ชีวิตคือความไม่แน่นอนแต่ในความไม่แน่นอนของชีวิตเรากลับพบความสวยงามของชีวิต
Group Blog
 
All Blogs
 

เรื่องของคุณสมชาย ดวงแก้ว ผู้ที่ไม่ยอมแพ้แม้พิการ

คืนวันศุกร์ที่ ๑๑ พฤษภาคม มีโอกาสได้ดูรายการ The Icon คุณสัญญา คุณากรเชิญคุณสมชาย ดวงแก้วมาออกรายการ

คุณสมชาย เกิดมาพร้อมกับความพิการ ไม่มีแขน มีขาข้างเดียว ขาอีกข้างก็สั้นเหนือเข่า

พวกเราซึ่งเป็นคนปกติมักจะสรุปจากมุมมองของคนปกติและสงสัยว่าคนพิการจะดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างไร? เราคิดของเราว่าถ้าเราพิการเราคงอยู่ด้วยความลำบาก เราไม่อยากอยู่มีชีวิตต่อไป เวลาที่เรารู้สึกแย่ๆในชีวิต เรามักท้อแท้และคิดว่าชีวิตของเราช่างเลวร้ายเหลือเกิน ไม่มีใครทุกข์มากไปกว่าเรา แต่เราเคยมองออกไปข้างนอก เห็นคนที่เขาเกิดมาแล้วพิการบ้างไหม? เขาพิการแต่เขาก็ยังพัฒนาตนเอง ใช้ชีวิตเหมือนคนธรรมดาทั่วๆไปได้ แล้วคนพิการแตกต่างจากคนปกติตรงไหน?


การตีกรอบว่าคนพิการไม่น่าจะทำเรื่องโน้นเรื่องนี้ได้ เป็นเพราะว่าเราเอามาตรฐานของคนปกติไปวัดคนพิการ คุณสมชายเป็นตัวอย่างว่าร่างกายพิการแต่ใจไม่ได้พิการ เพราะคุณสมชายเป็นตัวอย่างให้เห็นว่า ถึงแม้ว่าเขาจะพิการแต่เขาสามารถอยู่ได้ด้วยตนเอง มีการพัฒนาตนเองจนติดทีมชาตินักกีฬาว่ายน้ำและคว้าเหรียญทองมาให้ทีมชาติไทยในการว่ายน้ำท่าผีเสื้อ ในกีฬาพาราลิมปิกที่ซิดนีย์เมื่อ ๗ ปีที่แล้ว

สิ่งที่เป็นข้อคิดที่ได้จากการดูรายการดิไอคอนคืนนี้ก็คือ คนเราสามารถจะทำอะไรในโลกนี้ได้ทั้งนั้น แม้แต่คนพิการ ถ้าเรามีความมุ่งมั่น ตั้งใจ พัฒนาตนเองอย่างจริงจัง สิ่งที่ทำให้เราทำสิ่งต่างๆไม่ได้คือสภาพจิตใจที่ยอมแพ้ของตัวเราเอง

ถ้าเพียงแต่เรายอมแพ้ เราตั้งเงื่อนไขให้ตัวเราเองว่าทำไม่ได้ เราคงทำสิ่งเหล่านั้นไม่ได้ตลอดชีวิต เพราะความเชื่อจะนำไปสู่ความคิด และความคิดจะเป็นกรอบที่คอยหลอกหลอนให้เราเชื่อว่าเราทำไม่ได้ โดยยกข้ออ้างหลายร้อยอย่างมาอธิบายว่าทำไมเราจึงทำไม่ได้ แล้วสุดท้ายเราก็ทำไม่ได้จริงๆ เพราะทุกครั้งที่เพียงแต่เราคิดจะลองทำ ความคิดยอมแพ้ก็จะดึงให้เราออกมาจากความพยายามที่จะทำอะไรใหม่ๆ ทำอะไรที่ท้าทายตัวเอง โดยให้เหตุผลว่าเราไม่มีทางทำมันได้ด้วยข้ออ้างนานาประการ

