Group Blog All Blog
|
7 ประโยชน์ไข่ต้มเพื่อสุขภาพ
ไม่ได้เข้ามาห้องนี้นานมาก จำได้ว่าครั้งสุดท้ายเข้ามาประมาณ พ.ศ. 2552 ที่ไม่ได้เข้ามาห้องนี้เพราะไม่ค่อยมีร้านอาหารที่น่าสนใจมาแนะนำ หรือมีก็ไม่มีอารมณ์ที่จะเขียน วันนี้ไปอ่านพบอาหารพื้นบ้านที่แสนจะธรรมดาๆมากๆ นั่นคือ ไข่ต้ม อ่านแล้วชอบมาก จึงนำมาฝากให้อ่านครับ ถ้าพูดถึงไข่ต้มนั้น หลายคนคงคุ้นเคยกับมันดี เพราะเป็นอาหารที่เรียบง่าย อร่อยได้ในราคาที่ไม่แพงเลย ยิ่งเมื่อเทรนด์รักสุขภาพกำลังมาแรงในปีนี้ ก็ทำให้ไข่ต้มกลายเป็นเมนูประจำ ที่นำมาใช้เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อและลดน้ำหนัก แต่รู้หรือไม่ว่าจริง ๆ แล้ว ประโยชน์ของไข่ต้มไม่ได้มีเพียงแค่นั้น แต่ยังมีมากมายอีก 7 ประการ มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง 1.บำรุงสมอง ในไข่ต้ม 1 ฟองนั้น ประกอบไปด้วยโคลีน ที่เป็นสารอาหารสำคัญต่อระบบสมองและเซลล์ประสาทมากถึง 20% เพราะฉะนั้นหากทานไข่ต้มเป็นประจำทุกวัน จะช่วยพัฒนาสมองด้านความจำและป้องกันการเป็นโรคอัลไซเมอร์ได้ 2.ลดโอกาสเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ ในไข่ต้ม มีไขมันชนิดโอเมก้า 3 อยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งไขมันชนิดนี้ถูกเรียกว่าเป็นไขมันดี ที่จะเข้าไปช่วยบำรุงหัวใจให้แข็งแรง เพิ่มการดูดซึมสารอาหารในร่างกาย และลดไตรกลีเซอไรด์ที่เป็นไขมันเลวไม่ให้สูงจนเกิน จึงช่วยป้องกันไม่ให้เกิดโรคหัวใจ และมะเร็งเต้านม 3.บำรุงเล็บและเส้นผมให้แข็งแรง เพราะไข่ต้มอุดมไปด้วยโปรตีน และยังมีสารอาหารที่สำคัญอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น สังกะสี เหล็ก และสารต้านอนุมูลอิสระ ที่จะช่วยเข้าไปบำรุงเส้นผมและเล็บให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น ทำให้เล็บและผมมีความสวยงาม ไม่เปราะหรือขาดหลุดร่วงง่าย
4.เต็มไปด้วยสารอาหารที่สำคัญต่อร่างกาย ไข่ต้มสุกนั้น เป็นอาหารที่เรียกได้ว่าเต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่สำคัญต่อร่างกายแบบครบถ้วนในราคาเพียงหลักหน่วยเท่านั้น เพียงแค่ทานไข่ต้มวันละฟองเป็นประจำทุกวัน ก็จะช่วยให้ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนได้โดยง่ายแล้ว และถ้าหากทานคู่กับอาหารอื่น ๆ ก็จะได้ยิ่งได้คุณประโยชน์มากขึ้นไปอีก 5.