A ........ Z
Group Blog
 
All blogs
 

ทวิสต์ธรรมวันละคำ
















คนธรรมดาทำบุญก็อยากได้บุญ


คนมีปัญญาทำบุญหวังจะเกิดในภพใหม่ที่ดีกว่าเดิม


แต่ชาวพุทธแท้ทำบุญเพื่อการปล่อยวางกิเลสอย่างสิ้นเชิง


..............................................

เทศนาธรรม โดย ว วชิรเมธี





 

Create Date : 04 กันยายน 2553    
Last Update : 4 กันยายน 2553 21:38:16 น.
Counter : 628 Pageviews.  

ลำบากที่ว่าแย่ เจอแค่สามก็กลายเป็นเรื่องชิวๆ
















พระพุทธเจ้านั้น พระองค์เป็นผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐเป็นอันมาก
ยากที่จักพรรณนาให้สิ้นสุดได้โดยง่าย แต่เมื่อประมวลกล่าวเฉพาะ
พระคุณที่เป็นใหญ่เป็นประธานแห่งพระคุณทั้งปวง
พระคุณอันยิ่งใหญ่นั้น มี ๓ ประการ คือ

๑. พระปัญญาธิคุณ
๒. พระบริสุทธิคุณ
๓. พระมหากรุณาธิคุณ

* พระปัญญาธิคุณ คือ
พระพุทธองค์ทรงมีพระปัญญารอบรู้ถึงความจริงแห่งสิ่งทั้งหลายทั้งปวง
ความเป็นจริงของสิ่งเหล่านั้นว่าเป็นอย่างไร ก็ทรงทราบชัดถึงความจริงเหล่านั้น
และนำความจริงเหล่านั้นมาเปิดเผยชี้แจงแสดงแก่โลก
ตามพื้นเพแห่งอัธยาศัยของบุคคลเหล่านั้น

* พระบริสุทธิคุณ คือ
พระพุทธองค์ทรงมีพระทัยบริสุทธิ์ สะอาดหมดจดจากอาสวะกิเลสเครื่องเศร้าหมองทั้งหลาย
ไม่มีความขุ่นมัวเศร้าหมองภายในพระทัยทรงดำรงอยู่อย่างคงที่
ไม่แปรผันท่ามกลางอารมณ์ที่กระแทกกระทั้นจากภายนอก
ไม่ว่าจะดีหรือร้ายแต่พระทัยของพระพุทธเจ้าก็บริสุทธิ์อยู่มั่นคงอยู่อย่างนั้นไม่แปรผัน

* พระมหากรุณาธิคุณ คือ
ทรงกอปรด้วยความกรุณาต่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย
ไม่ทรงเลือกชาติชั้นวรรณะแต่ประการใด แม้แต่ในศีลของพระองค์ก็ทรงบัญญัติ
ให้คนงดเว้นไม่ทำสิ่งมีชีวิตให้ตกล่วงไป และทรงแนะให้แผ่เมตตาจิตต่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย
เพื่อให้อยู่ร่วมกันได้อย่างปกติสุข อันเป็นเป้าหมายของการดำรงชีวิตของสรรพสัตว์ทั้งหลาย



ซึ่งเมื่อกล่าวโดยนัยที่รู้กันแพร่หลายทั่วไปแล้ว พระคุณของพระพุทธเจ้า
ก็สรุปรวมลงไว้ที่นวหรคุณทั้ง ๙ ประการ อย่างที่สวดสรรเสริญว่า

“แม้เพราะอย่างนี้ อย่างนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นพระอรหันต์
ดับเพลิงกิเลส เพลิงทุกข์สิ้นเชิง ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง
ทรงถึงพร้อมด้วยวิชชา คือ ความรู้ และจรณะ คือ ความประพฤติ
เป็นผู้เสด็จไปแล้วด้วยดี เป็นผู้รู้โลกอย่างแจ่มแจ้ง เป็นผู้สามารถ
ฝึกบุรุษที่สมควรฝึกได้อย่างไม่มีใครยิ่งกว่า เป็นครูผู้สอนของ
เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานด้วยธรรม
เป็นผู้มีความจำเริญ จำแนกธรรมสั่งสอนสัตว์ ดังนี้

ที่มา : อธิบายหลักธรรมตามหมวด จาก นวโกวาท (ขุ.ขุ.๒๕/๑)
: พระเทพดิลก (ระแบบ ฐิตญาโณ); วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพมหานคร




 

Create Date : 31 สิงหาคม 2553    
Last Update : 31 สิงหาคม 2553 23:26:34 น.
Counter : 677 Pageviews.  

กระทำที่ไม่บริสุทธิ์ ในสิ่งที่คิดว่าไม่บริสุทธิ์











บางคนมีความคิดว่าทำบุญแก้บาป ทำดีแก้ชั่ว
ทำชั่วมัวหมองมาแล้วทำบุญสักนิดหน่อยก็แก้ได้
ที่จริงมันแก้ไม่ได้ท่านเปรียบเหมือนกับบุคคลผู้เอาน้ำบรรจุไห
ในไหใบนั้นเอาเกลือสักหนึ่งแก้วเทลงไป แล้วเทน้ำจืดลงไปแก้วหนึ่ง
ความเค็มก็ยังเข้มข้น ยังมีความเค็มอยู่ เราเพิ่มน้ำจืดลงไปเรื่อยๆ
ตลอดเวลาจนเต็มไห ความเค็มของเกลือก็หมดไปเหลือแต่น้ำจืด
แต่เราจะเห็นเนื้อเกลือหายไปไหนหรือเปล่า มันก็ไม่หายไปไหน
ก็ยังอยู่ในนั้นเอง แต่ว่าสู้น้ำใสน้ำจืดไม่ได้
เพราะว่ามันมากกว่า นี่เป็นการว่าล้างบาปไม่ได้

............................................................................

เทศนาธรรมโดย พระจันโทปมาจารย์ ฉายา จนฺทูปโม
เจ้าอาวาสวัดศรีวิชัย บ้านศรีเวินชัย ตำบลสามผง
อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม







 

Create Date : 29 สิงหาคม 2553    
Last Update : 30 สิงหาคม 2553 23:00:47 น.
Counter : 1794 Pageviews.  

มีแต่น้ำ แต่ไม่ยักกับทานเนื้อ














…กิเลส คือ ความโลภ ความโกรธ ความหลง เป็นโรคร้ายทางใจ
ที่ไม่ได้ร้ายน้อยไปกว่าโรคร้ายทางกาย ที่ร้ายที่สุดเมื่อโรคร้ายเกิดขึ้นแล้ว
ไม่ว่าจะทางกายหรือทางใจจำเป็นต้องรักษา มิฉะนั้นก็จะกำเริบ
ทำให้ถึงตามถ้าเป็นโรคทางกาย ทำให้เสียผู้เสียคนถ้าเป็นโรคทางใจ

คน ที่เสียแล้ว ก็คือคนที่ตายแล้วในทางชื่อเสียงและทางคุณงามความดี
จะกล่าวว่าโรคร้ายทางใจมีโทษร้ายแรงยิ่งกว่าโรคทางกายก็ไม่ผิด
เพราะผู้ตายไปจริงๆ ด้วยโรคทางกายนั้น
ดีกว่าผู้ที่ตายแล้วในทางชื่อเสียงและคุณงามความดีด้วยโรคทางใจ
กิเลส คือ ความโลภ ความโกรธ ความหลง ที่ไม่ได้รับการขัดเกลาแก้ไข
จะทำให้เสียผู้เสียคนหรือตายทั้งเป็นได้จริง… ...


............................................................................................

โดย สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก
ในหนังสือชื่อ “ความสุขหาได้ไม่ยาก”




 

Create Date : 21 สิงหาคม 2553    
Last Update : 21 สิงหาคม 2553 16:00:40 น.
Counter : 918 Pageviews.  

น้ำหนึ่งหยด หมดไปไม่เคยจางหาย













ธรรมะนั้นมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง เราสามารถค้นพบธรรมะได้ในทุกอิริยาบถ
และทุกลมหายใจ ไม่เคยมีใครบ่นว่าฉันไม่มีเวลาหายใจฉันใด
เราก็ไม่สมควรตัดพ้อว่าไม่มีเวลาปฏิบัติธรรมฉันนั้น
เว้นเสียแต่ว่าเราปฏิบัติธรรมมิใช่เพื่อเข้าถึงธรรม
แต่เพื่อความพิเศษมหัศจรรย์หรืออิทธิปาฏิหาริย์
แต่ถ้ามีจุดมุ่งหมายอย่างนั้นจะเรียกว่าการปฏิบัติธรรมได้อย่างไร



ธรรมขั้นสูงสุดนั้นมิได้อยู่ที่ไหน หากอยู่ในความธรรมดาสามัญ
เพราะธรรมดาสามัญนั้นเอง ผู้เข้าถึงธรรมคือผู้เข้าถึงธรรมดา
กลมกลืนกับธรรมดา ไม่ขัดขืนโต้แย้งกับธรรมดา
ทั้งไม่ผลักไสหรือยึดติดธรรมดา เพราะธรรมดานั้นไม่มีบวกหรือลบ
สูงหรือต่ำ น่ายินดีหรือไม่น่ายินดี
หากเป็นใจเราต่างหากที่ไปกำหนดหมายหรือให้ค่าเอาเอง


........................................................................


คำปรารภหนังสือคืนสู่สามัญ

พระไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต จ.ชัยภูมิ






 

Create Date : 18 สิงหาคม 2553    
Last Update : 19 สิงหาคม 2553 1:35:43 น.
Counter : 1200 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  

Mr.Chanpanakrit
Location :
สงขลา Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 28 คน [?]




Friends' blogs
[Add Mr.Chanpanakrit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.