จากทัศนคติของคนพิการที่ผมมีโอกาสได้สัมผัสดู คนพิการส่วนมากต้องการพึ่งพาตนเองได้มากกว่าจะยินดีพึ่งพิงผู้อื่นตลอดเวลา การที่คนพิการสามารถพิสูจน์ได้ว่าแม้เขาจะพิการแต่เขาก็สามารถทำอะไรๆได้เหมือนคนปกติหรือว่าน่าสนใจมากกว่าคนปกติ เป็นแรงผลักดันให้พวกเราที่เป็นคนปกติหันมามองย้อนดูตัวเราเองว่าเราน่าจะพัฒนาตัวเองได้มากกว่านี้ มันน่าอายที่วันนี้เรามีร่างกายสมบูรณ์ปกติ แต่เรากลับยอมแพ้ต่อโชคชะตา ผิดกับคนพิการหลายๆคนที่โชคชะตากลั่นแกล้งให้เขาเกิดมาพิการ แต่เขาก็พิสูจน์ว่าเขาเอาชนะโชคชะตาที่กลั่นแกล้งเขามาตั้งแต่เกิดได้ เขาสามารถใช้ชีวิตเหมือนคนปกติทั่วไป

คุณสมชาย สามารถขับรถได้ด้วยตนเอง เขาขับรถมา ๑๐ ปีแล้วโดยไม่เคยเกิดอุบัติเหตุเลย เขาช่วยเหลือตัวเองในทุกๆเรื่อง เขามีครอบครัว มีบ้าน มีอาชีพ

มีคนเคยพูดว่าเวลาเรารู้สึกแย่ๆให้เรามองคนอื่นที่ด้อยกว่าเรา แล้วจะรู้ว่าชีวิตของเราไม่ได้แย่ที่สุดในโลกนี้ มีคนที่แย่กว่าเรามากมายแต่เขาก็สามารถใช้ชีวิตโดยสิ่งที่เราคิดว่าแย่เทียบไม่ได้เลยกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับคนที่ด้อยกว่าเรา




 

Create Date : 12 พฤษภาคม 2550    
Last Update : 12 พฤษภาคม 2550 0:58:38 น.
Counter : 1650 Pageviews.  

ฟ้าหลังฝน

วันนี้วันพืชมงคล นานแค่ไหนแล้วที่เราไม่ได้เห็นภาำพบรรยากาศงานพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ

ฟ้าที่ดูใสๆตอนเช้า..ไม่นาน..ราวๆ ๙ โมงครึ่งฝนก็ตกเทลงมาต่อเนื่อง ยังคิดอยู่ว่าถ้าสมมติว่าพระราชพิํํธีกำลังดำเนินอยู่แล้วฝนตกอย่างหนัก บรรดาคนที่หาบเมล็ดข้าวและคนที่ถือคันไถจะโกลาหลและทุลักทุเลขนาดไหน โชคดีที่พระราชพิธีเสร็จสิ้นก่อนฝนจะเริ่มเทลงมา

ผมชอบมองออกไปบนท้องฟ้าช่วงเวลาฝนตก ฝนตกเป็นตัวแทนความหมายของอะไรหลายๆอย่าง บางครั้งหนังโฆษณาบางเรื่องใช้น้ำฝนแสดงถึงความเจ็บปวดข้างใน แทนน้ำตา โดยไม่จำเป็นต้องเห็นน้ำตาของตัวแสดง

ช่วงฝนตก...เราไม่ทราบว่าเมื่อไหร่ฝนจะหยุดตก ท้องฟ้ามีแต่ความมืดครึ้ม เวลาแห่งการรอคอยช่างยาวนานเหลือเกิน แต่ภายหลังจากฝนหยุดตกแล้ว อากาศชุ่มชื่น เย็นสบาย หลายๆครั้งที่มีโอกาสได้เห็นความสวยงามของรุ้งกินน้ำที่เกิดขึ้นหลังฝนหยุดตก

