ทริปเมืองตรัง (วันแรก).....ตั้งใจไปกิน
วันศุกร์ที่ 4 กันยา 52
ไปทริปตรังครั้งนี้ใช้เวลาประมาณ 3 วัน ตามแพลนที่คิดเอาไว้ว่าจะไป 12go ไฟล์ทเช้า ประมาณ 7.30 น. แต่พอเอาเข้าจริงๆ ถูกเลื่อนไฟล์ทก่อนวันเดินทางประมาณ 3 วัน ก็เลยต้องเลื่อนโปรแกรมเที่ยว วางแพลนกันใหม่อีกรอบนึงค่ะ สรุปแล้วก็เลยไปเดินทางไปเมืองตรังเมื่อวันศุกร์ที่ 4 เวลา 12.00 น. วันเดินทางไปตรังอากาศดีนะคะ ท้องฟ้าแจ่มใส มองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยา ทอดตัวโค้งๆ สวยเชียว แป๊บเดียวก็มาถึงสนามบินตรังแล้วค่ะ เวลาประมาณ 13.10 น.  โทรแจ้งโรงแรมไว้ว่าเราจะมาไฟล์ทนี้ ทางโรงแรมธรรมรินทร์ ธนา ส่งเจ้าหน้าที่ + รถตู้มารับที่สนามบินเลย เป็นบริการรถรับส่งสนามบินฟรีของทางโรงแรม สะดวกดีนะคะ นั่งรถตู้มาแป๊บเดียวก็มาถึงโรงแรมแล้วค่ะ จัดการเช็คอินห้องพักที่หน้าเคาท์เตอร์ก่อนเลย  พนักงานของทางโรงแรมช่วยขนกระเป๋าของสมาชิกผู้ร่วมทริป ไปส่งที่ห้องพัก มาเที่ยวครั้งนี้ 8 คนค่ะ เลยจองไว้ 4 ห้อง ติดๆ กัน ห้องพักที่นี้กว้างพอสมควร แต่อายุของโรงแรมน่าจะพอสมควร เพราะเห็นร่องรอยสีถลอกตามข้างฝาห้องบ้างเล็กๆ + ประตูตู้ไม้แอบหลุด ^^ แต่ไม่ซีเรียสค่ะ ห้องสะอาดเรียบร้อยก็โอเคแล้ว บรรยากาศภายในห้องพักค่ะ ตามมาตรฐานของโรงแรมทั่วไป น้ำดื่มมีไว้ให้ 2 ขวด ไม่มีชา+กาแฟ และกาต้มน้ำร้อนให้นะคะ  หลังจากเก็บข้าวเก็บของ ล้างหน้าล้างตากันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ย้ายขบวนลงมาเตรียมตัวทานมื้อเที่ยง (ในเวลาประมาณบ่ายสอง) กันก่อน ก่อนมาหาข้อมูลมาก่อนแล้วว่า แถวๆ โรงแรมมีร้านอาหารเปิดใหม่ จำได้ว่าอยู่ตรงข้ามธนาคารอาคารสงเคราะห์ เห็นป้ายธนาคารแว้บๆ ว่าแล้วก็เดินออกมาจากโรงแรม ทางด้านขวามือ เดินมาเรื่อยๆ (ประมาณไม่เกิน 50 เมตร) แป๊บนึงเห็นธนาคารอยู่ทางซ้ายมือ ร้านที่อยู่ตรงข้ามสีเขียวๆ พอเห็นป้ายชื่อร้าน.....โอ๊ะ โอ ใช่เลย!!!  เปิดประตูเข้ามาในร้าน โห....ร้านสวยมาก ชอบค่ะ ดูสะอาดแบบสบายตา สบายใจดีจัง ร้านไ่ม่ใหญ่นะคะ มีสองชั้น ระหว่างที่แม่ + น้าๆ กำลังสั่งอาหาร เราก็ถ่ายรูปทั่วร้านเลย ประหนึ่งว่า ร้านนี้เราจองทั้งร้าน อิอิ  เจ้าของร้านน่ารักมากค่ะ เดินมาทักทายยิ้มแย้มแจ่มใสมากๆ ถ้าจำไม่ผิด (แบบว่า ความจำสั้น แหะๆ) พี่ผู้หญิงชื่อ พี่แหม่ม น่ารักมากๆ เดินมาทักทายแนะนำเมนูอร่อยๆ ด้วยตัวเอง แขกเริ่มทยอยเข้าร้านมาเรื่อยๆ เราก็เลยเกรงใจกลับมานั่งสงบเสงี่ยม รออาหารอยู่ที่โต๊ะค่ะ รอไม่นานค่ะ อาหารก็ทยอยออกมา จานแรก.....หมูอบตะไคร้ (ก็ร้านชื่อตะไคร้หวาน ก็ต้องสั่งอะไรๆที่เป็นตะไคร้มาก่อนเลยเนาะ) สำหรับคนที่ไม่ชอบกินหมูมันๆ ต้องชอบหมูอบตะไคร้นี่แน่นอน เพราะหมูไม่มันเลยค่ะ เป็นเนื้อหมูนุ่มๆ หอมๆ อร่อยค่ะ จานต่อมาตามมาติดๆ.....ซีฟู้ดผัดพริกไทยดำ ได้กินปลาหมึกไป 2 คำ คุณน้องชายแทบเทจานเหมาชนิดไม่แบ่งใคร ท่าทางจะติดใจขนาด ^^ ตามด้วยอาหารจานที่สาม....ต้มข่าไก่ ร้านนี้ต้มข่าไก่ใส่ขมิ้นด้วยค่ะ แอบเห็นขมิ้นชิ้นเล็ก น้ำแกงกะทิสีเหลืองหน่อยๆ รสชาติ.....หืมม หอมมากมายก่ายกอง ต่อด้วยจานที่สี่....