|
|
สเนห์เซี่ยงไฮ้
พาตะลุยปารีสตะวันออก , เซี่ยงไฮ้ ครับ
ผมให้คำนิยามเมืองนี้แบบนี้ครับ เซี่ยงไฮ้เป็น เมืองที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย ทั้งในแง่ของคน วัฒนธรรม ประเพณี รวมทั้งการเจริญเติบโตที่นำพา คนจากชนบทมาสู่เมืองใหญ่ คนต่างชาติหลายชาติก็เข้ามาลงทุน รวมทั้งคนเซี่ยงไฮ้เดิม ครับ จะเห็นได้ว่า เหมือนต้มยำที่ใส่เครื่องเยอะแยะมากมาย ครับ ในส่วนของสถานที่ท่องเที่ยวนั้น เซี่ยงไฮ้มีให้เลือกหลายแบบครับ ทั้งแบบสมัยใหม่ และแบบโบราณๆ
วันนี้จะพาไปเที่ยวสถานที่ที่ได้รับความยอดนิยมนะครับ ขอคั่นนิดนึงครับ ใครที่ชอบอากาศหนาวๆก็มาได้ตั้งแต่เดือนธันวา-ประมาณมิถุนา เลยครับ อากาศจะหนาวอยู่ที่ 0-15 องศาครับ นับจากธันวาจะร้อนขึ้นเรื่อยๆครับ เดือนที่เหลือก็เป็นหน้าร้อนไปครับ
ที่แรกคือ ถนน หนาน จิง ( Nan Jing Lu ) ถนนนี้ได้ชื่อว่าเป็น ถนนที่ยาวติด 1 ใน 3 ของจีนเลยครับ ใครเดินไม่ไหว ก็ จะมีรถรางให้ครับ แต่ได้แค่นั่งไปกลับแค่นั้นครับ เดินเข้าไปก็พบกับห้างเยอะแยะมากมายทั้ง 2 ข้างทาง รูปแบบการตกแต่งก็แตกต่างกันครับ มีทั้งแบบสมัยใหม่ ที่เราเห็นๆกัน หรือ แบบเก่าๆแต่สวยออกแนวยุโรปก็มีครับ ไม่แค่นั้น ยังมีห้าง หรือ ร้านอาหารที่อยู่ใต้ดินอีกครับ แต่ละห้างก็ใหญ่มาก ห้างที่ดังๆก็เช่น No. 1 Department Store , Shanghai Westgate Shopping Mall , Westgate Shopping Mall อยู่ใกล้เคียงกันครับ แต่เราจะดูไม่ออกครับ เพราะมันจะเหมือนๆกันหมด ผม เดินสำรวจทีละห้างๆ ก็จะขายสิ่งของคล้ายๆกันครับ นอกจากนั้น ที่นี่สามารถเรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของนัก shop ก็ว่าได้ครับ จะมีแบรนด์ที่เราไม่เคยเจอมากมาย เช่น มีกระเป๋า เหมา เจ๋อ ตุง ด้วย อันนี้ดูจะดังอยู่ เห็นมีหลายห้างครับ ใครมาเที่ยวเซี่ยงไฮ้ แล้วไม่ได้มาที่ถนน หนาน จิง เรียกได้ว่ามาไม่ถึงครับ
คนเยอะมากครับ
ตึกแบบเก่ายังคงมีอยู่
ห้างต่างๆครับ
รถรางเเสนน่ารัก
สถานที่ที่สองนะครับ
หาด ว่าย ทาน ( Wai Tan ) ครับ
ก็เดินก็เดินไปจนสุดถนนหนานจิง ก็เป็น หาด ว่ายท่าน ที่นี่เคยเป็นสถานที่ที่หนุ่มสาวจีน เคยจีบๆ พรอดรัก กันครับ แต่ตอนนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวไปแล้วครับ สำหรับหาด ว่าย ทาน แนะนำให้มาเที่ยวตอนเย็น ถึง ดึกๆ ครับ ก่อนหน้าจะมาเที่ยวที่นี่ก็ไปเที่ยว ตามที่เที่ยวอื่นไปก่อนก็ได้ครับ เพราะ ตอนกลางคืนจะบรรยากาศดี และ วิวสวยงามมากครับ ตรงจุดนี้เราจะมองเห็นวิวอันเป็นสัญลักษณ์ของเซี่ยงไฮ้ ครับ ไม่
ว่าจะเป็นตึกไข่มุก ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของสถานีโทรทัศน์ และวิทยุมากมาย รวมทั้ง ตึกการเงินต่างๆ ฝั่งผู่ตง ซึ่งรัฐบาลท้องถิ่นจะให้เงินกับตึกต่างๆมาเพื่อติดไฟตอนกลางคืนครับ ทำให้วิวยิ่งสวยขึ้นไปอีกครับ ดูในรูปไม่เท่าตาเห็นครับ ขอคั่นเล็กน้อยครับ เซี่ยงไฮ้จะ แบ่งเป็น 2 ฝั่ง คือ ผู่ตง (Pu dong) และ ผู่ซี (Pu xi) โดยมีแม่น้ำ หวงผู่ (Huang pu) กลั้นกลางครับ ตอนนี้เรายืนอยู่ที่ฝั่งผู่ซีครับผม ฝั่งผู่ซีจะได้ชื่อว่าเป็นฝั่งเมืองเก่า ส่วนผู่ตงจะเป็นเขตพัฒนาใหม่ มีต่างชาติเข้ามาลงทุนเยอะครับ เข้าเรื่องเที่ยวกันต่อครับ ตรงนี้บรรยากาศดีมากครับ กลางคืนสวย อากาศเย็นๆ น่าพาแฟนมาเดินจับมือมากครับ พลาดไม่ได้จริงๆครับที่นี่
มองจากหาด ว่าย ทาน
ที่ที่สาม คือ สวน ยู่ หยวน ( Yu Yuan ) ซึ่ง เป็นสถานที่ที่ เราสามารถสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ในเซี่ยงไฮ้ครับ เป็นบ้านที่เจ้าเมืองในอดีตเป็นผู้สร้าง ใหญ่โตกว้างขวางมากครับ มีแบ่งเป็นหลากหลาย section ให้เราได้เดินดูชมกันเพลินๆ ครับ ตั้งอยู่ที่ถนน อัน เริน ( An Ren srteet ) แต่สามารถนั่ง metro line ไปลงที่สถานี Yu Yuan garden ได้ครับ สะดวกดี
นอก จากสวน ที่มีให้เราชมกันเเล้ว ด้านหน้าก่อนเข้าสวนยู่หยวน ก็จะมีของขายเต็มไปหมดครับ จะเป็นของขายประมาณโบราณๆ เช่น ตราปั๊มมังกร ตราปั๊มที่เป็นชื่อเราก็มีครับ นอกนั้นก็ มีอาหารแปลกๆ เช่น เนื้อนก เสื้อผ้า เป็นถนนคนเดินที่ยาวอีกแห่งนึงครับ
สถานี ยู่หยวนครับ
ด้านหน้าถนนมีของขายครับ
ภายในสวนครับ บ้านใหญ่มาก
ที่ที่4 จะพาไปแนะนำกัน คือ พิพิธพัณฑ์เซี่ยงไฮ้ ครับ ที่แห่งนี้ เราจะได้เห็นทั้งอดีตของเซี่ยงไฮ้ เค้าจะมีเป็นผัง รูปภาพ รูปปั้นย่อๆ ให้ดูเลยครับ นอกจากนั้น เรายังได้เห็นการวางแผนว่าในอนาคตรัฐบาลเซี่ยงไฮ้เค้าต้องการให้เซี่ยงไฮ้เป็นยังไง การวางผังเมือง แผนของเค้าครับ อันนี้จะอยู่ใกล้กลับ ถนน หนานจิง ครับ
ด้านหน้าพิพิธพัณฑ์เซี่ยงไฮ้
อดีต
อนาคต
สถานที่ที่ 5 ที่จะพาไปคือ ถนน ชี ผู่ ( Qi pu street ) ที่แห่งนี้เป็นสวรรค์ของนัก shop อีกแล้วครับ แต่จะแตกต่างจากถนนหนานจิง และ ถนน หวย ไห่ ( จะกล่าวต่อไปครับ ) เพราะ ที่นี่ จะมีทั้งของเลียนแบบ ของที่ออกแบบเอง ในราคาถูกกว่าปกติครับ แบรนด์ต่างๆ ที่เราเห็นในห้างดังที่ไทย ก็จะมีขายที่นี่ในราคาที่ เหลือเชื่อ ครับ มีหมดเลยครับทั้ง เสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องประดับ ที่นี่ต่อราคาสนุกดีครับ จะเจอแบบเดินหนีไปแล้ว แล้วมาบอกว่าราคานั้นได้ ทำนองนี้ ก็มีครับ หลากหลายเทคนิคครับ บางครั้งก็มีการโกงครับ เช่น หยิบของชิ้นที่เราไม่ต้องการใส่ถุงให้ตอนเราเผลอ ต้องระวังๆครับ
ด้านในครับ
อีกภาพครับ
ที่ที่6 ถนน หวย ไห่ ( Huai hai street ) ที่นี่แนวๆ ถนนหนานจิง ครับ คือ สองฝั่งถนน เราจะได้พบกับแบรนด์เสื้อผ้า ที่เราไม่ได้พบมาก่อน ถนนยาวครับ แต่จะไม่ใช่ถนนคนเดินเหมือนหนานจิงครับ อีกอย่างคือที่นี่ brand ต่างๆจะไม่ขึ้นห้างครับ จะเปิด shop ที่ถนนเลย ถ้าเป็นกลางคืน จะได้เห็นแสงสีสวยดีครับ ป้ายโฆษณาเยอะครับ
