|
|
karei naru spy เพราะเขา คือ...สายลับ (แต่ทรัพย์จาง)
"เจมส์บอนด์ 007" (James Bond 007)
เป็นนวนิยายเชิงจารกรรมสายลับสุดฮิป
ที่ดำเนินตามท้องเรื่อง ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมในหยุดหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒
ทำให้ชื่อของ "เอียน เฟลมมิ่ง" กลายเป็นผู้ประพันธ์ขายดีในหมวดสายลับฮีโร่
แม้ปัจจุบันตัวเฟลมมิ่งจะลาลับไปจากโลกนี้ ตั้งแต่ปี ค.ศ. ๑๙๖๔
แต่ในส่วนของการดัดแปลงมาสู่โลกของภาพยนตร์ ชื่อ เจมส์ บอนด์ ๐๐๗
ก็ยังได้รับความนิยมของคนดูข้ามเจเนเรชั่นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในชั่วชีวิต
เท่าที่ได้ลืมตาดูโลกของผู้เขียนก็มีโอกาสได้พอนับญ่าติ มาตั้งแต่สมัยที่
พระเอกโรเจอร์ มัวร์ เริ่มรับบทเป็นสายลับเจมส์บอนดฺ์ เรื่อยลงมาสู่ ทิโมธี ดาตัน
เพียร์ซ บรอสแนน จนล่าสุด ภาค Quantum of Solace ที่ได้พระเอกดาเนียล เคร็ก
มาเป็นผู้รับบทปฏิบัติสายลับสิงห์เจ้าเสน่ห์ศูนย์ศุนย์เจ็ดแห่งเอ็มไอซิกคนปัจจุบัน
แต่เมื่อผู้เขียนต้องมาอัพในหมวดบล็อก "ซีรีย์ต่างประเทศ"
ข้อมูลทั้งหมดเบื้องต้น เป็นเพียงแค่การเลียบเคียงเพื่อเข้าสู่ซีรีย์ญี่ปุ่นเรื่องล่า
ที่ผู้เขียนเพิ่งจะฝืนตั้งตาทนดูจนจบสิบตอนเต็ม สำหรับ
"Karei naru Spy" แห่งซีรีย์ของค่าย NTV ที่กำหนดฉายกลางปี ๒๐๐๙ ที่ผ่านมา
โดยยังได้พระเอกคู่บุญของทางสถานี อย่าง "โทโมยะ นางาเซะ"
มารับบทตลกหน้าทะเล้นตามสายถนัด ที่เคยทำให้ซีรีย์ My Boss My Hero
หัวหน้ายากูซาม.ปลาย สร้างเรตติ้งถล่มทลาย (โดยเฉพาะตอนท้ายเรตติ้งยี่สิบต้นๆขึ้น)
และหนึ่งในผู้กำกับ My Boss My Hero อย่าง "เรียวอิชิ จุน"
ก็มารับหน้าเสื่อควบคุมงานให้ Karei naru Spy ออกรสชาติจัดจ้านอย่างที่เคยเป็น
แต่นั้นเป็นเพียงการคาดหวังเบื้องต้นของตัวผู้เขียนเอง เพราะความเป็นจริงหาได้เป็นเช่นนั้นไม่เลย!
ถ้าให้หาคำจำกัดความของ ซีรีย์ Karei naru Spy บอกแบบนักเขียนสิ้นคิดเลยว่า
มันคือ การล้อเลียนต้นฉบับสายลับเจมส์บอนด์ ๐๐๗ ในทุกอณู โดยไม่สนหรอกนะว่า
การล้อเลียนนั้น มันจะไปทำร้ายศาสดาสาวกแฟนป๋าเจมส์มากน้อยแค่ไหน
(แม้หลายๆมุข จะเข้าข่ายว่า แหม!พี่ยุ่นท่านก็ยังทำไปได้)
มาครั้งนี้ นางาเซะพระเอกของเราต้องมารับหน้าที่เป็นสุดยอดสายลับนักสืบ
ที่ทางนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น มีคำสั่งประทับตราอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร
ให้ช่วยอัญเชิญพี่ท่านออกจากทัสนสถานเป็นการชั่วคราว หลังจากถูกคุมขังยาวหลายปี
ด้วยรับรู้กันดี ถึงพิษสงอาชญากรตัวเป้งที่หาตัวจับยาก (แต่ก็ยังอุตสาห์ถูกจับได้)
Which name should l use?