ลาบหมูทอด อยากจะบอกว่า เราติดใจจานนี้สุดๆ ค่ะ ถ้าถามว่าชอบอะไรที่ร้านนี้ ขอบอกว่าจานนี้เลย สุดยอดมาก คุณนายแม่เกิดอยากกินต้มยำทะเล เราก็เลยโอเช จัดมาอย่าให้เสีย.... แต่เราไม่ได้ชิมซักคำ เพราะถ้วยต้มยำอยู่อีกด้านของโต๊ะ (มุมผู้สูงวัย) เลยตัดสินไม่ได้ค่ะว่ารสชาติเป็นยังงัยบ้าง แล้วก็สั่งคั่วกลิ้ง + เมี่ยงปลากระพงทอดกรอบ + ยำตะไคร้หวาน อีก 3 จานนี้เราไม่ได้ชิมเลยเพราะหมดเร็วมากกกกก พนักงานที่ร้านเสิร์ฟที่มุมผู้สูงวัยฝั่งคุณนายแม่ พอเราจะเดินไปถ่ายรูป อาหารก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย แป่วววว แต่ได้ยิน แม่ + น้าๆ ชมยำตะไคร้หวานว่ารสชาติดีมาก ตบท้ายด้วยกล้วยหอมทอดอีก 2 จานเป็นของหวานล้างปาก อิ่มท้องกันแล้ว เช็คบิลกับข้าว 8 อย่าง + ข้าว 2 โถ + กล้วยหอมทอด 2 จาน เบ็ดเสร็จเก้าร้อยกว่าบาท ไม่แพงเลยนะคะ เพราะอาหารรสชาิติดี บรรยากาศในร้านก็สวย เจ้าของร้านก็น่ารัก ประทับใจค่ะ.....  หลังจากอิ่มท้องกันแล้ว เราก็ยกขบวนเดินกลับโรงแรม ไปเรียกรถตุ๊ก ตุ๊กที่อยู่หน้าโรงแรม เหมาให้เค้าพาเที่ยวทั่วเมืองตรังเลยค่ะ อัดกันไปทีเดียวแปดคนต่อรถตุ๊ก ตุ๊กคันเดียว ให้คุณน้องชาย (ชายหนุ่มคนเดียวของทริปนี้) นั่งหน้าคู่คนขับ  บรรยากาศฮาเฮบนรถตุ๊ก ตุ๊ก  ไหว้พระที่ศาลท่ามกงเยี่ยเป็นอันดับแรก เดินเข้าไปบริเวณด้านใน ซื้อชุดธูปเทียนก่อนนะคะ เราต้องไว้พระและปักธูปตามโต๊ะต่างๆ ในบริเวณศาลเจ้า มีเจ้าหน้าที่คอยอธิบายบอกเราค่ะ ว่าต้องไหว้ตรงจุดไหนก่อน เราก็เดินตามไปเรื่อยๆ เค้าว่ากันว่า ถ้าเราอธิษฐานถามอะไรท่านแล้วท่านจะตอบเราในเซียมซี คำทำนายที่ได้จากเซียมซีแม่นมากๆ คุณน้าทั้งหลายเลยนั่งเสี่ยงเซียมซีกันก่อน  จากนั้นเราก้อไปต่อที่สวนสาธารณะเพื่อไหว้พระยารัษฎา ท่านเจ้าเมืองตรังกันค่ะ บรรยากาศภายในเป็นสวนสาธารณะที่มีผู้คนมาเดินเล่น ออกกำลังกายกันทั่ว ร่มรื่นมากๆ น่าอิจฉาคนที่นี่นะคะ มีสวนสาธารณะที่บรรยากาศดี๊ ดี  มาไหว้เจ้าเมืองกันแล้ว คุณนายแม่อยากเจอ นายกชวนค่ะ ปกติแม่จะเรียก คุณชวน ติดปากว่านายกชวน จนถึงทุกวันนี้ก็ยังคงเรียกแบบนั้น^^ รถตุ๊ก ตุ๊ก ก็พาเราไปค่ะ บอกว่าบ้านนี้ไม่มีประตู หมายถึงว่า บ้านนายกชวน เป็นที่ๆ ทุกคนสามารถเดินเข้ามาได้เลย ไม่เจอท่านนะคะ เราไปถึงก็ห้าโมงเย็นแล้ว มีเด็กๆ นักเรียนเดินเข้ามานั่งเล่นกันด้วย เห็นเด็กๆ มานั่งทำการบ้านในนี้ ดูน่ารักดีค่ะ แม่เราถึงกับเอ่ยปากว่า บ้านเมืองนี้น่าอยู่เนาะ ดูเด็กๆ น่ารักดี เลิกเรียนก็มานั่งทำการบ้านรอพ่อ-แม่ มารับที่นี่ ดูปลอดภัยดีอ่ะ ไม่เหมือนที่กรุงเทพเลย เด็กเลิกเรียนก็ไปรอพ่อ-แม่ตามห้างสรรพสินค้า มันแตกต่างกันจริงๆ เลย ^^  หลังจากนั้นเราก็ไปต่อกันที่องค์เจ้าแม่กวนอิมกันค่ะ ที่นี่ต้องเดินขึ้นเนินเล็กๆ เค้าเปิดน้ำพุพอดี เราก็เลยไหว้เจ้าแม่กวนอิม แล้วก็ถ่ายรูปเมืองตรังในมุมสูงกันอยู่พักนึงค่ะ  บอกน้องชายว่า ทำงัยก้อได้ที่ถ่ายรูปออกมาแล้วพี่ดูผอม น้องทำหน้าหนักใจแล้วบ่นว่า ทำได้แค่เนี้ยะแหล่ะเจ๊ ดีที่สุดแร้วว   เริ่มเย็นๆ แล้ว คุณนายแม่ + น้าๆ เริ่มอยากพัก ทั้งๆ ที่มีที่เที่ยวอีกนะคะ แต่เราก็กลับไปพักที่โรงแรมกันดีกว่า รูปดอกหญ้าข้างทางตอนเดินลงมาจากเจ้าแม่กวนอิมค่ะ สวยดี  บรรยากาศในเมือง ตอนที่นั่งรถตุ๊ก ตุ๊ก กลับโรงแรมค่ะ แอบถ่ายน้องหมาในตะกร้าหน้ารถ น่ารักเนาะ กลับถึงโรงแรม จ่ายค่ารถตุ๊ก ตุ๊กไปสามร้อยบาท + ทิปอีกหนึ่งร้อย เพราะสงสารรถที่แบกน้ำหนักรับพวกเราแปดคนเที่ยวในเมือง แยกย้ายกันพักผ่อน ให้เวลาทุกคนนอนผึ่งพุง อาบน้ำอาบท่าให้สบายตัวก่อนจะไปลุยมื้อเย็นกันค่ะ  เวลาประมาณทุ่มนึง ได้เวลามื้อเย็นอีกแล้วค่ะ เราเดินออกมาเรียกรถตุ๊ก ตุ๊ก ที่หน้าโรงแรมเช่นเคย ที่นี่เดินทางสะดวกดีนะคะ เหมารถตุ๊ก ตุ๊ก ไปไหน มาไหนง่ายดี ต่อรองราคาไป-กลับที่ร้านอาหารที่เราจะไปกินมื้อเย็นกัน เสร็จเรียบร้อยก็ตรงไปที่นี่เลยค่ะ ร้านบ้านสวนสุดาพร ร้านอยู่ติดถนนใหญ่เลย แต่ไม่ทราบเหมือนกันนะคะว่าถนนชื่ออะไร ^^ เพราะรถตุ๊ก ตุ๊ก พามาค่ะ เดินเข้ามาในร้านบรรยากาศตกแต่งแบบในสวน  อาหารที่นี่รอค่อนข้างนาน อาจจะเพราะร้านใหญ่ แขกเยอะหรือเปล่าไม่แน่ใจนะคะ ระหว่างเลยไปถ่ายรูปบรรยากาศภายในร้านกับเพื่อนและคุณแฟน  รออยู่พักใหญ่ๆ อาหารทยอยมาเสิร์ฟ แต่ละจานใหญ่มากกกก อาหารจานแรกมาก่อนเลย.... ทะเลกระเบื้อง หรือกระเบื้องทะเล จำไม่ได้แล้วเหมือนกันค่ะ ^^ ชื่อประมาณนี้แหล่ะค่ะ คล้ายๆ จะเป็นปอเปี๊ยะสองแผ่นทอดมีไส้ตรงกลาง รสชาติโอเคค่ะ กินเพลินๆก่อนกับข้าวจะเสิร์ฟ สั่งแกงส้มไป 2 ถ้วยค่ะ แกงส้มปลากระบอกใส่ยอดมะพร้าว และแกงส้มปูนิ่มใส่หน่อไม้ ตามมาด้วยปลาทรายทอดขมิ้น 2 จาน กินแกล้มแกงส้มค่ะ ตามด้วยน้ำพริกกุ้งเสียบ 2 ชุด น้ำพริกอร่อยใช้ได้นะคะ (แต่รสชาติอาจจะแพ้ร้านเรือนไม้ที่กระบี่ไปนิ้ดนึง)  ตามมาด้วยผัดใบเหลียงกุ้งสดจานนึง ขาดพระเอกของร้านนี้ไม่ได้แน่ๆ เพราะเห็นว่าเป็นเมนูแนะนำอันดับแรกเลย ยำกระเทียมโทนค่ะ อยากจะบอกว่าไม่ผิดหวังเลยจริงๆ รสชาติยำกระเทียมโทนกลมกล่อมมากๆๆ คุณน้าเกิดอยากกินยำเห็ดโคนญี่ปุ่น โอเช จัดมาเรยยย มีแต่กับข้าวเผ็ดๆ คุณนายแม่เลยสั่งมัจฉาไร้ก้างมา 2 จานค่ะ หน้าตาภายนอกคือปลาทอดธรรมดา แต่ภายในไม่ธรรมดาเพราะไม่มีก้างเลยซักนิด ข้างในยัดไส้หมูสับ + เนื้อปู รสชาติคล้ายๆ หอยจ๊อเลยค่ะ อร่อยดี เราเลยพูดกับที่บ้านว่า รู้แล้วทำไมกับข้าวมาช้า เค้าต้องมัวเลาะก้างไม่ให้ตัวปลาแตกแล้วยัดไส้มาแหงๆ ชัวร์ ^^ หน้าตามัจฉาไร้ก้างหั่นเป็นชิ้นๆ ค่ะ ไม่มีก้างปลาเลยซักนิด  นั่งกินกันจนเหนื่อยเลยทีเดียวเชียว เพราะอาหารที่ี่นี่จานใหญ่มากๆ และรสชาติโดยรวมดีมากๆ เพียงแต่รออาหารนานไปนิดนึงเท่านั้นเอง นอกนั้นโอเชค่ะ เบ็ดเสร็จแล้วมื้อนี้หมดไปประมาณพันหกร้อยกว่าบาท ไม่แพงนะคะ เพราะอิ่มจนจุกกันซะขนาดนั้น ^^ เดินมาขึ้นรถตุ๊ก ตุ๊ก ที่จอดรออยู่หน้าร้านอาหารกลับโรงแรม ค่ารถไปกลับคนละ 40 บาทค่ะ เราไปกัน 8 คน เค้าเลยลดราคาให้เหลือ 300 พอไปถึงโรงแรมก็แยกย้ายกันพักผ่อน เก็บแรงไว้เที่ยวทะเลวันพรุ่งนี้ ก่อนจะนอนก็ได้แต่หวังว่า วันพรุ่งนี้ที่ตรังอากาศจะดี แดดจะแรงเหมือนวันนี้นะ ได้โปรดเถิด.....เพี้ยง.....  Girls Gang ทริปสมุยเริงร่า (วันที่สี่-หาดละไม)
วันจันทร์ที่ 25 พ.ค.52 .....