ถนน หวย ไห่ จะเห็นว่ามีแบรนด์อยู่ตามตึกเลยครับ
ตอนกลางคืน
แหล่งท่องเที่ยวที่ 7 จะแนะนำกัน คือ ซิน เทียน ตี้ ( Xin tian di ) ครับ แปลเป็นไทยว่า โลกใหม่ จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวกลางคืน ก็จะมีทั้งแบบเป็นผับ และที่นั่งชิล ให้เลือกกันครับ นึกถึงเอกมัยบ้านเราก็ได้ครับ ที่ก็สุดเหวี่ยงดีครับ พบคนหลากหลายเชื้อชาติดี แถวๆซินเทียนตี้ จะมีสถานที่ประวัติศาสต์อีกแห่งคือ ที่ว่าการ พรรคคอมมิวนิสต์ เก่า ครับ ถามคนแถวนั้นก็ได้ เดินไปนิดเดียว
ซินเทียนตี้ อันนี้นั่งชิลๆครับ
อดีตที่ว่าการพรรคคอมมิวนิสต์ครับ
แหล่งที่ 8 ที่พลาดไม่ได้นะครับ คือ สูจาฮุ่ย ( Xu Jia Hui ) ที่ ผ่านมาเล่าเกี่ยวกับสวรรค์ของนัก shop แล้ว อันนี้จะเป็นสวรรค์ของชาวไอที รวมทั้งโทรศัพท์มือถือ ด้วยครับ ที่นี่ อีกเช่นเคยครับ เราจะได้เห็นแบรนด์ computer และ โทรสัพท์มือถือ ที่เราทั้งเคยเห็น และไม่เคยเห็นครับ เลียนแบบก็มีครับ เช่น Nokian แบรนด์จีนมีเยอะมากครับ และเท่าที่ฟังๆจากเพื่อนๆชาวจีนที่ใช้ๆกัน ก็ไม่พังง่ายอย่างที่เราคิดๆกันนะครับ มีหลากหลายห้างทางด้าน IT ที่รวมอยู่ที่นี่ครับ
ย่านสูจาฮุ่ย
ที่ที่ 9 ครับ พิพิธพัณฑ์วิทยาศาสตร์ ครับ หรือ ชื่อเต็ม คือ Shanghai Science & Technology Museum ก็จะเป็นตาม ชื่อเลยครับ มีอะไรให้เล่นเยอะดี รวมวิทยาศาสตร์หลากหลายแขนงครับ ที่บอกมีอะไรให้เล่นเยอะนี่ เช่น จำลองสภาวะไร้แรงโน้มถ่วงของโลกครับ อันนี้สนุกมากๆ แล้วก็มีให้เดินชม เยอะครับ
ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์
ด้านในครับ มีอะไรให้เล่นเยอะดี
ที่สุดท้ายที่จะแนะนำกัน คือ วัด จิ้งอัน ( Jing an temple ) ครับ เป็นวัดที่เรียกได้ว่าฝังตัวอยู่ในกลางเมืองครับ ในวัดก็ยังมีพระอยู่ครับ แต่ไม่มาก ส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวครับ ที่นี่จะมีสถาปัตยกรรมยุโรปผสมผสานกับศาสนาพุทธ ครับ เพราะ จะมีอยู่ช่วงนึงที่ฝรั่งเศสยึดเซี่ยงไฮ้ครับ เป็นเขตปกครองของฝรั่งเศสที่จีนให้สิทธิครับ
ใจกลางเมืองเลยทีเดียว
เซี่ยงไฮ้มี ข้อดีอยู่อย่างครับ คือ มี metro line (รถไฟฟ้า รถใต้ดิน) 13 สาย กว่า 100 สถานี เทียบกับกรุงเทพที่มี 2 สาย เชื่อมทั่วเมืองครับ สะดวกดีครับ
วันนี้แค่นี้ก่อนครับ ไว้จะมาเล่าใหม่ครับ ^^
| Create Date : 07 กันยายน 2553 |
| Last Update : 7 กันยายน 2553 17:41:28 น. |
|
3 comments
|
| Counter : 432 Pageviews. |
|
 |
|
|
โดย: =zim=  วันที่: 15 กันยายน 2553 เวลา:0:18:19 น. |
|
| โดย: จูบี้ จู (jubie ju ) วันที่: 16 กันยายน 2553 เวลา:13:30:14 น. |
|
| โดย: Dingtech วันที่: 16 กันยายน 2553 เวลา:19:32:47 น. |
|
|
|
|
| เอกTung |
 |
|
|
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
