ชีวิตคือความไม่แน่นอนแต่ในความไม่แน่นอนของชีวิตเรากลับพบความสวยงามของชีวิต
Group Blog
 
All Blogs
 

วันครบการทดลองงาน

เผลอแป๊บเดียวผ่านพ้นไป ๑๘๐ วันของการทดลองงานแล้ว ผมเกือบลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าวันศุกร์ที่ ๒๑ ธันวาคมเป็นวันครบการทดลองงาน ดูเหมือนวันนี้อารมณ์ดีตั้งแต่เช้า...มีอารมณ์ขัน มีเรื่องให้หัวเราะได้บ่อยๆ มานึกขึ้นได้ว่าวันนี้เป็นวันครบทดลองงานก็ตอนเกือบๆเที่ยงของวันศุกร์ที่ ๒๑ ธันวาคม

ยังจำได้ว่าตอนก่อนที่จะมีการเซ็นต์สัญญาจ้างงาน...องค์กรเขาระบุว่าโดยตำแหน่งแล้วต้องมีการทดลองงาน ๑๘๐ วัน ซึ่งเราฟังแล้วก็งงๆเพราะที่ผ่านมาเคยแต่ทดลองงานกันที่ ๑๑๙ วัน ตอนนี้ลองมองย้อนกลับไปวันที่ ๑๑๙ ของการทดลองงานที่นี่เรารู้สึกอย่างไร? ตอนนั้นความรู้สึกมันแตกต่างจากตอนนี้สิ้นเชิง ตอนนั้นงานมีปัญหามากมาย...มีแต่เรื่องกดดัน...จนรู้สึกแย่มากๆ แต่ก็ผ่านพ้นสิ่งต่างๆเหล่านั้นมาได้

คนเรามักจะรู้สึกอึดอัด รู้สึกแย่ๆเวลาเผชิญปัญหาหนักๆ บางครั้งเราก็สรุปของเราดื้อๆว่าเราคงทำไม่ได้ ถ้าเพียงแต่เราหยิบความคิดและทัศนคติที่เป็นลบที่คิดว่าทำไม่ได้นั้นทิ้งไปแล้วบอกกับตัวเราเองว่า...ขอพิสูจน์ตัวเองก่อน...ลองทำอย่างดีที่สุดก่อน...หลังจากที่ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วค่อยมาสรุปว่าทำได้หรือว่าทำไม่ได้

การได้ลองพิสูจน์ตัวเอง...ถึงแม้จะล้มเหลว...ก็ไม่น่าเสียใจ ดีกว่าเราสรุปของเราดื้อๆโดยที่ยังไม่มีโอกาสพิสูจน์ตัวเอง แล้วมานั่งเสียใจภายหลังเมื่อพบว่าผลของการพยายามพิสูจน์ตัวเองอย่างเต็มที่มีผลลัพธ์ดีๆตามมาอย่างคาดไม่ถึง

ผมเชื่ออย่างหนึ่งเสมอมาว่า

"ความพยายามของผู้คนไม่เคยจบลงด้วยความสูญเปล่า"

ที่เชื่อมั่นในคำพูดนี้เพราะเราพิสูจน์มาแล้วหลายครั้ง บางครั้งเรื่องที่ยากๆ ไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ แต่หลังจากที่เราอดทนต่อสู้หาทางแก้ไขวิธีการที่เคยใช้ สุดท้ายผลลัพธ์มันไม่เคยทำให้เราผิดหวังเลย มันมีอะไรตอบแทนความพยายามที่เราทุ่มเทลงไปเสมอ จะมากหรือว่าน้อยก็อยู่ที่ความพยายามที่เราใส่ลงไปในงานที่เราทำนั้น

คนเราเป็นทุกข์ก็เพราะความคาดหวัง เราทำทุกอย่างเราก็หวังว่ามันจะออกมาเป็นอย่างโน้นอย่างนี้ เมื่อมันไม่ออกมาเป็นอย่างที่คิดเราก็เสียใจ เป็นเพราะเราเอาความคาดหวังมาเป็นเกณฑ์ที่เราต้องไปให้ถึง เมื่อไม่ถึงเราก็เป็นทุกข์

แต่ถ้าเราเปลี่ยนความคิดเป็นว่า เราทำในสิ่งที่ดี เราทุ่มเทกับการทำอะไรซักอย่างอย่างเต็มที่ ทำด้วยความเพียร ทำด้วยความรักในสิ่งที่ทำ โดยที่เราไม่มีความคาดหวังกับสิ่งที่ทำ ไม่ว่าผลลัพธ์ออกมาจะเป็นรูปแบบไหน...เราก็พร้อมที่จะยอมรับผลที่เกิดขึ้นเหล่านั้นด้วยความยินดี ถ้าผลลัพธ์ที่ได้ออกมายังไม่น่าพอใจ ก็หาทางปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเป็นแบบนั้น....คนเราคงไม่เป็นทุกข์ไม่ว่าสิ่งที่ทำนั้นจะทำเพื่อใคร หรือว่าเพื่ออะไร

