My new sofa slipcover!... โปรเจ็คยักษ์ 'ผ้าคลุมโซฟา' ^^




ตั้งชื่อหัวข้อซะดูยิ่งใหญ่ แต่จริงๆก็แค่ผ้าคลุมโซฟาขนาดสองคนนั่งแค่นั้นเอง (สามคนก็ได้นะ แต่ต้องเบียดๆกันหน่อย อิอิ)
นอกเหนือจากสติคเกอร์ลายดอกที่ติดบนกระเบื้องในครัวแล้ว การทำผ้าคลุมโซฟาก็ดูท่าว่าจะกลายเป็นไฮไลท์ของบล้อก ~ Cerulean Blue ~ ไปแล้วเหมือนกันเนอะ อันนี้ดูจากฟี้ดแบ็คของคนอ่านหลายๆคนที่ถามถึงและพูดถึงกันทั้งหน้าไมค์และหลังไมค์ อ่านแล้วรู้สึกเป็นปลื้มและมีกำลังใจทำนั่นทำนี่เพิ่มขึ้นเยอะมากๆ (เลยยิ่งไฮเปอร์ขึ้นไปอีก) ถึงขนาดมีคนแซวขำๆว่าจะขยันไปไหน.... จริงๆสาเหตุที่ฉันขยันทำนู่่นนี่ตลอดคงเป็นเพราะได้ทำในสิ่งที่ชอบและถนัดด้วยมั้ง เลยทำไปได้เพลินๆ ทำไปได้เรื่อยๆ สนุกสนาน...










การทำผ้าคลุมโซฟาดูผิวเผินเพื่อนๆอาจจะคิดว่ามันยาก ซึ่งคงเป็นเพราะว่าเป็นงานขนาดใหญ่ด้วย เห็นหลายคนอยากทำแต่อาจจะยังไม่กล้าลงมือทำ แต่บอกได้เลยว่าถ้าได้ลองทำจริงๆแล้วเพื่อนๆจะเห็นว่ามันไม่ยากอย่างที่คิด เผลอๆอาจจะติดใจไปเลยก็ได้ นี่ฉันพูดจริงๆนะ คือมันเป็นงานที่ไม่ได้ใช้เทคนิคเย็บอะไรมาก ที่ต้องใช้หลักๆคือความอดทนและต้องใจเย็นค่อยๆเย็บค่อยๆทำไปแค่นั้นเอง อ้อ..และควรจะมีจักรเย็บด้วยเพื่อช่วยทุ่นแรง อิอิ

ถ้าใครคิดอยากจะลองทำฉันแนะนำว่าก็ลองลงมือเลย ไม่ต้องกลัวว่ามันจะออกมาไม่ดี อย่างฉันที่ลองทำครั้งแรก ตอนนั้นยังเย็บจักรไม่เป็นด้วยซ้ำ แต่พอทำไปๆมันก็เริ่มคล่องเอง และถ้านับๆดูแล้ว นี่เป็นผ้าคลุมโซฟาผืนที่ 4 ที่ฉันทำล่ะ ฮี่ๆๆ... แอบภูมิใจนะเนี่ย







ผ้าคลุมผืนเก่าที่ทำให้กับโซฟาตัวนี้ถือว่าเป็นงานฝีมือชิ้นแรกที่เอามาเขียนลงในบล้อกด้วย ตอนนั้นคิดว่าจะเอาเป็นแค่งานทดลองเท่านั้นเอง แต่ไปๆมาๆทำเสร็จก็ใช้งานมันซะคุ้มเลย จนขาดเป็นรูโบ๋อย่างที่เห็นในภาพข้างบน ฉันแอบโทษโทบี้ที่ชอบขึ้นไปนั่งขี่ดูวิวตรงนั้นบ่อยเกินไป อิอิ.... ว่าแล้วก็แปะรูปประกอบให้เห็นภาพด้วยดีกว่า...ตลกดีนะ











พอขาดเป็นรูใหญ่ขนาดนี้ ก็ถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแล้วเนอะ...

ตอนตัดสินใจลงมือกับโปรเจ็คผ้าคลุมผืนใหม่นี้ อย่างแรกที่ทำก่อนคือการเลือกว่าจะเอาผ้าสีขาวเหมือนเดิมหรือจะเอาเป็นลายดอกดี ด้วยความที่ไม่แน่ใจก็เลยลองเอาผ้าทั้งสองแบบมาลองทาบบนโซฟาดูว่าอันไหนจะสวยกว่ากัน และคิดอยู่คืนนึง สุดท้ายก็ตัดสินใจเอาลายดอก (เอารูปไปโพสต์ในเฟซบุค เพื่อนๆต่างพากันเชียร์ลายดอกด้วย อิอิ)










ส่วนขนาดผ้าก็กะคร่าวๆว่าน่าจะซักประมาณหกเมตร วันต่อมาเลยไปดูผ้าแคนวาสลายดอกที่ตลาดผ้าใกล้ๆที่ทำงาน ลายสวยมากแต่ว่ามันแพง ราคาตกเมตรละตั้ง 15 ยูโรแน่ะ คูณหกเมตรไปก็หลายตังค์อยู่ ฉันเลยเปลี่ยนใจไม่ซื้อดีกว่า ค่ำมาหลังเลิกงานเลยชวนแพทริคขับรถกันไปที่ Ikea และไปสอยผ้าแคนวาสสีขาวจากที่นั่นมาแทน เมตรละ 4.99 ยูโรเอง ประหยัดกว่ากันไปเยอะ