สร้างกระดูกให้แข็งแรง การเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง ทั้งในวัยเด็กและวัยผู้ใหญ่ สามารถทำได้ด้วยการทานแคลเซียมและฟอสฟอรัสเยอะๆ ซึ่งทั้งสองสารอาหารที่สำคัญนี้ ก็มีอยู่ในไข่ต้มจำนวนมาก ยิ่งถ้าหากได้ทานร่วมกับนมจืดเป็นประจำ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคกระดูกพรุนในอนาคตได้ 6.ช่วยลดน้ำหนัก ไข่ต้ม 1 ฟองนั้น ให้พลังงานแค่ 80 กิโลแคลอรี่ เมื่อทานเข้าไปแล้วจะรู้สึกอิ่มเป็นเวลานาน ไม่จำเป็นต้องหาอาหารทานบ่อยๆ และยังให้สารอาหารที่ครบถ้วนโดยไม่ต้องกังวลเลย ไข่ต้มจึงเป็นอาหารที่เหมาะมากที่จะนำมาใช้เพื่อการลดน้ำหนักโดยไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย 7.เสริมสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย นอกจากการพักผ่อนให้เพียงพอ และการออกกำลังกายเป็นประจำแล้ว เรื่องของโภชนาการก็มีความสำคัญต่อการสร้างภูมิคุ้มกัน โดยเฉพาะการรับประทานอาหารที่มีวิตามินเอ วิตามินดี และธาตุเหล็ก ซึ่งไม่ต้องไปหาที่ไหนไกลเลย เพราะไข่ต้มลูกกลมๆ นี้มีสารอาหารทั้งสามชนิดครบถ้วนแล้ว ได้รู้ถึงประโยชน์ของไข่ต้มแบบนี้แล้วก็ควรจะหันมาทานไข่ต้มกันให้บ่อยมากยิ่งขึ้น จะนำมาทำยำ นำมาทำสลัด หรือจะเอามาจิ้มกับซีอิ้ว ก็ช่วยเพิ่มประโยชน์ดีๆ ให้กับร่างกายได้แล้ว ขอขอบคุณ ภาพ :iStock,Unsplash จาก : https://www.sanook.com ภัตตาคารเสี่ยงตาย
ผมเคยได้ยินคำพังเพยนี้มานานแล้วคือ "เรื่องกินเรื่องใหญ่ เรื่องตายเรื่องกลาง เรื่องตะรางเรื่องเล็ก" ไม่ทราบที่มาของคำพูดนี้ว่า ใครเป็นคนพูดและมีวัตถุประสงค์อะไร
แต่ก็ช่างเถอะ เรามาดูกันว่า "เรื่องกินจะใหญ่"แค่ไหนกันดีกว่า พูดถึงประเทศจีน เราต้องยอมรับว่าเป็นที่สุดในหลายๆเรื่อง อาทิ พื้นที่ประเทศอันกว้างใหญ่ ประชากรเกินกว่าพันล้านคน มีพระราชวังต้องห้าม ภูมิประเทศที่สวยงาม มีกำแพงเมืองจีนอันมีชื่อเสียง ฯลฯ นอกจากนี้คนจีนยังสนใจเรื่องการกิน อาหารจีนเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก เพราะเรื่องการกินนี่แหละจึงเป็นที่มาของเรื่องนี้ ภัตตาคารเสี่ยงตายรายละเอียดของภัตตาคารนี้ผมไม่ทราบแน่ชัดว่าอยู่ที่แคว้นไหนของประเทศจีน รู้แต่เพียงว่าตั้งอยู่บนเทือกเขาสูง ทางตอนเหนือของประเทศ การเดินทางไปกินอาหารที่ภัตตาคารนี้ลำบากมากๆ เสี่ยงอันตราย แต่นักกินชาวจีนก็ไม่ย่อท้อ ไม่ใช่อาหารอร่อยเลิศรสอย่างเดียว เขาว่ากันว่าถ้าใครเดินทางขึ้นไปถึงภัตตาคารนี้...