เมื่อวานตอนบ่ายแวะไปเยี่ยมลูกค้าเพื่อไปทักทายและมอบของที่ระลึกปีใหม่ให้เพื่อเป็นการขอบคุณในความช่วยเหลือที่ได้รับตลอด ๑ ปีที่ผ่านมา ยังจำได้ว่าอาทิตย์แรกของการทำงานแวะมาพบบริษัทลูกค้าในย่านธนิยะ...ออกจะตกใจที่เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว...นี่ ๖ เดือนแล้วนับจากวันนั้น

Time and Tide wait for no man

นับจากนี้ไป...มีอะไรที่เราไม่คาดคิดอีกมากมายรอเราอยู่ข้างหน้า ทั้งสิ่งที่ท้าทาย ทั้งปัญหา ทั้งรางวัลตอบแทนแห่งความพยายาม ทั้งความสุข ทั้งความทรงจำที่ดีและไม่ดี ทั้งเรื่องเศร้า ทั้งเรื่องสนุก ทั้งความผิดหวัง ทั้งความสมหวัง หน้าที่ของผมก็คือเดินหน้าต่อไปผ่านสิ่งต่างๆเหล่านั้นเพื่อทำให้สิ่งเหล่านั้นเป็นส่วนหนึ่งที่เติมเต็มให้ชีวิตของผมสมบูรณ์

ชีวิตของผู้คนไม่ได้มีเพียงด้านเดียว...มันมีสองด้านที่มาคู่กันทั้งสิ่งที่เราปรารถนาและสิ่งที่เราไม่พึงปรารถนา เราอาจจะเลือกไม่ได้ที่จะเก็บเอาเฉพาะแต่เพียงสิ่งที่เราปรารถนาโดยทิ้งสิ่งที่ไม่พึงปรารถนาเอาไว้ ความจริงสิ่งที่ไม่พึงปรารถนาก็มีส่วนทำให้เราเข้มแข็งขึ้นเมื่อผ่านเรื่องราวแบบนั้นไปได้ ถ้าไม่มีเรื่องราวแบบนั้นผ่านเข้ามา..เราอาจจะไม่เข้าใจความหมายของชีวิตอีกมุมนึงก็ได้

ยังจำวลีหลักจากภาพยนตร์เรื่อง "ฟอร์เรสกั๊มพ์" ได้ดีว่า

"แม่ผมบอกเสมอว่า ชีวิตเปรียบเหมือนกล่องใส่ช็อกโกแลต ที่เราไม่มีทางรู้ว่าเราจะได้อะไร (จนกว่าเราจะเปิดกล่องนั้นออกมา)"




Venezuela Bitter Cholcolate ของบริษัทโมรินากะ หวานนุ่มละมุนลิ้นขนาดไหน...เราไม่มีทางรู้จนกว่าจะเปิดกล่องออกมา แล้วก็หยิบช็อกโกแลตแสนอร่อยนั้นใส่ปาก



ชีวิตพนักงานประจำขององค์กรแห่งนี้ของผมพึ่งเริ่มต้นจากวันนี้เป็นต้นไป...




 

Create Date : 23 ธันวาคม 2550    
Last Update : 24 ธันวาคม 2550 19:03:51 น.
Counter : 639 Pageviews.  

การแข่งขันมินิมาราธอนไทย-ซิกข์ครั้งที่ ๑๖

ภายหลังจากแข่งขันวิ่งระยะ ๑๐ กม.ในรายการ UN Run จบลง ในวันนั้นเราก็ตัดสินใจสมัครแข่งขันระยะ ๑๐.๘ กม.ในรายการไทย-ซิกข์ของปีนี้ทันที ได้ยินคนพูดถึงรายการนี้กันมากว่าเป็น ๑ ใน ๓ รายการมาราธอนรายการใหญ่ที่จัดในกรุงเทพฯ รองจาก กรุงเทพฯมาราธอน, และ ยูเอ็นรัน

เริ่มซ้อมวิ่งมาเรื่อยๆนับตั้งแต่เสร็จรายการยูเอ็นรัน แต่เวลาโดยรวมไม่ดีขึ้นมากนัก จนกระทั่งเมื่อวันเสาร์ที่แล้ว...เริ่มทำเวลาขึ้นมาดีขึ้น วันอาทิตย์และวันจันทร์ที่ผ่านมาก็ซ้อมติดต่อกันแล้วได้เวลาที่ดีมากขึ้น หยุดซ้อมเพื่อรักษาร่างกายให้พร้อมที่จะแข่งในวันจริง ถ้าเกิดการบาดเจ็บขึ้นมาก่อนหน้าวันแข่ง...จะถือเป็นความโชคร้ายไป

