A ........ Z
Group Blog
 
All blogs
 
Magerarenai Onna สาวแกร่ง...แรงที่สุด


ลังจากที่เคยได้รีวิวซีรีย์ฆาตกรรมคาห้องเรียนมัธยม (ซึ่งครูอังคณาไม่เกี่ยว)
ในWatashitachi no Kyokasho ปลายเดือนพฤศจิกาของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นผลให้ผู้เขียน
จำต้องปรับเปลี่ยนการประเมินคุณค่าทางการแสดงของ "คันโนะ มิโฮะ" เสียใหม่
ซึ่งแต่เดิม ก็รู้สึกธรรมดาออกจะเฉยเมยเสียด้วยซ้ำ จากเรื่องที่เคยได้ยินได้ชมมากอ่น
อาทิ Dance Drill,Last Present,Tomorrow หรือ Kiina
โดยส่วนใหญ่ ล้วนเป็นผลงานซึ่งผู้เขียนมีโอกาสไล่ตามงานในยุคล่าสุดแทบทั้งสิ้น
แม้ว่า ดาราหญิงที่มีศักดิ์เรียกว่า "ป้า" ก็ยังได้ จะเริ่มเข้าวงการซีรีย์ทีวีมาตั้งแต่ปี ๑๙๙๔
แล้วมาได้รางวี่รางวัลจริงๆในสาขาทีวีครั้งแรก ก็เหมาะเจาะในปี๒๐๐๐พอดี ถ้านับเอางาน
ที่เรียกว่าเป็นสาขารางวัลนำหญิงจริงๆ ก็มีWatashitachi no Kyokasho ที่เคยรีวิวได้ไปแล้ว
เฉกเช่นเดียวกันกับ Kiina ซึ่งเรื่องนี้ออกจะเสมอตัวไม่น่าจะได้รับรางวัลสักเท่าไร
เอาเท่าที่โอกาสจะพอหาได้ตอนนี้ ที่เหลือก็คงมีแค่Hataraki Manกับ Magerarenai Onna
ซึ่งเป็นของค่าย NTVทั้งคู่ บังเอิญว่าเรื่องหลังเพิ่งเป็นเรื่องที่ผู้เขียนได้ชมมาแล้ว
จึงขอโอกาสเล่าสู่กันฟัง ตามประสาความปลื้มป้าเป็นการส่วนตัว ส่วนจะเชียร์ขึ้นไหม
อันนี้ ก็แล้วแต่วิจารณญาณของท่านผู้อ่านหลงเชื่อกันเอาเอง








Magerarenai Onna เป็นซีรีย์ในปี ๒๐๑๐ แห่งค่ายNTV
ที่ยังได้คันโนะ มิโฮะคนเดิม สองสามผลงานหลังมานี้ การเลือกเล่นกับค่ายทีวีค่ายนี้
มักจะหนีไม่พ้นบทนางเอกเนิร์ดๆ เอนเนอร์จี้สูง ดังนั้นMagerarenai Onnaก็หนีไม่พ้นเช่นกัน
ที่ว่าถึงวิกฤตของหญิงวัยสามสิบอัพ "โอจิวาระ ซากิ" พนักงานทนายฝึกหัด
ที่สอบการเป็นทนายเป็นต้องตกทุกครั้งตลอดเก้าปีซ้อน ขณะที่ตัวแฟนหนุ่มที่เด็กกว่า
"ซากาโมโตะ มาซาโตะ"(แสดงโดยทซึกาโมโตะ ทาเกชิจากKekkon Dekinai OtokoและFire Boys)
รุ่นน้องซึ่งพบรักกันตอนที่ซากินั้นอยู่ปีสี่ แต่มาสาโตะเพิ่งจะเข้าปีหนึ่ง และปัจจุบันมาซาโตะ
ก็ได้เลื่อนชั้น สอบผ่านการเป็นทนายตั้งแต่การสอบครั้งแรก แต่ตัวซากิเองยังคงย่ำอยู่ที่เดิม
กระนั้น ซากิเองก็ไม่เคยละความพยายามของการที่จะเป็นทนาย ด้วยปมในวัยเด็กเธอเคยมีพ่อ
ที่เพิ่งสอบได้เป็่นทนายแต่ต้องประสบอุบัติเหตุตกจากที่สูงเสียชีวิตเพื่อช่วยเหลือเด็กทารกคนหนึ่ง
มันจึงเป็นทั้งแรงบันดาลใจและการชดเชยความหวังของผู้เป็นบิดา ซึ่งนั้นก็ทำให้ซากิ
ต้องมามีปัญหาไม่กินเส้นกับแม่ของเธอ ที่ไม่อยากให้ลูกสาวเดินตามทางของผู้เป็นพ่อ
แม้ว่าความพยายามดังกล่าว จะล้มเหลวมาครั้งแล้วครั้งเล่าก็ตาม








A lawyer's job isn't to chase after justice.
It's to protect the interest of our clients in the right
or not doesn't have anything to do with it.


(งานของทนาย ไม่ใช่การไล่ล่าหาความยุติธรรม
มันเป็นการปกป้องผลประโยชน์ของลูกความของเรา

ไม่ว่ามันจะถูกหรือผิดมาก็ตาม หวังว่าเราคงจะไม่ทำอะไรให้มากกว่าไปกว่านี้)

Clear,that it would be far more profitable to us.

(เอาเป็นว่าเคลียร์นะ มันก็เพื่อผลประโยชน์ระยะยาวของพวกเราทุกคน)

That's why l have no intention of declining to be
the legal adviser
for the company side.

(นั้นจึงเป็นสาเหตุว่า ทำไมฉันจึงไม่ลดความตั้งใจในการเป็นที่ปรึกษา
โดยเลือกข้างของบริษัทเป็นสำคัญ)






ะตาชีวิตของซากิก็เหมือนสายฟ้าฟาด เมื่อหัวหน้างานพยายามจะเกลี่ยกล่อมเธอ
ให้หันมาย้ายแผนกงานในฝ่ายธุรการ เพราะหมดความอดทนกับความไม่มีพรสวรรค์ในตัว
แต่ตัวซากิเองก็ยืนกรานที่จะเข้าสอบเข้าเป็นทนายอีกหน แม้ว่าตัวเธอจะถูกเยาะเย้ยถากถางเพียงใด
ทั้งจากหัวหน้างาน และการปฏิโลมจากแฟนหนุ่มที่ทำงานในสำนักงานทนายความเดียวกัน
ด้วยทิฐิมานะที่ถือมั่นในตัวของซากิเอง จนกระทั่งวันประชุมกำหนดนโยบายของทางบริษัท
ที่ต้องการให้เจ้าหน้าที่ทนายของบริษัท พยายามรับทำคดีโดยมุ่งประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ
จนเป็นเหตุให้ ซากิรับไม่ได้กับวิธีการดำเนินงานและขอลาออกในที่สุด โดยสุดท้าย
ซากิเลือกที่จะรักษาอุดมการณ์มากกว่าการอยู่ให้เป็น เพื่อที่จะอยู่รอด








A person in a weak position who does the right thing and who
as a result is treated unfairly.

(เมื่อใครคนหนึ่งอยู่ในสถานะที่ถูกเอารัดเอาเปรียบ เขาก็ควรจะได้รับสิทธิคุ้มครองตรงนั้น
รวมถึงผลลัพธ์จากการได้รับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม)


That may be right as a lawyer but it's wrong as a human being.

(สำหรับการเป็นอาชีพกฎหมายนั้นคุณอาจจะถูก แต่มันผิดสำหรับหัวอกความเป็นมนุษย์)





ด้วยบุคลิกส่วนตัวของโอกิวาระ ซากิ เรียกได้ว่าเป็นสาวทึนทึก-มีทิฐิที่สูงปี๊ด
เธอจึงไม่ค่อย ไม่สิต้องเรียกว่าไม่พยายามเรียนรู้ในการปรับตัวเข้ากับสังคม หมุกมุนอยู่กับการอ่าน
หนังสือสอบเนติฯทั้งเวลาพักเที่ยง ไม่เว้นแม้แต่เวลานอนจนมืดค่ำตีหนึ่งตีสอง
เพื่อให้ไปถึงเป้าประสงค์ที่เป็นเสมือนจุดปฏิญาณตามความฝันให้สำเร็จ เธอเลยตั้งกฎกับตัวเองว่า
จะไม่ทานแชมเปญแกล้มกับชีสต์จนกว่าจะสอบบรรจุเป็นเนติบัณฑิตให้จงได้ (ผลเลยทำให้ในห้อง
ของซากิมีเเชมเปญวางเรียงเป็นตับถึงเก้าขวด จนแขกใดใครมาต้องหวังดีจะเปิดทานเสียทุกครั้ง)
ด้วยการตั้งกฎระดับเข้มข้นเช่นนี้ แต่ซากิก็มีวิธีการผ่อนคลายตามแบบฉบับของตัวเธอเอง
ที่มองเข้าข่ายว่าชีเพี้ยนก็มองได้ อย่างเช่น เต้นฝืนสังขารตามจังหวะเพลงผ่านเครื่องไอพอดนาโน
ที่บรรจุอัลบั้มเพลงของไมเคิลแจ็คสัน ตั้งแต่ยังเป็นคณะเจสันไฟว์จนถึงอัลบั้มชุดล่า
ก่อนพี่ไมเคิลจะตายลาหนี การได้ขย้ำกระดาษแล้วปาให้ลงถังอย่างแม่นยำ
หรือกระทั่งบันทึกไดอารีรายวันแบบสั้นๆ ซึ่งแต่เดิมมักจะจดประโยคที่เป็นเหมือนการสะกดจิตตนเอง
เพื่อให้สอบได้สำเร็จ การได้มีเพื่อนสองคนที่เดินก้าวเข้ามาในชีวิต มันก็ช่วยให้ไดอารีเล่มประจำของซากิมีบันทึกที่เปลี่ยนไป ..................................