บ่อยครั้งที่เกิดเรื่องไม่แน่นอนขึ้นในชีวิต เป็นช่วงที่เราอึดอัดที่สุดเพราะเราไม่รู้ว่าเมื่อไหร่...เราจะพบทางออก ้เมื่ิอไหร่เราจะผ่านพ้นช่วงแห่งการอึดอัดนี้ไปได้ แต่ถ้าเรารู้จักที่จะัอดทนรอคอย...ในไม่ช้าสิ่งดีๆก็จะกลับมา เหมือนกับบรรยากาศช่วงพายุร้ายพัดผ่านและบรรยากาศฟ้าหลังฝน

เห็นฟ้าใสๆหลังฝนตก...ให้ข้อคิดว่า

"ฟ้าใสๆมักตามมาภายหลังพายุร้ายพัดผ่านเสมอ"




 

Create Date : 10 พฤษภาคม 2550    
Last Update : 10 พฤษภาคม 2550 21:03:57 น.
Counter : 580 Pageviews.  

ราเมน (ラーメン)

"ราเมน" มีที่มาจากภาษาจีนว่า "ราเมี่ยน" ความจริงก็เขียนด้วยตัวอักษรจีนเหมือนกันแต่ภาษาญี่ปุ่นอ่านออกเสียงเพื้ยนตามภาษาญี่ปุ่นเป็น "ราเมน"

กลับมาเมืองไทยแล้วโหยหาราเมน อยากทานราเมนรสชาติอร่อยที่เคยมีโอกาสได้ทานสมัยอยู่ญี่ปุ่น ไปอยู่ญี่ปุ่นใหม่ๆยังไม่รู้ว่าร้านไหนอร่อย เห็นที่เขาขายๆกันก็มีแต่โชวหยุราเมน, มิโซราเมน ตอนแวะไปเยี่ยมเพื่อนที่ฟูกูโอกะ มีโอกาสได้ไปลองทานทงคตสึราเมน ร้านอิชิรังราเมน กินแล้วก็ติดใจตรงที่ลูกค้าเลือกรสชาติได้ว่าจะเอาซุปข้นขนาดไหน จะเผ็ดขนาดไหน จะใส่อะไรหรือว่าไม่ใส่อะไรลงไปในชามเพิ่ม

พอร้านอิชิรังราเมนมาเปิดสาขาในเขตโตเกียว เราเลยมีโอกาสได้ไปลิ้มลองราเมนแสนโปรดได้บ่อยๆ โดยไม่ต้องถ่อสังขารไปถึงฟูกูโอกะ

กลับมาเมืองไทยแล้วเห็นราเมนๆที่ขายๆกัีนอยู่แล้วคิดถึงราเมนในญี่ปุ่น เพราะที่ขายๆกันอยู่หาความอร่อยแบบญี่ปุ่นไม่ได้่และไม่คิดว่าหน้าตาราเมนมันเป็นแบบนี้

วันนึงคนไทยคงได้่กินราเมนรสชาติอร่อยแบบญี่ปุ่นในเมืองไทย




 

Create Date : 10 พฤษภาคม 2550    
Last Update : 10 พฤษภาคม 2550 1:32:26 น.
Counter : 572 Pageviews.  

โคะย่าซัง 「高野山」

ในขณะที่พิมพ์บล็อกนี้อยู่ NHK World กำลังออกอากาศรายการ Treasure of Japan ซึ่งวันนี้เขานำเสนอเรื่องเส้นทางคูมาโนะ (熊野) ผมเคยเดินทางไปที่โคะย่าซัง 「高野山 」ในจังหวะวากายาม่า ที่นั่นมีชื่อเสียงเรื่องของการศึกษาพุทธศาสนาในญี่ปุ่น หลายคนเดินทางไปที่นั่นเพื่อฝึกสมาธิ ไปถึงวัดแล้วก็ต้องทานอาหารมังสวิรัติ เมื่อสองปีก่อนโคะย่าซังได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลก

บรรยากาศของโคะย่าซังเต็มไปด้วยต้นสนซีดาร์เขียวสดตลอดทั้งปี เส้นทางเดินคูมาโนะ...หลายคนเดินจาริกจากโคะย่าซังไปยังวัดต่างๆในเขตจังหวัดนาราที่อยู่เหนือขึ้นไปทางแหลมคินขิ  เห็นภาพบรรยากาศที่ผู้คนสวมชุดขาวถือไม้เท้าเสียงกระดิ่งดังกริ๊งกรั๊งๆต่างเดินจาริกไปตามเส้นทางคูมาโนะ ความศรัทธาทำให้ผู้คนมุ่งหน้าเดินต่อไปจนถึงวัดในเขตจังหวัดนารา



 




 

Create Date : 10 พฤษภาคม 2550    
Last Update : 10 พฤษภาคม 2550 0:26:41 น.
Counter : 637 Pageviews.  