เมื่อคืนรีบเข้านอนแต่เช้า ความจริงระยะนี้จะนอนแต่เช้า...พอราวๆ ๓ ทุ่มก็จะมีอาการง่วง ความคิดที่จะถ่างตามานั่งแก้ไขงานให้เรียบร้อยเป็นอันไม่สำเร็จ ตัดสินใจเข้านอนแต่เช้าแล้วตื่นมาเช้ามืดมานั่งทำงานดีกว่า

ตื่นตั้งแต่ก่อนตี ๔ เล็กน้อย ระยะนี้มักจะตื่นตอนตี ๔ ลุกขึ้นมานั่งเช็กเนื้อหางานที่เขียนแก้เอาไว้ ใช้เวลาช่วงเช้าตรวจเช็กงานจนราวๆ ๖ โมงกว่าก็ออกจากบ้านไปทำงาน ความเคยชินเลยตื่นเวลานี้เป็นเรื่องปกติ อาจจะปรับเวลานอนและเวลาตื่นนอนเป็นเวลานี้ถ้าการทำแบบนี้ทำให้สามารถซ้อมวิ่งมาราธอนได้ตอนเช้าๆ

อาหารเช้าก่อนออกไปวิ่งวันนี้คือ กล้วยหอม ขนมปัง และน้ำผลไม้ กล้วยหอมเป็นอาวุธลับสำคัญที่ช่วยทำให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วภายหลังจากเหน็ดเหนื่อย ช่วยทำให้เลือดในสมองไหลเวียนได้ดี




จัดการทุกอย่างเรียบร้อยก่อนตี ๔ ครึ่ง นัดคุณมาร์คเพื่อนบ้านที่รักการวิ่งเหมือนกันตอนตี ๕ หน้าบ้านเพื่อไปที่จุดเริ่มปล่อยตัวพร้อมกัน คุณมาร์คเริ่มมาวิ่งเป็นเรื่องเป็นราวปีนี้วันที่ ๑๕ มกราคม เขาลงรายการวิ่งมา ๕ รายการแล้ว สำหรับเรารายการไทย-ซิกข์มินิมาราธอนเป็นรายการมาราธอนรายการที่ ๔ ในประเทศไทยที่มีโอกาสได้แข่งขัน เรามาถึงดิโอล์ดสยามตอนตี ๕ ครึ่ง มีเวลาเตรียมตัวมากพอก่อนจะเริ่มปล่อยตัว

บรรยากาศการแข่งขันมินิมาราธอนไทย-ซิกข์ครั้งที่ ๑๖ ดูคึกคักไปด้วยนักวิ่งจำนวนมาก ส่วนใหญ่นักวิ่งจะอยู่ในวัย ๓๐ ขึ้นไป เราตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะเป็นเพราะคนในวัยนี้เริ่มค้นหาตัวเอง การวิ่งเป็นสิ่งหนึ่งที่ตอบโจทย์ของคนที่มาสนใจกีฬาชนิดนี้ การวิ่งเรียกความมั่นใจกลับคืนมาให้กับนักวิ่ง การวิ่งทำให้หลายๆคนค้นพบตัวเอง นักวิ่งมาราธอนส่วนใหญ่รู้ว่าวิ่งเพื่ออะไร....สิ่งสำคัญไม่ใช่เพื่อจะไปชนะคนอื่นแต่สิ่งสำคัญคือการเอาชนะตัวเองต่างหาก หลายๆคนที่คิดว่าการวิ่งมาราธอนเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก แต่ภายหลังจากที่เขาสามารถวิ่งเข้าถึงเส้นชัยได้สำเร็จ เขาจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในชีวิตในทางที่ดีขึ้น หลายๆคนก็จะหลงใหลและรักในการวิ่งมาราธอน

เหมือนกับตัวเราเองที่มาค้นพบความหมายของการวิ่งมาราธอนและหลงใหลมาราธอนตอนที่ย่างเข้าวัย ๓๐ จนถึงตอนนี้ก็ยังหลงใหลกับการวิ่งมาราธอน ทุกครั้งที่ได้วิ่งมาราธอน...เรามีความสุขเสมอ

เขาเริ่มปล่อยตัวนักวิ่งตอน ๖ โมงเช้า โดยพลเอก สนธิ บุญยรัตกลิน เป็นคนตีฆ้องปล่อยตัว....