พื่อนสองคนที่เธอได้พบเป็นการบังเอิญที่อาจจะเรียกได้ว่า เป็นปาฎิหารย์ครั้งสำคัญของชีวิตก็ว่าได้
คนหนึ่งเป็นเพื่อนสมัยมัธยมเมื่อสิบห้าปีที่แล้ว"ฮาสุมิ ริโกะ"(แสดงโดยนากาซาคุ ฮิโรมิ จาก
Last PresentและClosed Note)
ผู้มีชีวิตครอบครัวที่หวานอมขมกลืน แถมเป็นชนิดกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ด้วยตัวสามีแอบไปมีกิ๊ก เท่านั้นไม่พอแม่ของสามีก็ยังให้ท้าย อีกทั้งควบคุมอำนาจเสร็จสรรพ
ไม่เว้นลูกของเธอเองอีกสองคน ริโกะจึงต้องพยายามแสร้งเป็นหน้าชื่นยินดีเหมือนว่าไม่มีอะไร
จึงทำให้เธอเชื่อไปเองว่าการโกหก เป็นความสามารถพิเศษที่จะโกหกในเรื่องที่โกหกได้
โดยไม่รู้ว่านี้เป็นเรื่องที่โกหกหรือว่าเป็นความจริงกันแน่ ส่วนเพือ่นอีกคนเป็นถึงสารวัตรใหญ่
ด้วยบารมีมีพ่อเป็นถึงผู้กำกับ"ไอดะ โคอุกิ"(แสดงโดยทานิฮาร่า โชสุเกะจากLove ShuffleและTop Caster)
หนุ่มเพลย์บอยที่ไม่เคยรู้จักรักแท้ และรู้สึกถูกชะตากับนางเอกซากิตั้งแต่แรกเห็น
จึงพยายามตีสนิทเฮฮาตามเรื่องตามราว โดยไม่มีคราบของความเป็นสารวัตรตำรวจให้คนอื่นเกรงขาม
แต่จริงๆแล้ว สารวัตรไอดะซังก็มีชีวิตขมขื่นไม่แพ้กัน แม้จะดำรงตำแหน่งใหญ่โตแต่จริงๆแล้ว
เป็นคนใจเสาะ ไม่กล้าออกไปดำเนินคดีในพื้นที่จริง ตลอดเวลาที่เป็นตำรวจมักจะปัดภาระความรับผิดชอบ
จนแยกไม่ออกว่า เกิดจากวัฒนธรรมขององค์กรตำรวจที่สังกัดหรือเพราะลักษณะนิสัยเป็นการส่วนตัว






พูดถึงการแสดง ก็ยอมรับมีความโดดเด่นในแง่ของบทเป็นทุนตั้งต้นอยู่แล้ว
แต่ประสบการณ์การรับชมส่วนตัว ก็ไม่ได้ถือว่าเป็นการฉีกอะไรไปจากเดิมของบรรดานักแสดงทั้งหลาย
อย่างบทของสารวัตรไอดะที่พี่โชสุเกะเล่น ก็มาในแพตเทิร์นที่เคยเล่นไว้ในMob Girlของค่ายอาซาฮี
เพียงแต่ว่าความเจ้าชู้ครั้งนั้น มันไม่ได้ใช้กับนางเอกที่เล่นโดยคิตากาวะ เคอิโกะสักเท่าไร
ทว่าในเรื่องอารมณ์เจ้าสำราญคล้ายคลึงกัน ถือเป็นการโคจรร่วมงานกันอีกครั้ง
ระหว่างท่านพี่โชสุเกะกับนางเอกมิโฮะ หลังจากที่สามปีที่แล้วเคยร่วมแจมในดราม่าทริลเลอร์เข้มๆ
ในWatashitachi no Kyokasho ซึ่งก็เป็นบทอาชีพทนายเฉกเช่นเดียวกันอีก
ทว่าผู้เขียน จะไปได้ใจในตัวละครเพื่อนนางเอกอย่างริโกะแทน
เพราะมันเหมือนจะได้ความสดจากการแสดงของนากาซากุ ฮิโรมิ ซึ่งจะว่าไป
เธอก็ไม่ได้ใหม่ในวงการสักเท่าไรนัก จะว่าไปอีกนั้นฮิโรมิของเราเธอก็เข้าวงการทีวีในปีเดียวกันกับ
นางเอกคันโนะ มิโฮะเสียด้วยซ้ำ สมัยยังเอ๊าะๆเธอเป็นตัวหลักแห่งวงกรุ๊ปป๊อปสามสาวที่ชื่อRibbon
(ที่ประกอบด้วยอาริมิ มัตสุโนะ,ไอโกะ ซาโตะและตัวเธอ ออกซิงเกิ้ลแรกในปี๘๙ และถูกยุบวงในปี ๙๔)
ระยะหลังเห็นเธออ้วนท่วมบวมสักอย่างนี้ก็อย่าได้แปลกใจ เพราะเธอต้องไปเป็นคอมเมนเตเตอร์
ให้กับเกมโชว์ตัดสินทำอาหาร Iron Chefทางช่องฟูจิทีวี ได้พบเจอกับสามีซึ่งเป็นfilmmaker
ในปี๒๐๐๕ โดยทั้งคู่ร่วมงานกันกำกับสินค้าโฆษณายี่ห้อนึง ไม่รู้กำกับอีท่าไหนอย่างไร
ปลายปีก็แต่งงานสายฟ้าฟาดกันเฉยเลย ตอนนี้ก็มีลูกชายทันใช้แล้วด้วย
ส่วนการแสดงของซากาโมโตะ มาซาโตะ ความที่ติดตามผลงานมาน้อย
ประเภทไม่ตั้งใจแต่ดันติดตามห้อยสอยกันมา ในเรือ่งนี้ถือว่าได้รับบทเด่นอยู่
เพียงแต่เล่นได้เสมอตัว ยิ่งการที่ไม่กล้าที่จะสละออกจากงานตามซากิ ไอ้นั้นไม่เท่าไร
แถมยังขับไล่ไฉเฉดนางเอกทั้งๆที่เพิ่งตกงานด้วยแล้ว ความได้ใจตัวละครตัวนี้
เลยหายไป ความจริงพี่ก็หน้าตาจัดว่าหล่อดีนะ แต่บารมีความเป็นดารนำไม่ค่อยจะเกิด
ตอนเริ่มเล่นหนังBattle Royaleก็อยู่ไม่เด่น ไปเป็นพระเอกเต็มตัวใน Midnight Sun
ผู้เขียนจำได้แต่นางเอกนักร้องยูอินั่งแบกะดินดีดกีต้าร์ร้องเสียงเเหง้วๆกับบรรยากาศมืดตึ๊ดตื๋อ
ไม่มีอะไรมากกว่านั้น แต่ก็ได้ข่าวว่าพี่ท่านได้ภรรยานอกวงการที่แต่งในปี๒๐๐๗
ตอนนี้ก็เป็นลูกหนึ่งไปแล้ว นึกแล้วก็ใจหายที่ดาราร่วมรุ่นสมัยผู้เขียนก็ทยอยมีลูกทันใช้
จากที่เคยเล่นหนังวัยรุ่นแว้บๆ ก็เป็นพ่อคน-แม่คนกันไปหมดแล้ว







กเว้น .....ก็แต่นางเอกของเรื่องที่คันโนะ มิโฮ
ขอตำหนิการออกแบบโปสเตอร์ของค่าย NTV อีกสักครั้งหน่อยเหอะ
เพราะใบปิดที่โปรยไว้ กับรูปแบบข้างในแทบจะเป็นคนละเรื่องเดียวกันเลย ตัวซากิเอง
อย่างที่เห็นในสิบตอน ก็ไม่ได้มีภาพลักษณะที่ปรากฎอย่างเช่นท่าสมาธิโยคะนั่งชันเข่าพับเพียบเจแปน
อะไรอย่างนั้นสักทีไหน ผมเผ้าก็ไม่ได้ยาวสลวยมัดซ่อนวงในแบบขึ้นปกแต่อย่างใด
แล้วที่โผล่หัวดาราสามคนมุมขวาล่าง ก็ช่างให้ค่าพวกเขาสักเหลือเกินทั้งๆที่บทเยอะไม่แพ้กัน
อย่างนี้เขาเรียกว่าผลิตภัณฑ์ฉลากไม่ตรงกับสรรพคุณ ในอดีตก็เคยเจอะ
กับอาร์ทญี่ปุ่นประเภทไม่ตรงปกอยู่บ้าง แต่เป็นคนละพีเรียด ไอ้นั้นต้องไปซื้อแถวลานจอดรถ
ชักนอกเรื่องแล้ว ก่อนหน้านี้ก็เคยโอดกับปกของซีรีย์Motherไปที จะว่ารวมถึงแม่บ้านมิตะ
ในKaseifu no Mita ด้วยก็ยังได้ เพราะมันแทบไม่บอกอะไร ถ้าไม่มีใครรีวิวให้ฟัง
ผู้บริโภคก็จำต้องเสี่ยงชีวิตเข้าชิมเองเป็นสำคัญ เข้าเรื่องการแสดงของมิโฮะเธอดีกว่า
ก็โออยู่สำหรับการดีไซด์สาวโรบอตซากิ ที่ดูแตกต่างจากการแสดงแบบอื่นๆ ที่เธอเคยเล่นมา
ในครั้งที่เป็นKiinaนักสืบเนิร์ดอัจฉริยะ ก็คิดว่าคงเป็นสุดๆครั้งหนึ่งของเธอแล้ว
เจอะเรื่องนี้หนักข้อยิ่งกว่า แต่ก็เป็นไปคนละแบบ ถ้าในแง่ลูกอารมณ์
ในMagerarenai Onna ดูจะปรวนแปร เก็บกดและลดละกับใครเขาเป็นสักทีไหน
การได้รางวัลนักแสดงหญิงในTelevision Drama Academy ครั้งที่๖๔ จะได้ก็ไม่ว่า
แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจ ต้องถือว่าฤดูนั้นคู่แข่งสายค่อนข้างจะอ่อน
ไม่ว่าจะเป็น Code Blue 2,Fumo Chitai และAibou 8 แต่ที่ดูทรงนำหญิงสูสีหน่อย
ในฤดูนั้น เห็นจะเป็นเออิกุระ นานะจาก Naka nai to Kimeta Hi
เรื่องเกี่ยวกับนักศึกษาจากมหาลัยเกรดสองจบใหม่ ที่ต้องเผชิญกับการกลั่นแกล้งทุกรูปแบบ
จากที่ทำงานใหม่ แต่ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ทรง เพราะคำว่า"ทรง" มีความหมายกึ่งๆนิยามว่า
ยังไม่ดูที แต่ขอนั่งเทียนอวดรู้เอาไว้ก่อน (ซึ่งก็มักจะผิดเสมอเพราะซีรีย์มักจะพุ่งไปอีกแนว)
แต่เสน่ห์ส่วนตัวที่ชอบเป็นการเฉพาะสำหรับตัวละครซากิในในMagerarenai Onnaตัวนี้
คือ นิสัยพูดตรงฉะดะ ซึ่งเกือบทุกครั้งมักจะชวนให้กลายเป็นตลกร้ายปนขำ แต่มันแย่หน่อย
เพราะความขำนั้น มักจะชวนให้ขำไม่ออกกับความจริงที่ซากิได้พูดไป แม้ไม่มีใครตาย
แต่หน้าตายของเธอ บางทีก็ทำให้นึกถึงแม่บ้านมิตะจากKaseifu no Mita หรือครูมายะในQueen's Classroomได้เช่นกัน








Where's you Itadakimasu?

(ไหนละคำว่า "อิทาดาคิมัส")

Why do we've to say such a think for?

(ทำไมพวกหนูต้องพูดด้วยละ?)

That's because you weren't the ones who made this and
it also wasn't bought with money you had earned.

(นั่นก็เพราะว่าพวกเธอเอง ไม่มีใครสักคนที่ลงมือทำอาหารพวกนี้
และอาหารพวกนี้ ก็ไม่ซื้อมาด้วยกระตังค์ของที่หาด้วยน้ำพักน้ำแรงของพวกเธอ)

Besides,it's only natural to show your gratitude to saying
"ITADAKIMASE"

(นอกจากนี้ โดยธรรมชาติแล้วมันแสดงถึงการสำนึกรู้คุณของพวกเธอเอง
ที่จะเอ่ยคำว่า
อิทาดาคิมัส)







ซีรีย์พยายามเปรียบเทียบให้เห็นถึงความเป็นเปลือกนอกที่ห่อหุ้ม แต่กับชั้นในแล้วเป็นคนละอย่าง
ซากินางเอกที่อย่างไรเสีย คนภายนอกก็ต้องมองดูว่าเป็นคนขี้แพ้ แต่จริงๆแล้วชีวิตเธอไม่เคยสิ้นหวัง
ซึ่งเคล็ดลับอย่างหนึ่งที่ทำให้เธอดูแกร่ง คือ ความพยายามสร้างบุคลิกที่เรียกได้ว่า robotic behavior
ที่ดูเหมือนจะไม่รู้ร้อน รู้หนาวต่อสิ่งกระทบกระเทียบผัสสะให้เกิดวิญญาณธาตุใดใด ซึ่งภายในใจ
หาได้เป็นอย่างนั้นสักทีไหน และสุดท้ายก็ลงเอยด้วยการระเบิดอารมณ์ออกมา
ซึ่งวิถีชีวิตของเธอจะดูไปต่างจากคนข้างกายทั้งสาม ไม่ว่าจะเป็น ริโกะที่แต่งงานมีครอบครัวเป็นตัวเป็นตน
มีลูกทันใช้มีผัวทันขับขี่ ไอดะที่เป็นถึงสารวัตรลูกท่านผู้กำกับ หรือแฟนหนุ่มมาซาโตะที่สอบทนายได้
แต่ก็เป็นเพียงหน้าฉากที่ดูสวยหรูตามหน้าตาทางสังคม ทว่าเนื้อในแล้วคนทั้งสามต่างอกตรม
โดยเฉพาะแฟนหนุ่มมาซาโตะ ยอมที่จะถูกกลืนไปกับนโยบายของทางบริษัทเพื่อความอยู่รอด
ซึ่งมีผลให้ชีวิตคู่ระหว่างเขากับซากิ จำต้องแยกทางกันสักระยะ ก็จะเป็นการเปิดช่องให้
ซากิใช้ชีวิตอย่างอิสระตัวคนเดียว และมีเวลาที่จะได้เรียนรู้ชีวิตอีกด้านถึงมิตรภาพใหม่
ที่สำคัญไม่แพ้กัน เพราะไม่มีพันธะในแง่ที่จะครอบครอง แต่เป็นการเกื้อกูลซึ่งกันและกัน
ไม่มีความเห็นแก่ตัว มีแต่ความบริสุทธิ์ใจที่จะช่วยเหลือ ซึ่งก็จะเป็นเหตุให้แฟนหนุ่มมาซาโตะ
ได้มีโอกาสกลับมาทบทวนความขุ่นข้องหมองใจของตัวเอง ทว่าการกลับมาครั้งนี้ก็ไม่ใช่เรือ่งง่าย
เพราะเขาต้องมาพบกับคู่แข่งคนสำคัญอย่าง ไอดะ ที่มีทีท่าว่าจะทีเล่นทีจริง
และทุ่มใส่อย่างสุดตัวกับสาวบุคลิกพิเศษที่มีเสน่ห์แบบเป็นตัวของตัวเองโคตร







l was able to get back the friends l had lost.Help me.

(ฉันไม่สามารถกลับไปมีเพื่อนอย่างเก่าอย่างที่ฉันเคยมี โปรดช่วยฉันด้วย)

l guess that without you two.l just can't do it.

(ฉันเดาว่าการปราศจากเธอทั้งสอง ฉันจะไม่สามารถทนรับมันได้)

Those two started taking steps to live their own live.

(ต่อไปเธอทั้งสองคงจะก้าวไปตามหนทางชีวิตของตัวเธอเอง)



ถึ
งกระนั้น ซีรีย์ก็ดูจะไม่ค่อยมีน้ำหนักในแง่ความสมเหตุสมผลและความน่าเชื่อถือ
ด้วยเหตุผลบางประการ ที่ผู้เขียนคงเล่าไม่ได้ด้วยเข้าข่ายความเป็นสปอยล์
(ถึงแม้อาจจะมีบางคนหาได้แคร์กับจุดสปอยล์นี้นัก-แต่ผู้เขียนแคร์) แต่เห็นโคร่งเรื่องอ่อนอย่างนี้
แต่จะไปได้การชดเชยจาก จุดแข็งของความเป็นบุคลิกภาพของตัวละครที่ชัดเจน
ทำให้สามารถคาดเดาถึงผลที่จะตามมาและเป็นไปของสถานการณ์แม้จะพลิกผันเพียงใด
ก็โปรดมั่นใจได้ว่า ตัวละครหาได้อ่อนไหวตามไปไม่ ....................






ต่ปัญหาโดยสว่นตัวของผู้เขียนเองสำหรับเรือ่งนี้ มีอยู่หลายจุด
อย่างแรก ซีรีย์เรือ่งนี้ผู้เขียนไม่ได้รู้สึกเอาใจช่วยตัวละครเอาเสียเลย แม้จะมาเริ่มต้น
ดูน่าสนใจชวนติดตาม ประเด็นในเรื่องก็ชัดเจนดีไม่อ้อมค้อมอะไรกันมาก แต่ความที่ถูกfit
ค่อนข้างตายตัวของตัวละคร แม้ตัวละครจะมีการพัฒนาไปในแต่ละตอน
ก็เป็นการพัฒนาที่สอดคล้องไปกับเหตุการณ์ ไม่ได้สอดคล้องในแง่วิธีการที่รู้สึกถูกอกถูกใจ
แต่ประการใด การระเบิดอารมณ์ของซากิในแต่ละตอน แม้จะเป็นการเปิดเผยอารมณ์เบือ้งลึก
ในสภาวะทิ้งตัวแบบเต็มเหนี่ยว ไอ้ช่วงหนแรกหนสองก็ดูเข้าท่าอยู่ แต่พอในท้ายทุกตอน
มันก็ชักรู้สึกเฟ้อๆ แบบที่เคยรู้สึกในGokuzen ที่สุดท้ายครูคุมิโกะต้องมาสลัดผมแกละ
กระโดดลงมาเตะต่อยกับพวกอันธพาล แม้จะเป็นการเปิดใจแต่มันเป็นการเปิดที่เป็นสูตรไปสักหนอย
ไมใช่อะไรหรอก ไอ้ท่าพุ่งมาขย้ำแขนนี้ยังพอทนด้วยฟิวส์สีหน้าเจ๊มาสุดหยุดตรงที่นี้
แต่ไอ้ประเภทมาแหกปากโหว้กว้ากโวยวาย มันทำให้ผู้เขียนต้องลุกขึ้นมาปรับโวลุ่มเสียทุกครั้ง
ถามหน่อยเหอะเพื่ออะไร?ก็เข้าใจนะว่ามันจำเป็น ไม่งั้นจะไม่ได้ลูกจดจำเพิ่มเติมสำหรับตัวละครนี้เลย
ประการต่อมา นอกจากความสมเหตุสมผล โดยเฉพาะในแง่การตัดสินใจของตัวละคร
ที่ยากจะยอมรับอย่างที่ได้กล่าวไปแล้ว (หรือคนญี่ปุ่นเขาเหนื่อยหน่ายกับความมีเหตุผลกันแล้ว)
ผู้เขียนว่าจุดคลี่คลายนี้มันได้ลดทอนความน่าจะชมลงไปเรื่อยๆ
(อันนี้เป็นเฉพาะคนคิดของผู้เขียนฝ่ายเดียว เพราะไปอ่านในเว็บบอร์ดทั้ง dramacrazy
และ jdorama ส่วนใหญ่มันก็บอกถึงความคุ้มค่าอันน่าดูชม
ยิ่งไปดูระดับเรตติ้งของคนญี่ปุ่นด้วยแล้ว ยิ่งใกล้จบเรตยิ่งกระเตื้องดีวันดีคืน)
เลยในตอนท้ายๆ ก็สักดูให้มันจบๆ ไม่ได้อยากรู้หรืออยากลุ้นอะไรว่ามันจะจบลงอีกท่าไหน
ใครจะเป็นใครจะตาย นางเอกจะสอบได้รึไม่? หรือนางเอกจะคลิกกับใคร เรียกได้ว่า
ผู้เขียนอยู่ในสภาพ "หมดลุ้น" มันคล้ายๆกับครั้งที่ได้ชม Kekkon Dekinai Otoko
กล่าวคือ ตัวละครมันเกินเยียวยาที่จะลุ้น เพราะรู้ว่าอย่างไรมันก็คงอัตสภาวะเหมือนเคย
ทางที่ดีที่สุดก็เลย ปล่่อยให้มันดำเนินไปตามใจที่มันอยากจะเป็น สุดท้ายก็เลยกลายเป็น
เรื่องที่สรุปได้เอาเองว่า เพราะความไม่ได้ดั่งใจมันเลยทำให้ตัวละครดูน่าสนใจ
แต่เมื่อไม่สอดคล้องกับเรื่องราวที่น่าใคร่ มันจึงค่อยๆหมดไฟ (แต่ก็ดูจนจบแหะ)
ซึ่งเมื่อมาดูรายชื่อคนเขียนบท ก็อืม....กะเอาไว้แล้วเชียว








