่างรอเราเช็คเอ้าท์ที่โรงแรม คุณนายแม่ก้อถ่ายรูปกับคุณแฟนของเรา  ขับรถออกจากโรงแรมไปทางหน้าด่านแม่สายได้จิ๊ดเดียวเพื่อไปไหว้พระธาตุดอยเวา ทางเข้าพระธาตุอยู่ในซอยตลาดแม่สายเลยค่ะ จอดรถไว้ที่ตลาดแม่สาย แล้วเดินขึ้นบันไดไปไหว้พระธาตุกัน ส่วนคุณนายแม่แอบขี้โกง วิ่งขึ้นรถกระบะของชาวบ้านที่ขนของทำบุญที่พีธาตุค่ะ  บังเอิญว่า วันนี้ตรงกับวันมาฆบูชา ที่พระธาตุมีงานบุญใหญ่ พระธาตุดอยเวา มีสัญลักษณ์คือแมงป่องค่ะ  ไหว้พระที่นี่กันจนได้เวลาไปไหว้พระต่อที่เชียงแสนกันค่ะ ขับรถออกจากแม่สายแล้วจะเจอกับสี่แยกนึง (จำชื่อไม่ได้แว้วว) มีป้ายบอกทางให้เลี้ยวซ้าย ขับรถเลาะริมแม่น้ำโขงเพื่อไปชียงแสน วิวข้างทางสวยดีนะคะ ด้านนึงเป็นแม่น้ำโขง อีกด้านเป็นทุ่งหญ้า ไม่นานนัก ประมาณครึ่งชั่วโมงก้อถึงเชียงแสนค่ะ เห็นป้ายสามเหลี่ยมทองคำโดดเด่นมาแต่ไกล  ที่นี่มีองค์พระใหญ่ อยู่ตรงสามเหลี่ยมทองคำพอดี วิวสวยมากๆๆ  ถนนที่เชียงแสนสวยสุดๆ เลย มีดอกอะไรไม่รู้บานเต็มไปหมดตลอดข้างทาง สีเหลืองสวยเชียว  อยู่ที่นี่จนถึงสายๆ ก้อรีบเดินทางกันต่อ ยังไม่ได้ซื้อหมูยอเป็นของฝากกันเลย ที่บ้านชอบกินหมูยอที่หน้าวัดร่องขุนด้วยค่ะ ที่อื่นก้อไม่กินกันนะ สุดท้ายคุณแฟนต้องรีบบึ่งขับรถไปวัดร่องขุนเพื่อซื้อหมูยอฝากคนที่กรุงเทพกันอีกครั้ง  ขนาดหน้าห้องน้ำที่วัดร่องขุน ยังสวยเลยค่ะ  ออกจากวัดร่องขุน ก่อนจะขับรถกลับไปสนามบินเชียงรายค่ะ  คืนรถเช่าที่สนามบิน ก่อนจะขึ้นเครื่องเวลาบ่ายโมงกว่า ดีนะ ที่ได้ของว่างบนเครื่อง รองท้อง ไม่งั้นหิวตาลายแหงๆ  ถึงสนามบินสุวรรณภูมิประมาณบ่ายสาม ค่าใช้จ่ายในการไปไหว้พระที่เชียงรายครั้งนี้ รวมแล้วทั้ง 5 คน ไม่เกิน 5,000 บาท (ยังไม่รวมราคาตั๋วเครื่องบินนะคะ) ค่าใช้จ่ายที่เชียงรายไม่สูงมากนัก ที่เชียงรายจึงเป็นจังหวัดที่บ้านเราไปเที่ยวกันทุกปีค่ะ จบทริปเชียงรายจ้า...   ไหว้พระประจำปี.....ที่เชียงราย....(วันที่สอง-แม่สาย)
วันอาทิตย์ที่ 8 ก.พ.52.....
ตื่นตอนแต่เช้า อากาศดี๊ ดี ทำธุระส่วนตัวเสร็จก้อเดินมาทานข้าวมื้อเช้าที่ห้องอาหารของรีสอร์ทค่ะ บรรยากาศภายในรีสอร์ท  ทานมื้อเช้า เป็นข้าวต้มกุ๊ย + กับข้าวง่ายๆ รสชาติพอใช้ได้ค่ะ เสร็จแล้วก้อเดินเล่นในรีสอร์ท ย่อยอาหารแป๊บนึง ก่อนที่จะเช็คเอ้าท์จากที่พัก  ออกจากรีสอร์ท คุณแฟนขับรถเข้าไปในเมือง ตั้งใจจะไปไหว้พระสิงห์กันค่ะ ตามปีเกิดของเราที่ต้องไหว้พระสิงห์ที่เชียงใหม่ แต่ที่บ้านไปเชียงรายทุกปี ที่เชียงรายก้อมีวัดพระสิงห์ เราก้อเลยถือโอกาสไหว้พระที่นี่แทน จอดรถไว้ที่ส่วนราชการ ใกล้ๆ วัดพระสิงห์ค่ะ  ภายในวัดพระสิงห์ ไม่กว้างมากนัก แต่ร่มรื่นดีค่ะ  ถ่ายรูปกับคุณนายแม่.....  กับคุณแฟน.....  กับครอบครัว.....(คุณแฟนเป็นช่างภาพ เลยไม่มีส่วนร่วมในรูปนี้)  เดินกลับไปที่รถ ดอกไม้ข้างทางสวยดีค่ะ ดอกพวงแสด (มั้ง)  ไปไหว้พระต่อที่วัดพระแก้วค่ะ  สะพานทางขึ้นศาลาที่มีองค์พระแก้ว  หน้าศาลาวัด.....  ภายในอุโบสถค่ะ สวยมากกก  ออกจากวัดพระแก้ว เดินทางต่อไปที่ยวไร่แม่ฟ้าหลวงค่ะ ที่นี่นักท่องเที่ยวน้อยมากกก ทั้งๆ ที่ภายในไร่แม่ฟ้าหลวงสวยนะคะ  วิวสวยๆ ภายในไร่แม่ฟ้าหลวงค่ะ      ช่วงที่ไป.....ดอกงิ้วกำลังบาน สวยเชียวค่ะ อยู่ตรงสมเด็จย่าพอดีเลย   ออกจากไร่แม่ฟ้าหลวงกันตอนเที่ยง เริ่มหิวแล้ว เราก้อเลยไปทานมื้อเที่ยงที่ร้านสลุงคำเหมือนเดิม พออิ่มท้องก้อขับรถออกจากตัวเมือง มุ่งหน้าไปแม่สายกันค่ะ ขับรถประมาณชั่วโมงนึง แวะทำบัตรผ่านแดนที่ทำการหน้าอำเภอแม่สายกันก่อน แป๊บเดียวเองค่ะ ใช้เวลาไม่นานแล้วเราก้อไปเช็คอินที่พัก ที่โรงแรมปิยะพรเพลส (โรงแรมเจ้าประจำเช่นเคย) อยู่ก่อนถึงด่านแม่สายจิ๊ดนึง  ภายในห้องพักของที่นี่ค่ะ      เก็บของเรียบร้อยแล้ว เราก้อจอดรถไว้ที่จอดรถของโรงแรม ก่อนจะเดินไปที่ด่านเพื่อข้ามไปไหว้พระที่ฝั่งพม่า เป็นธรรมเนียมของแม่ ที่ต้องมาไหว้เจดีย์ชะเวงดากองเป็นประจำทุกปี ถึงไม่ได้ไหว้เจดีย์องค์จริง มาไหว้องค์จำลองที่นี่ก้อยังดีค่ะ  ไหว้เจดีย์เสร็จแล้ว ก้อมาเดินช้อปปิ้งที่ด่านแม่สายทั้งทางฝั่งพม่าและฝั่งไทยจนเย็น  ส่วนใหญ่แม่จะซื้อดีวีดีซีรียส์เกาหลีทั้งหลายแหล่ (แม่เป็นเจ้าแม่หนังซีรียส์เกาหลี ตัวจริงเสียงจริงเลย) เห็นกระเป๋าก๊อปปี้แบรนด์เนมเยอะเลยค่ะ แต่เราไม่ได้ซื้อมา กลัวมันไม่ทน เลยได้กระเป๋าหนังมาใบนึง ไม่มียี่ห้อ แต่ดูท่าทางแข็งแรง ดีไซน์สวยดี แม่ค้าบอกว่าราคา 850 บาท ต่อจนเหลือ 500 บาทถ้วน ถ้าเค้าไม่ให้เราก้อไม่เอา เพราะไม่ได้รีบเร่งจะซื้อมากมายนัก แม่ค้ายอมลดราคาให้ เราเลยได้กระเป๋าที่ถูกใจอย่างฟลุ๊คๆ กลายเป็นกระเป๋าคู่ชีพที่ใช้จนถึงทุกวันนี้  ช้อปปิ้งกันจนหนำใจแล้ว เดินกลับมาที่โรงแรม เพื่อทานข้าวมื้อเย็นที่ห้องอาหารในโรงแรมค่ะ  คลับแซนวิชของคุณหลานชาย.....  กับข้าวที่นี่รสชาติดีนะคะ แม่ติดใจ มาแม่สายทีไรต้องพัก+ทานข้าวที่นี่ทุกครั้ง      กับข้าว 5 อย่างมากกัน 5 คน กินกันพุงแทบแตก มื้อนี้ค่าเสียหาย 700 กว่าบาทเท่านั้นเอง แม่ พี่สะใภ้ และหลานชายขึ้นห้องพัก แยกย้ายไปพักผ่อนก่อนค่ะ ในขณะที่เรากับคุณแฟน ขอเดินย่อยอาหารที่ถนนหน้าโรงแรม บริเวณหน้าด่านแม่สาย ไปซื้อซีดีเพลงเก่าๆ ยุค 60-70's มาได้หลายแผ่นเลย อากาศที่นี่ตอนกลางคืนก้อหนาวๆ เย็นๆ ใช้ได้เหมือนกันนะนี่ ก่อนกลับเข้าโรงแรม แวะกินน้ำเต้าหู้ที่ข้างทางตรงหน้าโรงแรมก่อนนอน.....  |
chicken demon
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 38 คน [?] Group Blog
All Blog
Friends Blog
Link |
||
| Pantip.com
| PantipMarket.com
| Pantown.com
| © 2004 BlogGang.com
allrights reserved.
|
|||