ได้ผ้ามาก็เริ่มวัดเริ่มตัดทันที ไม่ค่อยจะเห่อเลยเนอะ อิอิ...และห้องทำงานที่ใช้วัดและตัดผ้าก็คือห้องนั่งเล่นนั่นเอง ส่วนเวลาเย็บจักรก็ไปเย็บที่โต๊ะกินข้าวในครัวเหมือนเดิม

ตอนทำผ้าคลุมครั้งแรกฉันไม่ทันคิดถึงการใช้กระดาษลอกลายก่อน เพราะตอนนั้นมือใหม่กับการเย็บมากๆ ไม่ค่อยจะรู้เรื่องอะไร พอหลังๆได้ฝึกปรือฝีมือมากขึ้นจากการทำผ้าคลุมให้เก้าอี้สองตัวนี้ ได้ลองผิดลองถูกบ่อยๆเทคนิคต่างๆก็เกิดตอนนั้นเอง การใช้กระดาษวัดก่อนแล้วถึงเอาไปทาบกับผ้าก่อนจะตัดเป็นชิ้นๆ ทำให้งานง่ายขึ้นเยอะและสะดวกมากๆ ถ้าเพื่อนๆสนใจวิธีทำผ้าคลุมอย่างละเอียดก็ลองคลิกไปดู"บล้อกนี้"ได้เลยจ้ะ ถึงจะเป็นโซฟาคนละแบบกัน แต่ขั้นตอนการทำเหมือนกันเป๊ะ
















คราวนี้การทำผ้าคลุมใช้เวลานานกว่าที่คิด ราวๆเดือนนึงนับตั้งแต่วันที่ซื้อผ้ามา จริงๆฉันทำๆหยุดๆ ไม่ค่อยต่อเนื่องกันเท่าไหร่ และทำไปได้ครั้งละนิดละหน่อยเพราะว่ามีเวลาน้อยเนื่องจากต้องทำงานและมีธุระอื่นๆต้องสะสางไปด้วย ตกลงห้องรับแขกก็อยู่แบบรกๆอย่างนั้นเป็นเดือนเลย โชคดีนะเนี่ยที่ช่วงนั้นไม่มีแขกมาบ้าน

แต่สุดท้ายก็ทำเสร็จจนได้....พร้อมกับนิ้วที่เยินจากการโดนเข็มหมุดทิ่ม เหอๆๆ แต่ผลงานออกมาสวยงามและน่าพอใจมากๆ










ระหว่างที่ทำเจอปัญหานิดหน่อยคือฉันตัดผ้าพอดีเกินไป และพอคราวนี้ใช้ผ้าแคนวาส มันไม่ยืดเหมือนผ้าอันเก่า แล้วโซฟาตัวนี้ก็มีส่วนโค้งเว้าเยอะกว่าเก้าอี้อีกสองตัวที่เคยทำ พอเย็บแล้วสวมลงไปปรากฏว่าสวมไม่ได้ มันตึงเกิน เลยใช้วิธีแก้ปัญหาด้วยการติดซิปเพิ่มลงไปที่มุมสองมุมของผ้าคลุม(รูปประกอบด้านล่าง) ซึ่งก็ช่วยได้ดีทีเดียว แต่ต้องนั่งเลาะนั่งแก้อยู่นานเลย ส่วนเบาะรองนั่งก็ใช้วิธีติดซิปเอา เพื่อให้ถอดออกไปซักง่ายขึ้นด้วย ทำผ้าคลุมคราวนี้ใช้ซิปเปลืองมากมาย ดีนะเนี่ยที่ใช้ซิปจากเมืองไทย ถ้าซื้อที่นี่งบทำผ้าคลุมคงสูงขึ้นไปอีกแน่ๆ










อ้อ...ผ้าไม่พอด้วย ตอนซื้อผ้าฉันลืมคิดเรื่องเบาะรองนั่งกับหมอนอิงไป เลยเลาะเอาผ้าอันเก่ามาใช้ตรงเบาะด้านล่างแทน ผ้าไม่เหมือนกันแต่ก็ไม่เป็นปัญหาเพราะถ้าวางเบาะลงไปมันก็มองไม่เห็น สุดท้ายเบ็ดเสร็จใช้ผ้าไปทั้งหมด 6.5 เมตร

นอกจากนั้นฉันก็ทำ(ปลอก)หมอนอิงเพิ่มด้วย ถือเป็นวิธีเพิ่มสีสันให้กับโซฟาสีขาว ออกมาเข้ากันดีมากๆเลย สรุปว่าโปรเจ็คนี้ประสบผลสำเร็จและออกมาได้ดั่งใจและน่าพอใจมากๆ และที่ดีใจที่สุดอีกอย่างคือตอนนี้ห้องนั่งเล่นกลับมาเรียบร้อยสะอาดสะอ้านเหมือนเดิมแล้ววววว ฮี่ๆๆ...

