|
>>> จากน้องหมาที่จากไป <<<
| | | | >
ผมชื่อดุ๊กดิ๊กครับ อายุ 4 ปีกว่าเอง ก็ต้องจากพี่เชอร์รี่ไปแล้ว ผมได้เจอพี่เชอร์รี่ตอนผมอายุได้ประมาณ 4- 5 เดือน พี่เชอร์รี่เลยตั้งวันเกิดผมและน้องสาวผมที่ชื่อเดิมว่าหมี (ตอนนี้เปลี่ยนเป็นปิ๊ดปี๋) เป็นวันเกิดวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2546 ความจริงแล้วผมโชคดีมาตั้งหลายครั้งแล้ว เพราะก่อนที่จะมาอยู่กับพี่เชอร์รี่ผมก็รอดชีวิตจากการถูกวางยาเบื่อมาแล้ว พี่เชอร์รี่เลี้ยงผมระหว่างผมอาศัยอยู่ที่ทำงานอีกประมาณ 6 เดือน ก็พาผมและน้องสาวผมมาเลี้ยงที่บ้าน เพราะกลัวจะโดนวางยาเบื่ออีก ตอนอยู่ที่บ้านผมก็ทะเลาะกับใคร ๆ ไปทั่ว เพราะผมต้องปกป้องน้องสาวผม เป็นแผลบ่อยมาก ทั้งขาบวม หน้าบวม แต่ผมเป็นหมาที่รักบ้านนะผมไม่เคยจากบ้านไปเที่ยวไหนไกล ๆ เลย ช่วงที่ผมจะต้องผสมพันธุ์ ผมยังไม่ไปติดตัวเมียที่ไหนเลย มีแต่ตัวเมียมาหาผมที่บ้านเอง นอกจากผมโชคดีแล้วผมยังมีเสน่ห์อีก จนย้ายมาอยู่บ้านหลังใหม่นี่แหละ พี่เชอร์รี่เลยจับผมทำหมันซะเลย เค้าคิดว่าผมจะดุน้อยลงล่ะมั๊งครับ มีอยู่ครั้งนึงผมโดนกัดเป็นแผลที่ใกล้ ๆ ตาจนแผลฉีกเปิด พี่เชอร์รี่บอกว่าผมโชคดีที่ไม่โดนกัดที่ตา ผมโชคดีเสมอเห็นไม๊ครับ โรคร้ายแรงผมก็ไม่เคยเป็น แต่ผมโดนพาไปคลินิกบ่อยมากกว่าใคร ส่วนมากก็เพราะความกล้าหาญของผมนั่นแหละครับ แต่ก็มีบ้างที่ผมตาแฉะ ขนร่วง มีครั้งนึงผมเกือบเป็นขี้เรื้อน ดีนะที่พี่เชอร์รี่พาผมไปฉีดยาซะก่อน (เพราะพี่เชอร์รี่เห็นว่าถ้าทากำมะถัน ตัวคงจะเหม็นไปทั้งตัว) จนผมโดนยาเบื่ออีกครั้ง ครั้งนี้พี่เชอร์รี่ก็บอกว่าผมโชคดีอีกที่พี่หมียังไม่ไปทำงาน เพราะความจริงจะต้องเข้าเวรเช้า แต่เพื่อนโทรมาขอแลกเวร ให้ไปเข้าบ่ายแทน เช้านั้นเลยมีคนช่วยอุ้มผมจากบ้านหลังบ้านที่ผมกำลังหัวคะมำมุดท่ออยู่ (ก็ตอนนั้นผมทรงตัวไม่ได้นี่ครับ หัวมันหนักยกไม่ขึ้น ควบคุมตัวเองไม่ได้เลย) พามาถึงสนามหน้าบ้านก็กรอกไข่ขาวผมใหญ่เลย กรอกตั้ง 6 ฟอง จนไข่ที่บ้านหมด ต้องไปขอยืมจากเพื่อนข้างบ้านมา รวมแล้วเกือบ 2 โหล แต่ผมก็ไม่ยอมอาเจียน (ผมอาเจียนไม่เป็นครับ) รอจนคลินิกเปิดหมอฉีดยาให้เยอะแยะไปหมดทั้งยาให้อาเจียน (แต่ผมก็ยังไม่อาเจียนอีก) ยาขับพิษอะไรนี่แหละ ยากันช็อค แล้วก็ให้น้ำเกลือ หมอบอกว่าถ้าผมฟื้นขึ้นมาตอนบ่ายได้ผมก็อาจจะมีทางรอด วันนั้นเป็นวันพระด้วยพี่เชอร์รี่ได้หยุดงานก็เฝ้าผมอยู่ที่โรงรถทั้งวัน ตอนผมยังไม่ฟื้นผมจะฉี่ออกมาตลอด เพราะผมโดนให้น้ำเกลืออยู่ พอผมฟื้นผมก็ทั้งอึทั้งฉี่ พี่เชอร์รี่ก็ไม่ว่าครับแต่ผมอายผมพยายามจะลุกไปฉี่ไปอึที่สนามแต่พี่เชอร์รี่ก็บอกว่าไม่เป็นไร ไม่เป็นไรฉี่ตรงนี้แหละ จนค่ำ ๆ อาการผมดีขึ้นแต่ผมก็ยังคงหนักหัวอยู่อยากเดินแต่ทรงตัวไม่ได้ พี่เชอร์รี่บอกว่าผมโชคดีอีกแล้วครับผมรอด ถึงจะดูเอ๋อๆ ไปหน่อย เพราะผมจะทรงตัวไม่เหมือนเดิมแต่ผมก็ยังจำพี่เชอร์รี่และพี่หมีได้ กินข้าวได้ แค่นี้พี่เชอร์รี่ก็พอใจแล้ว จนผมต้องมาเป็นโรคแทรกซ้อน หมอบอกว่าเป็นโรคไข้หัดสุนัขขึ้นสมอง อาการผมเหมือนเป็นโรคพิษสุนัขบ้าเลย แต่ผมฉีดวัคซีนทุกปีนะ พี่เชอร์รี่เองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเป็นอะไรกันแน่เพราะตอนเริ่มอาการพี่เชอร์รี่ก็ได้ยาจากหมอมารักษาให้แล้ว จากอาการที่เล่าให้หมอฟังหมอก็ดูไม่ซีเรียสและบอกว่าน่าจะพอรักษาได้แต่จะต้องใช้เวลานานหน่อยเพราะผมยังรู้จักกินข้าว ผมมีอาการแค่ 2 วันเอง 2 วันนี้ผมควบคุมตัวเองไม่ได้เลย ผมชักเป็นระยะ ๆ ทั้ง ๆ ที่พี่เชอร์รี่ให้กินยากันชักแล้ว หมอบอกว่าโรคนี้หมาจะชักอยู่แล้ว พี่เชอร์รี่เลยได้แต่คอยระวังอยู่ห่าง ๆ จนช่วงหัวค่ำวันที่ 2 ผมทรมานมาก ผมร้อง ชักมากกว่าเดิม จนผมหมดแรงพี่หมีถึงได้อุ้มผมจากสนามหน้าบ้านมาไว้ที่โรงรถ แล้วพี่เชอร์รี่ก็เฝ้าผมคอยลูบหัวผม จนห้าทุ่มครึ่งพี่เชอร์รี่ถึงเข้าบ้านไปอาบน้ำ แต่งตัวเสร็จผมก็จากไปแล้วผมไม่อยากเห็นพี่เชอร์รี่ร้องไห้ตอนนั้นครับ ผมกลัวว่าผมจะเป็นกังวล ผมเลยเลือกเวลาที่พี่เชอร์รี่ไม่อยู่ ผมโชคดีครับถึงผมจะต้องตายแต่ผมก็จะได้ไปเกิดเป็นเทวดา เพราะพี่เชอร์รี่บอกว่าหมาที่มีเจ้าของเมื่อตายไปแล้วจะได้ขึ้นสวรรค์เป็นเทวดาก่อนถึงจะหมดบุญและเกิดมาเป็นมนุษย์อีกครั้ง....ลาก่อนครับ.... | | | | |
Create Date : 09 เมษายน 2551 |
Last Update : 2 ตุลาคม 2551 13:59:51 น. |
|
1 comments
|
Counter : 422 Pageviews. |
|
|
|
โดย: แม่มินมิน (nardlada ) วันที่: 17 เมษายน 2551 เวลา:11:49:21 น. |
|
|
|
| |
|
|
อ้อ แล้วอย่าลืมมาเยี่ยมพี่เชอร์รี่เค้ามั่งนะจ๊ะ พี่เค้าคิดถึงอ่ะ