วันนี้เป็นวันสุดท้ายของทริปแล้วค่ะ พวกเราเลยอยู่กันแบบชิวๆ พักผ่อน นอนตื่นสาย เล่นน้ำที่สระ ได้ทักทายกับพี่ NM Krung อีกจิ๊ดนึงตอนสายๆ หลังจากทานมื้อเ้ช้าเสร็จแล้ว เช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมตอนเที่ยงพอดี ได้ไปถ่ายรูปตามมุมต่างๆของโรงแรม (อีกเช่นเคย) เพื่อรอเวลารถตู้มารับค่ะ  คุณแฟนพยายามหามุมถ่ายรูปให้เราสุดฤทธิ์   บังเอิญว่าเรากับเพื่อนเลือกเสื้อผ้ามาใส่ในสไตล์เดียวกัน อย่างไม่ได้ตั้งใจ หยั่งกับนัดกันเรย ทั้งๆ ที่ไม่ได้นัดกันล่วงหน้าเรยนะ .....  ออกจากโรงแรมตอนเที่ยงกว่าๆ เกือบจะบ่ายแล้ว รถตู้พาเราไปหาดละไม เพื่อไปเที่ยวชมสัญลักษณ์เกาะสมุย ที่ใครๆ ก็บอกว่า ถ้าไม่มาที่นี่ ถือว่ามาไม่ถึงเกาะสมุย ....หินตา หินยาย ค่ะ  ไปถึงหาดละไมตอนบ่ายกว่าๆ แดดร้อนมากกกกกกกก แกงค์เราก็ไม่หวั่นต่อแสงแดดเวลาบ่ายกว่าๆ อีกเช่นเคย ขอโพสท์ท่าถ่ายรูปกันก่อน เพราะน้ำกับฟ้า....สวยมาก  ขอถ่ายรูปรวมแกงค์กันอีกซักรูป....  กับคุณแฟน.....  และในที่สุด เราก็ถอยทัพ สู้แดดหาดละไมไม่ไหวค่ะ เดินช้อปปิ้งแถวๆ นั้นดีกว่า ได้ของฝากเป็นกาละแมกันอีกหลายกิโล เคยได้ยินชื่อเสียงกาละแม หาดละไม เกาะสมุยมาบ้างพอสมควร พอได้ชิมจริงๆ แล้วขอบอกว่า ไม่ผิดหวังเลยซักนิดเดียว อร่อยมากกก ระหว่างที่พวกเรากำลังเดินหาซื้อของฝากอยู่นั้น ฝนก็ตกลงมาแบบไม่มีเค้ามาก่อนเลย อยู่สมุยมาสี่วันแล้ว เพิ่งเจอฝนวันนี้แหล่ะค่ะ ก็ดีเหมือนกันนะ อากาศเย็นดี ยืนหลบฝน คุยกับแม่ค้าร้านขายกาละแมพร้อมกับเนียนๆ ชิมกาละแมไปด้วย..เอิ๊กก พอฝนหยุดตกเราก็เดินทางต่อไปที่น้ำตกหน้าเมืองกันค่ะ แต่เราไม่ได้ลงไป เพราะเหนื่อยมากก ก็เลยนั่งรอเพื่อนอยู่บนรถตู้ แป๊บเดียวคุณเพื่อนทั้งหลายขึ้นรถมา บอกว่าไม่ได้เดินไปน้ำตกหรอก ร้อนอ่ะ เวลาเกือบจะสี่โมงเย็นแล้ว ใกล้เวลาที่พวกเราต้องเดินทางกลับแล้วค่ะ พี่รถตู้พามาส่งที่สนามบินเกาะสมุย ที่สนามบินเกาะสมุยสวยจริงๆ ค่ะ มีร้านค้าให้ช้อปปิ้งระหว่างเข้า Gate ด้วย ถนนทางเดินสวยมากๆ แต่พวกเราข้าวของเยอะจัดเลยไม่สามารถถ่ายรูปได้ พอเช็คอินที่สนามบินแล้ว วางของไว้ที่เก้าอี้รับรอง แล้วค่อยสะพายกล้องถ่ายรูปต่อค่ะ คราวนี้เราเป็นคนถ่ายรูํปสนามบินเอง เพราะช่างภาพประจำแกงค์เริ่มหมดแรงในการถ่ายรูปแ้ว้ววว ขอนั่งอ่านหนังสือพิมพ์รออยู่เก้าอี้ดีกว่า...  ได้ยินเสียงประกาศเรียกขึ้นรถเพื่อไปต่อขึ้นเครื่องเวลา 17.15 น. กลุ่มเราเดินขึ้นเครื่องกำลังจะนั่งที่ประจำตำแหน่งเรียบร้อยแล้ว บังเอิญคุณเพื่อนสาวสวยคนนึงเกิดนึกขึ้นมาได้ว่า ตอนที่เช็คอินแล้วย้ายของเดินมารอขึ้นเครื่องที่ Gate ลืมของฝาก คือ กาละแม ไว้บนรถเข็นของสนามบินด้านหน้าเลย แป่วววววว ทำงัยดี สาวๆ 7-8 คน เริ่มปรึกษากัน ด้วยความที่เป็นห่วงกาละแมที่ลืมไว้สุดชีวิต ประกอบกับการช่วย (สุมหัว) กันคิดว่าจะเอางัยดี เลยปรึกษากันเสียงค่อนข้างดังไปนิดนึง พี่สจ๊วตท่านนึงคงเห็นผิดสังเกตุว่า สาวๆ แกงค์นี้มังเป็นอะไรกันว้าาา เดินเข้ามาถามว่า มีอะไรให้ช่วยมั๊ยครับ เท่านั้นแหล่ะ....