(ตกลงแล้ว แกใช้ชื่ออะไรอะไรกันแน่)
Whatever name you use,l'll become it.
(อันนี้ก็ขึ้นกับว่านายจะใช้ชื่ออะไร ฉันก็จะเป็นชื่อนั้นนะแหละ)
That's why they call you chameleon.
(แล้วทำไม ผู้คนทั้งหลายถึงเรียกแกว่า "ไอ้กิ้งก่าพันหน้า" ฟะ)
What do you want l do?
(แล้วตกลงนายมาที่นี้ เพื่ออะไรกันแน่)
Be a Spy.You prevent 13 cases terrorist attacks,l'll grant you freedom.
(ฉันอยากให้แกเป็นสปาย แกมีงาน๑๓คดีเกี่ยวกับการต่อต้านการก่อการร้าย
ถ้าแกทำได้ เอาไปเลยฉันจะให้เเกเป็นอิสระ)
ซีรีย์ทำทีว่า จะมาซีเรียสทำเท่ห์ดูเป็นจริงเป็นจัง
จนกระทั่งพ่อพระเอกของเรา ฉายา "ไอ้กิ้งก่าพันหน้า" แท้ที่จริงเขา ชื่อ "โคสุเกะ"
ยอมรับคำท้า ที่จะแฝงตัวเป็นสายลับพิเศษให้กับทางการ ............ เท่านั้นแหละ
กลิ่นความเป็นคอเมดี้สปายวายคลูเลอร์ ก็ค่อยๆผุดขึ้น โดยมีเสียง "อะเด๊ อาฮอยๆ" เป็นระยะ
-ถ้าเจมส์บอนด์ เขามีห้องสูทโรงแรมหรูห้าดาว โคสุเกะเขาก็มีแค่โรงเตี้ยมไม้โกโรโกโส
-ถ้าเจมส์บอนด์ เขามีบีเอ็มดับเบิลยูรุ่นใหม่ โคสุเกะเขาก็มีแค่บีเอ็มเอ็กซ์ไว้ปั่นเวลาไปทำงาน
-ถ้าเจมส์บอนด์ เขามีลิฟต์ลับสุดไฮเทค โคสุเกะเขาก็มีตู้ล็อกเกอร์ดำดิน (ตามรมณ์คนกด)
-ถ้าเจมส์บอนด์ เขามีwidget weaponสุดล้ำ โคสุเกะเขาก็มีของเล่นป๋องแป๋งที่ต้องเสียตังค์ซื้อ
เมื่อเจมส์บอนด์เขามีแต่ดีกับดี เออ...แล้วพี่โคสุเกะเขามีอะไรดีบ้างละ?
พูดง่ายๆ เลย คือ อะไรที่หน่วยราชการลับเมืองผู้ดี ทำให้เจมส์บอนด์เขาดูดีมีสกุล
สิ่งที่รัฐบาลญี่ปุ่นทำให้กับสายลับโคสุเกะนั้น ดูตกต่ำสถุลรุนชาติเป็นอย่างยิ่ง
ก็นั้นแหละ ถ้าไม่ต่ำไม่สถุล มันก็คงไม่ฮาและที่สำคัญ ไม่เปลืองงบอลังการงานสร้างของทางสถานี
ดังนั้น ทุกๆภารกิจของหยุดแผนการของเหล่าสมุนก่อการร้าย
จึงต้องพึ่งความสามารถพิเศษของ อาชญากร เพื่อไปหยุดยั้ง อาชญากร ด้วยกัน
ซึ่งนายโคสุเกะของเรา เขาก็เป็นเอกัตถคะในเรื่อง ตลบปลิ้นปล้อน (convicted swindler)
เพื่อให้เข้าถึงแหล่งข้อมูลลับ และหลอกล่อให้ฝ่ายผู้ก่อการร้ายตายใจ
นำมาซึ่งการจับกุม และหยุดยั้งแผนการก่อวินาศกรรมในที่สุด
กระนั้น ใจความลึกๆของซีรีย์เรือ่งนี้
เขาต้องการสะท้อนในแง่ มิติเชิงคุณค่าของความไว้เนื้อเชื่อใจกัน (trust and confident)
เพราะที่มาของโคสุเกะ จนได้ขึ้นชื่อลือชาว่าเป็นนักตลบตะแลงตัวยงนี้ได้
สืบเนื่องจากปมปัญหาวัยเด็ก จากการที่ถูกแม่ทิ้งโดยให้คำมั่นสัญญาว่าจะกลับมารับเขา
ท้ายที่สุด วัยเด็กของโคสุเกะจึงไร้ที่พึ่งพิง นำมาสู่การอุปการะของบาทหลวงในโบสถ์
และกลายเป็นชายที่เกลียดแม่ (Electra complex) จนไม่ไว้ใจใครในที่สุด
มีเพียงสร้อยคอรูปไม้กางเขนต่างหน้า ที่ทำให้เขาอุปโลกน์เป็นอะไรก็ได้ที่เขาปรารถนา
เมื่อต้องมาปรับกระบวนทัศน์การทำงานเป็นทีม แม้โดยเบื้องต้น
โคสุเกะจะพยายามทำตัวเป็นนักสืบชายฉายเดี่ยวเปลี่ยวทีม
แต่เพียงแค่ ความสามารถพิเศษเลียนแบบเเปลงโฉมและตีบทในร่างทรงนั้นๆ
ตามแต่ภารกิจและสถานการณ์จะอำนวยพาไป
ทว่า ความซับซ้อนของภารกิจและเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง จึงเป็นเรื่องที่สุดวิสัย
ที่ทำให้ การได้รับความช่วยเหลือจากความชำนาญเฉพาะของทีมงานต่อต้านการก่อการร้าย
ก็คอ่ยๆพัฒนากลายเป็นส่วนหนึ่งของการทำหน้าที่ เพื่อบรรลุสู่เป้าหมาย
อันนำมาซึ่งอิสรภาพต่อไปภายภาคหน้า โดยทีมงานประกอบไปด้วย
'หัวหน้าหน่วย' (รับบทโดย เทราจิมา สุสุมุ จาก Code Blue
และ flowershop without rose) 'เคนนิชิ' หน่วยภาคสนามที่รักการทานกล้วยหอม
เป็นชีวิตจิตใจ (เล่นโดย วาตานาเบ้ อัตซึมุ จากPsychometrer Eiji )
'โปรแกมเมอร์โอซามุ' หนุ่มแฮกเกอร์ที่ต้องสูดยาดมบิ้วค.เชื่อมั่น (รับบทโดย คาซุฮิโระ)
'โจเซฟิน' ดาร์ลิงของหน.หน่วย (รับบทโดย หนูคิคิ จาก Hyoryu Net Cafe)
'เอลิเซ่' ดร.นักประดิษฐ์ไร้งบอุดหนุนจากรัฐ (รับบทโดย โทโมชิกะ จาก Ghost Friends)
และคนสุดท้าย ที่ทำให้ผู้เขียนทนพิษบาดแผลซีรีย์เรื่องนี้จนจนได้โดยดี คือ
'มิสซิสโดโรธี' ซึ่งรับบทโดย น้องสาวคนเคยสนิท "เคียวโกะ ฟุกุดะ"
นับตั้งแต่ห่างหายหน้าไป ผู้เขียนก็ได้ไล่เก็บแต่งานเก่าๆแก้เขิน สมัยน้องหนูเขา
ยังรับบทเป็นเด็กมัธยมคนขยัน อย่างปีที่แล้ว ก็พอให้ได้ร่ายซีรีย์ อย่าง
Precious Time และ Otousan (และมีเห็นแว้บๆอยู่หนึ่งตอนของ Gelileo)
ตอนนั้นยังแซวว่าน้องหนูเขาว่าดู 'อิ่ม' เพราะ ความ 'อวบ'
แต่ใน Karei naru Spy ทำให้คุณพี่ดู 'อิ่ม' ได้ เพราะ 'องค์เอว' ไร้ความอวบ
แม้โดยรวม บทโดโรธีจะเป็นบัดดี้ปฏิบัติการคู่กับพระเอกโคซุเกะ แต่มาตราฐานการแสดง
ดูจะไม่ต่างจากครั้งที่คุณน้องเธอเคยรับบทสายลับ "คุรุมิ อายากิ" ในซีรีย์เรื่อง Remote
ที่ทางไอทีวีเคยฉายในชื่อเรือ่ง "เขาวานให้หนูเป็นสายลับ" ซึ่งเล่นคู่กับโคโมโตะ โคอิชิ
แม้ว่าซีรีย์เรื่องนั้น ผลิตฉายในปี ๒๐๐๒ แล้วก็ตาม ยังเป็นบทที่แก่นๆเย้วๆ ตามนิสัย
ซึ่งคงจะวัดอะไรได้ยาก กับซีรีย์เฮฮาคอเมดี้แบบฉบับค่าย NTV เขา
l want your weapon as well.
(ฉันรู้ถึงตัวอาวุธของเธอดี)
The strongest weapon that can break into people's emotions.
(อาวุธที่ทรงประสิทธิภาพที่สามารถหยุดอารมณ์ความรู้สึกของผู้คน)
และอีกเช่นกัน Karei naru Spy ก็ยังคงมีปรัชญาในเรื่องความเป็นครอบครัว (Family)
โดยเฉพาะ ในสถานที่เก็บตัวลับ อย่างร้านขายข้าวที่ชั้นบนเปิดเป็นห้องพัก
เลยให้อารมณ์แบบบรรยากาศที่พักตะวันออก ที่นักสืบตะวันตกไม่อาจเข้าถึง
เรียกได้ว่า เป็นแหล่งทำซึ้งยอดนิยมของเรื่องที่พระเอกมักจะมาครุ่นคิดถึงเรื่องต่างๆ
พอทำให้มีมิติความเป็นดราม่าทรงพลังอยู่พอสมควร แต่ที่เหลือจากนั้นเป็นคนละเรื่อง
และร้านขายข้าวแห่งนี้แหละ ที่ทำให้โคสุเกะ ได้รู้จักกับลูกสาวของเจ้าของร้าน
"ฮิราคารา" นักหนังสือพิมพ์ (รับบทโดย วาตานาเบะ แอนเน่ จาก Samurai High School)
ที่ระแคะระคายความไม่ธรรมดาของพระเอกโคสุเกะ ที่มักเกี่ยวพันกับ
เหตุการณ์วินาศกรรมทั้งหลายที่เกิดขึ้น ถือว่าเป็นบทแจ้งเกิดได้พอประมาณ
เพราะทีแรกทำเสมือนหนึ่งว่า ชีจะมาเป็นนางเอกของเรื่อง แทนที่จะเป็นตำแหน่งของโดโรธีเขา
ซีรีย์พยายามรองรับพื้นฐานการกระทำของตัวละครหลักๆ ว่ากันด้วยเรื่องของ
"ปมในวัยเด็ก" เพราะไม่เพียงแต่พระเอกโคซุเกะเท่านั้น ที่สืบย้อนความเป็นมา
จนมาสู่ความเป็นไปในปัจจุบัน แม้แต่หัวหน้าผู้ก่อการร้ายสไตล์ฮิตเลอร์
"มิสเตอร์ทาคุมิ" (รับบทโดย อีโมโตะ อากิระ จาก Ryusei no Kizuna)
มหาเศรษฐีใหญ่ผู้มีขอบข่ายบริวาร ไม่เพียงแต่ระดมสรรพผู้ก่อการร้ายเท่านั้น
แม้แต่การซ่องสุ่มสปายในองค์กรต่างๆ ทั่วโลก ในระดับอภิมหาซุ้ม
ก็หนีไม่พ้นแรงจูงใจในการขับเคลื่อนบุคคลิกด้านลบ แบบพระเอกโคสุเกะเขา
คือ การมีอดีตปมด้อยในใจ (Interiority Complex) ในวัยเด็ก ที่แม้ฐานะที่บ้าน
จะร่ำรวย แต่ไม่อาจได้รับการยอมรับนับถือ ทั้งๆที่เป็นเพื่อนร่วมชั้นกับนายกรัฐมนตรี
จึงคิดจะเปลี่ยนแปลงญี่ปุ่นทั้งประเทศ ด้วยเหตุผลฝังใจเพียงเท่านี้ ?
Spy can't fall in love with someones,Right?
(การเป็นสายลับ นั่นหมายความว่าไม่สามารถรักกับใครสักคนใช่ไหม?)
Yeah,If want have longer live.
(ใช่ ถ้าหากคิดอยากจะให้อายุยืน)
จบเลยละกัน สรุปว่า................ซีรีย์ Karei naru Spy
เป็นซีรีย์่ที่ทำท่าว่าจะสนุกสุดๆ และคอสตูมเจ็บๆ
เพราะแบบแผนเค้าโครง ที่คนดูสามารถประกอบขึ้นมาลอยๆบนหัว
โดยมีแม่แบบอย่าง เจมส์บอนด์ ๐๐๗ สายลับ (ที่ไม่ลับสำหรับคนทั่วโลกแล้ว)
แต่เมื่อบรรยากาศการเมืองโลกได้ผ่านพ้นยุคสงครามเย็น
ศัตรูตัวใหม่ของโลกในศตวรรษใหม่ จึงไม่พ้น "ผู้ก่อการร้าย"
(แต่จะร้ายจริงรึเปล่า อันนี้อีกเรื่องหนึ่ง) แล้วเรตติ้งตอนแรกระดับ ๑๕ ขึ้น
ถือว่าไม่ธรรมดา แต่พอเข้าสู่ตอนที่ ๒ และ ๓ ล้นมาเหลือเพียงแค่ ๘ กว่า
หายไปครึ่งต่อครึ่ง ถือว่าน่าใจหายอยู่ไม่น้อย ก่อนจะถูๆไถๆ มาอยู่ที่ ๑๐.๖
ก็ถือว่าพอสมควรที่มาจบที่เลขสองหลักได้ (จากการวิจัยของ Video Research, Ltd)
ถ้าจะให้เคาะกันเล่นๆ เหตุที่ Karei naru Spy ดูไม่เข้าตา
หลักๆเลย คือ พล็อกออกทะเล-จำเจเกือบทุกตอน-น่าห่วงนอนในบ้างช่วง
หลายปรากฎการณ์ดูเลือนลอยชนิดลอยเข้าฉากมาเฉยเลย ขณะที่มุขตลก
ชนิดคัดแต่งกะเอาฮา พอเข้าฉากมาก็หมดฤทธิ์เป๊กดื้อๆสักงั้น
บางช่วง ก็ออกฤทธิ์ตูนๆจนทำให้นึกถึง คาโต้แอนด์ชิมูราในคู่หูคู่ฮา พอสมควร
จะว่าไป ประสบการณ์ร่วมในงานเขียนบทของ "คิมิซุกะ เรียวอิชิ" ถ้านอกจาก Kareiฯแล้ว
ก็มี Yakusha Damashii! ของค่ายฟูจิทีวี ที่มีนางเอกทาคาโกะ มัตซุ เป็นตัวเดินเรือ่ง
ก็ไม่มีอะไรให้น่าสะกิดติดใจเอาความ และ Love Complex ที่มีกระทาชายโซริมาจิ
ซึ่งก็มีวิธีการเล่าเรื่องแบบขนบซีรีย์ญี่ปุ่นทั่วไป เลยขอเหมาเอาว่า เรากับเขาคงเข้ากันไม่ได้
แต่ทำเป็นเล่นไป แม้ว่า Karei naru Spy อาจเป็นงานดูก็พอทน แต่ไม่ถ้่าทนก็น่าจะดี
อย่างไรเสีย เสน่ห์ของซีรีย์จบในตอนที่เกิดไปมี โทโมยะเป็นพระเอกเข้าแล้ว
ชั่วโมงนี้ คงไม่มีพระเอกดาราคนไหนตีกินบท "ตลกเข้มเน้นทะเล้น" ได้เท่าเขา
(แม้แต่เพื่อนร่วมวง Tokio อย่าง ทัตซึโอกะ ก็ยังกินเขายาก) แต่ที่สำคัญกว่า คือ
มักจะมีดาราสาวรับเชิญ ที่เรียกแขกใครไปมาได้น่าสนใจกว่าเนื้อหาของเรื่องเสมอๆ
(สูตรนี้ดีหรือไม่ ไม่รู้แต่ที่แน่ๆ ก็ทำให้ผู้เขียนทนมาแล้วในซีรีย์ Unubore Deka)
เพราะใน karei naru ฯ ก็ยังสามารถทำให้หนูอิโนอุเอะ เมียวโอะ มาเป็นแขกรับเชิญหัวแรกได้
ตามมาด้วย สปายอาหมวย จุนนะ ริซา จาก Love Generation รวมถึงสาวอิมพอร์ตแดนเกาหลี
อย่าง หนูอารา จาก Snow Flower ของค่าย SBS
ดังนั้น จึงสะท้อนทัศนวิสัยโดยสว่นตัวผู้เขียนอีกคำรบว่า ซีรีย์ที่ดูจนจบครบตอน
ก็ไม่ได้หมายความว่า อาจจะเป็นที่ซีรีย์แห่งความทรงจำ เทียบได้กับซีรีย์ที่ดูไม่จบแม้เพียงสักตอน
แม้ซีรีย์จะไม่สร้างความประทับใจอะไร แต่ก็ควรจะให้อภัย เพราะเรื่องนี้ช่างตอกย้ำได้ดีเหลือเกิน
Everything will not start again if don't forgive.
(สรรพสิ่งจะไม่มีวันเริ่มต้นถ้าไม่รู้จักการให้อภัย)
Maybe forgive other. Means that you forgive yourself.
(บางทีการให้อภัยคนอื่น ก็หมายถึงคุณได้ให้อภัยตัวคุณเอง)
โอ้! ช่างกริบคมนัก................โคซุเกะ.......
| Create Date : 17 กรกฎาคม 2554 |
| Last Update : 17 กรกฎาคม 2554 18:33:44 น. |
|
3 comments
|
| Counter : 2213 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: vootb  วันที่: 17 กรกฎาคม 2554 เวลา:1:57:36 น. |
|
|
|
| โดย: มะนาวเพคะ IP: 110.49.235.187 วันที่: 17 กรกฎาคม 2554 เวลา:10:23:40 น. |
|
|
|
| โดย: prysang วันที่: 20 กรกฎาคม 2554 เวลา:12:18:08 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 28 คน [
>
