Enchanted
เมื่อวานไปดูหนัง เรื่อง enchanted มา
ชอบมาก ๆ เลย
เราไม่ได้หัวเราะ + ยิ้ม อย่างมีความสุข อย่างนี้ มาเกือบจะสองปี แล้ว
เมื่อวาน มีความสุขจริง ๆ ดูแล้ว enchanted สมชื่อ
เพลงก็ฟังแล้วอิ่มใจ ได้ไอเดียแต่งกลอนเพิ่มเติมมากมาย
คือมันเป็นเรื่อง ของเจ้าหญิงในเทพนิยาย ที่ถูก แม่มดใจร้าย แกล้ง หลอกผลักให้ตก ลงมาในบ่อน้ำ แล้วก็หลุด ลงมาในโลกมนุษย์ กลางกรุงนิวยอร์ค
ตีมของเรื่องก็ประมาณว่า "ชีวิตรักแบบเทพนิยาย" มีจริงหรือ เพราะเราต้องเผชิญ "รักในโลกแห่งความเป็นจริง" อยู่ดี
ในความเข้าใจของเรา
เหมือน หนังจะไม่ได้บอก ว่ารักแบบไหน คือ "ความจริง" เพียง แต่ แต่ละคนก็มีสิทธิ์จะมีความรักในแบบตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น "รักแบบเทพนิยาย" หรือ "รักในโลกแห่งความเป็นจริง" ที่มักจะไม่เป็นที่พึงใจ และโหดร้าย
แต่สุดท้าย การที่หนังให้ คู่รักจากทั้งสองโลก สลับคู่กัน เหมือนหนังจะบอกว่า จะมุ่งไปยึดติดมุมมองที่สุดโต่งเกินไป ไม่ว่าจะมุมใด ก็คงจะไม่ได้ แต่เราต้องพยายามผสมผสานทัศนคติในสองแนวทาง นั้นให้เติมเต็มซึ่งกันและกัน
เพราะโลกเรา ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ชีวิตเอง ก็ไม่ง่ายที่จะมีความสุขชั่วนิจนิรันดร์เหมือนเทพนิยาย แต่ในขณะเดียวกัน เราก็ไม่ควร ปฏิเสธความรักแบบ "เทพนิยาย" ทิ้งไป
เพราะมนุษย์ มีชีวิตได้ด้วยความหวัง ที่จะได้ใช้ชีวิตเคียงข้างคนที่เรารักอย่างมีความสุข
อุดมคติ ความดี และความงาม จะเป็นแรงบันดาลใจให้มนุษย์มีชีวิตอยู่ เพื่อที่จะต่อสู้กับความเป็นจริงที่ไม่สมหวัง ในโลกใบนี้
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [
ผมชอบคำนี้มากครับ ทั้งหนัง ที่ทำออกมาอย่างไม่อิงความจริง ก็ตาม แต่ทำให้เรายิ้ม หัวเราะได้แค่นี้ก็น่าจะเป็นความสุขทีวิเศษสุดๆ แล้วล่ะครับ
- ในมุมมองของความรักที่หนังได้ให้กับ คนดูแล้ว ผมมองว่า... เหมือนกำลังจะบอกเด็กๆ ตาดำๆ ที่มานั่งดูหนังเพื่อความเพลิดเพลิน และเก็บเอาสิ่งดีๆ จากมันกลับไปใช้ ..แต่หนังกลับทำให้เห็นว่า ..หญิงสาวที่ไม่มั่นคงกับความรักที่ตนกำลังรอคอย กลับหลายใจ รักชายอื่นได้ลง .... (ความรู้สึกส่วนตัวฮะ) .. แต่ก็ยิ้มรับเอาความสุขนั้นไปอย่างไร้ซึง ..เจตนารมณ์อันซื่อ..ของหนัง..