หวังว่าเพื่อนๆจะถูกใจกับผลงานของฉันคราวนี้นะจ้ะ ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านกัน และไว้เจอกันใหม่บล้อกหน้าจ้าาา















หมายเหตุ : มีหลายคนสงสัยว่าโซฟาสีขาวแบบนี้นี่มันจะดูแลยากไหม?
จากการที่ใช้โซฟาสีขาวมาหลายปีคำตอบสำหรับฉันก็คือ'ไม่ยากนะ' ถึงฉันจะเลี้ยงหมาก็ตามแต่มันก็ไม่ได้ดูแลยากอย่างที่คิดกัน ที่ต้องทำำอาจจะแค่ดูว่าโทบี้เท้าสกปรกไหมตอนขึ้นมานั่ง แค่นั้นเอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นฉันว่าก็แล้วแต่ปัจจัยรอบตัวของแต่ละบ้านและไลฟ์สไตล์แต่ละคนด้วย สีขาวมันดูสวยก็จริงแต่ก็ต้องดูความเหมาะสมด้วยเนอะ บ้านไหนมีเด็กนี่ก็คงลำบากแน่นอนถ้ามีโซฟาสีขาว

ฉันว่าการแต่งบ้านให้สวยงาม พร้อมกับใช้งานไปด้วยได้ในตัวจะว่าไปมันก็หาจุดลงตัวยาก สภาพอากาศก็มีส่วน อย่างสมมติถ้่าให้ฉันไปแต่งบ้านอย่างที่แต่งตอนนี้ที่เมืองไทยก็ไม่รู้จะเวิร์คไหม ไว้ซักวันถ้ามีตังค์ซื้อบ้านที่เมืองไทยแล้วจะลองแต่งดูแล้วมาเปรียบเทียบกันเนอะ เหอๆๆ แต่คาดว่าวันนั้นคงไม่มีเพราะสมมติถ้ามีตังค์ก็คงเอามาใช้กับบ้านที่นี่แทนแน่ๆ อิอิ

ไปจริงๆแล้ว ไว้คุยกันใหม่บล้อกหน้าจ้าาาาา...^_^












 

Create Date : 09 สิงหาคม 2554    
Last Update : 15 มิถุนายน 2560 1:45:10 น.
Counter : 22233 Pageviews.  

Shabby shabby...เก่านิดๆ ถลอกหน่อยๆ...


Our new-old cabinet...



Shabby chic คือคำๆหนึ่งที่มักจะได้ยินหรือเห็นบ่อยๆในแวดวงของคนแต่งบ้านหรือคนที่สนใจการแต่งบ้าน แต่เพื่อนๆรู้กันไหมว่ามันหมายถึงอะไร และแบบไหนถึงจะเรียกว่า Shabby chic?

Shabby chic ถ้าอธิบายให้เข้าใจง่ายๆคือสไตล์การแต่งบ้านที่เน้นการใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีร่องรอยของความเก่า (รอยถลอกของสี รอยขูดขีดจากการใช้งาน ฯลฯ) ทั้งแบบที่เก่าจริงๆโดยธรรมชาติหรือตามอายุการใช้งานจริง และแบบที่ไม่เก่าจริงแต่มาทำให้มีร่องรอยโดยตั้งใจทีหลัง รวมไปถึงของแต่งบ้านแนววินเทจอื่นๆที่ให้ความรู้สึกหญิงๆ (feminine feel) ก็สามารถเรียก Shabby chic ได้เช่นกัน










โดยปกติเฟอร์นิเจอร์แนวนี้ค่อนข้างขายกันแพงมาก แล้วคนที่ไม่อินเรื่องการแต่งบ้านก็มักจะมองอย่างขำๆ อย่างแพทริคเป็นต้น ฮ่าฮ่า.. เวลาไปเดินเล่นตามร้านขายเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านแนวนี้ มักจะได้ยินคอมเม้นต์ประมาณว่า "อะไรเนี่ย..ตู้เกือบพังและสีถลอกเนี่ยนะ ราคาตั้ง..$$$..!!" หรือไม่ก็มีคำแนะนำตลกๆอย่าง "จินนี่ เธอเอาโต๊ะเก่าที่เรามีไปวางนอกบ้าน ตากแดด ตากลม ตากฝน(+หิมะ) ซักเดือนนึง รับรองเธอได้โต๊ะที่หน้าตาเดียวกะที่ขายในร้านเด๊ะเลย..."

อย่ากระนั้นเลย เราอย่าไปเสียเวลาสนใจคำแนะนำตลกๆจากคนที่ไม่เข้าใจและไม่อินเรื่องการแต่งบ้านอย่างแพทริคดีกว่า อิอิ... รวมถึงอย่าเสียเวลาไปนั่งคร่ำครวญ บ่นร่ำไรว่าทำไมมันแพงอย่างนี้หนอ.... ถ้ารักการแต่งบ้านซะอย่าง อะไรก็มาขัดขวางเราไม่ได้ใช่ไหม เวลาแต่งบ้านฉันจะยึดคติที่ว่า "ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ และทุกอย่างมีทางเลือกเสมอ" จริงๆของพวกนี้ ถ้าไปซื้อที่ร้านจะแพงมากๆ อีกทั้งส่วนมากเป็นแบบเอามาทำให้เก่าเองด้วย ไม่ใช่เก่าโดยธรรมชาติจริงๆ (ที่รู้เพราะคนที่ทำงานแนวนี้และเปิดร้านขายของพวกนี้เล่าให้ฟัง) คิดๆแล้วมันแพงจนน่าตกใจทั้งๆที่ต้นทุนก็น่าจะไม่กี่ตังค์ เพราะฉะนั้นถ้ารู้วิธีแล้วลงมือทำเองได้จะประหยัดกว่ามากๆ แถมง่าย เสียเวลาแค่แป๊บเดียว อีกทั้งน่าภูมิใจกว่าเพราะมันมาจากฝีมือเราเอง ใช่ไหม...

สรุปแล้ว...เรามาลงมือทำเองดีกว่าเนอะ ...