กินฟรี ครับ ข้อมูลการเดินทางขึ้นไปภัตตาคารนี้เขาบอกว่า มีเฮลิตอปเตอร์บินขึ้นไปส่งครึ่งทางบนเขา จากนั้นบรรดานักกินก็ปีนเขาขึ้นไปกันเอง ตอนลงเขาไม่บอกว่าลงยังไง คิดกันเอง...ตัวใครตัวมัน...อมิตตพุทธ ภาพประกอบจาก FW:Mail นิรนาม ครัวชุกโดน
ความจริงเรื่องนี้ผมตั้งใจจะเขียนพร้อมกับเรื่องการไปเที่ยวกาญจนบุรี เมื่อวันเสาร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2552 แต่ขัดข้องทางเทคนิคบางประการ คือรูปที่ถ่ายมาประกอบเรื่องนี้ไม่ดีเท่าที่ควร นึกอยู่ตั้งนานว่าจะไปหาภาพประกอบได้จากที่ไหน เพราะผมเขียนบล็อกแล้วไม่มีภาพประกอบ รู้สึกว่ามันขาดอะไรไปอย่างหนึ่ง
นึกขึ้นมาได้ว่าผมเป็นสมาชิกของเว็บไซต์การท่องเที่ยวเว็บฯหนึ่งคือ //www.tourthai.com ไม่ผิดหวังครับ ได้ภาพดีดีมาพอสมควร จึงรีบเขียนทันทีครับ เกรงว่าเจ้าความขี้เกียจมันจะมาครอบงำเอา เชิญครับ ครัวชุกโดนหลังจากที่ไปเที่ยวชมวัดถ้ำเสือ อ.ท่าม่วงมาแล้ว ก็ถึงเวลารับประทานอาหารกลางวันพอดี ได้รับข้อมูลมาจากลูกชายคนที่สองว่าควรจะไปรับประทานที่ร้านอาหาร "ครัวชุกโดน" ได้ยินชื่อครั้งแรกก็สะดุดหูว่า เออชื่อแปลกดี นี่ก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของร้านอาหารครับ ร้านนี้หาไม่ยากครับอยู่ในเมืองกาญจนบุรี เลขที่ 60 ถนนไชยชุมพล ต.บ้านใต้ อ.เมือง กาญจนบุรี เป็นร้านอาหารประเภทที่มีแพติดกับแม่น้ำกาญจนบุรี ทิวทัศน์สวยงามดี เมื่อได้ที่นั่งเรียบร้อยแล้วก็เริ่มสั่งอาหารจากเมนู ที่พนักงานบริการเอามาให้เลือก ดูภาพอาหารไปเลยครับ ผมบรรยายไม่ค่อยถูก เพราะไม่ใช่นักชิมอาหารมืออาชีพ สรุปแล้วที่ร้านนี้อาหารส่วนใหญ่จะปรุงจากปลาน้ำจืดที่มีอยู่มากมายในแถบนี้ เนื้อนุ่ม รสหวานอร่อย รสชาดเหมาะสำหรับคนทั่วไป คือไม่เผ็ดหรือเค็มหรือหวานเกินไป ยังติดใจชื่อร้านอยู่ว่า ทำไมชื่อนี้ คุณสิทธิ บุญเลียบ เจ้าของร้านบอกว่าร้านนี้ตั้งมาประมาณ 14 ปีแล้ว เดิมทีบริเวณนี้มีต้นกระโดนขึ้นอยู่มากมาย จึงตั้งชื่อนี้เพราะแปลกและจำง่ายดี ภาพประกอบ(อาหาร)จาก //www.tourthai.com ภาพสถานที่ถ่ายด้วยมือถือ NK N81 ตามล่าหาก๋วยเตี๋ยวแคะ(กิน)