เราเริ่มวิ่งตั้งแต่ฟ้ายังเห็นดาวบนท้องฟ้า การปล่อยตัวในการแข่งขันคราวนี้ดีกว่าที่ผ่านมาเพราะไม่ค่อยติด อาจจะเป็นเพราะจำนวนนักวิ่งไม่มากเท่าการแข่งขันยูเอ็นรัน ลากูน่าภูเก็ตมาราธอน หรือว่ากรุงเทพฯมาราธอน

ดูเหมือนเราออกตัวเร็วไปหน่อย...สังเกตจากเกิดอาการหอบๆตอนวิ่งแสดงว่าเร่งมากไปหน่อย วิ่งจากข้างดิโอลด์สยามมุ่งหน้าไปสนามไชย ตอนแรกวิ่งไปพร้อมๆมาร์คจนเข้าเขตกำแพงพระบรมมหาราชวัง มาร์คเริ่มแซงนำหน้าไป บ่งบอกว่าเราวิ่งช้าลง ตกลงกับมาร์คว่าไม่ต้องสนใจว่าใครนำใคร ทำเวลาที่ดีที่สุดของตัวเอง แล้วมาเจอกันภายหลังเข้าเส้นชัย ระยะห่างระหว่างมาร์คกับเราอยู่ราวๆ ๒๕ เมตรก่อนจะขยายออกไปเป็น ๕๐ เมตร เริ่มมีคนแซงนำหน้าเราขึ้นไปเรื่อยๆ บ่งบอกว่าฝีเท้าเราแผ่วลง ตอนนั้นเริ่มมีความคิดเป็นลบเข้ามาในหัว...แข้งเริ่มมีอาการเมื่อยล้าขึ้นมาบ่งบอกว่าเราใช้กำลังส่วนแข้งมากไป เหงื่อไหลเข้าลงมา...ย้อยเข้ามานัยน์ตา...มีอาการแสบมาก อากาศเช้านี้อบอ้าวทีเดียว

ฟังจากจังหวะฝีเท้าที่ลงกับพื้น ดูเหมือนจังหวะไม่ได้แผ่วลง ช่วงที่เราวิ่งเข้าเส้นถนนราชดำเนินกลางมีรถจำนวนมากหยุดรอให้บรรดานักวิ่งวิ่งผ่านไปก่อน

คนทุกคนนึกถึงเรื่องของตนเองก่อนเสมอ ทุกคนมองว่าเรื่องของตนสำคัญกว่า รถบางคันไม่ค่อยอยากจะหยุดให้นักวิ่งวิ่งผ่าน พวกเราต้องเร่งแซงขึ้นไปเพื่อให้รถคันนั้นที่พยายามเคลื่อนไป..เคลื่อนอย่างที่เขาต้องการโดยไม่รอให้นักวิ่งวิ่งผ่านไปก่อน

เราคิดเล่นๆว่า...ถ้าสมมติว่ามีคู่บ่าวสาวที่มีกำหนดฤกษ์และยามในงานมงคลสมรสวันนี้ตอนเช้าแบบนี้ แล้วมาเจอสภาพการปิดถนนชั่วขณะเขาจะรู้สึกอย่างไรถ้าเวลาฤกษ์และยามที่กำหนดโดยหมอดูคลาดเคลื่อนไป?

เคยอ่านเจอว่า แท้ที่จริงฤกษ์และยามช่วยผูกมัดให้คู่บ่าวสาวอยู่ด้วยกันได้เพียง ๖ เดือน แต่สิ่งสำคัญที่ช่วยทำให้คู่บ่าวสาวอยู่ด้วยกันยืนนานคือ ความเข้าใจกัน ความเห็นอกเห็นใจกัน การให้อภัยกัน และการเป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน รวมทั้งความสนใจร่วมกันของคนสองคนต่างหาก

ก็น่าจะจริง...คู่สมรสหลายคู่ที่หย่าร้างกันไปกี่คู่ที่ไม่ดูฤกษ์ยาม ถ้าฤกษ์ยามมีผลจริง...เขาควรจะใช้ชีวิตคู่กันอย่างยืนนานกว่านี้ สิ่งสำคัญน่าจะอยู่ที่คนสองคนเข้าใจกัน ซื่อสัตย์ต่อกัน ให้เกียรติกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน และรู้จักให้อภัยกันและเป็นกำลังใจให้กันและกัน มากกกว่าเรื่องของฤกษ์และยาม

ตอนที่วิ่งมาถึงสะพานผ่านฟ้า ดูจากนาฬิกาข้อมือ เราใช้เวลาไป ๒๐ นาทีกว่าๆ รับน้ำดื่มมาก็บ้วนใส่ปากมากกว่าจะดื่มเข้าไป ไอน้ำติดบนแว่นจนมองทางลำบาก เอาเสื้อมาเช็ดไอน้ำออก วิ่งมาถึงลานพระบรมรูปทรงม้าเวลาตอนนั้นตก ๒๖ นาทีกว่าบ่งบอกว่าสปีดเราตกลง เห็นมาร์ควิ่งอยู่ข้างหน้าห่างออกไปราวๆ ๒๕ เมตร วิ่งเข้าด้านหลังเขตสวนสัตว์ดุสิตได้กลิ่มมูลสัตว์โชยมา





ตอนที่วิ่งผ่านระยะ ๖ กิโลเมตรดูจากเวลาแล้ว...เราใช้เวลาเกินมาอยู่ ๒ นาที ถ้าคิดจะวิ่งให้เข้าเส้นชัยภายใน ๑ ชั่วโมงต้องเร่งขึ้นไปอีก ตอนนั้นเริ่มล้าแล้ว