ดอกไม้ในแจกันนี่ตัดจากสวนหลังบ้านเราเอง ^^



และแน่นอนก่อนอื่นต้องหาเฟอร์นิเจอร์เก่ากันก่อน แหล่งที่จะหาของพวกนี้ได้ก็คือตามเว็บขายของมือสองทั่วไป รวมไปถึงร้านขายของเก่า หรือตามตลาดนัดของเก่า และหลักการก็เช่นเดียวกับการนำเฟอร์นิเจอร์เก่ามาทำใหม่ที่ฉันทำเป็นงานอดิเรกปกติอยู่แล้ว (ถ้าใครสนใจก็ลองเปิดอ่านเล่นๆในบล้อกเก่าๆที่ฉันเขียนไว้ก็ได้) คือของอย่างนี้บางทีต้องตาถึงหน่อย เพราะไม่ใช่ว่าเฟอร์นิเจอร์เก่าทุกชิ้นจะสามารถนำมาเปลี่ยนหน้าตาแล้วดูดีขึ้นมาได้เสมอไป เผลอๆอาจจะทำให้มันดูเชยยิ่งกว่าเดิมเข้าไปอีก บางทีเราต้องนั่งเลือก นั่งพิจารณากันว่ารูปลักษณ์แบบไหนถึงโดน ซึ่งถือเป็นขั้นตอนที่ต้องใช้จินตนาการมาเกี่ยวข้องนิดนึง

ว่าแต่แบบไหนล่ะถึงจะ "โดน"...

จริงๆถ้าคนไม่เคยทำงานแบบนี้มาก่อนอาจจะรู้สึกว่ามันยากในตอนแรกๆเพราะไม่รู้จะเลือกยังไง ฉันแนะนำว่าต้องลองทำและลองผิดลองถูก ฝึกปรือฝีมือซักพักแล้วจากนั้นมันจะมาถึงจุดหนึ่งที่เวลาเห็นอะไรปุ๊บ จินตนาการของเราจะทำงานของมันไปเองโดยอัตโนมัติ ประมาณว่ามีภาพอยู่ในหัวชัดเจนแล้วทันทีที่เห็นนั่นเอง










สำหรับตู้กระจกใบนี้ฉันเคยเกริ่นๆไว้แล้วถึงที่มาไว้ในบล้อกนี้... เพราะฉะนั้นไม่พูดพล่ามทำเพลง เรามาคุยถึงเรื่องขั้นตอนการเปลี่ยนหน้าตากันเลยดีกว่า


อย่างแรกเลยอย่างที่บอกไปว่าเราต้องมีภาพอยู่แล้วไว้ในสมองว่าเราอยากให้มันหน้าตาแบบไหน ของฉันก็ง่ายๆคืออยากได้ตู้สีขาวคร่ำคร่าหน่อยสำหรับมาแขวนไว้ในครัว พอมีแพลนอย่างชัดเจนแล้วก็ลงมือทำ...

เริ่มแรกก็จัดการทำความสะอาดก่อน แล้วแต่ใครสะดวกอยากทำแบบไหน บางคนทำความสะอาดด้วยแอมโมเนีย(คนที่นี่ส่วนมากทำแบบนี้) แต่ฉันว่ามันเหม็นอ่ะ เลยใช้น้ำยาล้างจานธรรมดาๆเช็ดเบาๆ แล้วใช้ผ้าแห้งเช็ดตาม เมื่อแห้งดีแล้วก็ใช้กระดาษทรายขัดผิวไม้นิดหน่อย แต่อยากจะบอกว่าขั้นตอนนี้ฉันลืมล่ะ คือพอแปะเทปกาวตรงขอบเสร็จ ก็ลงมือทาสีเลย ฮ่าฮ่า มานึกได้ตอนทาไปแล้วครึ่งทาง แต่ไม่เป็นไร ผลออกมาก็ไม่ต่างกันมาก แต่คือทางที่ดียังไงก็ควรจะขัดกระดาษทรายก่อนนิดนึงเพื่อให้สีใหม่ยึดติดกับผิวไม้ได้ดียิ่งขึ้น







งานพวกนี้ฉันลงมือทำเองตลอด ส่วนโทบี้กับแพทริคเป็นแผนกให้กำลังใจ อิอิ


มาถึงขั้นตอนทาสี... สีที่ฉันใช้ก็เป็นสีสำหรับทาไม้เนื้อมันวาวชนิด water-based เหมือนเดิม และอย่างที่บอกไว้หลายครั้งเวลาเขียนเรื่องการทาสีว่าสีแบบ water-based นั้นให้ผลไม่ต่างกับสีน้ำมัน แต่ว่ามันดีกว่าตรงที่ว่าแห้งเร็วมากกกก(ครึ่งชม.) กลิ่นไม่ฉุน ทาให้กลืนกับเนื้อไม้ง่าย และสีไม่ไหลย้อยเป็นทางแบบสีน้ำมัน

เมื่อสีแห้งดีแล้ว(ควรจะทาซ้ำซักสองครั้ง) ก็จัดการกับส่วนผนังของตู้ ของเดิมเป็นผ้าสักหลาดสีกรมท่ามืดๆทึมๆ ฉันเลยจัดการถอดออกหมดแล้วใช้สติคเกอร์พลาสติคแบบที่ติดบนกระเบื้องในครัวติดลงไป เลือกลายเดียวกับในครัวด้วยเพื่อคุมโทนของห้องให้ไปในทิศทางเดียวกันและกลมกลืนกัน

จากนั้นก็ถึงขั้นตอนลงมือทำร่องรอยเก่าให้ตู้ ซึ่งก็ทำไม่ยากเช่นกัน แค่ใช้กระดาษทราย (แบบละเอียด) ขัดถูๆ ตรงนั้นตรงนี้ตามชอบแค่นั้นเอง ทำเสร็จก็ได้รอยถลอกเหมือนของเก่าเก็บจริงๆ อ้อ..ฉันเปลี่ยนที่จับตู้ให้เป็นสีฟ้าเพื่อให้เข้ากับลายดอกตรงผนังด้วย










....แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ดูจากรูปเปรียบเทียบ before and after แล้วเห็นชัดว่าดูดีขึ้นจากของเดิมเยอะมาก เห็นมั้ยว่าไม่ยากจริงๆเนอะ ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่การลงมือทำแค่นั้นเอง ต้นทุนก็แค่ไม่กี่สิบยูโร หน้าตาตู้ก็เก๋ไก๋ไม่ต่างจากของที่ขายตามร้านเลย



...คุยต่ออีกนิดก่อนไป...