พูดถึง "ก๋วยเตี๋ยว" ทุกคนย่อมต้องรู้จักดี และเคยกินมาแล้วทุกคน เพราะเป็นอาหารสามัญประจำชีวิตของคนจีน หรือคนไทยเชื้อสายจีนทุกคน
ผมเองรู้จักซื้อก๋วยเตี๋ยวกินเองมาตั้งแต่เด็ก สมัยเรียนชั้นมัธยม ม. 1 ประมาณ พ.ศ. 2493 สมัยนั้นราคาก๋วยเตี๋ยวชาม(ตราไก่แท้)ละ 1 บาท ต้องเก็บเงินอยู่หลายวันกว่าจะซื้อก๋วยเตี๋ยวกินได้หนึ่งชาม เพราะคุณแม่ให้เงินไปโรงเรียนวันละ 50 สตางค์ ต่อมาโตขึ้นก็ยังชอบกินก๋วยเตี๋ยวมาจนถึงวันนี้ ก็ประมาณหลายสิบปีมาแล้วนะ แต่ท่านเชื่อหรือไม่ว่า ผมเองเพิ่งมารู้จักก๋วยเตี๋ยวแคะ มาไม่นานมานี้เอง และพอรู้จักก็ติดใจก๋วยเตี๋ยวแคะมาตลอด หลายคนอาจจะอยากถามว่า "ก๋วยเตี๋ยวแคะ" คืออะไร ก็ไม่รู้ว่าจะตอบแบบเป็นวิชาการได้อย่างไร ขอตอบแบบกำปั้นทุบดินว่า "ก๋วยเตี๋ยวแคะ คือก๋วยเตี๋ยวของคนจีนแคะ" นั่นเอง อย่าถามต่อว่า "จีนแคะ" นั้นคือใครนะ วันนี้ผมจะแนะนำร้านก๋วยเตี๋ยวแคะอีกเจ้าหนึ่งที่อร่อยมาก ไม่แพ้ร้านนายอ้วน ซอยสระสรง หลังวัดสุทัศน์ฯ เลย ร้านเจ้านี้อยู่ในซอย ถนนอิสระภาพ 44 ซอยเดียวกับโรงพยาบาลธนบุรี นั่นแหละ ซอยนี้อยู่ฝั่งตรงข้ามกับซอยวัดดงมูลเหล็ก ใกล้ๆกับสี่แยกพรานนก ความจริงก๋วยเตี๋ยวแคะก็เหมือนกับก๋วยเตี๋ยวที่ขายทั่วๆปตามตลาดนั่นแหละ มีเส้นเล็ก เส้นใหญ่ เหมือนกัน แต่ที่ไม่เหมือนคือก๋วยเตี๋ยวแคะจะมีลูกชิ้นเต้าหู้ หลากหลายชนิด นุ่มอร่อยน่ากินมาก คนที่ชอบกินก๋วยเตี๋ยวแคะน่าจะติดใจเจ้าลูกชิ้นนี่แหละ ในกรุงเทพและปริมณฑลมีร้านขายก๋วยเตี๋ยวแคะอยู่หลายเจ้า แต่รสชาดอร่อยๆนั้นมีไม่กี่เจ้านะ ถ้ามีเวลาว่างก็ลองตระเวณไปกินดู แล้วจะรู้ว่า ก๋วยเตี๋ยวแคะอร่อยอย่างไร ภาพประกอบจาก //www.bloggang.com/viewblog.php?id=chim&group=11 ห้องอาหาร "คำบอกเล่า" บรรยากาศแปลกดี
ปกติผมไม่ค่อยได้เขียนถึงร้านอาหารหรือห้องอาหารบ่อยนัก ทั้งๆที่ปีหนึ่งก็ไปกินอาหารตามห้องอาหารต่างๆไม่ต่ำกว่าสิบครั้ง เหตุผลคือไม่โดนใจอะไรเลย ไม่ว่าจะสถานที่ บรรยากาศของร้าน หรือรสชาดอาหาร