ในขณะนั้นอยู่ดีๆก็นึกถึงเรื่องราวของดาราสาวญี่ปุ่นที่ชื่อ คาโอรุ สุกิตะ ขึ้นมา ชีวิตของเธอเต็มไปด้วยอุปสรรคมากมาย เธอต่อสู้ด้วยตัวเธอเองมาตลอดกว่าจะมาถึงวันนี้

ตอนที่เธอวัย ๓๙ เธอตัดสินใจวิ่งระยะ ๑๐๐ กิโลเมตรในรายการทีวีการกุศลที่ชื่อ 24-Hour TV รายการนี้เป็นรายการสดที่ทำการถ่ายทอดสดตั้งแต่คืนวันเสาร์ไปจนถึงคืนวันอาทิตย์ โดยรายการนี้จะเปิดโอกาสให้คนธรรมดาหรือว่าคนพิการได้พิสูจน์ตัวเองด้วยการทำอะไรยากๆผ่านจอทีวี สิ่งที่คนเหล่านั้นทำเป็นแรงบันดาลใจให้คนดูทางบ้านเกิดพลังที่จะทำในสิ่งยากๆ เอาชนะปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตต่อไป

สุกิตะตัดสินใจวิ่งในรายการนี้โดยให้เหตุผลว่า....เธอต้องการรีเซ็ตตัวเองในวัย ๓๙ ก่อนที่ชีวิตของเธอจะเริ่มต้นใหม่ในวัย ๔๐

ตอนที่สุกิตะเขาวิ่ง ไม่ว่าเขาเจ็บขนาดไหน...เขาไม่เคยปริปากบ่น เขาอดทน พอรู้ว่าเวลาเหลือไม่มาก เขาไม่สามารถพักได้ เขาตัดสินใจวิ่งและพยายามเร่งในระยะ ๕๐๐ เมตรสุดท้ายจนเข้าเส้นชัยทันเวลาก่อนที่รายการจะหยุดออกอากาศถ่ายทอดสดสำเร็จ

เรื่องของสุกิตะเข้ามาในหัวของเราชั่วขณะ แล้วอยู่ๆใจก็สั่งให้เท้าวิ่งเร่งความเร็วขึ้นมา บอกกับตัวเองว่าขอวิ่งอย่างเต็มที่วันนี้เพื่อความหมายบางอย่างที่อยากทำให้กับชีวิตของตัวเราเอง ไม่น่าเชื่อว่าตอนนั้นก่อนที่ความคิดนี้จะเกิดขึ้นเรามีอาการปวดหน้าแข้งมากๆ แต่พอมีความคิดแบบนี้เข้ามาในหัว...ไม่รู้ว่าแรงก๊อก ๒ มาจากไหน เราเห็นตัวเราเองที่เร่งขึ้นมาด้วยความเร็วที่ต่างไปจากเดิม อาการปวดหน้าแข้งจางคลายหายไป ตกใจเหมือนกันที่ความเร็วในการวิ่งคราวนี้มากกว่าที่คิด เริ่มแซงคนที่อยู่ข้างหน้าทีละคนๆ เห็นมาร์ควิ่งอยู่ข้างหน้าไม่ไกลก่อนที่จะแซงมาร์คแล้ววิ่งทิ้งห่างออกไปร่วม ๑๐๐ เมตร

เราวิ่งผ่านวัดเบญจมบพิตรแล้วเลี้ยวเข้าถนนราชดำเนินนอก เห็นคนวิ่งท้ายๆพึ่งมาถึงบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า ความเร็วของเราเริ่มชะลอลง ดูจากป้ายบอกระยะทาง ๘ กิโลเมตรทำเวลาอยู่ที่ ๔๒ นาที พอถึงระยะ ๙ กิโลเมตรพบว่าทำเวลาได้น้อยกว่า ๕๐ นาที ที่คิดไว้ก่อนหน้าว่าคงเข้าเส้นชัยด้วยเวลาเกิน ๑ ชั่วโมงเป็นอันว่าเราคาดคะเนผิด เพราะถ้ายังคงวิ่งด้วยความเร็วขนาดนี้มีความเป็นไปได้ที่เราจะถึงเส้นชัยภายใน ๑ ชั่วโมงสำเร็จ

