ปรัชญาชีวิต "Happy Share" ของ มานิต รัตนสุวรรณ

ปกติผมจะฟังรายการวิทยุ สถานีกรมการพลังงานทหาร คลื่น เอฟ.เอ็ม 90.5 เม็กเฮิร์ท เป็นประจำในช่วงกลางคืน ตั้งแต่รายการเพลง "เพื่อนรัตติกาล" จัดโดยดีเจรุ่นเก๋ากึ๋ก กุลชาติ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เวลา 24.00 น.ถึง 01.00 น. หลังจากนี้ก็หลับๆตื่นๆฟังรายการของท่านจันทร์ (สมณะเพาะพุทธ) ไปจนถึงเวลา 05.00 น. ถึง 06.00 น. ซึ่งเป็นรายการชื่อ "พลังใจ พลังกาย" จัดโดย คุณสุพร เฉพาะวันจันทร์ ถึง วันศุกร์ เท่านั้น

รายการนี้จะเชิญบุคคลต่างๆในทุกวงการมาพูดคุยแลกเปลี่ยนทัศนความคิดเห็นต่างๆ ในเช้าวันจันทร์ที่ 22 ธันวาคม ที่ผ่านมา รายการได้เชิญบุคคลหนึ่งมาพูดคุยคือ
 

มานิต รัตนสุวรรณ

พอได้ยินชื่อนี้ผมหูผึ่งทันที แทบจะไม่ต้องฟังผู้ดำเนินรายการแนะนำประวัติว่าท่านเป็นใคร เคยทำอะไรมาบ้าง เพราะใจมันหวนคิดไปถึงตอนที่ผมทำงานอยู่นิตยสาร "นักขาย" ของ อ.ไพบูลย์ สำราญภูติ ผมรับอาสาไปสัมภาษณ์ท่านผู้นี้ เพื่อจะนำมาเขียนเป็นสกู๊ปขึ้นหน้าปก ตอนนั้นท่านกำลังมีชื่อเสียงโด่งดังมากในวงการนักการตลาดของธุรกิจเมืองไทย

  ภาพหน้าปกนิตยสารรายเดือน "นักขาย" ฉบับที่ 25 ปีที่ 3 พ.ศ. 2532

รายการที่ผมฟังนี้ ดูเหมือนธีมของรายการจะเน้นไปที่แนวคิดหรือปรัชญาของแขกรับเชิญที่มาออกรายการมากกว่าประวัติส่วนตัว ฉะนั้นคำถามหนึ่งที่ผู้จัดรายการถาม มานิต รัตนสุวรรณ คือ มีวิธีการอย่างไรที่จะบริหารชีวิตให้มีความสุข ในเมื่อมีภาระกิจที่ต้องรับผิดชอบมากมายในปัจจุบันนี้


มานิต รัตนสุวรรณ ให้แนวคิดว่าในฐานะที่ตนเองเป็นนักการตลาดมาเกือบตลอดชีวิต จึงมองว่าชีวิตก็เหมือนสินค้าอย่างหนึ่ง แต่ชีวิตที่จะมีความสุขต้องไม่ให้ใครหรืออะไรมาแบ่งความสุขไปจากชีวิต เรียกตามภาษาการตลาดว่า "Happy Share" วิธีที่ปฏิบัติคือไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องที่จะมาแบ่งความสุขไปจากชีวิต ยกตัวอย่างง่ายๆเช่น วันนี้บ้านเมืองไม่สงบเรียบร้อย มีกลุ่มคนเสื้อเหลือง เสื้อแดง เราก็รู้เพียงเท่านี้ไม่ต้องลงลึกไปในรายละเอียด เพราะจะทำให้ชีวิตมันเครียด ไม่มีความสุข หนังสือพิมพ์ประเภทหัวสีรายวันต่างๆ ก็อ่านผ่านๆเฉพาะพาดหัวอย่าไปอ่านรายละเอียดของข่าว รายการ ทีวี ประเภทวิเคราะห์เจาะข่าวลึกอะไรนั่น ก็ไม่ต้องไปดูมันเพราะมันแสดงว่าเก่งกว่าชาวบ้าน ยิ่งละครน้ำเน่าหลังข่าวต้องหลีกไปห่างๆเลย


ผู้ดำเนินรายการถามว่าถ้าเป็นอย่างนี้เราจะไม่ตกข่าวหรือ มานิต รัตนสุวรรณ ตอบว่าข่าวประเภทนี้ไม่ต้องไปสนใจให้มากนัก มิเช่นนั้นมันจะมาแบ่งความสุขไปจากชีวิตเรา ผมไม่ยอมเด็ดขาด

แต่สื่อหนังสือพิมพ์ที่เป็นประโยชน์ต่อการประกอบอาชีพต้องอ่านอย่างละเอียด เช่น นสพ.ประชาชาติธุรกิจ นสพ.ฐานเศรษฐกิจ เป็นต้น ไม่อ่านไม่ได้ เพราะไม่อ่านเราจะเป็นนักธุรกิจได้อย่างไร

นอกจากนี้ มานิต รัตนสุวรรณ ยังให้แนวคิดในการทำงานอีกหลายประการ เช่นการต้องรู้จักปรับเปลี่ยนแนวคิด กล้าคิด กล้าทำในสิ่งที่คิด อย่ากลัวปัญหา อย่าหนีหน้าเวลาทำความผิด การทำความผิดครั้งแรกไม่ใช่ความผิดใหญ่โตอะไร แต่อย่าทำความผิดซ้ำซ้อนเช่นนี้ยอมไม่ได้


ในบรรดานักการตลาดของธุรกิจเมืองไทย หากจะไล่เรียงดูน่าจะมีไม่มากนัก เช่น ดร.สมภพ เจริญกุล ไกรฤทธิ์ บุณยเกียรติ ไพบูลย์ สำราญภูติ มานิต รัตนสุวรรณ รศ.ดร.เสรี วงษ์มณฑา กมล รัตนวิกุล ฯลฯ ที่สามารถยืนยงคงกะพันมาจนถึงวันนี้


หากจะอ่านประวัติของ มานิต รัตนสุวรรณ ให้ละเอียดลึดซึ้ง คงต้องไปหาหนังสือเล่มนี้มาอ่านคือ "ความคิดคำนึง" ซึ่งเขาเขียนเองในนามปากกาว่า" มณีทัศน์"

Create Date : 25 ธันวาคม 2551 Last Update : 26 ธันวาคม 2565 9:08:39 น. Counter : 2735 Pageviews.		4 comments
Share Tweet