จริงๆบ้านของฉันก็ไม่ได้แต่งแนว Shabby chic แต่จะออกแนวผสมผสานกันมากกว่า คือเลือกหลายๆแนวที่ตัวเองชอบแล้วเอามาแต่งรวมๆกัน ทั้งแบบคิช+วินเทจ+คอทเทจ ฯลฯ ฉันเน้นการเลือกโทนสีสดใส ดูแล้วสบายตาสบายใจเพื่อให้ความรู้สึกอบอุ่นและน่าอยู่เป็นหลักมากกว่าเน้นสไตล์ใดสไตล์หนึ่ง เพื่อนๆจะเห็นว่าเฟอร์นิเจอร์บ้านฉันไม่ได้มาเป็นเซ็ตกันเลย ต่างชิ้น ต่างสไตล์และต่างที่มาทั้งนั้น หลายอย่างเป็นของ Ikea ธรรมดาๆ ในขณะที่บางอย่างก็อาจจะเก่านิดๆ หรือบางอย่างเป็นของเก่าไม่จริงแต่เอามาทำให้มันเก่าเองเหมือนอย่างตู้กระจกใบนี้เป็นต้น พอแต่งไปแต่งมาสุดท้ายทุกอย่างก็เข้ากันได้ไม่น่าเชื่อเลยเนอะ




ภาพรวมของห้องครัว... บ้านของเราจะซอกมุมเยอะแยะแบบนี้ตามสไตล์บ้านโบราณ แต่ฉันว่ามันมีสเน่ห์ดีนะ อิอิ อ้อ..โคมไฟแขวนเพดานสีขาวนี่ต้องย้าย เพราะว่าเปิดประตูตู้แล้วมันชน อีกทั้งติดต่ำเกินไปอีกต่างหาก แพทริคเดินผ่านต้องระวัง ไม่อย่างนั้นหัวจะชน


วันนี้คุยเยอะจัง เอาไว้แค่นี้ดีกว่า ไว้เจอกันใหม่บล้อกหน้าจ้าาาา







 

Create Date : 03 กรกฎาคม 2554    
Last Update : 3 กรกฎาคม 2554 19:17:17 น.
Counter : 7696 Pageviews.  

That nice 'ugly' shelf...






ยังวนๆเวียนๆแถวๆห้องครัว คืบหน้าไปทีละนิดๆ แ่ต่ไม่เป็นไร มีอารมณ์ก็ขยัน ช่วงไหนเบื่อๆก็หันไปทำอย่างอื่น

ช่วงนี้เพื่อนปุ่น Bananarumba และครอบครัวมาเที่ยวที่นี่หลายวัน ปุ่นบอกว่าบ้านของฉันดูอย่างกับบ้านตุ๊กตา ตอนแรกแอบเกร็งๆ เพราะบ้านที่เห็นในบล้อกนี้จะดูสวยงามน่ารัก ไม่คิดว่าจะเป็นบ้านที่อยู่ได้ จับต้องได้ ใช้งานได้จริงๆ
อ้าววว... ไหงคิดงั้นล่ะ ฮ่าฮ่า... ฉันได้ยินแล้วก็อดขำไม่ได้ สงสัยปุ่นอาจจะนึกถึงบ้านตามนิตยสารหรือเปล่านะ ที่มี stylist มาจับแต่ง(จัดฉาก)ก่อนถ่ายลงหนังสือ ซึ่งเวลาอยู่จริงๆอาจจะอีกเรื่อง อิอิ

แต่บ้านนี้เราสองคนอยู่กันจริงๆ ครัวในบ้านที่เห็นก็ใช้งานได้จริงๆ อย่างตอนนี้แม้จะโดนแม่ครัวปุ่นปู้ยี่ปู้ยำแต่ก็ยังใช้งานได้ปกติไม่ต่างจากครัวบ้านคนอื่นจริงๆนะ ส่วนอื่นๆของบ้านก็เช่นกัน สรุปคือบ้านหลังนี้ไม่ได้เน้นความน่ารักอย่างเดียว แต่ประโยชน์ใช้สอย และการอยู่อาศัยไม่ต่างจากบ้านปกติทั่วไปเลย










และมีอย่างหนึ่งที่เห็นแล้วทำให้อดยิ้มไม่ได้ คือบ้านของเรามักจะทำให้คนมาใหม่รู้สึกเซอร์ไพรส์ได้เสมอ ... ซึ่งจะว่าไปแพทริคกับฉันก็มีอาการเดียวกันเมื่อตอนที่เข้ามาในบ้านหลังนี้ครั้งแรก ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะเลย์เอ้าท์ของบ้านหลังนี้ที่ไม่ค่อยเหมือนบ้านที่เห็นทั่วไป คือนอกจากจะแปลกแล้ว ยังเต็มไปด้วยซอกหลืบมากมาย ดูข้างนอกเหมือนไม่มีอะไร แต่พอเปิดประตูเข้ามาแล้ว มันเต็มไปด้วยห้องนั้นห้องนี้ ประตูนั้นประตูนี้ มุมนั้นมุมนี้ ทำเอาคนที่ไม่คุ้นรู้สึกฉงนสนเท่ห์กันไปเล็กน้อย ถือเป็นสีสันเล็กๆเวลาพาคนชมบ้าน อิอิ...