ชีวิตคือความไม่แน่นอน

ช่วงนี้ดูรายการทีวี บ่อยครั้งที่ได้ยินดาราหลายๆคนตัดพ้อต่อว่าชีวิตว่า..ทำไมคนรอบข้างเขาทำดีแต่ทำไมมามีโรคร้ายคุกคามชีวิตของคนเหล่านั้น นี่หรือคือความยุติธรรมที่ทำดีมาตลอดชีวิต แล้วผลของความดีตอบแทนกลับมาด้วยโรคร้าย

ถ้าเพียงดาราเหล่านั้นหันมาสนใจเข้าใจความหมายของชีวิตว่า ชีวิตคือความไม่แน่นอน ชีวิตทุกชีวิตมีกรรมเป็นของตน จะผลักไสผลของกรรมให้คนอื่นไปไม่ได้ สิ่งที่เกิดขึ้นในชาตินี้อาจจะเป็นผลมาจากกรรมที่เคยทำในอดีตหลายชาติที่ผ่านมาก็ได้ ไม่มีใครทราบแน่ชัดเรื่องของอดีตชาติ...เป็นแต่คำทำนาย คาดการณ์ที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ณ.ปัจจุบัน

ทำดีแล้วติดดี ทำดีแล้วหวังผลว่าต้องได้ผลดีกลับมา พอไม่ได้ผลดีกลับคืนมาก็เป็นทุกข์ ท้อ เลิกคิดที่จะทำดีต่อ คิดแบบนี้ถูกต้องไหม? ผมคิดว่าไม่ถูกเพราะคนบนโลกนี้มักจะตีความคำว่าทำดีและผลดีโดยเอาผลดีทางโลกกับผลดีทางธรรมมาปะปนกัน เอาผลลัพธ์ของความดีในเชิงโลกมาเป็นตัววัดผลของการทำดี

การทำดีและอยากได้ผลลัพธ์ทางโลกตอบแทนมา ยังมีเงื่อนไขมากมายที่ต้องสร้างเพื่อให้บรรลุผลลัพธ์ทางโลก แต่ทำดีในทางธรรมผลลัพธ์ทางธรรมเกิดขึ้นเสมอ เวลาทำสิ่งที่ดี..สิ่งนั้นตอนที่ทำเรามีความสุขที่ได้ทำ ดังนั้นทำดีจึงได้รับผลดีเสมอในทางธรรม

ชีวิตของคนเราแขวนอยู่บนความไม่แน่นอน เราจะรู้ได้อย่างไรว่าวันพรุ่งนี้เราจะมีโอกาสได้ทำอะไรอีกหลายๆอย่างที่อยากจะำทำ เรารู้ได้อย่างไรว่าเราจะมีโอกาสในอนาคตที่จะทำในสิ่งที่อยา่กจะทำ

เห็นตัวอย่างผู้คนที่เจ็บป่วยด้วยโรคร้าย เห็นความทุกข์ทรมาน เข้าใจความรู้สึกของคนรอบข้างที่เห็นคนที่ตนเองรักทนทุกข์ทรมาน บอกกับตัวเองว่าใช้ชีวิตให้ดีที่สุดให้สมกับที่มีชีวิตอยู่และทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อคนอื่นและสังคมเพื่อให้สังคมนี้น่าอยู่และดำรงอยู่ต่อไป




 

Create Date : 09 พฤษภาคม 2550    
Last Update : 9 พฤษภาคม 2550 23:40:02 น.
Counter : 695 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  

ชีวประภา
Location :
พิษณุโลก Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ชีวประภา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.