Slumdog Millionaire: วิธีแสวงหาความรู้ วิกฤตที่ซ้อนมาด้วยโอกาส
ตลอดชีวิตของผม ผมมักจะได้ยินการถกเถียงในหมู่ครูบาอาจารย์มาตลอด ว่าการศึกษาแบบไหน ที่ครูบาอาจารย์ควรจะนำมาเป็นกุศโลบายสั่งสอนศิษย์ของตน ให้ประสบผลสำเร็จมากที่สุด

บ้างก็ว่าการศึกษาให้ลูกศิษย์ของตนท่องจำอย่างละเอียดชนิด ถ่ายสำเนาหนังสือใส่หัวสมอง เป็นการสอนที่มีประสิทธิภาพที่สุด

บ้างก็ว่า การท่องจำแบบนั้นเป็นการศึกษาที่จัดได้ว่าเป็น กุศโลบาย "อย่างเลวที่สุด" จะสอนให้คนเป็นคน ต้องสอนให้รู้จักการคิดวิเคราะห์ หัดประยุกต์ใช้ตางหาก จึงจะเหมาะสมกับการเอาชีวิตรอดใน ดงดิบสัตว์มนุษย์ ที่แก่งแย่งชิงดีกันในสังคมที่เร่งรีบยุคปัจจุบัน

เขาว่ากันว่า มนุษย์ เรายิ่งอายุมาก พื้นที่ในการบรรจุข้อมูลก็ยิ่งมีจำกัด จะให้มาบันทึกความรู้ใส่สมองทั้งหมด คงเป็นเรื่องหนักหนาสาหัสเอาการ สู้ฝึกให้รู้จักวิธีคิด วิธีต่อกร ตอบสนองแก้ไขปัญหาในชีวิตที่จะใช้ได้ไปจนตาย จะไม่ดีกว่าหรือ

เปรียบเสมือน กับนักเดินทางล่องสายน้ำไปทั่วโลก นักเดินทางคนนั้นจะพก เกลือไว้ในกระเป๋าเครื่องหลัง ซึ่งเขาสามารถนำเกลือนี้ไปผสมกับสายน้ำในแม่น้ำที่ตักใส่กระบอกมาไว้ได้ ไม่ว่าจะเป็นน้ำสายใดก็ตาม ก็เกลือของเขาก็ให้ความเค็มได้ไม่ต่างกัน

-----------------

ผมเอง ก็เคยผ่านการอบรมสั่งสอนมาทั้งแบบ ให้ท่องจำ และ แบบให้รู้จักหัดประยุกต์วิเคราะห์ ทั้งสองอย่างสองวิธีก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป

ในเรื่องการท่องจำ ถ้าหากว่า ผมท่องเพื่อไปสอบอย่างเดียว ต่อให้ท่องแล้วจำ "ข้อมูล" ในบทเรียนนั้น ๆ ได้แม่นแค่ไหน แต่ท้ายที่สุด หลาย ๆ ครั้ง ผมก็จำได้ แค่ตอนสอบ พอสอบเสร็จปุ๊บ ก็ส่งคืนครูไปหมด

ส่วนในแบบการเรียนการสอนที่เน้นการคิดวิเคราะห์ มันก็มีปัญหาอยู่ หากว่า นักศึกษาอย่างผม เป็นคนที่ มี คลัง "ข้อมูล" อยู่น้อย ถ้าไม่ท่องจำเสียก่อน แล้วจะเอา "ข้อมูล" ที่ไหน มาเปรียบเทียบ ประมวลผล หรือคิดวิเคราะห์กันเล่า

สุดท้าย ไป ๆ มา ๆ แล้วผมก็ต้องพึ่งยุทธวิธีทั้งสองแบบ ขึ้นอยู่กับว่าผมมีพื้นฐานประสบการณ์เนื้อหาสาขาวิชาที่เรียนนั้นมากแค่ไหน


