Poetry is wisdom that enchants the heart.
Wisdom is poetry that sings in the mind.
Poetry is not an opinion expressed.
It is a song that rises from a bleeding wound or a smiling mouth......
"If you can't love me, love my poetry."
|
||||
ความพอใจกับฉันทลักษณ์
อะไรคือฉันทลักษณ์?
หนูไม่เคยรู้จักนึกหนักหนา คิดทบทวนครวญใคร่ใช้ปัญญา เห็นคนถือกันมาน่าสนใจ หนูจึงถามคุณครูสอนภาษา คุณครูขา -ฉันทลักษณ์- รู้จักไหม? คุณครูยิ้มให้พลันตอบทันใด -ฉันทะ- คือความพอใจไม่ใช่หรือ? ส่วน-ลักษณ์- แปลว่าลักษณะ ครูตอบนะตอบตามคำถามซื่อ โบราณเพียงกำกับไว้ให้ฝึกปรือ อย่ายึดถืออวดอ้างอย่างงมงาย -ฉันทลักษณ์- ก็คือลักษณะของ-ฉัน- พอใจเรียนเขียนกันมันก็ง่าย ส่งคำซื่อสื่อความในไม่ต้องอาย วาดลวดลายใสซื่อสื่อความใน แต่หนูเคยได้ยินคนเขาบ่นว่า ฉันทลักษณ์ยากหนักหนาสารภาพได้ บังคับโน่นบังคับนี่ทุกทีไป -ฉันทะ- แทนความพอใจใช่แน่หรือ แล้วทำไมคนเขียนกลอนค่อนประเทศ จึงยึดเหตุปัจจัยในความทื่อ ยึด-ฉันทะ- มาบังคับกับลายมือ หนูตีบตื้องุนงงสงสัยจัง เชษฐภัทร วิสัยจร 22 เมษายน 2546 เขียนจากใจให้คุณอ่าน
ผมเขียนจากหัวใจให้คุณอ่าน สื่อชีวิตจิตวิญญาณสานความฝัน สอดความคิดจินตนาการผสานกัน เรียบเรียงความเชื่อมั่นตามขั้นตอน ใช้ถ้อยคำเรียบง่ายความเรียบง่าย เน้นความหมายภาษาไทยเอาไว้ก่อน ผูกประโยคด้วยวิญญาณผ่านบทกลอน หลีกเลี่ยงศัพท์ซับซ้อนซ่อนความนัย ส่งภาษาคำซื่อใช้สื่อสาร เน้นเนื้องานส่วนนี้ที่ฝันใฝ่ หวังผู้อ่านมิให้อ่านผ่านเลยไป หวังรสคำประทับใจในใจนั้น กลอนประตูหน้าต่างกลางตลาด วางเกลื่อนกลาดร้อยกองต้องเลือกสรร ทั้งกลอนซื่อสื่อความหมายเข้าใจกัน ทั้งร้อยกรองกีดกั้นสามัญชน ฉันก็เขียนจากใจให้เธออ่าน คำว่ารักหวังหว่านหวานสักหน ว่าฉันรักรักเธอเพ้อพิกล บทร้อยกรองช้ำเกินทนเพราะคนเมิน เชษฐภัทร วิสัยจร 1 มิถุนายน 2546 ขออย่ายอมแพ้
ก.ก็ ใจเรามิอาจ จะคาดจะหวัง ข.ขอ ให้ทั้งชีวิต มิผิดมิเผลอ ค.ความ สุขทุกข์มีครบ จะพบจะเจอ ง.โง่ ปนเซ่อสับสน ทุรนทุราย จ.จาก สิ่งพลาดสิ่งผิด ตะขิดตะขวง ฉ.ฉัน ต้องพ่วงบาปกรรม ระส่ำระสาย ช.ชีวิต เหมือนเป็นแพะ ระแคะระคาย ซ.ซวย ถูกคนใส่ร้าย มิวายมิเว้น ฐ.ฐานะ ก็ด้อยค่า มิสามิสม ด.โดน เขาสาดโคลนตม ริข่มริเข่น ต.แต่ ใจฉันยังเสือก ยะเยือกยะเย็น ถ.ถึง กลายเป็นคนบ้า จะฝ่าจะฟัน ท.ท่อง คำพระแทนไฟ ไสวสว่าง ธ.ธรรม นำทางเพื่อที่ พิถีพิถัน น.น้ำตา รอยคำนึง รำพึงรำพัน บ.บอก ให้ฉันพร่ำเพ้อ ทะเยอทะยาน ป.เป็น แรงใจให้ฉัน ต้องฝันต้องใฝ่ ผ.ผิด รู้ไว้เพาะบ่ม ผสมผสาน ฝ.เฝ้า รอฟ้าหลังฝน ตระกลตระการ พ.เพื่อ พบพานสิ่งดี กุลีกุจอ ฟ.ฟ้า ครึ้มอยู่ครู่เดียว ประเดี๋ยวประด๋าว ภ.ภพ ก็พราวแสงชีวิต ปะติดปะต่อ ม.มิ ให้ใครเขา พะเน้าพะนอ ย.ยืน หยัดไม่ย่นย่อ มิท้อมิแท้ ร.รู้ สำเหนียกสำนึก สะอึกสะอื้น ล.หลบ คนอื่น ค่อนแคะ กระแนะกระแหน ว.แวว ฟอนไฟแห่งฝัน มิผันมิแปร ศ.ศรัทธา แท้แห่งใจ จะใฝ่จะปอง ส.สม กับที่ได้สู้ ได้รู้ได้รส ห.แห่ง กรรมบทที่เจอ เสนอสนอง อ.เอา น้ำตาแบกรับประคับประคอง ฮ.ฮึก เหิมตรองปัญหา กูท้ากูทาย เชษฐภัทร วิสัยจร 27 ธันวาคม 2546 สุขใจที่ได้ทุกข์
อยากจะผูกคอตายหมายพิสูจน์ แทนคำพูดปลุกใจให้ฮึดสู้ ว่ายาพิษผิดหวังเหมือนดังครู ดื่มเพื่อเรียนเพื่อรู้สู้กับมัน และน้ำตาหยดนี้ก็มีค่า เปรียบราคารอยรันทดสู้อดกลั้น ทุกเส้นทางเถื่อนท่าเคยฝ่าฟัน บันทึกแรงใฝ่ฝันกลั่นออกมา แทนบทเพลงแสนหวานฝานรสขม ที่เพาะบ่มสัจธรรมอันล้ำค่า ช่วยส่งเสริมศักดิ์ศรีของชีวา และเยียวยาความบัดสีของชีวิต พิษผิดหวังครั้งนี้มีประโยชน์ อย่าถือโกรธโทษชะตาฟ้าลิขิต แม้ใจแตกเป็นชิ้นอย่าสิ้นคิด ต้องตั้งจิตตั้งสติวิจารณญาณ ค่อยฮึกเหิมหัดสู้เรียนรู้ โลกย์ สุขและโศกขื่นและขมผสมผสาน เมื่อกล้ำกลืนฝืนทนจนชำนาญ จนสำราญกับความทุกข์ในทุกครั้ง ก็จะสุขหัวใจที่ได้ทุกข์ และสนุกกับชีวิตที่ผิดหวัง ถึงอ่อนล้าหัวใจไร้กำลัง -กู-จะยังเชิดหน้าท้าความทุกข์ เชษฐภัทร วิสัยจร 2 มีนาคม 2547 ดอกไม้จะบาน
ดอกไม้...ดอกไม้จะบาน จากชีวิตวิญญาณอันหาญกล้า ด้วยแสงทองส่องทางสร้างศรัทธา ให้เจ้าฝ่าสู้ฝนฝืนทนลม ค่อยค่อยเรียนเพื่อรู้สู้ชีวิต รู้ถูกผิดดีทรามความเหมาะสม แต้มสีสรรพ์วันคืนไว้ชื่นชม เพื่อเพาะบ่มนิรมิตจิตวิญญาณ จะสุมฟืนก่อไฟให้โชนฝัน เพื่อชีวิตคืนวันอันแสนหวาน ให้หนุ่มสาวกรุยทางสร้างปณิธาน สู่ตำนาน ความรู้ คู่ความดี คือนาทีที่ดอกไม้ใกล้จะผลิ ด้วยสติซึ่งฟูมฟักด้วยศักดิ์ศรี เหล่าบัณฑิตรวมใจร้อยไมตรี สู่วิถีแห่งศรัทธามหาชน เชษฐภัทร วิสัยจร 3 กรกฎาคม 2547 |
เชษฐภัทร
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]
Group Blog
All Blog
Friends Blog
|
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |