|
เมษายน เดือน ฮ็อต
เดือนเมษายนเป็นจัดเป็นเดือนที่พุทธมณฑล ฮ็อต มากที่สุดเดือนหนึ่ง ที่ว่าฮ็อตนี้ เหมารวมทั้งอากาศและอาการร้อนแรงดึงดูดใจเข้าไว้ด้วย
เพราะเดือนนี้เป็นเดือนที่เป็นขาขึ้นของนกหลากหลายชนิด ไม่ใช่ขาขึ้นทางธุรกิจ หรือการเมือง แต่เป็นขาเดินทางขึ้นกลับถิ่นเกิดทางเหนือเพื่อสืบทอดเผ่าพันธุ์ของนกที่เดินทางล่องลงใต้มาหาความอบอุ่นเมื่อหนาวที่ผ่านมา และขาขึ้นของนกที่อพยพขึ้นมาจากทางใต้ของเราเพื่อมาหาที่ทำรังวางไข่เช่นเดียวกัน
และนกส่วนหนึ่งนั้น เลือกแวะพักที่สวนอันกว้างใหญ่ไพศาลของพุทธมณฑลกันทุกปี ทำให้ช่วงเดือนเมษายนต่อพฤษภาคมเป็นช่วงฤดูอันร้อนแรงของที่นี่
นกที่กำลังเดินทางกลับที่เด่นๆก็เห็นจะเป็นนกจับแมลงคอแดงที่ผลัดขนที่คอจนเป็นสีส้มสดแล้วแบบนี้
และนกจับแมลงตะโพกเหลืองหนุ่มสีสันสดใสตัวนี้
ที่กำลังเตรียมตัวออกเดินทางกลับไปยังตอนเหนือของทวีปเอเชีย
ส่วนขาประจำที่เดินทางมาหาที่ทำรังวางไข่กันทุกปีก็คงหนีไม่พ้น นกแต้วแล้วธรรมดาและนกแต้วแล้วอกเขียว ที่จะต้องแวะเติมน้ำมันที่นี่ให้ชมกันปีละหลายสัปดาห์ และเมื่อเดินทางออกไปจากที่นี่แล้ว จะไปเจอได้อีกทีก็ตามป่าตามเขา สถานที่ที่มักพบแต้วแล้วทั้งสองชนิดคืออุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ หรือตามป่าโปร่งอย่างที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าฯ จังหวัดนครนายกสำหรับนกแต้วแล้วธรรมดา ซึ่งเมื่อเจอในป่านกก็มักจะทำรัง วางไข่ กกไข่ หรือไม่ก็หาเลี้ยงลูกอยู่ ซึ่งอาจจะไม่สะดวกในการดูเท่าไหร่นัก
สำหรับเมษานี้ ฤดูดูนกเริ่มจากคุณวิรัตน์ ที่โทร.มาปลุกเร้าให้เข้าไปดูนกจับแมลงตะโพกเหลืองที่มีรายงานการพบที่สวนรถไฟอยู่ในเวลานั้น เมื่อวางสาย ทันทีที่จัดเวลาได้ รถที่เคยวิ่งตรงไปก็ออกอาการกินขวาเลี้ยวเข้าพุทธมณฑล และมุ่งตรงไปยังที่ที่คิดว่าจะพบ นั่นคือบริเวณสวนสมุนไพรและเวฬุวัน ซึ่งเป็นป่าไผ่ที่กินบริเวณกว้างขวางและมักจะมีพระจำนวนมากมาปักกลดปฏิบัติธรรมอยู่ในช่วงเดือนปลายพฤษภาคมของทุกปี
และในวันนั้นเองก็พบสมใจ เมื่อนกจับแมลงตะโพกเหลืองหนุ่มรูปหล่อ สีดำ ขาว และเหลืองสดบินแผล็วขึ้นไปบนกิ่งสูงและรก การซุ่มคอยให้นกออกมาโชว์ตัวอีกครั้งจึงเกิดขึ้น หลังจากนั่งรอหลายชั่วโมง นกก็ออกมาให้เจออีกครั้ง และอีกหลายครั้ง ในคราวต่อๆมา
จากนั้นอีกราวสัปดาห์กว่าๆ คุณวิรัตน์โทร.มาอีกครั้ง คราวนี้ด้วยเรื่องนกแต้วแล้วอกเขียวที่น่าจะเดินทางมาถึงแล้ว เมื่อเข้าไปดูอีก ก็ได้เจออีก จัดว่าคุณวิรัตน์เป็นคนมีปากพระร่วงคนหนึ่งทีเดียว ซึ่งปีนี้นกแต้วแล้วทั้งสองชนิดมากันชนิดละสองตัว จะว่าจับคู่กันแล้วเดินทางมาด้วยกันก็ไม่น่าใช่ เพราะดูหวงบริเวณกันทั้งนั้นเลย ไม่เห็นหากินอยู่ร่วมกันเลยสักตัว
เมื่อข่าวการพบนกชนิดนี้แพร่ออกไป นักดูนกจากบริเวณใกล้ๆกรุงเทพก็จัดเวลามาแวะที่ศาลาริมทางในบริเวณเวฬุวันเพื่อรอดูนกแต้วแล้วทั้งสองชนิด และยังได้โอกาสดูนกกะรางคอดำ นกกะรางสร้อยคอเล็ก นกอีแพรดแถบอกดำที่มาตีกัน และนกกางเขนบ้านที่ออกมาโชว์ตัวอยู่เนืองๆด้วย ในปีนี้นักดูนกที่เดินทางมาไกลที่สุดเห็นจะเป็นคุณไข่นุ้ย สมุย ที่เดินทางมาไกลจากสมุยและได้ภาพงามๆของนกชนิดนี้ติดไม้ติดมือกลับไป
จนถึงวันนี้ กระแสของนกแต้วแล้วทั้งสองชนิดยังไม่จางหายไป ยังคงมีคนจากหลายๆที่เดินทางมาดูนกชนิดนี้สักครั้ง หรือหลายครั้ง เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาได้พบนักดูนกกลุ่มหนึ่งมาดูนกแต้วแล้วอกเขียว แต่ไม่เจอ จึงได้พาไปดูนกตบยุงที่อยู่รอให้ถ่ายภาพใกล้ๆอย่างไม่อนาทรร้อนใจ จากนั้นเราก็ไปดูนกแต้วแล้ว เมื่อพบก็พากลุ่มดูนกนี้ไปดู ให้ค่อยๆขยับเข้าหานกจนได้ระยะที่ใกล้ แต่นกก็ไม่หนี ได้แต่ยืนนิ่งๆอยู่ในกอไผ่ ทั้งๆที่เป็นคนกลุ่มใหญ่และไม่ได้ปกปิดอำพรางตัวกันมากนัก ทำให้เกิดเอะใจ ประกอบกับเห็นว่านกถูกเห็บเกาะที่หน้าผากมาระยะหนึ่งแล้วจึงทำให้คิดว่านกอาจจะป่วยก็ได้
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาด้วยความเป็นห่วงจึงเข้าไปดูอีกครั้งพบว่ามีคนเข้าไปถ่ายรูปนกซึ่งอยู่แต่ในกอไผ่ในระยะใกล้อีกจึงเข้าไปขอร้องให้ช่วยถอยออกมาให้ได้ระยะห่างพอสมควร และเมื่อคนถอยออกมาแล้วนกก็ออกมาจากในกอไผ่ที่ยืนนิ่งๆอยู่นาน เพื่อหาอาหาร ไซ้ขน สลัดตัว เห็นได้ชัดเจนว่าเมื่อคนเข้าใกล้นั้นนกเกิดอาการเครียด จึงว่างเว้นจากการกระทำตามปรกติของตัวเอง และอาจจะมีอาการเจ็บป่วยอยู่บ้าง หรือสาเหตุอื่นเพราะไม่อย่างนั้นนกน่าจะบินหนีไปแล้วเมื่อคิดว่าตัวเองถูกคุกคาม
จากนั้นก็เข้าไปอธิบายเหตุผลในการขอให้ออกมาจนถึงระยะพอสมควร บางคนก็อาจจะไม่พอใจ บางคนอาจจะเข้าใจ แต่ก็คิดว่านี่น่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว
อย่างไรก็ตาม ถ้าใครอยากจะเข้าไปดูนกสีสันสวยงามทั้งสองชนิดที่ยังอยู่ในช่วงอพยพผ่านอยู่ที่พุทธมณฑล ก็สามารถเข้าไปได้ที่บริเวณศาลาข้างทาง ป่าเวฬุวัน ขอเพียงแต่ให้เว้นระยะห่างกับนกพอสมควร และพยายามปกปิดตัวเองด้วยชุดสีกลมกลืนกับสิ่งแวดล้อม นั่งหรือค้อมตัวให้ต่ำ และใช้ต้นไม้พุ่มไม้เป็นกำบังตามธรรมชาติ เพียงเท่านี้น้องนกทั้งหลายก็คงจะสบายใจพอที่จะใช้เวลาที่เหลือเก็บเกี่ยวพลังงานจากไส้เดือนอ้วนๆในพุทธมณฑลเพื่อการเดินทางต่อไปในเวลาอีกไม่นาน
Create Date : 08 พฤษภาคม 2550 |
Last Update : 8 พฤษภาคม 2550 20:34:54 น. |
|
15 comments
|
Counter : 4969 Pageviews. |
|
|
|
โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 8 พฤษภาคม 2550 เวลา:20:23:42 น. |
|
|
|
โดย: อนันตลัย วันที่: 8 พฤษภาคม 2550 เวลา:21:46:54 น. |
|
|
|
โดย: waxgourd (WaxGourd ) วันที่: 9 พฤษภาคม 2550 เวลา:0:39:10 น. |
|
|
|
โดย: แป๊ะ (Mr.3pMan ) วันที่: 9 พฤษภาคม 2550 เวลา:5:29:02 น. |
|
|
|
โดย: จันทร์น้อย วันที่: 9 พฤษภาคม 2550 เวลา:9:38:59 น. |
|
|
|
โดย: Jinsee วันที่: 9 พฤษภาคม 2550 เวลา:15:15:32 น. |
|
|
|
โดย: UnEdiTED วันที่: 9 พฤษภาคม 2550 เวลา:21:31:45 น. |
|
|
|
โดย: quin toki วันที่: 10 พฤษภาคม 2550 เวลา:10:52:55 น. |
|
|
|
โดย: JA (weraj ) วันที่: 10 พฤษภาคม 2550 เวลา:12:42:39 น. |
|
|
|
โดย: PANDIN วันที่: 10 พฤษภาคม 2550 เวลา:16:27:32 น. |
|
|
|
โดย: จันทร์น้อย วันที่: 10 พฤษภาคม 2550 เวลา:17:50:48 น. |
|
|
|
โดย: UnEdiTED วันที่: 10 พฤษภาคม 2550 เวลา:18:02:06 น. |
|
|
|
โดย: kayook วันที่: 10 พฤษภาคม 2550 เวลา:21:22:41 น. |
|
|
|
โดย: จันทร์น้อย วันที่: 11 พฤษภาคม 2550 เวลา:20:32:26 น. |
|
|
|
| |
|
|
สีสวยจริงจริงค่ะ
เห็นแล้วมีความสุข