|
ท่านเซอร์ชม รูนี่ย์ แสดงให้เห็นถึงวุฒิภาวะที่มากขึ้น
"เป็นแรงบันดาลใจ"
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีมของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังขยันออกมายกย่อง เวย์น รูนี่ย์ ดาวยิงลูกรัก ชนิดไม่มีเบื่อชี้ "รูนัลโด้" เป็นเหมือนแรงบันดาลใจสำหรับทุกคนที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด และเนื่องในโอกาสที่อายุครบ 21 ปีบริบรูณ์ ในวันอังคารที่ 24 ต.ค. "เจ้าหมูบิน" ได้แสดงให้เห็นถึงการมีวุฒิภาวะที่มากขึ้น
จากประสบการณ์มากมายที่ได้รับ ทั้งในเวที ยูโร 2004 และฟุตบอลโลก 2006 เส้นทางค้าแข้งของ รูนี่ย์ จนถึงตอนนี้ เขาประสบความสำเร็จเพียงแค่การคว้าแชมป์ ลีก คัพ เมื่อฤดูกาลก่อน แต่ถึงอย่างนั้นเขากลับเป็นนักเตะทรงคุณค่าของอังกฤษ ทั้งที่อายุเพิ่งครบ 21 ปี ไล่ตั้งแต่ การสร้างชื่อในฐานะนักเตะอายุน้อยสุดที่ลงเล่นให้ เอฟเวอร์ตัน,อายุน้อยสุดที่ลงเล่นให้อังกฤษ ทั้งยังผ่านมหกรรมลูกหนังยิ่งใหญ่จากเวที ยูโร 2004 และ เวิลด์ คัพ 2006 "ที่สุดของที่สุด"
มาแล้วยอดกุนซือเลือดวิสกี้ กล่าวว่า "ตอนที่เราเซ็นสัญญากับเขาตอนอายุ 18 ปี ทุกคนพูดว่าเขาจะเป็นยังไงตอนอายุ 21 ตอนนี้เขาอายุ 21 และก็มีการพูดกันว่า เขาจะเป็นยังไงตอนอายุ 25 ผมเดาว่ามันคงจะมีเส้นทางที่ถูกกำหนดเอาไว้แบบนี้ตลอดไป เพราะ เวย์น คือที่สุดของที่สุดจริงๆ เขาไม่ได้มีแค่ความสามารถ แต่เขามีพลังอยู่ข้างใน เหมือนเด็กๆ หลายคนที่เข้ามาอยู่ในทีมของเรา ไรอัน กิ๊กส์ ก็เป็นแบบนี้ เขาเป็นแค่เจ้าหนูตัวเล็กๆ
ตอนเข้ามาอยู่ในทีมตอนอายุ 16 ส่วน เวย์น เราไม่ต้องไปดูแลเลย เพราะเขามีสภาพร่างกายที่สุดมหัศจรรย์ อดีตยอดโค้ชของ "สิงห์แดง" อเบอร์ดีน กล่าว พร้อมชี้ว่า รูนี่ย์ โตขึ้นมากแล้วตอนนี้ และสิ่งที่พิสูจน์ความคิดของ เฟอร์กี้ คือการที่เขาให้ รูนี่ย์ เป็นกัปตันทีมในเกมชนะ โคเปนเฮเก้น 3-0 ในศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก"ความกระตือรือร้นของเขาเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคน เดี๋ยวนี้ผมไม่ค่อยถอดเขาออกจากทีมมากนัก เพราะเวลาผมทำแบบนั้นทีไรเขามักจะทำหน้าเซ็งทุกที เพราะนั่นคือบุคลิกของเขา เขาแสดงให้เห็นความกระหายและความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่อยู่ตลอดเวลาและไม่ต้องสงสัยเลยว่า เขาเป็นนักเตะอายุ 21 ที่ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยมี"
แหล่งข้อมูล : พรีเมียร์ดรีม
Create Date : 26 ตุลาคม 2549 | | |
Last Update : 26 ตุลาคม 2549 12:50:18 น. |
Counter : 222 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
สโคลส์-ริโอ ซัดช่วยผีหักปีกหงส์2-0 ทวงจ่าฝูงคืนจากสิงห์บลูส์
พอล สโคลส์ และริโอ เฟอร์ดินานด์ ช่วยกันยิงคนละประตูช่วยให้ ผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านหักปีก หงส์แดง ลิเวอร์พูล 2-0 ในศึกแดงเดือดของฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ และก็เป็นการทวงตำแหน่งจ่าฝูงคืนมาจาก สิงห์บลูส์ เชลซี
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 22 ตุลาคม 2549 20:57 น.