.............................................



กลับมาเรื่องที่ตั้งใจจะคุยดีกว่า...
วันนี้คุยเรื่องคล้ายๆกับเรื่องก่อนหน้านี้คือการปรับเปลี่ยนอะไรง่ายๆแต่ให้ผลออกมาดูดีเกินคาด










นานมาแล้วตั้งแต่ย้ายมาอยู่บ้านหลังนี้ใหม่ๆ (เกือบหนึ่งปีแล้วสินะ) ฉันซื้อชั้นเก่าขี้เหร่ๆอันนี้มาจากเว็บขายของมือสอง ราคาแค่เจ็ดยูโรเอง ถือว่าถูกมากเหมือนได้เปล่าเลย เจ้าของเดิมเคยใช้ชั้นนี้เป็นชั้นวางหนังสือ แต่ฉันเอามาแขวนที่ผนังในครัวแทน จริงๆก็ไม่ได้ทำอะไรมาก แค่ถอดขามันออก แล้วทาสีขาวแค่นั้นเอง

การทาสีถือเป็นขั้นตอนง่ายๆ ที่ยากมากกว่าคือการจัดวางข้าวของบนชั้น ต้องเลือกนิดหน่อยว่าของชิ้นไหนถึงจะทำให้ชั้นดูดีขึ้นมา และจะจัดวางอย่างไรให้ดูลงตัว ลองไปลองมาสุดท้ายก็ได้ผลลัพธ์อย่างที่เห็นในรูป มันออกมาใกล้เคียงกับที่เคยจินตนาการไว้มากๆ ถือว่าเป็นการปรับรูปโฉมที่สำเร็จเกินคาดเลยถ้าเทียบกับหน้าตาก่อนหน้านี้ เพื่อนๆคิดเหมือนกันไหมเอ่ย...


วันนี้มาสั้นๆ..ไว้เจอกันใหม่บล้อกหน้าจ้าาาา







 

Create Date : 17 มิถุนายน 2554    
Last Update : 17 มิถุนายน 2554 9:10:46 น.
Counter : 2928 Pageviews.  

Sticker อเนกประสงค์ และชีวิตช่วงนี้...




Flowers from my garden...




ถ้าใครเคยอ่านบล็อกเก่าๆคงจำได้ว่าฉันใช้สติคเกอร์พลาสติคลายดอกไม้ติดผนังกระเบื้องในห้องครัว เป็นการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงง่ายๆ โดยไม่สิ้นเปลืองเงินทองอะไรมาก และให้ผลออกมาน่าพอใจเกินคาด และมันเหมือนของจริงมากจนใครๆที่เข้ามาในครัวบ้านเราพากันถามว่าเราสองคนพึ่งเปลี่ยนกระเบื้องใหม่หรือเปล่า?







หลังจากพอใจกับผลงานกระเบื้องในครัว การใช้ประโยชน์จากสติคเกอร์พลาสติคก็เริ่มลามไปที่ส่วนอื่นๆของบ้าน อย่างผนังกระเบื้องที่ประตูหลังบ้านซึ่งยังติดไม่เสร็จ(แต่มีแววว่าสวยขึ้นกว่าเดิมมากๆ) และชั้นของตู้ครัว ซึ่งมีภาพก่อนและหลังให้ดูกันด้วย ไม่น่าเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กๆน้อยๆจะให้ผลที่แตกต่างมากมายขนาดนี้นะเนี่ย เพื่อนๆคิดเหมือนกันไหม?

ก่อนหน้านี้ฉันแทบจะไม่ใช้ตู้ครัวและปล่อยให้โล่งๆแบบนั้นไปก่อนเพราะชั้นไม้มันเก่า น่าเกลียดและสกปรกมาก พวกหม้อ กระทะ จานชามต่างๆฉันจะเก็บไว้อีกที่ ตอนแรกคิดกันว่าจะหาไม้มาทำชั้นใหม่ แต่ก็ไม่ได้ทำซักที จนความคิดมาตกผลึกที่การใช้สติคเกอร์นี่แหละ และมันก็เวิร์คสุดๆแถมออกมาสวยน่ารักไม่เหมือนใครด้วยเนอะ

ตอนนี้เวลาไปไหนมาไหนมักจะมองหาเจ้าม้วนพลาสติคนี่เสมอเผื่อจะเจอลายอื่นๆที่ถูกใจ (ซึ่งตอนนี้มีเก็บไว้ในครอบครองอยู่หลายลายเหมือนกัน อิอิ)










แต่งบ้านและเขียนบล้อกมาก็หลายปี ตอนนี้เพื่อนๆเห็นกันแล้วใช่ไหม ว่างบที่จำกัดไม่ได้มีผลต่อการจัดบ้านหรือแต่งบ้านให้น่าอยู่เลยซักนิด ตราบใดที่เรารู้จักงัดเอาไอเดียต่างๆออกมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ บวกการใช้แรงงานอีกนิดหน่อย แค่นี้ทุกอย่างก็สมบูรณ์แบบแล้ว...^^






 

Create Date : 07 มิถุนายน 2554    
Last Update : 15 มิถุนายน 2560 1:17:42 น.
Counter : 3711 Pageviews.  

