Poetry is wisdom that enchants the heart.
Wisdom is poetry that sings in the mind.
Poetry is not an opinion expressed.
It is a song that rises from a bleeding wound or a smiling mouth......
"If you can't love me, love my poetry."
|
||||
อัตตากวี
เห็นเดินจูงกันเพลินเขินนิดหน่อย ตากับยายเปิดปากเคี้ยวหมากคอย บ่นอัดน้อยเบี้ยก็นิดกะติ๊ดเดียว เห็นไอ้หลานเป็นกวีอยากมีหน้า เบ่ง "อัตตา" กับ "อัตยาย" วุ่นวายเสียว ตาบอกยายปล่อยมันไปไว้เดี๋ยวเดียว มันคง "เหี่ยว" เพราะไร้คนมาสนใจ อัตไม่มีก็อย่าทำให้ลำบาก ตายายฝากบอกอย่าเร่งเที่ยวเบ่งไข่ เบ่งจนพองระเบิดแตกแหลกเละไป ย่อมเป็นเรื่องเสียนิสัยไม่น่าดู ลองเก็บเล็กผสมน้อยค่อยสะสม เพื่อเพาะบ่มคุณค่างานการต่อสู้ คำกวีรินหลั่งไหลพรั่งพรู จนคนรู้อหังการจากงานเอง เก็บ "อัตตายาย" ไว้ให้มิดชิด หลานอย่าคิดแข่งคารมไล่ข่มเหง ให้เนื้องานกวีคำสำแดงเพลง อักษรเบ่งความยิ่งใหญ่ให้คนลือ ความรวยที่ไม่รวย
ก็ต้องเพียรเป็นนักอ่าน เป็นนักดูรู้งาน หูตาเราต้องว่องไว แล้วต้องเป็นนักคิด ตรองถูกผิดในจิตใจ ละเอียดละเมียดละไม ทุกอณูรู้ใคร่ครวญ จนเราอยากเล่าเรื่อง จึงยักเยื้องความคิดหวน กลั่นกรองอักษรทวน ทุกความคิดประดิดประดอย จึงเกิดเป็นงานเขียน รักจึงเพียรผลิตถ้อย ทุกคำใส่ใจคอย ยิ้มน้อยใหญ่ในผลงาน ใส่ใจให้กับกิจ ใส่ชีวิตจิตวิญญาณ ดื่มดำทุกทิพย์ฌาณ ขณะเพ่งอักษรกล ทั้งยามว่างไม่ว่าง ทุกก้าวย่างเหมือนต้องมนตร์ เขียนได้ตลอดจน กระทั่งทุกลมหายใจ งานหลักคืองานสอน ส่งเสริมย้อนงานเขียนได้ หลัก-รอง คล้องสายใย โยงรากงานมั่นคง อาจไม่รวยล้นฟ้า เงินไหลมาน่าใหลหลง แต่จิตใจทรนง ยิ่งใหญ่รวยด้วยผลงาน การจัดเกรียน
คิอวิธีจัดการมารในเน็ต
วาทะเด็ดเด็กเกรียนเพียรรุมด่า เราต้องหัดฝึกคิดพิจารณา กระบวนท่าทุกถ้อยคำมันทำที รื้อค้นคิดปูมหลังมันทั้งหมด สืบแล้วจดจำไว้ให้ถ้วนถี่ เอามาแต่งกลอนใหม่ไว้แหละดี เรื่องเกรียนเกรียนอย่างนี้ที่ต้องการ มองเลวให้เห็นดีศาสตร์ชีวิต เฝ้าลิขิตวนเวียนหมุนเปลี่ยนผ่าน แต่งแต้มความต่ำเกรียนเนียนเชี่ยวชาญ แล้วส่งงานประกวดกล้าล่ารางวัล กลบทเกรียนกลมนตร์กลอนล้อ อุปลักษณ์ใส่ต่อพอขำขัน สัมผัสนอกสัมผัสในใช้ครบครัน อุปมาด้วยความมันเท่านั้นพอ แทรกข้อคิดให้งดงามตามวรรณศิลป์ ตรึงดวงจินต์กรรมการคนอ่านต่อ ย่อมเกิดเป็นมรรคผลคนยกยอ ใช้วิกฤตเอามาล้อก่อกรรมดี แค่สร้างสรรค์วรรณกรรมอันล้ำค่า จากสิ่งไร้ราคาคนปาหี่ แต่งมุมมองเสียใหม่ให้เข้าที ก็อิ่มทิพย์ธรรมวิถีกวีเอย มาเฮียนภาษา English กัน