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นำพลพรรค ผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดสนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ทำศึกแดงเดือดกับ ลิเวอร์พูล คู่ปรับตลอดกาลแห่งศึกพรีเมียร์ชิป
โดยเกมนี้เจ้าถิ่นได้ แกรี่ เนวิลล์ , ริโอ เฟอร์ดินานด์ กลับมาปักหลักในแดนรับดังเดิม ส่วนในแผงมิดฟิลด์ให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกจอมกระชากเริ่มต้นที่ม้านั่งสำรองไปก่อน แดนหน้าเป็นการประสานงานกันระหว่าง เวย์น รูนี่ย์ กับ หลุยส์ ซาฮา โดยมี โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เป็นตัวทีเด็ดอยู่ข้างสนาม
ด้าน ราฟาเอล เบนิเตซ มีการหมุนเวียนนักเตะ ให้ หงส์แดง ตามคาดและก็ปรับแท็คติกมาเล่นแบบ 4-5-1 ส่ง สตีวี่ จี สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีมซึ่งหายบาดเจ็บกลับมาช่วยงาน โมฮัมเหม็ด ซิสโซโก้ และชาบี้ อลอนโซ่ ดังเดิม เกมริมเส้นให้ หลุยส์ การ์เซีย และมาร์ค กอนซาเลซ คอยปั่นป่วนแผงเกมรับ ผีแดง ส่วนหน้าเป้าเป็น เดิร์ค เคาท์ ที่ได้โอกาสก่อน ปีเตอร์ เคร้าช์ หัวหอกก้านยาว
เริ่มเกมการแข่งขันเป็น ลิเวอร์พูล ทีมเยือนที่สามารถครองบอลได้มากกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด แต่จังหวะลุ้นทำประตูยังไม่มี
ถึงนาทีที่ 8 กองเชียร์เจ้าบ้านได้ลุกขึ้นลุ้นเมื่อ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ อาศัยความขยันตามไปบล็อกบอลจาก ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ หลุดเข้าไปในเขตโทษ โฮเซ่ เรน่า พยายามวิ่งออกมาสไลด์แต่ เฟล็ทเชอร์ ยังปั๊มบอลไปครองได้แต่จังหวะเปิดเข้ากลางโดนแผงหลัง หงส์แดง ที่ตามกันลงมาเคลียร์ทิ้งไปได้
ผ่าน 20 นาทีแรก แมนฯ ยูไนเต็ด เริ่มเป็นฝ่ายตั้งเกมและก็ทำเกมรุกอย่างต่อเนื่องทำให้ ลิเวอร์พูล ต้องถอยไปเล่นเกมรับ หลุยส์ ซาฮา ได้ตวัดยิงด้วยขวาจากจังหวะที่กองหลังทีมเยือนเคลียร์ไม่ขาด เรน่า ปัดออกมายังโชคดีที่ไม่มีนักเตะเสื้อแดงคนได้เข้าไปซ้ำถึง
สามนาทีถัดมา ซาฮา ได้โอกาสลองสับไกจากนอกกรอบแต่ยังไม่ผ่านมือนายทวารทีมชาติสเปน
ครึ่งชั่วโมงพอดี มาร์ค กอนซาเลซ กระชากหลุดขึ้นไปทางซ้าย แต่โดน ริโอ เฟอร์ดินานด์ บังเอาไว้แต่ก็ยังได้เปิดด้วยขวาเข้ากลางให้ เดิร์ค เคาท์ ลอยตัวโขกเหน่งๆ แต่บอลพุ่งไปตรงตัว เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์
เจ้าถิ่นตอบโต้กลับไปเช่นกัน เวย์น รูนี่ย์ จ่ายบอลคืนให้ แกรี่ เนวิลล์ เติมขึ้นมาเปิดให้ ซาฮา กระโดดขวิดต่อ รูนี่ย์ พยายามแหย่เท้าเข้ายิงแต่ เรน่า วิ่งออกมาคว้าบอลได้หวุดหวิด
แต่ถึงนาทีที่ 39 แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ทะยานนำ 1-0 จนได้เมื่อ รูนี่ย์ ป้ายบอลออกซ้ายให้ ไรอัน กิ๊กส์ เปิดบอลเรียดเข้ากลาง พอล สโคลส์ วิ่งเข้ามาจิ้มบอลแฉลบ เรน่า ก่อนที่จะตามเข้าไปซ้ำบอลตุงตาข่ายแม้ว่า ซามี่ ฮูเปีย พยายามช่วยเคลียร์แต่ก็ไม่ทันการ และนี่ก็ถือเป็นการยิงประตูฉลองการลงสนามให้ ผีแดง ครบ 500 นัดพอดิบพอดี
อีกสองนาทีถัดมาเจ้าบ้านเกือบนำห่าง