ตอนนั้นคิดอย่างเดียวว่าจะไปถึงเส้นชัยก่อน ๑ ชั่วโมงให้ได้ แล้วอยู่ๆแรงก๊อก ๓ ก็มาอีก คราวนี้เริ่มวิ่งแซงผู้คนบริเวณสะพานผ่านฟ้าขึ้นไป วิ่งเต็มที่มีอาการหอบเป็นระยะๆ ดูจากเวลาแล้วเป็นไปได้ที่จะวิ่งถึงระยะ ๑๐ กิโลเมตรด้วยเวลาที่ดีกว่าตอนวิ่งระยะ UN Run ตอนวิ่งผ่านระยะ ๑๐ กิโลเมตร ดูจากเวลาข้อมือทำเวลาได้ ๕๔ นาทีดีกว่าเวลาตอนวิ่งยูเอ็นรันจริงๆ แล้วฝีเท้าก็เริ่มชะลอลงเรื่อยๆ ตอนเราวิ่งเข้าเขตศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร พอวิ่งเข้าเขตสวนรมณียนาถแรงเริ่มแผ่วลง เห็นป้ายเส้นชัยข้างหน้าแต่เร่งไม่ขึ้น ดูจากนาฬิกาจับเวลามีความเป็นไปได้แบบฉวดเฉียดที่จะเข้าเส้นชัยภายในเวลา ๑ ชั่วโมงสำเร็จ เรายังคงวิ่งต่อเนื่องโดยไม่ได้หยุด...พอเข้าเส้นชัยกดนาฬืกาจับเวลาที่ข้อมือ

1:00:00:05:96

พอดูหน้าปัทม์นาฬืกา...๑ ชั่วโมงกับ ๕ เสี้ยววินาที พบว่าเกินมา ๕ เสี้ยววินาที เสี้ยววินาทีมันขนาดไหน...ลองดูนาฬิกาที่มีเข็มวินาที ทันทีที่เข็มวินาทีขยับหนึ่งครั้ง...ในหนึ่งครั้งของการขยับถ้าซอยย่อยออกเป็น ๑ ในร้อย แล้ว ๕ ในร้อยนั่นคือ ๕ เสี้ยววินาที

เสียดายที่ทำไม่สำเร็จ พลาดไปแค่ ๕ เสี้ยววินาทีเท่านั้น

แต่การแข่งขันจบลงแล้ว...จะเสียใจอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์ ถ้าสุขภาพดีและมีเวลาที่สามารถลงแข่งได้ก็จะมาแก้มือใหม่คราวหน้า

สำหรับผม...การแข่งขันมาราธอนปีนี้เป็นอันว่าเสร็จสิ้นลงแล้ว ปีหน้าคงมีโอกาสได้ลงแข่งมาราธอนในรายการท้าทายหลายๆรายการ

มีสุภาษิตญี่ปุ่นกล่าวว่า

"Tomorrow is another wind"

แปลง่ายๆก็คือ วันนี้ก็เป็นเรื่องของวันนี้ จะดีจะร้ายก็เป็นเรื่องของวันนี้ แต่เรื่องของพรุ่งนี้ก็เป็นเรื่องของอีกวัน อาจจะดีหรือว่าร้ายก็ได้ อย่ากังวลไปเลย

รับเหรียญที่ระลึกภายหลังจากเข้าเส้นชัย เหรียญที่ระลึกสำหรับนักวิ่งที่เข้าเส้นชัยออกแบบมาได้สวยทีเดียว




คล้องเหรียญทีระลึกกลับบ้านมาพร้อมกับมาร์ค วันนี้มาร์คทำเวลาไม่ได้อย่างที่คาดเอาไว้เกินมา ๒ นาที บางทีตอนซ้อมทำเวลาได้ดีแต่ตอนแข่งกลับทำเวลาได้ไม่ดีเท่าตอนซ้อม อันนี้เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นกับนักวิ่งทุกคน...เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นกับผมวันนี้ วันนี้ไม่ได้ My best time (เวลาที่ดีที่สุดที่ยังไม่เคยทำได้มาก่อน) แต่เวลาที่ทำได้วันนี้กลายเป็น Benchmark สำหรับการแข่งขันในคราวต่อไปที่จะทำเวลาให้ได้ดีกว่านี้



กลับมาบ้าน...ได้ทำในสิ่งที่รักอีกอย่าง นั่นคือการทำอาหาร วันนี้เลือกทำเมนูต้มยำกุ้งใส่เห็ดสามอย่าง เคยอ่านและรับฟังคุณสมบัติของการต้มเห็ดสามอย่างว่ามีอนุมูลที่สามารถล้างพิษในร่างกายได้ ร่างกายสะสมพิษจากมลพิษในอากาศ จากอาหารที่เรากินนอกบ้านในแต่ละวัน รวมทั้งความเครียดที่สะสมในแต่ละวัน การได้ล้างเอาพิษที่สะสมในร่างกายออกไปบ้าง ช่วยลดการทำงานของตับ

สุขภาพเป็นเรื่องสำคัญสำหรับการใช้ชีวิต ถ้าเพียงแต่สุขภาพไม่ดี..ทุกอย่างก็ไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ ผมเคยเขียนเอาไว้ในบล็อกนี้ในหัวข้อ "รักกันจริง อย่าชวนกันไปกินอาหารอร่อยอย่างเดียว" เมื่อวันที่ ๒๕ พฤษภาคม ปีนี้ ยังเชื่อแบบนั้นอยู่ว่าคุณค่าและความสมดุลทางโภชนาการเป็นเรื่องสำคัญที่ควรให้ความสำคัญควบคู่ไปกับสุขภาพที่ดี เพราะจะได้อยู่ดูแลกันได้ตลอดไป






ความสุขในชีวิตของผู้คนอาจจะอยู่ตรงที่...ค้นหาตัวเองจนเจอและรู้ว่าตัวเราชอบอะไร ทุกครั้งที่ได้ทำในสิ่งที่รัก ตัวเรามีความสุขที่ได้ทำ แม้จะใช้เวลาอยู่กับสิ่งที่เราชอบนานๆ...เราไม่เคยรู้สึกเบื่อ




 

Create Date : 16 ธันวาคม 2550    
Last Update : 17 ธันวาคม 2550 0:26:41 น.
Counter : 1376 Pageviews.  

Business Trip ครั้งที่ ๒

ระยะเวลาห่างกันเพียง ๑ เดือนกว่าๆภายหลังจากที่พึ่งเดินทางกลับมาจากญี่ปุ่นเมื่อต้นเดือนที่แล้ว เราได้รับมอบหมายให้เดินทางไปญี่ปุ่นอีกครั้งเพื่อจัดงานร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ

น้องๆในฝ่ายอิจฉาที่เราเดินทางไปญี่ปุ่นอีกครั้งในเวลาไม่ห่างกันมากนัก...ในความคิดของพวกเขา เขาคิดว่านี่คือการไปเที่ยว แต่ความจริงการไปเรื่องงาน..บรรยากาศต่างจากการไปเที่ยวอย่างสิ้่นเิชิง ไม่มีเวลาเดินทางไปพักผ่อนที่ไหนต่อไหนมากนัก มีแต่เรื่องงานตลอดทั้งวัน ไม่มีเวลาเดินดูของมากนัก

คราวนี้เรารู้สึกหนักใจมากกว่าคราวที่แล้ว มีปัญหาบางอย่างที่อยู่รอข้างหน้าที่เราเตรียมใจเอาไว้แล้ว พยายามเตรียมพร้อมอย่างดีที่สุด แต่อนาคตเป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือการคาดหมาย อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น

ผู้ใหญ่ในองค์กรที่เรานับถือคนหนึ่งบอกกับเราว่า....

"อย่ากลัวความผิดพลาด อย่าไปใส่ใจหรือจมอยู่ักับความผิดพลาด ให้ถือว่าสิ่งผิดพลาดเป็นบทเรียนที่ดี เราย้อนเอาเวลาที่ผิดพลาดมาแก้ไขอะไรไม่ได้ทั้งนั้น ความผิดพลาดทำให้เราเข้มแข็งขึ้น ความผิืดพลาดทำให้ก้าวต่อไปข้างหน้าอย่างแข็งแกร่ง ถ้ามีความผิดพลาดเกิดขึ้นก็ช่างมัน...เรามีหน้าที่ก้าวต่อไปข้า่งหน้า"

บนเวทีนักแสดงมีหน้าที่แสดง ถ้าเกิดความผิดพลาดในระหว่างแสดง...นักแสดงก็แก้ไขอะไรไม่ได้ ต้องเล่นตามบทต่อไปจนกว่าละครจะปิดฉากลง

ฟังแล้วรู้สึกดีขึ้น


คืนนี้ออกเดินทางแล้ว....ละครจะออกมาเป็นแบบไหน ต้องคอยติดตาม




 

Create Date : 17 พฤศจิกายน 2550    
Last Update : 17 พฤศจิกายน 2550 15:17:39 น.
Counter : 658 Pageviews.  

ของฝากจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์

เคยได้ยินชื่อเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์นานหลายปีแล้ว แต่ไม่มีโอกาสได้เดินทางไปเยือน

เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์สร้างเสร็จในปี ๒๕๔๒ กั้นแม่น้ำป่าสัก ณ.อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี วัตถุประสงค์เพื่อการเกษตรและป้องกันน้ำท่วม เป็นแหล่งน้ำสำหรับคนในเขตลพบุรี สระบุรี รวมทั้งกรุงเทพฯด้วย

วันนี้ผ่านเส้นทางนั้นเลยตั้งใจไปเยือนเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ แดดร้อนๆตอนบ่ายวันนี้...คลายร้อนไปด้วยลมพัดแรงๆเหนือเขื่อน และทัศนวิสัยที่มองแนวทะเลสาบเหนือเขื่อนไกลสุดสายตา...ทำให้เกิดความรู้สึกเบิกบานใจ ผู้คนมาท่องเที่ยวกันที่นี่ในวันนี้จำนวนมาก ลมพัดแรงจนเด็กๆหลายคนเรียกร้องพ่อแม่ให้ซื้อว่าวมาชักต้านแรงลมบนท้องฟ้า

ผมมีโอกาสได้เดินดูดอกทานตะวันที่เขาปลูกเอาไว้ กลีบดอกบานสีเหลืองสู้แสงตะวัน ดูแล้วเบิกบานใจ พึ่งทราบว่า...ทานตะวันมีหลายแบบมาก

มีของฝากจากการเดินทางไปพักผ่อนวันนี้ครับ






 

Create Date : 21 ตุลาคม 2550    
Last Update : 21 ตุลาคม 2550 20:41:16 น.
Counter : 1522 Pageviews.  

