อุดมคติในคืนมืด: ฺBatman - The Dark Knight
ผมเข้าชมหนังเรื่อง Batman ครั้งล่าสุด เมื่อปี 1995 เท่าที่จำได้น่าจะมี Jim Carey เป็นผู้แสดงนำ
พอมาชมภาค The Dark Knight หรือชื่อไทยว่า "ัอัศวินรัตติกาล" ก็เลยไม่ค่อยจะปะติดปะต่อที่มาที่ไปอะไรได้เท่าไหร่



ตอนแรก ๆ ดู แล้วก็งง ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร แต่พอหนังเริ่มไปสักระยะ ความทรงจำสมัยที่ดูการ์ตุน Batman ที่ช่องเจ็ดเคยเอามาฉายตอนเช้า เสาร์อาทิตย์ ก็เริ่มกลับมาอีกครั้ง
ตัวสนับสนุนของเรื่อง ก็มี Rachel และ Alfred ที่คอยดูแล
ตัวเอก ก็คือ Bruce Wayne หรือเด็ก ๆ แถวบ้านผมเรียกว่า "ไอ้เวยน์" (Mr Wayne) เป็นนักธุรกิจหนุ่ม ผู้ที่ได้ตัดสินใจเสียสละความสุข ส่วนตัว เพื่อปราบปรามเหล่าร้าย โจรและมาเฟียในเมือง Gotham City


แต่การสียสละของ คุณเวยน์ เนี่ย กลับเป็นปฏิบัติการที่ต้องคอยซ่อนตัวตนที่แท้จริง
โดยจะมาในรูปของมนุษย์ค้างคาว ผู้ที่ชาวเมือง Gotham ก็ไม่รู้ว่าเขาคือใคร
แต่เมื่อไรที่เขามา ก็เป็นเรื่องดี เพราะเขามาช่วยเรา

แรก ๆ ไอ้คุณเวยน์ ก็คงรู้สึกสนุกกับการทำหน้าที่เป็นฮีโร แต่พอเวลาผ่านไป เขาคงเริ่มรู้สึกว่า ถ้าจะให้ทำหน้าที่อย่างนี้ต่อไปเรื่อย ๆ เก้คงจะเป็นไปไม่ไดที่จะรักษาภาพลักษณ์ และความดีไว้ไม่ให้พร่อง

ถ้าจะพูดในภาษากีฬา ก็คงจะประมาณว่า "การเป็นแชมป์ว่ายากแล้ว การรักษาแชมป์ยิ่งยากกว่า"

เพราะในภาค The Dark Night นี้ อะไร ๆ ก็เริ่มแปลกเปลี่ยนเพี้ยนไป
ไม่ว่าจะเป็นการที่มีคนแต่งตัวเลียนแบบ Batman แล้วมาทำท่าปราบปรามเหล่าร้าย (แต่ดันโดนคนร้ายจับฆ่าเสียเอง) เป้นจำนวนมาก

แถม Rachel คนรัก ยังผละหนีเขาไปคบหาอยู่กับฮาร์วีย์ เดนท์ หนุ่มคนใหม่อีกตางหาก

คุณเวยน์จึงเริ่มมีความคิดที่ จะ "ถ่ายโอน" หน้าที่ฮีโร ของเขา ออกมาจากความมืด เพื่อมอบหมาย ให้ ฮาร์วีย์ เดนท์ ถ้าจำไม่ผิดหมอนี่ น่าจะเป็นอัยการของเมือง ให้รับบทบาทการปราบปรามผู้ร้าย และยืดอกได้อย่างภูมิใจ

---------------------



แต่การเป็นฮีโร หรือ การทำความดี นั้นไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ สำหรับคนมีความสามารถแต่กำลังใจอาจไม่แข็งพอ

พอการทำดี ไม่ใช่ว่าจะเห็นผลวันสองวัน

่เมื่อทำดี แล้ว ผลดีมันดูเหมือนว่าไม่สามารถเห็นผลได้ หลายๆ คน ก็อาจจะท้อ จนเลิกทำความดีไปเลย

บางคนถึงขนาด จะทำความชั่วประชด เสียนี่

ยิ่งเป็นคนที่มีความสามารถและตั้งใจจริง แล้วยิ่งอันตราย

---------------------

ตัวร้ายในเรื่องคือ Joker ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่น่ากล่าวถึง

๋Joker มีความเจ็บแค้นเพราะชีวิตวัยเด็ก ต้องเจอกับเรื่องราวไม่สู้ดี ซึ่งนั่นก็คือ "แผลเป็น" ที่กลายเป็นตราบาป ติดตรึงทั้งที่ใบหน้า และหัวใจของเขามาทั้งชีวิต

จน ตัว Joker เองเชื่อว่า โลกนี้ทั้งโลกสุดท้ายแล้ว ก็จะมีแต่ความเลว ที่จะขึ้นเถลิงอำนาจเหนือความดีทั้งปวง

เขาไม่เชื่อว่าแม้แต่คนที่อยู่ฝ่ายธรรมะ ก็จะหันกลับมาเป็นเครื่องมือ ของอธรรม

และการเฝ้ามองคนทำความชั่วก็เหมือนจะกลายเป็นความสุขสำราญของนาย Joker ไปเสียนี่

---------------

ฉากสำคัญของเรื่องก็คือการที่ Joker หลอกให้ชาวเมือง และนักโทษลงไปอยู่ในเรือ

แล้วให้รีโมทระเบิดให้ คนในเรือแต่ละลำ ไว้ แล้วบอกว่า



"ถ้าคุณไม่กด ระเบิดเรือลำโน้น คนในเรือลำโน้นเขาก็จะระเบิดคุณ"

ดูมาถึงตรงนี้ แล้วผมอดคิดโยงมาถึงสถานการณ์บ้านเมืองปัจจุบันไม่ได้
ว่า ถ้าเกิดเหตุการณ์คล้าย ๆ กันนี้

คนสองฝ่าย มันคงกดระเบิดกันตูมตามลามบ้านลามเมืองกันไปหมดแล้ว

เป็นเรื่องยากที่ความเชื่อในอุดมคติจะเกิดขึ้นได้จริง
เพราะถ้าเกิดได้จริง เราก็คงไม่เรียกมันว่า อุดมคติ



Create Date : 31 กรกฎาคม 2551
Last Update : 23 กันยายน 2551 20:31:49 น.
Counter : 387 Pageviews.

2 comments
  
เรื่องนี้ชอบมาก เป็นหนึ่งในหนังเทศกาลของปีนี้ ที่มีหลายเรื่องมากที่ประทับสุด ๆ ตอนนี้ยังตัดสินใจเลือก 1 - 5 เรื่องไม่ได้ เพราะว่ายังไม่ได้ดู Wall - E
โดย: palao วันที่: 10 สิงหาคม 2551 เวลา:20:07:18 น.
  
เป็น Batman ที่เป็นปุถุชนที่สุดแล้วครับ
โดย: คนขับช้า วันที่: 11 พฤษภาคม 2554 เวลา:23:16:38 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

เชษฐภัทร
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]



New Comments
All Blog
MY VIP Friend