มื่อดูโดยภาพรวมแล้ว ก็ยังถือว่าอยู่ในระดับมาตราฐานที่ดีของผู้เขียนบท
"ยูกาวะ คาซูฮิโกะ" ที่ยังสร้างตัวละครหญิงวัยฉกรรจ์ ให้เป็นตัวละครเอกของเรือ่ง
เหมือนที่ปู่เคยสร้างให้ อามามิ ยูโกะเป็นครูไหวใจร้ายใน Queen's Classroom
สร้างให้ซากิ ไอบุ เป็นสาวสวยหุ่นสลิมในRebound ตลอดจนสร้่างมัตซึชิตะ นานาโกะ
ให้กลายเป็นแม่บ้านลึกลับ ในKaseifu no Mita (ทำให้ผู้เขียนฟันธงได้คร่าวๆว่ายูกาวาซัง
ลุงแกต้องมีปมที่ไม่ชอบขี้หน้าเด็กเป็นแน่) เพียงแต่เรื่องนี้อาจจะทำได้ไม่ถูกใจไปให้สุด
สำหรับผู้เขียนก็เป็นได้มั้ง? เท่าที่สังเกตงานของยูกาวะมักจะถูกใจความมหาชนเสมอ
แต่สำหรับความชอบส่วนบุคคลแล้ว ก็ประมาณหนึ่งซึ่งก็มักหาลูกติจากงานเขียนของปู่
(เพราะผู้เขียนอายุจะหกสิบรำมะล่อ) และกฎข้อหนึ่งที่ผู้เขียนชื่นชมแกมาก คือ
ต่อให้งานจะฮิตเปรี้ยงกระชากเรตติ้งสักแค่ไหน ปู่แกก็ไม่คิดจะเขียนภาคต่อด้วยเหตุผลว่า
มันแสนจะเฟอร์เฟ็กซ์ดีอยู่แล้ว ได้แค่นี้ก็ดีถมปะติเถๆๆ แต่อย่างน้อยๆ
สองส่วนแง่คิดที่ได้จากเรื่องนี้แบบชี้ชัดๆกว่าเรือ่งใดใดสไตลฺ์สุทธิชัย หยุ่น คงเป็นเรื่อง
วิถีที่แน่วแน่ในการดำเนินชีวิต (uncompromising way of life) กับ
คติเรื่องแต่งไปใช่ว่าจะแฮปปี้ (a girl has to be married to be happy)
ซึ่งถ้าสองข้อนี้ใครยังขาดแคลนอยู่ Magerarenai Onna น่าจะเป็นซีรีย์บ่อหน้าที่ดีเรื่องนี้สำหรับใครหลายๆคน........




อ้างอิงข้อมูลจาก

Dramawiki,Wikipedia.Tokyohive,Jdorama








Create Date : 11 เมษายน 2555
Last Update : 17 เมษายน 2555 0:13:20 น. 3 comments
Counter : 3260 Pageviews.

 
อ่านดูก็ว่าเรื่องนี้น่าดูนะคะ เพราะตัวละครแต่ละตัวมีบุคลิกที่หลากหลายจังค่ะ
แต่รู้สึกว่าจะเป็นหลากหลายที่ออกไปทางแย่ๆนะคะ
ตั้งแต่นางเอกที่มีแรงขับ แต่ไม่มีความสามารถ ล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า
แต่น่าชมเชยนะคะ ที่เธอไม่เคยย่อท้อ แม้จะสอบตกเก้าปีซ้อน ก็ไม่หวั่นไหว
ถ้าเป็นคนธรรมดาปกติทั่วไปน่าจะยอมแพ้ไปแล้วนะคะ
เดาเอาว่าการสอบครั้งสุดท้ายน่าจะทำให้เธอสมหวังได้
แต่ออกจะหวั่นๆว่า อาจไม่เป็นอย่างที่คิดก็ได้ ประเภทถึงเธอจะยังสอบไม่ผ่าน
แต่เธอก็ยังสู้ต่อไป เพราะซีรีส์ญี่ปุ่นชอบให้เป็นอย่างนี้ซะด้วย ผิดหวังแต่ไม่ท้อ
ส่วนเพื่อนสมัยมัธยมของนางเอก ฮาสุมิ ริโกะ บทน่าสนใจมากเลยค่ะ
ที่บอกว่าเธอเชื่อว่าการโกหก เป็นความสามารถพิเศษที่จะโกหกในเรื่องที่โกหกได้
อ่านแล้วนึกถึงนาธานเลยค่ะ บางครั้งการอยู่ในโลกของการโกหก
อาจทำให้มีควาามสุขมากกว่าโลกในความเป็นจริงก็ได้นะคะ
เพราะชีวิตเธอจากที่รีวิวมาให้นิดหน่อยก็บอกได้ว่า
เธอไม่ได้มีความสุขนักกับชีวิตครอบครัว อ่านแล้วอยากดูคนที่เล่นบทนี้
ว่าจะเล่นได้แบบมีสีสันหรือเปล่า เพราะดาราคนที่แสดงนี้ไม่รู้จักค่ะ
แม้จะบอกว่าเธอเป็นคอมเมนเตเตอร์ให้กับเกมโชว์Iron Chef ก็เถอะค่ะ
ส่วนบทของไอดะ โคอุกิ เดาเอาว่าเป็นพระเอก ก็ดูเป็นคนธรรมดาดีค่ะ
เพลย์บอย ใจเสาะ ชอบปัดภาระและความรับผิดชอบ
แสดงว่าที่ได้เป็นถึงสารวัตรใหญ่เพราะบารมีของพ่อแน่ๆ
แล้วคงจะขาดความภาคภูมิใจในตัวเอง จึงต้องมีชีวิตอย่างขมขื่น น่าสงสาร
แล้วการที่คนผิดหวังสองคนมาเจอกันต่างเข้าใจและเติมเต็มซึ่งกันและกัน
บทแบบนี้เจอบ่อยนะคะ แต่ถ้าระดับมือเขียนบทอย่างยูกาวะ คาซูฮิโกะ
ที่เขียนThe Queen's Classroom และ Kaseifu no Mita น่าจะไม่ธรรมดานะคะ
ส่วนที่บอกว่าจขบ.อยู่ในสภาพที่"หมดลุ้น"กับการดำเนินเรื่องต่อไป
เพราะให้อารมณ์เหมือนกับดู Kekkon Dekinai Otoko
ถ้าอย่างนั้นก็ยิ่งเพิ่มความน่าดูเข้าไปอีกเพราะชอบ Kekkon Dekinai Otoko มากกกกก
ถ้าเรื่องนี้ดำเนินเรื่องได้น้องๆ Kekkon ล่ะก็ เจ๋งเป้งเลยค่ะ


โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.25.97.180 วันที่: 12 เมษายน 2555 เวลา:1:13:06 น.  

 
อ้าว!เขียนไปกับน่าดูสักงั้น

อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับรสนิยม ความชอบส่วนบุคคลละักัน

คะแนนเสียงออกจะก้ำกึ่ง กล่าวโดยรวมๆ

ไม่เห็นมีใครให้สิบเต็มหรือเก้าเต็มสักคน

และดูเหมือนว่า อะไรๆที่ท่านมะนาวฯคาดเดา
มีส่วน

เกือบจะถูกหมดนะครับ ต้องเรียกว่าภูมิวิชชาการจับทาง

ซีรีย์ญี่ปุ่นของท่านแน่นมากเลย (เพราะผู้เขียนนึกไปอีกทาง)

แต่ก็ไม่แปลกหรอกครับเพราะคนเขียนบท

ยูกาวาซัง ไม่ค่อยตามใจคนดูให้มันชูชื่นมื่นสักเท่าไร

ปู่แกคงเชื่อว่า ความผิดหวังเป็นองค์ประทับที่ตราตรึงกระมังครับ

ถึงกระนั้น ความผิดหวังก็เป็นเพียงแค่ฉากหนึ่งของการเดินทาง

ไม่ได้หมายความว่าต่อจากนี้ไป ชีวิตจะไร้ซึ่งความสมหวัง

ตรงกันข้าม กับทรงพลังในภูมิต้านทานชีวิตยิ่งกว่าเดิม



โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 12 เมษายน 2555 เวลา:8:43:31 น.  

 
แต่การโกหกมันก็เป็นความสามารถพิเศษจริงๆ นะคะ คุณมะนาว คนบางคนนั้น แม้เราจะรู้อยู่แก่ใจว่าเค้าโกหก แต่ความที่เค้ายังยืนหยัดโกหกอยู่ได้ ทั้งที่ก็รู้อยู่แล้วว่าเราคงไม่เชื่อ ก็ไม่มีสั่นคลอนความตั้งใจที่จะโกหกหรือคลายคำโกหกให้มันน้อยๆ ลงหน่อย สุดท้ายคนที่หวั่นไหวก็คือเราเอง ที่เริ่มจะเชื่อแล้วจริงๆ ว่าเรื่องที่เค้าโกหกมันเป็นเรื่องจริง

เป็นซีรีส์ผู้ใหญ่วัยทำงานที่ท่าทางจะเครียด นางเอกก็สู้ชีวิตดีนะคะ แต่สู้มา 9 ครั้งนี่มันคอนข้างจะเป็นความแกร่งที่ขมขื่นไปสักนิด ถ้ายังพยายามอยู่ได้มามากขนาดนี้ ไม่เรียกว่าแกร่ง แรงที่สุด ก็คงไม่ได้แล้ว

ภาพใบปิดมันไม่เข้ากันจริงๆ ด้วยล่ะ ท่านยังคิดแค่ว่าเธอนั่งเรียบร้อยแบบญี่ปุ่น แต่ prysang เห็นปุ๊บชวนคิดถึงท่านั่งเตรียมบนเสื่อเพื่อเริ่มเล่นโยคะน่ะค่ะ แล้วก็นึกว่าเป็นแนวคอมเมดี้เพราะพลอตก็ดันมีความรักกับหนุ่มอ่อนวัยกว่าด้วย เคยเล็งๆ อยู่เหมือนกันนะซีรีส์เรื่องนี้ เพราะคิดว่าเป็นคอมเมดี้นี่แหละ แต่ที่ไม่สนใจแต่แรกเพราะไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่กับเรื่องที่นางเอกจะอายุมากกว่าพระเอก ( เข้าใจว่า ทาเคชิเป็นพระเอกน่ะค่ะ)

คันโนะ มิโฮ นางเอกคนนี้ น่าจะไม่เคยพบเจอกันในประวัติการดูซีรีส์ของตัวเองมาก่อน มีนักแสดงที่น่าสนใจอยู่คนเดียวคือ ทาเคชิ แต่ว่า.. บทบาทท่าทางจะบั่นทอนความน่ารักได้อักโขเลย


โดย: prysang วันที่: 12 เมษายน 2555 เวลา:13:31:14 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Mr.Chanpanakrit
Location :
สงขลา Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 28 คน [?]




Friends' blogs
[Add Mr.Chanpanakrit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.