-------------------------

จนชีวิตของผมย่างก้าวมาสู่วัยที่ใกล้จะบรรลุนิติภาวะ ผมก็ได้รู้จักกับรายการเกมโชว์ เกมหนึ่ง ที่เกี่ยวกับเรื่อง "ความรู้" ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม นั่นก็คือ "เกมเศรษฐี" ในเวอร์ชั่นภาษาไทย

เกม ๆ นี้ ใครที่ตอบคำถามถูกต้องในแต่ละข้อ ก็จะได้รับเงินรางวัลเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ และถ้าตอบถูกจำนวนข้อที่ทางรายการกำหนดไว้จนเป็นผู้ชนะของรายการ ก็จะได้เงินล้านไป

หากว่าทุกท่านจำกันได้ คำถามที่ใช้เล่นในรายการ จะเป็นความรู้ในวงการต่าง ๆ ซึ่งแน่นอนหล่ะ ในโลกนี้ไม่มีใครจะรู้อะไรได้ครอบจักรวาลทุกสาขาวิชาชีพอยู่แล้ว บางคำถามอาจจะง่ายสำหรับบางคน ง่ายชนิดที่ว่า ไม่ต้อง "ท่องจำ" เลยเพราะ เขาต้องพบเจอกับสิ่งเหล่านี้ในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว แต่ในขณะเดียวกัน ในคำถามเดียวกันนั้นแหละอาจจะยากแสนยากสำหรับอีกคน เพราะเขาไม่เคยสนใจ/ใส่ใจที่จะอยากรู้เรื่องเหล่านั้น

เพราะฉะนั้น ผมจึงสามารถยืนยันได้เต็มปากเต็มคำเลยว่า คนที่จะชนะเลิศ "เกมเศรษฐี" นี้ ไม่จำเป็นจะต้องเป็นคนที่รู้ทุกเรื่อง แต่เขาต้องมีทักษะบางประการในการ "หาคำตอบ" หรือทำยังไงก็ได้ ให้ตอบคำตอบได้ถูก ซึ่งหลายครั้ง โชค ก็เป็นปัจจัยสำคัญในการตอบคำถามด้วย

การทดสอบความรู้ในเกมเศรษฐี จึงเป็นความรู้ในลักษณะที่บูรณาการ ไม่จำเพาะเจาะจงเฉพาะการท่องจำ ในเมื่อถามคำถามกว้างแบบนั้น ท่องจำให้ครอบคลุมทุกเรื่องเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว

--------------------

ภาพยนตร์เรื่อง Slumdog Millionaire เป็นเรื่องราวของ "จามาล" เด็กหนุ่มมุสลิมที่เกิดในสลัมเมืองบอมเบย์ ที่เติบโตมาในชีวิตที่แสนรันทด ต้องต่อสู้ดิ้นรนเพื่อจะมีชีวิตรอดจากอันตรายต่าง ๆ ตั้งแต่ยังเด็ก



แน่นอนหล่ะ ว่าจากในหนัง "จามาล" ไม่ใช่คนโง่ แม้ว่าอาจจะได้รับการศึกษาน้อยกว่า ระดับการศึกษามาตรฐาน ที่โลกใน "ประเทศพัฒนาแล้ว" กำหนดไว้ แต่การที่จามาลต้องฝ่าฟันอุปสรรค และคิดหาวิธีจัดการกับปัญหาของชีวิตของเขาตลอดเวลา ตั้งแต่ยังเด็ก มันทำให้เขาแข็งแกร่ง และมีทักษะในการเอาตัวรอดมากกว่าคนปกติธรรมดาที่มีชีวิตสุขสบาย

ชีวิตของคนเรามีทั้งโชคดีและโชคร้าย สลับวนเวียนเข้ามาเป็นเพื่อนเล่นหยอกล้อแล้วก็จากเราไป แต่จะมีสักกี่คน ที่จะสามารถ มองแง่ดี ของ "โชคร้าย" และนำเอามาเตรียมตัวให้พร้อม เมื่อยามที่ "โชคดี" โผล่เข้ามา เขาจะคว้าโอกาสแห่งความสุขนั้นไว้