UN Run 2007

เหลือเวลาราวๆ ๑ อาทิตย์ก็จะถึงการแข่งขันมาราธอน ๑๐ กิโลเมตร รายการ UN Run รายการนี้เป็นกิจกรรมการแข่งมาราธอนรายการใหญ่รายการหนึ่ง ได้ยินหลายคนว่าแค่สมัครได้เสื้อที่ระลึกของไนกี้ก็ถือว่าคุ้มแล้ว หลายคนเลยแค่ให้ชื่อว่าได้แข่ง...เวลาในการวิ่งไม่ใช่สิ่งสำคัญ

ปีที่แล้วมารู้จักรายการยูเอ็นรันจากคนรู้จักอีกที แต่บังเอิญมีเป้าหมายที่จะวิ่งกรุงเทพมาราธอนระยะ ๔๒.๑๙๕ กม. เลยไม่ได้สนใจแข่งรายการนี้ ปีนี้เมื่อเดือนมิถุนายนลงแข่งรายการภูเก็ตมาราธอนแล้ว ดังนั้นอยากทดสอบรายการมาราธอนระยะทางที่น้อยลงมาหน่อย รายการยูเอ็นรันที่จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ ๒๘ ตุลาคมถือเป็นรายการแข่งขันมาราธอนที่น่าสนใจ

ผมสมัครเป็นสมาชิกชมรมวิ่งเพื่อสุขภาพของที่ทำงาน ดังนั้นทางที่ทำงานเขาจึงสมัครรายการยูเอ็นรันให้พนักงานด้วย นโยบายของที่ทำงานเขาไม่ได้ตั้งใจให้พนักงานวิ่งเอาเป็นเอาตายเพื่อเอารางวัลแต่อยากให้พนักงานมีสุขภาพที่ดีมากกว่า ระยะ ๑๐ กิโลเมตรถือว่าเป็นระยะที่วิ่งกันได้สบายๆไม่ใช้เวลามาก และไม่ถือว่าหักโหมจนเกินไป

การซ้อมที่ผ่านมา....มีเวลาให้กับการซ้อมน้อยกว่าสมัยตอนที่ยังไม่ได้เริ่มทำงาน ตามลำพังตื่นแต่เช้าเพื่อรีบไปทำงาน...หาที่จอดรถให้ได้ ตอนค่ำถึงกลับมาถึงบ้าน ครั้นจะซ้อมตอนเช้ามืด...ก็ยังมีอาการเหนื่อยจากการทำงาน อยากพักผ่อน (นี่เป็นข้ออ้างของคนทำงานกินเงินเดือนแบบเรา) มาซ้อมเป็นเรื่องเป็นราวก็วันเสาร์-อาทิตย์

อากาศวันนี้ตอนเช้าดีมาก เย็นๆสบายๆ ไม่ร้อนอบอ้าวจนเกินไป วิ่งทำเวลาช่วงรอบแรกๆได้ดีตามเป้า แต่พอวิ่งมากรอบขึ้นเวลาตกลง อันนี้เป็นเรื่องปกติ วันนี้เร่งรอบท้ายๆ...เวลาดีขึ้นมากว่าเมื่ออาทิตย์ที่แล้วตอนซ้อม วันนั้นมีแดดและแรงตกลงเรื่อยๆ วิ่งครบระยะ ๑๐ กิโลเมตรจริงแต่ยังเกินเวลา ๑ ชั่วโมงอยู่ดี

เหลือเวลาแค่อาทิตย์เดียวจะได้พิสูจน์กำลังขา ความตั้งใจของตัวเองอีกที มักจะได้ความรู้สึกดีๆเสมอตอนแข่งมาราธอนแล้วสามารถวิ่งจนถึงเส้นชัย แล้วถ้าสามารถทำได้เวลาที่ดีที่สุดของตัวเองเวลาใหม่ขึ้นมา (My best time) วันนั้นจะมีความสุขมากและได้ความมั่นใจกลับมา เป็นแรงผลักดันให้ทำอะไรที่ยากๆต่อไปโดยไม่ท้อแท้

วันอาทิตย์ที่ ๒๘ ตุลาคมคือวันตัดสินว่าผลของการฝึกซ้อมและความมุ่งมั่นในวันแข่งจริงจะเกิดผลลัพธ์เป็นอย่างไร...คอยติดตามตอนต่อไป




 

Create Date : 20 ตุลาคม 2550    
Last Update : 20 ตุลาคม 2550 15:40:19 น.
Counter : 524 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  

ชีวประภา
Location :
พิษณุโลก Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ชีวประภา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.