ซาฮา ตะบันด้วยขวาจากนอกกรอบแต่นายทวารทีมเยือนพุ่งปัดปลายมือพ้นเสาไปได้ ช่วงทดเจ็บ ลิเวอร์พูล ได้ลุ้นเช่นกันจากการยิงบริเวณกรอบโทษของ ชาบี้ อลอนโซ่ แต่บอลไม่ตรงกรอบ จบ 45 นาทีแรก เจ้าบ้านยังรักษาความได้เปรียบเอาไว้ได้
เปิดฉากครึ่งหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด เริ่มตั้งเกมบุกได้ก่อน
เนวิลล์ เติมขึ้นมาเปิดบอล สตีฟ ฟินแนน โหม่งเคลียร์มาเข้าทางให้ ซาฮา ได้ยิงด้วยซ้ายแต่ตั้งเท้าไม่ดีบอลกระดอนพื้นออกข้างไป เมื่อเกมยังไม่มีทีท่าดีขึ้น ราฟาเอล เบนิเตซ ชิงจังหวะเปลี่ยนตัวเร็วส่ง เจอร์เมน เพนแนนท์ ลงมาทำเกมให้ลิเวอร์พูลแทน กอนซาเลซ ซึ่งดูจะมีอาการเจ็บตั้งแต่ครึ่งแรก
ผ่านหนึ่งชั่วโมงเต็ม เจ้าถิ่นเริ่มเน้นเกมให้แน่นโดยเฉพาะในแดนตัวเองทำให้ ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายได้ครองบอลมากขึ้น แต่ยังไม่มีจังหวะลุ้นทำเกมบุกเท่าที่ควร
เมื่อ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ทำเกมขึ้นมาอีกครั้ง ก็เป็นสกอร์นำห่าง 2-0 ในนาทีที่ 66 เริ่มจากจังหวะที่ เจมี่ คาร์ราเกอร์ เคลียร์บอลไม่ขาดหลุดไปให้ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ซึ่งเติมขึ้นมาโชว์เหนือล็อกหนึ่งจังหวะก่อนตะบันด้วยซ้ายส่งบอลพุ่งเข้าไปเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม
เข้าสู่ช่วง 20 นาทีสุดท้าย ลิเวอร์พูล จำเป็นต้องส่ง ปีเตอร์ เคร้าช์ ลงมาช่วยเกมรุก
เนื่องจากสกอร์ตามห่างและก็ถอด อลอนโซ่ ซึ่งบทบาทในเกมนี้ค่อนข้างน้อย แต่ยังเป็นเจ้าบ้านได้ลุ้นอีกจากความสามารถเฉพาะตัวของ กิ๊กส์ ที่ลากตัดจากซ้ายไปขวาก่อนตัดสินใจยิงหักมุมบอลย้อนหลุดคานไปไม่ห่าง ช่วงท้ายเกมทีมเยือนพยายามลุ้นตีไข่แตกแต่ก็ไม่เป็นผล
ครบ 90 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด รักษาสกอร์เอาชนะคู่ปรับตลอดกาลไปได้ เก็บเพิ่มเป็น 22 คะแนนจากการลงสนาม 9 นัด แซง แชมป์เก่า เชลซี ขึ้นไปเป็นจ่าฝูงด้วยประตูได้-เสียที่ดีกว่า ส่วน ลิเวอร์พูล มีอยู่ 11 แต้มเท่าเดิม
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ , แกรี่ เนวิลล์ , ริโอ เฟอร์ดินานด์ , เนมันย่า วิดิช , ปาทริซ เอวร่า , ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ , ไมเคิล คาร์ริค , พอล สโคลส์ , ไรอัน กิ๊กส์ , เวย์น รูนี่ย์ , หลุยส์ ซาฮา
ลิเวอร์พูล : โฮเซ่ เรน่า , สตีฟ ฟินแนน , เจมี่ คาร์ราเกอร์ , ซามี่ ฮูเปีย , ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ , สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด , ชาบี้ อลอนโซ่ , โมฮัมเหม็ด ซิสโซโก้ , มาร์ค กอนซาเลซ , หลุยส์ การ์เซีย , เดิร์ค เคาท์
Create Date : 26 ตุลาคม 2549 | | |
Last Update : 26 ตุลาคม 2549 12:48:25 น. |
Counter : 194 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
ผีเริ่มเจรจาสัญญาฉบับใหม่กับ รูนี่ย์ แล้ว คาดอยู่ยาว
"สัญญามูลค่ามหาศาล"
"ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ชิพ ออกมายืนยันเมื่อวันอังคารที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมาว่าได้มีการเริ่มต้นเจรจาสัญญาฉบับใหม่กับ เวย์น รูนี่ย์ หัวหอกตัวเก่งของทีมแล้ว โดยเป็นสัญญาที่มีมูลค่ามหาศาลและจะช่วยรั้งตัวดาวเตะวัย 21 ปีเอาไว้ในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ต่อไปจนกระทั่งเลิกค้าแข้งเลยทีเดียวมีการคาดหมายว่าสัญญาฉบับใหม่ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จะมอบให้กับ รูนี่ย์ นั้นมีระยะเวลายาวนานถึง 10 ปี
และมีมูลค่ามหาศาลถึง60-80 ล้านปอนด์ (4,200-5,600 ล้านบาท) เลยทีเดียว ซึ่งจะทำให้กองหน้าทีมชาติอังกฤษกลายเป็นนักฟุตบอลที่มีค่าเหนื่อยสูงสุดในโลกไปในทันที โดยปัจจุบัน เดวิด กิลล์ ประธานบริหารสโมสรปีศาจแดง กำลังเจรจากับ พอล สเตรทฟอร์ด ที่ปรึกษาของนักเตะอยู่ในเวลานี้การเจรจาได้เริ่มต้นขึ้นและทั้ง 2 ฝ่ายก็หวังว่าจะได้ข้อสรุปที่น่าพอใจ"โฆษกสโมสร แมนฯ ยูไนเต็ด กล่าว
แหล่งข้อมูล : พรีเมียร์ดรีม
Create Date : 26 ตุลาคม 2549 | | |
Last Update : 26 ตุลาคม 2549 12:38:56 น. |
Counter : 364 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
รูนี่ย์ลั่นคืนฟอร์มเก่งแล้ว เชื่ออีกไม่นานยิงสนั่นแน่
เวย์น รูนี่ย์ หัวหอกทีมชาติอังกฤษของ แมนฯ ยูไนเต็ด ลั่นฟอร์มเก่งกลับมาแล้ว หลังได้รับโอกาสให้สวมปลอกแขนกัปตันลงเล่นในนัดที่ขุนพล "ปีศาจแดง" เปิดบ้านไล่ต้อน เอฟซี โคเปนเฮเก้น 3-0 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแรก เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา บอกตอนนี้ยิ่งเล่นยิ่งดี เชื่ออีกไม่นานกลับมาสังหารประตูได้เป็นกอบเป็นกำแน่
เวย์น รูนี่ย์ กองหน้ากัปตันทีมจำเป็นของ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในนัดที่พลพรรค "เร้ด เดวิลส์" เปิดถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เอาชนะ เอฟซี โคเปนเฮเก้น สโมสรจากเดนมาร์ก 3-0 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแรก กลุ่ม เอฟ เมื่อวันอังคารที่ 17 ต.ค. ที่ผ่านมา มั่นใจว่าเวลานี้ฟอร์มเก่งของตนเริ่มกลับมาอีกครั้งแล้ว ภายหลังโดนวิจารณ์อย่างหนักเรื่องฟอร์มการเล่นที่ตกต่ำอยู่ในขณะนี้
ดาวยิงวัย 20 ปี ที่ยังยิงประตูไม่ได้เลยให้ทั้งต้นสังกัด และทีมชาติ นับตั้งแต่เกมประเดิมฤดูกาลนี้ ที่เอาชนะ ฟูแล่ม 5-1 ได้กล่าวว่า "พวกเราเล่นได้น่าพอใจมากจริงๆ พวกเรายิงได้ 3 ประตูและเก็บ 3 แต้มได้ ซึ่งมันเป็นชัยชนะนัดสำคัญมากในคืนนี้ พวกเรามีโอกาสยิงประตูมากมายหลายครั้ง แต่ท้ายที่สุด มันก็แค่ทำให้เราพึงพอใจกับการเก็บ 3 แต้มได้สำเร็จ เห็นได้ชัดว่าเรามีนักเตะบาดเจ็บ 2-3 คน ส่วน กิ๊กซี่ (ไรอัน กิ๊กส์) ก็ป่วยก่อนที่พวกเราจะลงสนามพร้อมมอบปลอกแขนกัปตันให้ผม"
"ผมก็พอใจเป็นอย่างมาก แต่มันไม่ใช่ประเด็นสำคัญของค่ำคืนนี้ ฟอร์มการเล่นของผมดีขึ้นเรื่อยๆ ผมพอใจกับฟอร์มการเล่นของผมในนัดที่เจอกับ วีแกน (แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 3-1 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา) และอีกครั้งก็เป็นในค่ำคืนนี้ ผมคิดว่าอีกไม่นานผมก็จะคืนฟอร์มสุดยอดของตัวเองอีกครั้ง" อดีตดาวเตะ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน กล่าว
Create Date : 18 ตุลาคม 2549 | | |
Last Update : 18 ตุลาคม 2549 12:34:32 น. |
Counter : 293 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|