แต่วันนี้ขอเขียนถึงห้องอาหารแห่งหนึ่ง ที่สะดุดตาตั้งแต่ชื่อร้านคือ "คำบอกเล่า" ห้องอาหารนี้ตั้งอยู่บนถนนราชพฤกษ์ แหล่งทำเลทองแห่งใหม่ของห้องอาหาร ที่มีไม่ต่ำกว่า 20-30 แห่งบนถนนสายนี้ สังเกตุดูรถยนต์ที่จอดอยู่หน้าร้านมีจำนวนพอสมควร ก็เชื่อได้ในระดับหนึ่งว่า อาหารและบริการคงจะใช้ได้ในระดับหนึ่ง ยิ่งเห็นชื่อร้านแล้วก็ชวนให้เข้าไปใช้บริการว่า คำบอกเล่านั้น จะเป็นเรื่องดีหรือเรื่องร้ายกันแน่ ก็ได้ผลครับตามที่ผมนำมาเขียนถึงนี่ไง ผมจะไม่พูดถึงรสชาดอาหารและบริการหรอกครับ เพราะพนักงานบริการแจ้งว่าวันนี้อาหารคงจะไม่ค่อยดีเท่าที่ควร และอาจจะล่าช้ามากไปสักหน่อย เหตุผลคือ เธอบอกว่าบรรดาพ่อครัวลาออกไปทำนากันหมด แต่ไหนๆเราก็เข้ามาแล้ว จึงมองหาสิ่งที่ดีดีของร้านนี้มาชดเชยดีกว่า พลันสายตาก็ไปเห็นรูปโปสเตอร์หนังไทยเก่าๆ ที่ทางร้านติดประดับเป็นเครื่องตกแต่งตามซุ้มที่นั่งต่างๆ ไม่เว้นแม้กระทั่งในห้องสุขา นอกจากนี้ก็ยังมีปกแผ่นเสียงเพลงไทยสากลเก่าๆติดประดับไว้ด้วย เผอิญผมเข้ามาที่ห้องอาหารนี้เป็นเวลาประมาณ 19.00 น.แล้ว ความมืดปกคลุมไปทั่วบริเวณร้าน ผมใช้มือถือถ่ายภาพจึงมองดูไม่ชัดเจนนัก แต่ก็พอจะอาศัยดูเป็นข้อมูลได้ครับท่าน เสียดายที่ไม่มีโอกาสได้พบกับเจ้าของร้าน เพื่อที่จะขอสัมภาษณ์แนวคิดในการตกแต่งร้านแบบนี้ เพราะผมชื่นชมว่าเป็นแนวคิดที่สร้างสรรและอนุรักษ์ความเป็นไทยดี ภาพประกอบถ่ายด้วยมือถือ NK N81 |
หนุ่มร้อยปี
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?] บล็อกนี้สร้างสรรค์ขึ้นเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2549 โดย ชายไทยวัยสูงอายุ มีวัตถุประสงค์ในการบันทึกและนำเสนอเรื่องราวต่างๆแบบครอบจักรวาล อาทิ ภาพยนตร์ ดนตรี รายการทีวี หนังสือน่าอ่าน อาหารน่ากิน ท่องเที่ยว สะสมสิ่งของ ตำนานชีวิตบุคคลน่าสนใจ รู้ไว้ใช่ว่า จิปาถะ ฯลฯ เป็นต้น คำขวัญประจำบล็อก ประสบการณ์ชีวิตที่ดีในอดีต คือทรัพยากรที่ทรงคุณค่าในปัจจุบัน คำขวัญประจำตัวเจ้าของบล็อก "อายุเป็นเพียงตัวเลข" บรรณาธิการบริหารบล็อกคือ หนุ่มร้อยปี บล็อกนี้ไม่สงวนลิขสิทธิ์ตามกฏหมาย ท่านใดเห็นว่าข้อเขียนหรือภาพประกอบในบล็อกนี้มีประโยชน์ สามารถนำไปใช้ได้ แต่โปรดอ้างอิงชื่อบล็อกนี้ด้วย จักขอบคุณยิ่ง Friends Blog
|