ในชีวิตของ "จามาล" เขาเคยประสบพบเจอกับ "โชคร้าย" มากกว่า "โชคดี" แน่ ๆ แต่โชคร้ายทั้งหลายแหล่ที่ถาโถมประดังประเด เข้ามาในชีวิตของเขานั้น มันช่างมีความทรงอานุภาพเหลือเกินที่ เพราะ "จามาล" สามารถแปรเปลี่ยนสิ่งร้าย ๆ ทีเกิดขึ้นกับเขา เป็นสิ่งดี ๆ ได้ตั้งแต่การตอบคำถามในเกมเศรษฐีข้อแรกๆ ที่หลายข้อ ๆ คน "ไร้การศึกษา" อย่างเขา ก็ไม่น่าจะรู้ แต่เผอิญ ว่า คำถามนั้น ไปอยู่ในเหตุการณ์เลวร้ายบางอย่างในชีวิต ที่ ต่อให้เขาไม่ต้อง "ท่องจำ" สักนิด เขาก็ต้องจำฝังใจไปจนตาย
แต่ผมก็มั่นใจเหลือหลายว่า อีกหลาย ๆ ข้อ ทักษะการเอาตัวรอด ที่ความโหดร้ายในชีวิตได้สั่งสอนเขามาตั้งแต่เกิดก็มีส่วนช่วยเป็นอย่างมาก ให้เขา "เดา" คำตอบจนเจอคำตอบสุดท้ายที่ถูก

เรื่องราวความมหัศจรรย์ของชีวิตเด็กจากสลัมเมืองบอมเบย์ หรือมุมไบ คนหนึ่ง เหมือนจะแสดงให้เห็นนัยยะทางการศึกษาประการหนึ่ง



หลายครั้งหลายคราว คนเราอาจไม่จำเป็นต้อง "ท่องจำ" นำความรู้ใส่หัวสมอง เพื่อไปสอบ แล้วก็ลืม แต่การจำสิ่งใดให้แม่นนั้นจะต้องมี "จิตใจ" อันประกอบสร้างจากความรู้สึกฝังใจจากความกดดันในชีวิต เป็นตัวช่วยสำคัญ ผมเชื่อว่า หลาย ๆ ท่านคงเคยได้ยินคำว่า "ปัญหาคือยาวิเศษ" ในโลกนี้ ไม่มีอะไร ที่มีมุมมองด้านเดียว ความทุกข์ที่เห็นอยู่ตรงนั้นในอนาคตมันคือเมล็ดพันธุ์แห่งความสุข

เมื่อมนุษย์ถุกกดดันมาก ๆ จนพยายามเรียนรู้ที่จะค้นหาด้านบวก ของความทุกข์แต่ละระลอก ความรู้อันเกิดจากความรู้สึกอันมีจิตใจเป็นตัวช่วยนั้น ก็จะทำให้เรารู้จัก คิดวิเคราะห์เพื่อที่จะเอาตัวรอด ได้เอง โดยที่เราไม่รู้ตัว อย่างที่ "จามาล" ได้ทำไว้อย่างมหัศจรรย์ใน Slumdog Millionaire



Create Date : 07 ตุลาคม 2552
Last Update : 7 ตุลาคม 2552 18:46:21 น.
Counter : 456 Pageviews.

2 comments
  
แวะมาอ่านครับ
โดย: จุใจ วันที่: 21 ตุลาคม 2552 เวลา:10:11:02 น.
  
เป็นหนังในดวงใจผมอีกเรื่องครับ
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=amp-atom&month=10-2007&date=09&group=2&gblog=45
โดย: คนขับช้า วันที่: 11 พฤษภาคม 2554 เวลา:23:15:38 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

เชษฐภัทร
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]



New Comments
All Blog
MY VIP Friend