'Spring Blossom' granny squares...แกรนนี่สแควร์ลายใหม่ ^-^






หายหน้าไปหลายวัน...

ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลามาเจื้อยแจ้วหน้าบล็อกเท่าไหร่เพราะว่าพึ่งกลับไปเป็นนักเรียน(อีกแล้ว) พอดีว่าฉันพึ่งไปลงเรียนภาษาดัตช์เพิ่มน่ะ คราวนี้ก็เรียนระดับสูงขึ้นมาหน่อย ไหนๆก็มาอยู่ประเทศเค้าแล้วเนอะ ก็เอาให้ดีเหมือนเจ้าของภาษาไปเลย เรียนไปได้เพลินๆ สนุกดีเหมือนกัน นอกจากนั้นก็ยังทำงานด้วยปกติเหมือนเดิม เวลาว่างที่เหลือบางทีเลยหมดไปกับทำนู่นนี่ในบ้าน แต่ไม่ได้ทิ้งบล็อกนะจ้ะ จะพยายามมาเขียนเรื่อยๆอยู่แล้ว แต่อาจจะไม่คุยยาวยืดเหมือนเมื่อก่อนเนอะ


คราวนี้ขอคุยเรื่อง(สั้นๆ)ต่อจากบล็อกที่แล้ว วิธีถักแกรนนี่สแควร์ลายใหม่นั่นเอง เห็นรูปข้างบนกันไหม ลายนี้น่ารักมากๆเลย ชอบมากๆๆๆ และเพราะออกมาหน้าตาสดใสน่ารักแบบนี้แหละเลยขอตั้งชื่อว่า Spring Blossom ละกัน ซึ่งก็เข้ากับฤดูใบไม้ผลิที่กำลังจะมาถึงตอนนี้ด้วยเนอะ

ลายนี้น่าจะเหมาะสำหรับคนที่ถักโครเชท์เป็นหรือถักคล่องอยู่แล้ว เพราะค่อนข้างสลับซับซ้อน ส่วนคนที่เริ่มถักใหม่ๆถ้าอยากลองดูก็ไม่มีปัญหา จะว่าไปไม่มีอะไรยากเกินความพยายามหรอก...ใช่ไหม?


ลายนี้แม้ตอนแรกจะได้แรงบันดาลใจมาจากหนังสือ แต่พอลงมือทำเข้าจริืงๆก็ทำในเวอร์ชั่นของตัวเองมากกว่าเนื่องจากว่าอ่านวิธีแบบเค้าแล้วไม่ค่อยเข้าใจ แต่กว่าจะออกมาลงตัวแบบนี้ได้ ก็ต้องคอยเลาะออกและถักใหม่ ลองผิดลองถูกอยู่หลายรอบมากๆ และใช้เวลานานมากๆกว่าจะหาวิธีทำให้จำนวน stitch แต่ละด้านลงตัวเป๊ะๆพอดี เพื่อให้ออกมาหน้าตาน่ารักแบบนี้ เพราะฉะนั้นถ้าเพื่อนๆผ่านเข้ามาเห็นและชอบและอยากเอาแพทเทิร์นนี้ไปใช้ ฉันจะดีใจมากเลยถ้าจะช่วยลิงค์มาที่บล็อกนี้ด้วย แบบนี้ฉันก็จะได้มีกำลังใจคิดหาลายถักใหม่ๆมานำเสนออีกเนอะ
ขอบคุณล่วงหน้านะจ้ะ



วันนี้ขอเขียน how to แบบย่อๆรีบๆไปก่อนเผื่อใครเห็นแล้วอยากลองทำทันที เอาไว้มีเวลาเดี๋ยวค่อยมาเขียนเวอร์ชั่นละเอียดๆใหม่อีกที (แบบมีรูปประกอบทุกขั้นตอนเหมือนทุกทีน่ะ)

ตามนี้เลยจ้าาาา
.
.
.


เริ่มฐานด้่วย ch 2

แถว 1... ถัก 8 sc ในโซ่แรก ปิดแถวด้วย sl st

แถว 2... ch 3 + 1 dc ในช่องแรก, ch 3, 2 dc ในช่องถัดไป ทำซ้ำขั้นตอนนี้จนครบรอบ, ปิดแถวด้วย sl st ตอนนี้จะได้รูปกลีบดอกแปดกลีบ ที่ปลายเชื่อมกันอยู่

แถว 3... 5 sc บนส่วนที่เชื่อมระหว่างกลีบแต่ละกลีบ

แถว 4... เป็นขั้นตอนทำรูปร่างโค้งของกลีบดอกให้เป็นเส้นตรง(แปดเหลี่ยม)
- ตรงส่วนโค้งที่พึ่งถัก 5 sc ไป นับไปจนถึงอันที่สามถึงจะสอดเข็ม จากนั้นถัก 3 sc ในช่องเดียวกัน
- ตามด้วย 1 sc ในช่องถัดไป
- ตอนนี้มาถึงตรงส่วนรอยหยัก ถักแบบ single crochet decrease ภาษาไทยเค้าเรียกอะไรก็ไม่รู้ ประมาณว่าถักรวบสองช่องน่ะ
- ช่องต่อไปถัก 1 sc
- ถึงตอนนี้มันจะมาถึงจุดตรงกลางของส่วนโค้งอีก ก็ถัก 3 sc ในช่องเดียวกัน แล้วก็ถักซ้ำขั้นตอนเดินจนครบรอบ

