อัมพวาพาเพลิน ตอนที่ 3 ไหว้พระห้าวัด





















































































































 

Create Date : 25 กันยายน 2553    
Last Update : 10 ตุลาคม 2553 9:58:24 น.
Counter : 788 Pageviews.  

อัมพวาพาเพลิน ตอนที่ 2 ตลาดน้ำยามเย็น


จับตุ๊กๆมาถึงตลาดน้ำอัมพวาก็ตรงไปเช็คอินที่พักที่จองไว้ก่อน ที่นี้คือ บ้านเรือนสบาย บ้านสองชั้นสีชมพูตั้งอยู่ในตลาดน้ำอัมพวาเลย





เช็คอินเก็บสำภาระเสร็จ ก็ออกเดินตลาดอัมพวาให้ฉ่ำไปเลย





เริ่มจากการหามุมถ่ายรูปก่อนที่แสงจะหมด






















แล้วก็มองหาของกิน ตลาดอัมพวามีของกินไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวมากมาย ทั้งอาหารที่คุ้นเคย ขนมไทยโบราณที่หากินยาก และก็อาหารที่ชาวอัมพวาดัดแปลงให้แปลกใหม่สำหรับนักท่องเที่ยว เช่น ข้าวเกรียบปลาทู กรอบอย่างข้าวเกรียบกุ้งแต่มีกลิ่นปลาทูอ่อนๆพอให้รับรสชาติปลาทู แต่ไม่ได้เก็บภาพมาฝากเพราะฟาดเรียบไปซะก่อน

ใส้กรอกโบราณ คล้ายหอยจ้อดูน่าอร่อยดีแต่ไม่ได้ลองกลัวหนักท้องเกิน คราวหน้าต้องลองซะหน่อย





ปลาทูแม่กลองของแท้ต้อง หน้างอ คอหัก (ที่หน้างคอหักเพราะแม่ค้าที่ต้ม(ต้องเรียว่าต้มเพราะใช้วิธีต้มลงไปในน้ำไม่ใช่นิ่งจากไอน้ำ)ปลาทูขายเห็นว่า ปลาทูตัวยาวต้องใช้เข่งใหญ่แล้วเหลือที่ข้างๆมองดูโล่งๆไม่สวยก็เลยจับปลาทูมาหักคอแล้วใส่เข่งที่เล็กลงมาปลาก็จะเรียงสวยอยู่ในเข่งไม่เหลือที่มาก ถ้าเป็นสองตัวต่อเข่งมองดูคล้ายรูปหัวใจ)

ที่ปลาทูแม่กลองอร่อยไม่ใช่เพราะหน้างอคอหัก แต่เพราะบริเวณใกล้ชายฝั่งสมุทรสาคร สมทรสงคราม สมุทรปราการ เป็นแหล่งอาหารของปลาทูเช่นแพลงตอนเพราะเป็นชายฝั่งแบบขี้เลนไม่มีหาดทราย ปลาทูที่หากินบริเวณนี้จึงสุขภาพดีเนื้ออร่อย

สมัยก่อนปลาทูที่นี้มีแต่ปลาทูโป๊ะ คือ ชาวประมงจะเอาโป๊ะ(คล้ายกระชังแต่ใหญ่และลึกกว่า)ออกทะเลไปไม่ไกลดัดปลาไว้ถึงกำหนดก็ไปยกโป๊ะวิดปลาขึ้นมา ปลาทูโป๊ะนี้เมื่อมาถึงตลาดจึงสดมากเพราะขึ้นจากทะเลก็มาถึงตลาดภายในไม่กี่ชั่วโมง สมัยก่อนกิจการโป๊ะปลาทูรุ่งเรืองมากมีไม่ต่ำกว่าร้อยโป๊ะ แต่เดี้ยวนี้ปลาทูในทะเลบริเวณใกล้ฝั่งลดลงไปมากจากร้อยกว่าโป๊ะก็เหลือไม่ถึงสิบโป๊ะ ปัจจุบัน ปลาทูที่ขายอยู่จึงต้องอาศัยปลาที่ได้มาจากทะเลไกลๆแช่แข็งมาความสดก็ลดหลั่นลงไปเพราะปลาทูโป๊ะหายากเต็มที






ของกินที่ขาดไม่ได้ของอัมพวาก็คือ ซีฟู้ดปิ้งเผาพร้อมน้ำจิ้มรสแจ่มจรัส เพราะที่นี้ไม่ไกลจากมหาชัยสามารถรับของทะเลสดมาทำขายได้ทุกวัน






ยำสารพัดผักกรอบ น้ำยำรสสนิทลิ้นกระทงละ20บาทกุ้งตัวโต จนกระทงเดียวไม่พอ






น้ำดอกไม้และสมุนไพรกับไอติมรสผลไม้และดอกไม้ไทยจากร้านศรีมาลา






เครื่องดื่มก็มีให้เลือกหลากหลาย






อัมพวาเป็นเมืองศิลปิน เดินไปทางไหนก็จะได้ยินเสียงดนตรีคลอตลอดเวลา มีทั้งเพลงลูกกรุงคลาสสิค เพลงฝรั่งคันทรี เพลงลูกทุ่งไทย เพลงวัยรุ่น ไปจนถึงคาราบาว






บ้านครูเอื้อ บุคคลอันเป็นที่ภูมิใจของชาวอัมพวา






ร้านของฝาก ของที่ระลึก ก็มีให้เลือกซื้อมากมาย






โดยเฉพาะสารพัดเสื้ออัมพวา แบบไหน สีไหน สไตล์ไหน มีให้เลือกจุใจ






หิ่งห้อย สัญญลักษณ์อีกอย่างของอัมพวา


















เดินมาถึงริมแม่น้ำแม่กลองก็พักชมแม้น้ำรับลมเย็นซะหน่อย






เดินกันจนขาเปลี้ย ก็เลยเลือกนั่งเรือแจวของคุณลุงกลับที่พัก นั่งเรือที่ค่อยๆแล่นผ่านตลาดน้ำชมแสงสียามค่ำ กอนโดล่าจากเวนิสก็สู้ไม่ได้






ดินเนอร์ซีฟู้ดที่เรือนสบายที่พักของเราจัดไว้ให้ นั่งห้อยขาลงคลองอัมพวากับกุ้งตัวโต






สีสันของตลาดน้ำยามค่ำ




จินจุ้งกันเสร็จก็เตรียมตัวลงเรือไปชมหิ่งห้อย ช่วงนี้ฝนตกหิ่งห้อยออกมาให้ชมมาก เกาะบนต้นลำภูนับไม่ถ้วนแข่งกับพริบแสง วิบวับ ราวไฟกระพริบบนต้นคริสต์มาส แต่เก็บรูปมาฝากไม่ได้ฝีมือมีไม่พอ ชมหิ่งห้อยเสร็จกลับที่พักนอนหลับเป็นตายเตรียมตัวสำหรับพรุ่งนี้ โปรดติดตามตอนต่อไป




 

Create Date : 23 กันยายน 2553    
Last Update : 2 ตุลาคม 2553 17:46:45 น.
Counter : 2536 Pageviews.  

อัมพวาพาเพลิน ตอนที่ 1 นั่งรถไฟไปตลาดรุ่มหุบ


เริ่มต้นการเดินทางที่สถานีรถไฟวงเวียนใหญ่ จริงๆแล้วเริ่มที่รถไฟฟ้าBTS แต่ไม่ได้เก็บภาพมา ลงBTSที่สถานีวงเวียนใหญ่ ก็ถามพี่รปภ.ว่าไปสถานีรถไฟยังไงก็ได้ความว่าลงทางออกที่1เดินย้อนถนนไปถึงสี่แยกไฟแดงแล้วเลี้ยวซ้ายเดินไปเรื่อยๆถามไปเรื่อยๆถึงสะพานลอยข้ามถนนก่อนถึงสี่แยกวงเวียนใหญ่มองเห็นอนุเสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช อยู่ข้างหน้าก็ข้ามสะพานลอยไปก็จะถึง สถานีรถไฟวงเวียนใหญ่ที่ซ่อนตัวอยู่ในซอยเล็กๆ



















ขอบคุณผู้ร่วมเดินทางบนรถไฟที่ช่วยถ่ายรูปคู่ให้เรา







ลงรถไฟที่สถานีมหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร ก็เดินชมตลาดอาหารทะเล ที่เห็นนี่ต้องเรียกว่า "อาณาจักรหมึก"







อาณาจักรกุ้ง







ท่ารื่อมหาชัย หรือ ท่าจีน เพราะเป็นท่าเรือข้ามแม่น้ำท่าจีน







เรือข้ามฟากที่จะพาเราไปอีกฝั่งของแม่น้ำ







แม่น้ำท่าจีนที่นี้เต็มไปด้วยเรือประมง







ขึ้นจากเรือที่ฝั่งท่าฉลอม หาทางไปสถานีรถไฟบ้านแหลม เดินมาตามทางเดินไปถามไปชาวบ้านที่นั่นมีน้ำใจตอบทุกคำถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม







เนื่องจากเลือกเที่ยวรถไฟจากวงเวียนใหญ่แบบเผื่อเวลา ก็เลยต้องนั่งรอรถไฟพอสมควร ระหว่างรอก็หาไรถ่ายรูปไปเรื่อย







รถไฟมาแว้ววววววววว







บรรยากาศบนรถไฟ สะอาดโปร่งตากว่ารถไฟจากวงเวียนใหญ่(แต่รถไฟจากวงเวียนใหญ่ก็ไม่ได้แย่นะ) รถไฟสายนี้ถูกโปรโมทให้เป็นรถไฟท่องเที่ยวเพราะมันจะพาเราไปตลาดร่มหุบ ตัวรถไฟทาสีสวยเชียว แต่ก็ไม่ยักก็มีคนใช้บริการเท่าไหร่







บรรยากาศสองข้างทางเป็นวิถีชีวิตแบบชาวบ้านโดยแท้ มีทั้งบ้านเรือนหลังเล็กๆที่โอบล้อมด้วยต้นไม้เขียวไปหมด มีนาเกลืออยู่สองข้างทาง ตอนเด็กพ่อพาพรานอักษรกลับบ้านย่าที่ ดำเนินสะดวกผ่านนาเกลือที่สมุทรสาครนี้ทุกครั้ง สมัยก่อนใช้กังหันวิดน้ำทะเลเข้านา ภาพกังหันหมุนยังติดอยู่ในความทรงจำวัยเด็ก แต่สมัยนี้มีการใช้เครื่องสูบน้ำเข้านากันแล้วกังหันก็เลยหายไป







ถึงแล้วสถานีรถไฟแม่กลอง จังหวัดสมุทรสงคราม พอเข้าตลาดร่มหุบพี่เจ้าหน้าที่บนรถไฟก็เปิดประตูโบกี้สุดท้ายให้เราไปยืนดูแม่ค้าเขาหุบร่มกางร่มกัน







เดินชมตลาดร่มหุบ ก็คือตลาดสดของชาวแม่กลอง มีของทะเลและอาหารสดวางขาย









อาณาจักรผัก






อาณาจักรปู













ถึงแม่กลองก็ไม่ต้องถามใครแล้วเพราะที่นี้เป็นถิ่นคุ้นเคยของพรานอักษรเอง จับตุ๊กๆไปตลาดอัมพวากันเลย โปรดติดตามตอนต่อไป






 

Create Date : 22 กันยายน 2553    
Last Update : 2 ตุลาคม 2553 17:59:16 น.
Counter : 2118 Pageviews.  

ยักษ์วัดแจ้งฯ ท้าตีท้าแทงกับ ยักษ์วัดโพธิ์




















































































































 

Create Date : 02 สิงหาคม 2553    
Last Update : 21 สิงหาคม 2553 21:59:53 น.
Counter : 1693 Pageviews.  

ถึง"บางพลี"มีเรือนอารามพระ ดูระกะดาษทางไปกลางทุ่ง

"ถึงบางพลีมีเรือนอารามพระ
ดูระกะดาษทางไปกลางทุ่ง
เป็นเลนลุ่มลึกเหลวเพียงเอวพุง
ต้องลากจุงจ้างควายอยู่รายเรียง"

บางตอนจาก นิราศเมืองแกลง สุนทรภู่

จากบทนิราศของท่านสุนทรภู่ที่เอ่ยถึงชื่อ "บางพลี" และเมื่ออ่านทั้ง
บริบทของนิราศเมองแกลงนี้ก็จะรู้ที่ตั้งและสภาพแวดล้อมว่า ตรงกับ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ

จึงเป็นหลักฐานสำคัญชิ้นหนึ่งที่บอกว่า ชุมชนบางพลี มีประวัติศาสตร์ยาวนานไม่น้อยไปกว่าสมัยของท่านสุนทรภู่แน่นอน


ปัจจุบันชาวชุมชนบางพลีส่วนหนึ่งยังดำรงวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมก็คือ พึ่งพาอาศัยกับแหล่งน้ำ ทั้งคลองสำโรง และ คลองบางพลี จึงได้มีการรื้อฟื้นตลาดเก่าริมลำน้ำให้มีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง











การเดินทางครั้งนี้เล่นไม่ยาก นั่งรถสองแถวใหญ่จากปากน้ำมาลงบิ๊กซีบางพลี เดินทะลุไปด้านหลังจะเจอสะพานเรือแบบนี้ค่าบริเวณ1บาทอีกฟากของสะพานก็คือ ตลาดโบราณบางพลี







ในวันธรรมดา ตลาดแห่งนี้ก็เป็นตลาดค้าขายตามวิถีชีวิตธรรมดาของชุมชน มีของอุปโภคบริโภคตั้งร้านจำหน่ายมากมาย







แต่ในวันเสาร์ อาทิตย์ ตลาดแห่งนี้เป็นที่ท่องเที่ยวที่มีของกิน ของฝาก ของที่ระลึก และบรรยากาศริมคลองคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่



































เมื่อเดินมาตามตลาดจนสุดทางก็จะมาถึง วัดบางพลีใหญ่ใน







วัดบางพลีใหญในหรือเรียกอีกชื่อว่า "วัดหลวงพ่อโต" เพราะเป็นที่ประดิษฐาน "หลวงพ่อโตวัดบางพลีใหญ่" พระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปสมัยสุโขทัย อันเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคุ่เมืองของชาวบางพลี























ไหนๆก็มาวัดย่านบางพลีแล้ว ตามที่ท่านสุนทรภู่เคยบรรยายไว้ "ถึงบางพลีมีเรือนอารามพระ" แสดงว่าบางพลีนี้เป็นที่ตั้งของวัดวาอารามมากมายตั้งแต่อดีต พรานอักษรก็เลยขอเที่ยวอีกวัด นั้นก็คือ วัดบางพลีใหญ่กลาง จากวัดบางพลีใหญ่ในจับมอเตอร์ไซต์รับจ้างในราคา10บาทเท่านั้น(คำนวณระยะทางเอาเองนะจ๊ะ)











วัดบางพลีใหญ่กลางนี้เรียกอีกชื่อว่า "วัดพระนอน" เพราะภายในวัดมีวิหารซึ่งประดิษฐานสมเด็จพระศากยมุณีศรีสุเมธบพิตร พระพุทธรูปปางไสยาสน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ยาว 53 เมตร ภายในพระนอนมีห้องปฏิบัติธรรม ภาพเขียนเรื่องราวของเทวดา นรก และมีห้องหัวใจพระซึ่งประชาชนนิยมมาปิดทองเพื่อเป็นศิริมงคล

































 

Create Date : 24 กรกฎาคม 2553    
Last Update : 30 กรกฎาคม 2553 15:25:10 น.
Counter : 3911 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  

กฤษณกุล
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add กฤษณกุล's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.