พวกเราก็เล่าๆๆ (ไม่รู้ว่าพี่เค้าฟังทันไหมนั่น) แต่ด้วยอาการตื่นเต้นห่วงกาละแมเพราะเครื่องใกล้ออกแล้ว พี่สจ๊วตรับคำว่าจะช่วยหาให้พร้อมกับ ส่งสัญญาณไปยังเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ แกงค์เราจึงเริ่มสงบลงได้ ยอมนั่งประจำตำแหน่งแต่โดยดี แต่ยังไ่ม่วาย หันมาเม้าท์กันต่อว่า หายแน่เลยอ่ะ เพราะลืมไว้ที่ด้านหน้าตอนลงรถตู้เลย คงหายากอยู่ พร้อมกับพยายามตัดใจจากเจ้ากาละแมน้อยกลอยใจ และในที่สุด....ก่อนเครื่องออกเพียง 5 นาที.... พี่สจ๊วตคนเดิมก็วิ่งขึ้นเครื่องพร้อมกับชูถุงกาละแมมาให้พวกเรา......เย้!!! เสมือนภาพบรรยากาศพวกเรายืนคอยความหวัง แล้วมีฮีโร่วิ่งเข้ามา ณ เวลานั้นเลยทีเดียว (ถึงแม้ว่า ฮีโร่ท่านนั้นจะเป็นภาพวิ่งถือถุงกาละแมมาก็ตามที ^^ ) .....พวกเราได้แต่ขอบคุณพี่เค้าเป็นการใหญ่ และได้ซึ้งกับน้ำใจเล็กๆ ที่เจ้าหน้าที่การบินไทยพยายามหากาละแมให้พวกเรา ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่....กาละแมเพียงถุงเล็กๆ ของพวกเรา แต่มันก็แสดงถึงความมีน้ำใจและเต็มใจให้บริการของเจ้าหน้าที่การบินไทย.... ประทับใจจริงๆ นะคะ.....  สำหรับทริปนี้...... ขอสรุปค่าใช้จ่ายคร่าวๆ (เผื่อใครจะไปเที่ยวจะได้ประมาณงบได้ถูกนะคะ) - ค่าอาหารมื้อเที่ยงวันแรก ที่ร้านโกเซ้ง 1800 บาท / 8 คน - ค่าเรือไปกลับเกาะสมุย / เกาะเต่า จองผ่านเวบไซต์ บ.ลมพระยา คนละ 900 บาท - ค่าที่พักจามจุรีวิลล่า เกาะเต่า ห้องสุพีเรีย ห้องละ 2060 บาท / คืน / 2 คน ถ้ามีเตียงเสริมเพิ่ม 700 บาท รวมอาหารเช้า เป็นราคาที่จองผ่าน Agency ค่ะ - ค่าอาหารมื้อเย็นวันแรกที่ห้องอาหารริมทะเลของจามจุรี 1700 บาท / 8 คน - ค่าเหมาเรือหางยาวเที่ยวเกาะนางยวน + ดำน้ำรอบเกาะเต่า 2300 บาท / 8 คน - ค่าขึ้นเกาะนางยวนคนละ 30 บาท - ค่าขนมร้าน 7-11 แทนอาหารมื้อเที่ยงวันที่สองเพราะเดี๋ยวตกเรือกลับสมุย เลยซื้อขนมกินแทนระหว่างอยู่บนเรือประมาณ 500 บาท / 8 คน - ค่าห้องพัก IBIS Hotel เกาะสมุย ห้องละ 999 บาท / คืน / 2 คน เราพักที่สมุยกัน 2 คืนค่ะ จองที่งาน ททท.ช่วงมีนาที่ผ่านมา - ค่าอาหารมื้อเย็นวันที่สองที่ fisherman village บ่อผุด 2000 บาท / 8 คน - ค่าขนม + โรตี + ไอติม เดินเล่นตอนกลางคืน ประมาณ 500 บาท / 8 คน - ค่ารถสองแถวไปกลับบ่อผุด / IBIS คนละ 60 บาท - ค่า one day trip หมู่เกาะอ่างทอง 6900 บาท / 8 คน จองที่งาน ททท.ช่วงมีนา - ค่าคอกเทลริมสระน้ำที่ IBIS 2 แก้ว ราคา 300 บาท - ค่าเหมารถตู้ไปกลับร้านบางปอซีฟู้ด / IBIS 600 บาท - ค่าอาหารมื้อเย็นร้านบางปอ (ตาโข) ซีฟู้ด 2700 บาท - ค่าไอติม + ขนมร้าน 7-11 ก่อนกลับ IBIS ประมาณ 500 บาท / 8 คน วันที่สี่ตื่นสายค่ะ กินมื้อเช้าที่ IBIS แล้วไปเที่ยวที่หาดละไม ไ่ม่ได้กินอะไรอีก นอกจากขนมที่ซื้อไว้เป็นเสบียงจนกลับกรุงเทพ รวมๆ แล้วค่าใช้จ่ายในการไปเที่ยวกับเพื่อนทริปนี้ 4 วัน 3 คืน คนละ 5600 บาท โดยยังไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบินนะคะ....  Girls Gang ทริปสมุยเริงร่า (วันที่สาม-เกาะแม่เกาะ ทะเลใน)
กลับจากการเที่ยวหมู่เกาะอ่างทอง พอขึ้นเรือมาแล้ว
ทางเจ้าหน้าที่บนเรือก็ให้เราไปตักอาหารมื้อเที่ยงกันเองได้เลย มีไก่ทอด (อร่อยอ่ะ) แกงเขียวหวานไก่ ผัดเปรี้ยวหวาน (มั้ง) แล้วก็อะไรอีกซักอย่าง จำไม่ได้แล้วค่ะ ^^  อิ่มกันแล้ว นั่งได้แป๊บเดียวยังไม่ทันหายเหนื่อยเลย ถึงจุดเที่ยวจุดที่สอง ทะเลใน เกาะแม่เกาะค่ะ  ลงเรือเล็กไปขึ้นเกาะแม่เกาะเหมือนเดิม ทางไปทะเลในไม่โหดเท่าไร มีบันไดให้ค่ะ  ระหว่างเดินไต่บันได หันมาถ่ายรูปท้องทะเลที่เรือจอดอยู่ได้มุมนี้  เดินไปตามทางเดินเรื่อยๆ มีแทรกตัวตามซอกเขาบ้าง วัดกันไปเลย ระหว่างทางเจอดอกอะไรไม่รู้เห็นเป็นระยะๆ  ถึงแล้วค้า.....ทะเลใน  สวยนะคะ แต่ดูไปดูมา คล้ายที่เกาะห้อง จ.กระบี่เหมือนกันเนาะ  อยู่บนแม่เกาะ มีเวลาถ่ายรูปนั่งชิวๆ ได้ค่ะ เพราะเดินไปจุดชมวิวไม่ไกล   และแล้วก็ได้เวลากลับกันค่ะ  มุ่งหน้ากลับเกาะสมุย...  พอมาถึงเกาะสมุย รถตู้ของ บ.ทัวร์มาส่งที่โรงแรม สาวๆ ในกลุ่มเหนียวตัวทนไม่ไหว พอถึงโรงแรมปุ๊บ กระโดดลงสระว่ายน้ำของโรงแรมทันที ในขณะที่เราขอวิ่งเอากล้อง + กระเป๋าทั้งหลายแหล่ไปเก็บที่ห้องพักกันก่อน เดินลงมาที่สระว่ายน้ำอีกที ได้ยินเสียงสาวๆ วี้ดว้ายเล่นน้ำกันอยู่ที่สระ เราก็เดินไปคุยกับเพื่อนที่ริมสระ วางผ้าเช็ดตัวไว้ที่เก้าอี้ตัวนึง ปากก็เม้าท์เพลินจนเพื่อนที่อยู่ในสระบอกว่า เฮ้ยๆ เก้าอี้คนอื่นเขา เก้าอี้เราอยู่ทางนี้ อ้ายเราก็เหวอพร้อมกับหยิบผ้าย้ายของทันที ได้ยินเสียงแว่วๆ ลอยมาตามลมว่า ของที่เราหยิบติดมือมาด้วยอ่ะ เป็นผ้าขนหนูของเจ้าของเก้าอี้ที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว หันไปยิ้มขอโทษ ขอโพยพี่เค้าก่อน พร้อมกับวางของๆ ตัวเองแล้วโดดลงสระ เล่นน้ำกับเพื่อนๆทั้งแกงค์ แล้วก็ได้ยินเสียงพี่คนเดิม (เจ้าของผ้าขนหนู) ถามขึ้นมาว่า ในกลุ่มนี้มีใครล็อคอิน chicken demon หรือป่าวคับ เท่านั้นแหล่ะ....เราก็หันไปทักทายต้นเสียง ผู้เป็นเจ้าของผ้าขนหนูอีกที สุดท้ายเลยรู้ว่า เป็นพี่หนุ่มเมืองกรุง สมาชิก BP นี้เอง ที่ทักทายกันถูกก็เพราะว่าก่อนหน้านี้ เราเคยตอบกระทู้ IBIS ว่ากำลังจะมาเที่ยวสมุย ก็เลยได้ทำความรู้ัจักกันเล็กน้อย แล้วก็เล่นน้ำกับเพื่อนๆ ต่อ หันไปอีกที พี่เค้าขึ้นจากสระน้ำไปแว้ววว (สงสัยกลัวเราแอบขโมยผ้าขนหนูแหงมๆ อิอิ) เล่นน้ำกันจนค่ำ แล้วพวกเราก็ขึ้นจากสระว่ายน้ำไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมตัวไป dinner แบบซีฟู้ดเต็มๆ กันซะที มาสมุยสามวันแล้ว ยังไม่ได้กินปูนึ่ง ปูเผาเรยอ่ะ นัดรถตู้ให้มารับที่หน้าโรงแรมเวลาทุ่มครึ่ง แล้วก็มุ่งหน้าไปร้านบางปอ (ตาโข) ซีฟู้ด ทันทีเลยค่ะ พอไปถึงร้าน เลือกที่นั่งตรงหาดทราย ทางร้านเสิร์ฟออเดิร์ฟมาให้ฟรีๆ หน้าตาแปลกๆ แต่รสชาติสุดยอดไปเลย เรียกว่า เคยจี่ (มั้ง) กินกับแตงกวาสดๆ กรอบๆ เข้ากันมากๆ  และแล้วเมนูแรกก็มาถึง ข้าวผัดทะเล 2 จานใหญ่ๆ (เพิ่มพลังค่ะ วันนี้หิวอ่ะ)  ต่อด้วยปลาหมึกผัดผงกระหรี่ หน้าตาแปลกไป ไม่เหมือนที่เคยกินที่กรุงเทพ รสชาติติดหวานไปนิ้ดนึง  ต่อด้วยยำรวมมิตรทะเล รสชาติเปรี้ยวได้ใจดีค่ะ  ตามมาด้วยปลากระพงทอดน้ำปลา  ต้มยำปลาหมึก + กุ้ง  กุ้งอบวุ้นเส้น.....ที่ขัดใจชาวแกงค์เล็กๆ เนื่องจากว่าชอบกินวุ้นเส้นกันค่ะ แต่ที่ร้านนี้ให้กุ้งซะเต็มหม้อ หาวุ้นเส้นได้ยากเต็มที คนอื่นๆ อาจจะชอบเพราะกุ้งสด ตัวใหญ่และเยอะจริงๆ  ในที่สุด.....น้องปู ก็มาหาพวกเราแต่โดยดี สั่งมา 2 กิโลเลยค่ะ กะว่าเต็มที่กันไปเรยยยย  นั่งกินไป เม้าท์ไป ซักพักเริ่มรู้สึก....น้ำทะเลเริ่มขึ้น ไล่เกือบถึงโต๊ะที่เรานั่งกันแล้ว อิ่มพอดี พวกเราก็เลยเก็บตังค์ค้า.....กินกันกระจายพุงแทบแตก แต่ก็ยังอุตส่าห์ให้รถตู้แวะ 7-11 ซื้อไอติมเป็นของหวานล้างปากก่อนกลับโรงแรม  Girls Gang ทริปสมุยเริงร่า (วันที่สาม-หมู่เกาะอ่างทอง)
เช้าวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ค.52 .....
วันที่สามของทริปนี้ รีบตื่นแต่เช้า อาบน้ำแต่งตัว แล้วรีบวิ่งไปกินมื้อเช้าที่ห้องอาหารของ IBIS โดยด่วน ทำเวลากันมากๆ เพราะนัดกับ บ.ทัวร์ไว้อ่ะค่ะ ว่าวันนี้จะมารับพวกเราไปเที่ยวหมู่เกาะอ่างทองกันแต่เช้า  อิ่มท้องกันแล้ว พอดีกับเจ้าหน้าที่ของ บ.ทัวร์ โทรมาตามว่ารออยู่ที่หน้าโรงแรมแล้ว รีบเก็บข้าวเก็บของไปที่หน้าโรงแรมกันทันที.... ปล. โปรดสังเกตุนะคะว่าสาวแกงค์นี้ ไม่ว่าจะอยู่สถานการณ์ใดขอสีสันสดใสไว้ก่อน แบบว่า สีสันสดใสแบบซัมเม๊อร์...ซัมเมอร์...  นั่งรถตู้ของ บ.ทัวร์ไปซักพักก็ไปถึงท่าเรือ กลุ่มเราเดินไปนั่งช่วงท้ายของลำเรือ เพราะในตัวเรือตรงกลางมีนักท่องเที่ยวจับจองที่นั่งกันหมดแล้ว ท่าทางกลุ่มเราจะเป็นกรุ๊ปสุดท้ายที่ไปเที่ยวหมู่เกาะอ่างทองกับเรือลำนี้  บนเรือมีกาแฟ โอวัลติน ขนมปังไส้สังขยา กล้วยหอม เตรียมไว้ให้ด้วยค่ะ กลุ่มเราก็เริ่มกิจกรรมฆ่าเวลาเพราะฟังจากเสียงประกาศบนเรือบอกว่า ใช้เวลาในการเดินทางไปหมู่เกาะอ่างทองประมาณชั่วโมงครึ่งแน่ะ      ฟ้าใสมากกก.....   ต่างคน ต่างหามุมถ่ายรูป.....      นั่งเรืออยู่ชั่วโมงกว่า ในที่สุดก็มาถึงแว้วววววว  มีเรือเล็กมารับอีกต่อนึงค่ะ เรือใหญ่เข้าไปไม่ได้  ยกพลขึ้นบก  ถึงซะทีค่ะ หมู่เกาะอ่างทอง.... บนเกาะมีกิจกรรมให้เลือกทำสามอย่าง โดยมีเวลาให้อยู่ที่นี่ประมาณชั่วโมงครึ่ง อย่างแรก ปีนเขาไปถ่ายรูปที่จุดชมวิว อย่างที่สอง พายเรือคายัคต้องจองล่วงหน้าเพราะเจ้าหน้าที่จะได้เตรียมอุปกรณ์ไว้ให้ อย่างที่สาม เล่นน้ำ ดำน้ำรอบเกาะ สำหรับกลุ่มเราแบ่งออกเป็นสองสาย สายแรก สองสาวขี้เกียจปีนเขาเลยขอนั่งรอเพื่อนข่างล่าง ขอเล่นน้ำทะเล ถ่ายรูป อยู่บริเวณชายหาดดีกว่า สายที่สอง อีกหกชีวิตเตรียมตัวซื้อน้ำดื่มคนละขวด (ขวดละ 20 บาท) ไปจุดชมวิว  ปฏิบัติการโหดเริ่มขึ้นแล้วค่ะ.....       ในที่สุด.....จุดชมวิวจุดแรก เราก็มาถึงจนได้  กดชัตเตอร์จนหนำใจ พวกเราเริ่มลุยต่อ ตั้งหน้าตั้งตาไต่ๆ ปีนๆ ต่อไป ถึงจะใส่รองเท้าแตะ พวกเราก็สู้ตายค้า... (ในใจแอบหวั่นๆ รองเท้าจะขาดมั๊ยว้า แล้วถ้ารองเท้าขาดมิต้องเดินเท้าเปล่ากันลงมาหรือนี่) มาถึงจนได้.....จุดชมวิวจุดที่สองจ้า....  เริ่มตื่นเต้น นี่แค่มาถึงแค่ชั้นที่สองเองนะคะเหลืออีกสามจุดกับระยะทางอีกสามร้อยเมตร  ทางขึ้นชั้นที่สามเริ่มลำบากมากขึ้น ถึงลำบากแค่ไหนเราเก๊าะ.....สู้ สู้.. ถึงซะที.....วีดวิ้ววว  นั่งพักเหนื่อย ถ่ายรูปกันนานมากกกกก    แบบว่า....เดินต่อไปอีกไม่ไหวแย้ววว เพราะดูเวลาแล้วเดี๋ยวจะลงมาไม่ทันได้ถูกปล่อยเกาะแหงมๆ พวกเราก็เลยค่อยๆ ไต่ลงมาตามทางเดิม ขาลงไม่เหนื่อยเท่าไร แต่ต้องคอยระวังไม่ให้หน้าคะมำหัวทิ่มซะก่อนค่ะ ในเวลาเดียวกัน....อีกสองสาวที่รออยู่ข้างล่างเริ่มหากิจกรรมทำระหว่างรอเพื่อน  เล่นน้ำทะเล (ตอนเที่ยง....แดดเปรี้ยงๆ) รอไปก่อน  เริ่มรู้สึกร้อน....นั่งรอเพื่อนก็แล้วกัน..  นานแล้วนะ....เมื่อไหร่พวกมังจาปีนเขาลงมากัน (ฟะ)  กว่าพวกปีนเขาจะลงมา รีบวิ่งเข้าหาน้ำดื่มเย็นๆกันเรย ทั้งร้อน ทั้งเหนื่อย แต่ก็คุ้มนะคะ ข้างบนสวยดี นี่ขนาดไปแค่สามจุดเองนะนี่ นั่งพักกินน้ำให้หายเหนื่อยแล้วค่อยลงเรือเล็กเพื่อไปขึ้นเรือใหญ่ตามเดิม  Girls Gang ทริปสมุยเริงร่า (รีวิวห้องพัก.....IBIS Hotel-เกาะสมุย)
ที่เกาะสมุย แกงค์เราจองห้องพักที่นี่ไว้ 4 ห้อง
ไม่ติดกันเลยค่ะ แต่เดินหากันได้อยู่ ที่นี่ต้องบริการตัวเอง กระเป๋าเดินทางเข็นไปเก็บที่ห้องพักกันเองจ้า  ภายในห้องพัก พื้นที่เล็กๆ แต่ก็โอเคนะคะ สวยเรียบๆ เก๋ดี  ตอนแรกมองหาตู้เสื้อผ้ากับตู้เย็นไม่เจอ  ที่แท้....ซ่่อนแอบอยู่นี่เอง  มุมเตียงนอน  อีกด้านที่ใกล้กับประตูห้องน้ำ  อีกด้านวางข้าวของเครื่องใช้  ห้องพักมีชา กาแฟ กาต้มน้ำร้อนให้ค่ะ  ถัดจากหัวเตียงเป็นโซฟาเล็กๆ แต่ใช้เป็นที่วางของซะงั้น  มาดูที่ห้องน้ำกัน  ห้องน้ำเล็ก แต่ก็ตกแต่งสวย จัดสรรพื้นที่ลงตัวพอดีเลย  ห้องกระจกอาบน้ำ  ของใช้ที่ทางโรงแรมจัดเตรียมให้ มีหมวกคลุมผมอาบน้ำ สบู่ แชมพู ไดร์เป่าผม นอกนั้นบรรดาของที่วางอยู่ตรงอ่างล้างหน้า ขนไปเองค่ะ  สำหรับราคาห้องละ 999 บาทต่อคืน ก้อโอเคนะคะ ถือว่าเป็นโรงแรมเล็กๆ ที่มีเครื่องอำนวยความสะดวกครบถ้วน  |
chicken demon
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 38 คน [?] Group Blog
All Blog
Friends Blog
Link |
||
| Pantip.com
| PantipMarket.com
| Pantown.com
| © 2004 BlogGang.com
allrights reserved.
|
|||