แถว 5... เริ่มต้นที่สอดเข็มช่องกลางของ 3 sc แถวก่อนหน้านี้ ถัก 2 sc ในช่องเดียวกัน
- ถัดไปถัก 1 sc ห้าครั้งถัดกันไปในแต่ละช่อง,
- ตอนนี้จะมาถึงจุดกลางของ 3 sc แถวก่อนหน้านี้อีก ก็ถัก 2 sc ในช่องเดียวกันเหมือนเดิม,
- ทำซ้ำจนครบรอบ

แถว 6... แถวนี้จะเป็นขั้นตอนของการทำให้แปดเหลี่ยมกลายมาเป็นสี่เหลี่ยม
- จาก 2 sc ในช่องเดียวกันของแถวก่อนหน้านี้ แทงเข็มไปที่ sc ทางซ้ายมือ ถัก 1 dc + ch 2 + 1 dc ตอนนี้ได้มุมสี่เหลี่ยมมาหนึ่งมุมแล้ว
- ต่อไปถักตามนี้เลยถัดกัน 2 dc + 2 hdc + 5 sc + 2 hdc + 2 dc
- มาถึงตรงนี้จะเป็นจุดที่ต้องทำมุมที่สอง ถัก 1 dc + ch 2 + 1 dc เหมือนเดิม
- ทำซ้ำขั้นตอนเดิม 2 dc + 2 hdc + 5 sc + 2 hdc + 2 dc จนครบรอบ ถ้านับถูก มันจะลงล็อคพอดี ไม่มีช่องขาดหรือเกิน

แถว 7... แถวสุดท้ายแล้ว
- ถักมุม 3 hdc + ch 1 + 3 hdc
- นับไปสามช่อง สอดเข็ม ถัก 3 hdc ทำซ้ำไปจนครบรอบ









จบแล้ววววว เป็นอันว่าเสร็จ ตอนนี้ก็ได้ Spring Blossom granny square มาหนึ่งชิ้น ส่วนวิธีการถักไปด้วยต่อดอกไปด้วยพร้อมกัน เพื่อนๆสามารถดูได้ที่บล็อกนี้จ้า หรือถ้าขยันก็ถักเป็นชิ้นๆก่อนแล้วค่อยมาเย็บต่อกันทีหลังก็ได้

หมายเหตุ : งานชิ้นที่เห็นในรูปตอนแรกฉันว่าจะถักผ้าคลุมเตียง แต่คำนวณดูแล้วคาดว่าอาจจะใช้เวลานานเกินไปกว่าจะเสร็จเลยลดขนาดมาเหลือแค่ผ้าคาดเตียง อิอิ ตอนนี้ได้แค่สองแถวเอง หนทางนี้ยังอีกยาวไกล
หากสงสัยเรื่องการถักตรงไหนก็หย่อนคำถามมาได้ตลอดเลยจ้าาาา

Enjoy crocheting everyone!







 

Create Date : 19 มีนาคม 2554    
Last Update : 4 มิถุนายน 2556 7:14:17 น.
Counter : 5508 Pageviews.  

1  2  3  

~ Cerulean Blue ~
Location :
ลำปาง Netherlands

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 120 คน [?]




:: About Me ::


A girl, her life, and the old little Dutch house. Oh, and possibly a few adventures...

Anyway feel free to drop by and say hi :)

:: decorating ::
:: sewing ::
:: crafting ::
:: painting ::
:: traveling ::
:: and Living! ::

"ผจญภัยในอ้อมแลนด์"













:: PREVIOUS POSTS ::


...My simple kitchen pantry storage and the most frequently asked questions about Cerulean Blue...

...The guest bedroom and how to hang wallpaper...ห้องนอนเล็ก และ how to การติดวอลเปเปอร์แบบง่ายๆ...

...Blog is more than you think... ชีวิตและการเขียนบล็อก...

...The Little Groningse Kitchen...

...My polka-dot room and how to crochet 'Spring Blossom granny square # 2'...

...My 'blue' and 'white' curtain...

...and I am back again, officially... นกน้อย คืนรัง ^^...

...Window seat project #2... มุมริมหน้าต่างเสร็จแล้ว + งานเล็กๆของช่างไม้มือสมัครเล่น ^_^...

...My kitchen, my pride...

...'Cute curtains' and a quick peek into my sewing room...

...My new sofa slipcover!... โปรเจ็คยักษ์ 'ผ้าคลุมโซฟา' ^^...

...One Year already!... ครบหนึ่งปีพอดี + รวมมิตรรูปบ้าน และเรื่องบ้านๆที่อยากแบ่งปันกัน...

...Shabby shabby...เก่านิดๆ ถลอกหน่อยๆ...

...That nice 'ugly' shelf...

...'The white fireplace' and my old glass cabinet...

...A bit of a change in the living room...

...'Spring Blossom' granny squares...แกรนนี่สแควร์ลายใหม่ ^-^...

...'Cerulean' crochet cushion... และคุยเล็กคุยน้อย...

...Café curtains...

...My 'kitsch' kitchen...และชีวิตช่วงนี้...

...Another armchair slipcover!...ผ้าคลุมเก้าอี้ (อีกแล้ว)...

...Armchair slipcover...โปรเจ็คแรกแห่งปี!...

...Santa Wood(s), Christmas tree and a few tips of choosing colours for your home...

...A Little Update...

...Make it 'COZY'...



:: All About My Home ::


...New Home...
































































...Old Home...




























:: งานเขียนและรูปภาพในบล็อกนี้
สงวนลิขสิทธิ์ ตามพ.ร.บ. พ.ศ. 2537 ห้ามคัดลอก ทำซ้ำ ส่วนหนึ่งส่วนใด โดยมิได้รับอนุญาต ::


New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ~ Cerulean Blue ~'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.