วิถีข้อยเฮียน English นั้นผิดแผน เถื่อแรกอาจเว้ามั่วทั่วทีปทั่วแดน ความหน้ามึนคือแก่นแสนสัปดล หาเบิ่งบอลจาก TV Premier League อยู่ทุก Week ติดตามเฝ้าถามผล มักนักเตะ Super Star มหาชน อยากฝึกตนเป็นนัก Ball ออนซอนนำ Liverpool แห่ง England แล่นในหัว บ่อยากซั่ว โง่ภาษา มันน่าขำ จึงเริ่มฝึกทั้ง English ฟิตประจำ แลงก็ย้ำ ซ้อม Football ก่อนกลับเฮือน เพื่อสิเว้าให้เข้าใจ กับ Mike Marsh เถียง Souness บ้าอำนาจ อุบาทว์เถื่อน Grobbellar สิปล่อยมุกทุกปีเดือน Rob Jones สิเป็นเพื่อน ตักเตือนกัน Bjornbye แข่งฝีปาก กับ Mark Wright Mark Walters นั่นไง ข้อยใฝ่ฝัน บัก Steve McManaman สานควมมัน บัก Steve Staunton นั่นเสี่ยวกู Dean Saunders สิบ่เอ๋อยามเจอหน้า สิปากกล้า Speak Welsh เย้วเย้วสู้ ทั้ง Ian Rush สิฮ่วมใจให้เชิดชู เกียรติ The Kop จะคงอยู่คู่ Anfield เพ่งดาวอังคาร ศุกร์ จันทร์และมฤตยู
สาปพฤหัสบดี..........ดับสิ้น อังคารแล่นนำวิถี...........ทางพระศุกร์ จักรวรรดิจักรวาลดิ้น...........เดือดร้อนทะลวงเมือง ประเทืองอำมหิตเจ้า.........จันทร ยุศุกร์สูบเลือดสยอน........สยดแท้ เลือดมนุษย์ชาติสยามนคร........คราระเหิด ระเหยนา ฟ้าแสยะยิ้มอิ่มแปล้.............ปลาบปลื้มลืมพระธรรม ซ้ำมฤตยูอยู่ยิ้ม....................เยาะหยัน เขมือบกระดูกคนพลัน.............พิโรธท้น อวิชชามนุษย์น่าขัน..................ขำขนาด บางกอกยิ้มสุขท้น..................เที่ยวคลุ้งบาปคาว ดาวสิหมุนเปลี่ยนแล้ว...............ลองปลง ทุกข์อนิจจังคง...............เช่นนี้ มนุษย์เถิดละทะนง.........ในจิต ทุกสภาพพิจารณาชี้............ชัดด้วยสติตรอง หมองหม่นจากเคราะห์ให้.........เล็งเห็น ดาวจะเปลี่ยนคืนเพ็ญ..............พินิจตั้ง ศีลสัตย์ซื่อตรงเป็น............ปวงประโยชน์ ย่อมจะช่วยสยามยั้ง..........อยู่ด้วยปัญญา คราถอยหลังนับแล้ว..............ลองเพียร พรหม เทพ - มารจะเกรียน............ก็สู้ สรรพสิ่งสลับสับเวียน.........เป็นปก ตินา สลับมืดรึสว่างรู้.................รับด้วยจิตเห็น |
เชษฐภัทร
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]
Group Blog
All Blog
Friends Blog
|
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |