Poetry is wisdom that enchants the heart.
Wisdom is poetry that sings in the mind.
Poetry is not an opinion expressed.
It is a song that rises from a bleeding wound or a smiling mouth......
"If you can't love me, love my poetry."
|
||||
Washington D.C. กับฟ้าสีคราม
นี่เป็นรูปเก่าเมื่อสัปดาหืที่แล้ว ตั้งแต่ตอนอยู่ดีซีที่หิมะ เพิ่งซานะครับ พอวันถัดจากที่หิมะถล่ม ฟ้าก็ใสทันที ภาพอนุสาวรีย์อันนี้ไม่แน่ใจว่าเขาเรียก Horishima Peace Memorial รึเปล่า ใครทราบรบกวนขอความรู้ด้วยนะครับ >< แต่แถว ๆ นั้น เหมือนเป็นสุสานด้วย เวลาหิมะ ตกดูแล้วขาวโพลน ตัดกับสีฟ้าคราม แล้วส่วนมีเสน่ห์อย่าบอกใครเลย นี่แถว ๆ พิพิธภัณฑ์ Smithsonian Washington Monument ทำเป็นแท่ง ๆ แบบนี้แล้วชวนให้นึกถึง Obelix ของ อียิปถ์ คิดไปคิดมา ก็สงสัยว่า มันทำแหลม ๆ แบบนี้ มันคล้าย ๆ ศิวลึงค์ แบบแนวคิดขอมชะมัด แต่ถ้าเป็นศิวลึงค์จริง นี่จะเป็นศิวลึงค์แท่งที่ใหญ่ที่สุดที่เคยเห็นมา ทำเนียบขาวภาพนี้ ผมต้องปีนแล้วเกาะรั้วถ่ายครับ เพราะถ้ายืนถ่ายแบบปกติ มันจะติดรูปรั้วไปด้วย ทางเดินรอบรั้วของทำเนียบขาว ตรงนี้ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นอนุสรณ์สถานสงครามโลกครั้งที่สอง Georgetown หนาวเหน็บ U.S.A
จอร์จทาวน์ เป็นย่านชุมชนแห่งหนึ่งแถบวอชิงตันดีซี อาคารบ้านเรือนหลายแห่งก็เป็นทรงเก่า บ้านเรือนและตึกหลายหลังติดป้ายปีที่สร้าง ให้ดูกันจะจะ ส่วนใหญ่จะสร้างกันช่วงปี 1800 ก็นับได้ว่า มากกว่าสองร้อยปีแล้ว เส้นนี้เป็นถนนเลียบแม่น้ำโปโตแมก ชื่อ โปโตแมก ก็บอกอยู่แล้วว่าไม่ใช่ภาษาอังกฤษ แต่เป็นภาษาอินเดียนแดงแน่ ๆ ผมอ่อนประวัติศาสตร์ ก็เลยไม่รู้ว่าเป็นชื่อ เผ่ารึเปล่า แต่เดาว่า ที่มาของชื่อ ก็คงคล้าย ๆ กับชื่อ ท้องถิ่น เมืองในสหรัฐอเมริกาหลาย ๆ แห่ง อย่าง วิสคอนสิน ไอดาโฮ มิชิแกน ที่น่าจะมาจากภาษาชนพื้นเมือง สะพานข้ามแม่น้ำโปโตแมก สถานที่ที่คนทั่วไปน่าจะรู้จักเกี่ยวกับจอร์จทาวน์ ก็คือตัวมหาวิทยาลัย จอร์จทาวน์เอง ที่คนไทยก็มาเรียนเยอะ ที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ มีภาควิชาไทยคดีศึกษา ที่มีนักวิชาการเก่งๆ อยู่มากมายหลายคน ตึกสีดำดูเก่าดี มองไปมองมาให้บรรยากาศโรงเรียนสอนเวทย์มนต์ ของแฮรี่ พ็อตเตอร์ยังไงไม่รู้ ตอนนี้เข้ามาในเมืองย่านค้าขายแล้ว ภาพนี้ถ่ายในร้านกาแฟสตาร์บัคที่อยู่ใน บาร์นส แอน โนเบิล ร้านหนังสือที่เป็นที่รู้จักในสหรัฐอเมริกา ธนาคารหัวมุมติดกับถนนเลียบแม่น้ำโปโตแมก บนถนน วิสคอนซิน เอเวนิว หน้าสถานฑูตไทย ประจำกรุงวอชิงตันดีซี โบสถ์อะไรซะอย่าง เยื้องกับสถานฑุตไทยพอดี Washington D.C. ในวันที่หิมะเทลงมา U.S.A
สมัยเด็ก ๆ ผมเคยได้ยินสุภาษิตคำพังเพยฝรั่งที่ว่า March comes in like a lion and goes out like a lamb หมายความว่า เดือนมีนาคมนั้นย่างกรายเข้ามาดุจพญาราชสีห์ แต่จากเราไปด้วยวิถีของลูกแกะตัวหนึ่ง เดือนมีนาปีนี้ ก็คงเป็นอย่างที่สุภาษิตเขาว่ากันไว้เด๊ะ ๆ คือเริ่มต้นเดือน ก็โดนปุ๊บ อเมริกาฝั่งตะวันออก ก็โดนหิมะถล่ม ชนิดที่เรียกว่า หนักที่สุดในรอบสามปีหลังมานี้ เข้ามายังกะพญาราชสีห์จริง ๆ ซึ่งแม้อากาศจะเป้นแบบนี้ แต่คนที่อยู๋ในภาวะอากาศซีกโลกฝั่งตะวันตก ก็หวังไว้ว่า ปลายเดือนมีนา คือวันที่ 21 ในช่วงเริ่มต้นฤดูใหม่ ที่จะได้หมุนนาฬิกา จาก เวลา Winter time ให้เร็วขึ้นอีกหนึ่งชั่วโมงนั้น อากาศดี ๆ ท้องฟ้าสดใส ตะวันส่องแสง นกน้อยร้องเพลง ดอกไม้บานประดับจังหวะฤดูใบไม้ผลิ จะมีให้เห็นกัน เดือนมีนาคม หรือ March อันเป็นเดือนประจำราศี "มีน" ก็เป็นแบบนี้ถ้าจำ ได้ สัญลักษณ์ของมัน คือ ปลาสองตัวว่ายน้ำไปคนละทาง เปรียบไป ก็คงจะได้เท่ากับ สองฤดูที่สวนทางกัน ก็คือ ฤดูหนาว กับ ฤดูใบไม้ผลิ นั่นเอง แต่ช่วงต้นมีนาคม ตอนไป ไอ้เราดูพยากรณ์อากาศ มันบอกว่า อากาศที่นั้น ต่ำสุดสี่ถึงห้า สูงสุดสิบหกองศาเซลเซียส เราก็ไม่ได้ใส่ใจ ไม่คิดว่าจะเจอหิมะตก แต่พอไปถึงคืนแรก หิมะ ท่านก็บรรเลง เลย นี่เป็นรูปบริเวณบ้านที่ไปพัก นี่ถ่ายจากหลังบ้าน เลยไปทางทิศตะวันตกเฉียงหนือ ผ่านเส้นเลียบแม่น้ำโปโตแมก เลยมหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ไปสักหนึ่งไมล์ รู้สึกวันนั้น เวลาจะเดินออกมาถ่ายรูป มันทุลักทุเลพิกล ก็ลำบากนิดนึง เวลาถ่ายรูป ถ่ายไปได้สักพัก ก็ต้องเอามือเข้ามา "พัก" เพราะทนคมมีดแห่งฤดูหนาวที่กระหน่ำกรีดผิวหนัง ฝ่ามือไม่ได้ นี่เป็นถนนหน้าบ้าน ปกติผมจะเป็นคนชอบเดิน ใช้ความคิดกับตัวเองแล้วถ่ายภาพไปเรื่อย วันนั้นก็เป็นอีกวันที่แปลก เพราะเดินย่ำหิมะไป เลียบไปตามริมแม่น้ำโปโตแมก หนาวเท้าไป ก็อีกนั่นแหละ รองเท้าที่ใส่ มันไม่ใช่รองเท้าที่เหมาะกับการเดินในภาวะอากาศแบบนี้ บริเวณสนามหน้าบ้าน ถ่ายจากประตูทางเข้าหน้าบ้าน เริ่มมีแสงอาทิตย์ ฟ้าเริ่มเป็นสีคราม ตะวันส่องแสงทักทายหิมะ เป็นสัญญาณให้เรารู้ว่าหลังจากหิมะถล่มครั้งใหญ่ ฤดูหนาวก็กำลังจะจากไป ส่วนฤดูใบไม้ผลิที่สรรพชีวิตจะได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้งก็จะมาเยี่ยมยามเราในอีกไม่กี่สิบวันที่จะถึงนี้ เช้านี้ที่ Riverside, California, U.S.A
รูปพวกนี้ถ่ายตอนเดินไปโรงเรียนตอนเช้าครับ ก่อนที่กล้องจะตก เลนส์จะป่วย อารามว่าเจ้าของกล้องออกอารมณ์เฟอะฟะ (ซึ่งปกติก็เป็นอยู่ประจำอยู่แล้ว) ถ่ายรูปเสร็จแล้วเอาใส่กระเป๋ากล้องใบใหม่เอี่ยม แล้วเสือกลืมรูดซิป (ซิปกระเป๋านะไม่ใช่กางเกง) แล้วก็ลุกขึ้นจะรีบเดินต่อเฉยเลย กล้องก็ตกออกมาทั้งกล้องทั้งเลนส์ที่ ไม่ได้แยกส่วน ปรากฏว่า พอเอามาลองถ่ายอีกที ก็ถ่ายได้บ้างไม่ได้บ้าง บางทีได้แล้วมันก็เครื่องดับ ตอนแรก นึกว่าเป็นทั้งเลนส์ทั้งกล้อง แต่พอเอากลับมาลองถ่ายกับ เลนส์ พอเทรท มันก็ใช้ได้ปกติ เลยสรุปว่า เป็นที่เลนส์คิดมากกว่า จากการสันนิษฐานเอาเอง เพราะเวลาถ่าย มันจะบอกว่า the connection between the camera and lens is faulty ถ่ายรูปติด แต่ว่ากล้องดับ รูปนี้ถ่ายหลังจากเลนส์เจ๊งแล้ว ก็เลยเอาไปซ่อมที่ ritz camera เซ็งจริง ๆ เลยครับ แต่ก็พอจะมองเห็นข้อดีได้บ้าง เพราะอย่างน้อยมันก็ทำให้ผมได้มีข้ออ้างในการซื้อเลนส์ใหม่ ด้วยราคาที่ถูกจนน่าทึ่ง ในวิกฤตย่อมมีโอกาสแฝงมาเสมอ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกมองด้านไหนของมัน มุมสงบที่วัดแห่งหนึ่งในคุนหมิง, Yuan Tong Si Temple, Kunming, China
มาดูปลากับแม่ เสร็จแล้วก็ไหว้พระ อาม่ามาเลี้ยงปลา อาม่าคนเดียวกันแต่ต่างมุม |
เชษฐภัทร
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]
Group Blog
All Blog
Friends Blog
|
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |