Group Blog
 
All Blogs
 

+++ทำไงดี...กระต่ายออกลูก+++






เคยได้รับโทรศัพท์มาถามว่าทำไงดีกระต่ายที่บ้านออกลูก มือใหม่บางคนตื่นเต้นแทบไม่ต้องกินไม่ต้องนอนกันเลยก็มี บ้างก็สวมวิญญาณแม่กระต่ายซะเองทั้งที่ยังไม่ได้ดูเลยว่าแม่เค้าเลี้ยงดูเองหรือเปล่า แม่กระต่ายหวงลูกไหม เพราะการที่จู่ๆพอเราตื่นเต้นแล้วสวมวิญญาณแม่กระต่ายซะเองโอกาสรอดของลูกกระต่ายอาจจะน้อยลงก็ได้ ทำไมน่ะเหรอ...แม่กระต่ายอาจจะงอน พาลไม่เลี้ยงลูกเองเลยน่ะสิคะ อ้า....ความซวยมาบังเกิดแล้วล่ะซิหากเป็นเช่นนั้น บางคนต้องออกไปทำงานข้างนอก เช้าก็รีบออกจากบ้าน กว่าจะกลับก็ดึกดื่น ลูกกระต่ายจะทนรอป้อนนมได้หรือ ร่ายมาซะยาว มาดูกันดีกว่าว่าทำไงดี

เมื่อเราเห็นกระต่ายของเราทึ้งขนตัวเอง แบบตั้งหน้าตั้งตาทึ้งขน ให้อุปมาไว้ก่อนได้เลยว่าอีคงกำลังจะคลอดละ ให้เราใส่หญ้าแห้งไว้ให้ในกรง กระต่ายจะได้คาบหญ้าไปทำรังด้วย เราสามารถช่วยทำรังได้นะถ้าอยาก เลือกสักมุมนึงของกรง เอาหญ้าแห้งปูไว้แยอะๆ อาจจะทำคล้ายๆรังนกที่มีที่ว่างตรงกลาง ส่วนขอบกั้นให้สูงขึ้น จากนั้นก็ปล่อยให้แม่กระต่ายเตรียมตัว เราก็คอยดูอยู่ห่างๆ

เมื่อเรามาดูที่กรงแล้วเห็น "เอ๊ะ....นั่นมันลูกหนูตัวแดงๆเหรอ" อันนั้นก็คงเป็นลูกกระต่ายที่คลอดออกมาแล้ว ลูกกระต่ายอาจจะไม่ได้คลอดอยู่ในรังที่เตรียมไว้ แม่กระต่ายอาจจะคลอดลูกระเนระนาดกระจายตามพื้นกรง เราสามารถช่วยได้ด้วยการค่อยๆจับลูกกระต่าย ตรวจดูความผิดปกติ ซึ่งอาจจะเป็นว่าลูกกระต่ายตายไปแล้ว เราจะได้เอาซากออกไปฝัง ค่อยๆจับลูกกระต่ายด้วยความเบามือ ค่อยๆใส่ไว้ที่กลางรัง โดยนำขนแม่กระต่ายที่ทึ้งไว้รองรังก่อน แล้วใส่ลูกกระต่าย จากนั้นเอาขนแม่กระต่ายมาคลุมตัวอีกที เพื่อกันยุง

ลูกกระต่ายจะรอดได้ก็ต้องได้นม นมแม่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นสัตว์อะไรก็ตาม หากเราอยากรู้ว่าลูกกระต่ายได้นมไหม ให้สังเกตุดูว่าท้องเค้าจะเต่งๆ กลมๆ ตัวต้องไม่ย่นมาก ถ้าแบบเหี่ยวๆนี่ท่าทางจะไม่ค่อยรอดค่ะ ยิ่งตัวซีดๆด้วยแล้วทำใจได้เลย

เรามันคนใจค่อนข้างร้อนค่ะ เราจะจับแม่กระต่ายมาให้นมลูกสัก 2 วัน เอาว่าลูกกระต่ายได้นมดูแข็งแรงดี วิธีการก็จะนั่งขัดสมาธิแล้วจับแม่กระต่ายให้อยู่นิ่งๆ สบายๆ แบบนอนหงายสบายๆ แล้วค่อยหยิบลูกกระต่ายมาวางไว้ใกล้ๆหัวนม ถ้าแม่กระต่ายชอบดีดต้องระวังค่ะ เดี๋ยวอีแม่ดีดลูกพุงแตก ไม่ก็กระเด็นพาลพิการอีก เราอาจจะหาผ้าเอามาคลุมที่เท้าหลัง ไม่ก็ต้องคอยดุ หรือไม่ก็กล่อมแม่กระต่ายให้สบายใจ แล้วแต่เทคนิคของแต่ละคนค่ะ

แต่ถ้าทำวิธีข้างต้นแล้วดูเหมือนว่าแม่กระต่ายจะไม่มีน้ำนมจริงๆ ลูกดูดนานแล้วตัวยังไม่เป่งเลยสักนิด ดูดจนหมดแรงแล้วก็แน่ใจได้เลยว่าแม่กระต่ายตัวนี้ไม่มีนมให้ชัวร์แน่นอนแล้ว ดังนั้นไม่ควรให้เป็นแม่พันธุ์กระต่ายต่อในครั้งหน้าค่ะ จากนั้นมาแก้ปัญหาทำยังไงให้ลูกกระต่ายได้นมล่ะ

1. หาแม่นม ถ้ารู้ว่าเพื่อนๆคนไหนมีแม่กระต่ายที่คลอดใกล้ๆกันก็ติดต่อขอฝากเลี้ยงเลย ถ้าไม่มีล่ะ

2. เลี้ยงเองค่ะ เป็นแม่นมเองเลย แต่ต้องทำใจไว้ก่อนนะว่าโอกาสไม่รอดก็มี แต่เราก็ต้องพยายามที่สุดค่ะ ทำไงล่ะ

สิ่งที่ต้องเตรียม
ผ้าขนหนูผืนเล็กๆ ไว้ห่อลูกกระต่าย (ไม่มีก็ได้)
ทิซซู่ ไว้ซับน้ำนม
นมแพะ ยี่ห้อศิริชัยก็ได้ (แนะนำนมแพะเพราะย่อยง่ายค่ะ)
ไซลิงค์ดูดยา หรือ Dropper หลอดหยด แต่เราถนัดไซลิงค์มากกว่า

นมขวดนึงก็อยู่ได้หลายวันค่ะ ดูวันหมดอายุตามข้างขวด ถ้าอนามัยจัดๆ กลัวว่านมจะหมดอายุก่อนข้างขวดให้เจ้าของช่วยกินด้วยก็ได้ค่ะ

(ต่อ) เทนมแพะใส่ถ้วยสำหรับป้อน ไม่ต้องเยอะดูปริมาณลูกกระต่ายที่จะป้อน อาจจะทำทีล่ะตัว จากนั้นก็เอาน้ำร้อนแบบไม่ต้องร้อนจัด เอาพออุ่นๆใส่ถ้วยอีกถ้วย แล้วค่อยเอาถ้วยนมแช่อีกที คราวนี้จะได้นมอุ่นๆละ จากนั้นก็จับลูกกระต่ายนอนหงาย ไม่ต้องถึงกะนอนไปเลย เพราะเดี๋ยวป้อนนมแล้วจะสำลักเพราะตัวเค้าเล็กมากๆ ค่อยๆบีบไซลิงค์เข้าข้างๆปาก เพราะจะได้ไม่ติดฟันลูกกระต่าย ข้างปากจะป้อนง่ายสุด บีบช้าๆให้ลูกกระต่ายค่อยๆดูดกลืนลงไป

สังเกตุดู พยายามอย่าให้นมทะลักล้นถึงจมูก บางทีเราป้อนเค้าๆกลืนไม่ทัน มันเร็วไปน้ำนมจะล้นมาที่จมูก ก็ให้ใช้ทิซซู่ซับบ่อยๆค่ะ ป้อนสัก 5-8 ไซลิงค์ หรือมากกว่าก็ได้แล้วแต่ความสามารถของลูกกระต่าย อาจจะเริ่มน้อยกว่านี้แล้วพัก จากนั้นค่อยป้อนใหม่ เอาแบบน้อยๆแต่ถี่ๆก็ได้ค่ะ

เฮ้อ....ยาวไปนิดนะคะ ไงหวังว่าอาจจะช่วยแนะนำได้บ้าง ที่แนะนำมาเป็นเทคนิคของตัวเองนะคะ ลองเอาไปทำดูก็ได้ แต่อยากให้ลองให้ลูกกระต่ายได้นมแม่ก่อน เพราะจะได้ไม่ต้องเป็นภาระเรามาก บางคนต้องทำงานเวลาดูอาจจะไม่เต็มที่ นมแพะบางทีเค้าก็ไม่ค่อยชอบหรอกแต่ถ้ามีแรง หิวๆก็กินค่ะ เคยให้ ESBILAC มันไม่เคยยอมกินเลย (แพงก็แพง) แต่นมแพะนี่รอดค่ะ

ขอบคุณ มารุโกะสาวสวยของมี๊ที่เป็นนางแบบให้ก่อนตายไป หม่ามี๊รักมารุโกะมากๆนะ




 

Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2551    
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2551 22:53:17 น.
Counter : 5151 Pageviews.  

+++จับกระต่ายอาบน้ำ+++

ใครว่ากระต่ายอาบน้ำไม่ได้ อาบได้นะคะ แต่ว่าเค้าไม่ค่อยอาบให้กันสักเท่าไหร่ เพราะปกติกระต่ายจะเป็นสัตว์ที่สะอาด คอยดูแลความสะอาดของตัวเองอยู่เสมอๆ แต่จะมีกระต่ายบางตัวที่เป็นจำพวก "กระต่ายซ๊กม๊ก" ซึ่งจำเป็นที่จะต้องอาบน้ำ ทำความสะอาดตัว เพื่อสุขภาพจมูกของคนเลี้ยง



สิ่งที่เราควรตรวจดูก่อนที่จะทำการอาบน้ำให้กระต่าย


1. กระต่ายมีสุขภาพแข็งแรง ไม่เป็นโรค (หากว่าเป็นและจำเป็นต้องทำความสะอาดให้ แนะนำว่าให้ใช้น้ำอุ่นๆ และอยู่ในที่ๆไม่มีลมโกรก)
2. ไม่อยู่ในช่วงผลัดขน เพราะขนมันจะปลิวว่อนเลยล่ะ ช่วงผลัดขน แนะนำให้ใช้มือจุ่มน้ำแล้วลูบตามตัวเค้าดีกว่าค่ะ หรือหมั่นแปรงขน หรืออาบด้วยวิธีซักแห้งก็ได้
3. ไม่มีบาดแผล เพราะหากน้ำโดนแผลอาจจะทำให้แผลเปื่อย และอักเสบได้ค่ะ
4. กระต่ายไม่ตั้งท้อง หรือกำลังให้นม ถ้ากระต่ายท้องก็เสี่ยงว่าเค้าจะแท้งได้ กระต่ายให้นมเดี๋ยวก็พาลทำให้แม่กระต่ายไม่ให้นมลูกซะงั้น ช่วงนี้อย่ารบกวนเค้าดีกว่าค่ะ

การอาบน้ำให้กระต่าย Style Catzilla


ดิฉันมีวิธีการอาบน้ำให้กระต่าย 2 แบบ สามารถเลือกใช้ได้ตามความสกปรกค่ะ

1. Low ซักแห้ง
2. Deep Clean สะอาดล้ำลึก



การอาบน้ำกระต่ายแบบ Low หรือ การซักแห้ง


การอาบน้ำให้กระต่ายแบบนี้ใช้เวลาไม่มาก ถ้ากระต่ายสกปรกเฉพาะจุด อาจจะแค่ตรงนั้น (ก้นน่ะค่ะ) หรือเท้า หรือบริเวณปากมอมๆ
เริ่มด้วยการสางขนกระต่ายก่อน ให้ขนเก่าๆหลุดออก ปมขนที่เป็นสังกะตังจะได้หลุดออกมา เป็นการทำความสะอาดกระต่ายในเบื้องต้น ซึ่งสิ่งสกปรกต่างๆสามารถหลุดออกมาได้บ้างบางส่วนค่ะ
จากนั้นให้หาผ้าขนหนูผืนเล็กๆเตรียมไว้ อ่างหรือกาละมังใบเล็กๆ โคโลญจ์เด็กกลิ่นที่ชอบ ถ้าไม่มีก้อโลชั่นเด็กก็ได้ค่ะ ทำไมต้องใส่โคโลญจ์ หรือโลชั่นล่ะ? ไม่ต้องใส่ก็ได้ค่ะ สำหรับคนที่ต้องการให้น้องกระต่ายมีกลิ่นหอมอ่อนๆติดตามตัว เป็นกลิ่นสะอาดๆแบบที่เจ้าของชอบ อาบเสร็จอาจจะเอามาหอมสักฟอดน่ะค่ะ

เริ่มอาบได้


ให้เอาน้ำสะอาดใส่อ่างสักครึ่ง จะใช้น้ำอุ่นก็ได้ค่ะ แล้วก็หยดโคโลญจ์ หรือโลชั่นที่เตรียมไว้ 5-6 หยด แล้วก็ผสมให้เข้ากัน จากนั้นให้ใช้ผ้าชุบน้ำ บิดพอหมาดๆ เช็ดที่ใบหน้า จมูก และข้างๆปาก ในหู ซักผ้าเรื่อยๆเพื่อความสะอาด เช็ดขนตามตัวโดยการเช็ดย้อนแนวขน เพื่อนน้ำจะได้ซึมไปถึงข้างในบ้าง
ทำจนสะอาดแล้วน้ำที่เหลือเราก้อเอามาใช้ล้างก้น และล้างเท้าของกระต่าย อุ้มกระต่ายแล้วจับเค้าหย่อนก้นลงไปในน้ำ เช็ดๆถูๆตรงนั้น (ก้น) แหวกๆดูตรงนี้แหละจุดทำให้เกิดกลิ่น แหวะดูข้างๆจะมีหลืบเค้าเรียกว่า "ช่องฝีเย็บ" ดูดีๆจะมีสิ่งสะสม หมักหมมอยู่ กลิ่นมันจะคล้ายเปลือกส้มเน่าๆอ่ะค่ะ ไม่เชื่อลองหามาดมดูนะคะ เหอๆๆๆๆ ให้แคะออก ใช้น้ำถูๆทำความสะอาด เสร็จแล้วถ้าเท้ากระต่ายสกปรกไม่มาก อยากจะล้างก็เอาเท้ากระต่ายจุ่มลงไปทีละเท้า แล้วก็ล้างตามซอกนิ้วเท้าให้สะอาด
หลังจากนี้แล้วให้ใช้ผ้าขนหนูแห้งๆ สะอาดๆ ซับน้ำให้หมาดๆ แล้วใช้ไดร์เป่าผมเป่าให้แห้งสนิท หรือจะปล่อยให้แห้งเองก็ได้ค่ะ พอแห้งแล้วก็แปรงขนอีกครั้งกระต่ายก็กลับมาเป้นกระต่ายสะอาดน่ากอด น่าหอมแล้วล่ะค่ะ

หมายเหตุ
การอาบน้ำแบบแรกนี้สามารถอาบได้บ่อย ไม่ต้องห่วงเรื่องกระต่ายจะเป็นปอดบวม เพราะว่ากระต่ายไม่ได้ถูกแช่น้ำนานๆ

Deep Clean สะอาดล้ำลึก


ก่อนอาบน้ำให้กระต่ายทุกครั้งอย่าลืมตรวจดูกระต่ายก่อนนะคะแบบที่แนะนำไว้ในตอนต้นนะคะ

อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมก่อนการอาบน้ำ
อ่าง หรือที่บ้านเรียกว่ากาละมัง
แชมพูสำหรับกระต่าย หรือของแมวก็ได้ เราใช้แชมพูแมวยี่ห้อ HARTZ หอมดี
ผ้าขนหนูแห้งสะอาด 2 ผืน
ไดร์เป่าผม

การอาบแบบนี้ไม่ได้ยากอะไร เวลาในการอาบเยอะกว่าแบบแรก สำหรับกระต่ายที่มีความสกปรกขนาดปานกลาง

เริ่มอาบได้
ก่อนอาบน้ำ อุ้มกระต่ายน้อยมานอนบนตักสักพักให้เค้าทำใจซะก่อน กระต่ายไม่ชอบน้ำหรอก จากนั้นเอาน้ำใส่อ่างให้พอท่วมเท้ากระต่าย แล้วเปิดน้ำให้ไหลหรี่ๆ จับกระต่ายน้อยไว้ที่อ่างอย่างช้าๆ พยายามไม่ให้เค้ากระโดดออกมา โดยใช้วิธีการโอ๋ ชมกระต่ายคุณว่าหล่อสุดๆ แม้ว่ากระต่ายคุณจะหน้าแหลมแบบทิ่มเจ้าของเลือดสาดได้ก็ชมเค้าเหอะ รักรึเปล่าล่ะ แหม ถ้าไม่รักคงไม่จับอาบน้ำหรอก จริงมะคะ หากเค้าดื้อจัดๆก็ให้ดุเค้า ทำเสียงดังๆ ชู่ว์.....อย่านะ ประมาณนี้

ค่อยๆอาบน้ำลูบๆตัวให้เปียก อาจไม่ต้องให้ถึงกับให้น้ำมันซึมเข้าไปที่ขนชั้นในมากนักก็ได้ ถ้าต้องการก็ใช้นิ้วมือขยี้ๆตามขนเค้าแล้วให้น้ำเข้าไปที่ขนชั้นในซึ่งก็ใช้เวลาพอควรเลยล่ะ

จากนั้นเทน้ำที่ล้างขนเค้าทิ้งไปซะ จับกระต่ายให้มั่นๆนะคะ เดี๋ยวจะกระโดดหนี เดี๋ยวพาลบาดเจ็บซะ ให้ใส่น้ำผสมแชมพูสำหรับอาบน้ำให้ได้ประมาณท่วมเท้ากระต่าย ไม่ต้องหวงแชมพูนะคะ ให้มันเป็นฟองลื่นๆ เพื่อที่จะได้เป็นน้ำสบู่ช่วยฟอกเวลาตัวเค้าเริ่มแห้งน่ะค่ะ

จากนั้น เอาน้องกระต่ายใส่อ่างเหมือนเดิม เทแชมพูใส่มือแล้วลูบๆให้เกิดฟองก่อนแล้วค่อยฟอกลงบนตัวกระต่าย ถ้าแชมพูไม่พอก็เพิ่มได้ทีละนิด แล้ววักน้ำสบู่ในอ่างมาขยี้ตามตัวด้วย รวดเร็วนิดนึง ถ้าคุณยิ่งช้า กระต่ายก็ยิ่งเครียดนะคะ พยายามอย่าให้น้ำเข้าจมูก ให้จับเค้าเงยหน้า แล้วทำหูลู่ลงมาฟองสบู่กับน้ำก็จะไม่เข้าแล้วล่ะ

ฟอกให้ทั่วตัว ตรงนั้นของกระต่ายก็แหวกออกมาล้างกันซักนิด อาบได้จนหนำใจแล้วก่อนล้างตัวก็รีดเอาฟองออกสักนิดนึง เวลาล้างจะได้ไม่เปลืองน้ำ แล้วก็ไม่เปลืองเวลาด้วย

เทฟองสบู่ในอ่างทิ้ง แล้วล้างฟองออกให้หมด จับน้องกระต่ายเงยหน้า แล้วทำหูเค้าให้ลู่ลงมา เริ่มล้างฟองจากที่หัวก่อน เพราะจะได้ไม่ต้องกังวลว่าน้ำจะเข้าจมูกเค้าอีกหรือเปล่า อีกอย่างเค้าจะได้ไม่รำคาญกับฟองสบู่ที่ติดตามหน้าตามหูด้วยน่ะ

จากนั้นก็ล้างฟองตามตัวออก ทำจนหมดฟองสบู่ จากนั้นก็บิดน้ำให้หมาด เอ้ย ทำการสะเด็ดน้ำ จับเค้านอนงายก็ได้ค่ะ แล้วค่อยๆรีบน้ำออกจากขน ค่อยๆบีบนะคะ กระดูกเค้าเล็กนิดเดียว เดี๋ยวกระดูกหักซะก่อน ตอนนี้เห็นแล้วใช่ไหมคะว่าลูกคุณมีขนาดที่แท้จริงเท่าไหร่ ไม่น่ากินเลยช่ายม้า อิอิ

นำผ้าขนหนูรีบมาห่อตัวเค้า แล้วชมเค้าหน่อยว่าเค้าเก่งแค่ไหนที่ผ่านการอาบน้ำมาได้ด้วยดี เช็ดตัวให้แห้ง ถ้าผ้าเปียกมากแล้วก็ให้เอาผ้าแห้งอีกผืนเช็ดต่อ จากนั้นก็ไดร์เป่าให้แห้งค่ะ

พอแห้งแล้วก็หวีขนให้เข้าทรงตามชอบ อิอิ หล่อแล้วช่ายม้า


แหว้...มาอาบน้ำกะกุ๊งกิ๊งกันนะฮั๊บ


/)/)
( '.')
(,,)('')('') Catzilla




 

Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2551    
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2551 22:47:15 น.
Counter : 25315 Pageviews.  

+++จับกระต่ายมา Diet +++

Junk-Food หรือ อาหารขยะ ของไม่มีประโยชน์ทั้งหลายก่อให้เกิดผลเสียต่างๆมากมาย แหม...จะว่าไปแล้วก็ชอบอ่ะนะ ก็มันอร่อยนี่นา แม้ว่าจะเลือกกินของดีๆมีประโยชน์ก็แล้ว แต่มันก็ยังอ้วน!! ก็วันๆนั่งแต่หน้าจอคอมพ์ จิ้มๆๆๆๆ ไม่ได้ออกกำลังกายมันก็อ้วนสิคะ กระต่ายก็เหมือนกัน กินแล้วก็นอนทั้งวัน ดังนั้นทั้งคนทั้งกระต่ายควรจะมีการ "จำกัดอาหาร" ด้วย

ของดีๆที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของคนเราก็ใช่ว่าจะดีต่อกระต่ายน้อยๆของเรานะ กระต่ายขอบของหวานๆ มันไม่เคยปฏิเสธเจ้าของเลยว่า "มี๊...หนูอ้วนแล้ว งดของหวานเถอะค่ะ" มันจะรู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่เราให้ซีเรียล อย่างคอร์นเฟล็กเคลือบน้ำตาล หรือแม้แต่ผลไม้ที่มีน้ำตาลสูงๆทั้งลูก มันกินได้หมดแหละ หรือแม้แต่ให้แครอทอย่างเดียวเป็นกิโล เหมือน Bug Bunny รู้ๆกันอยู่ว่ากระต่ายน่ะกินเก่ง ยิ่งเจ้าของกินอะไร แล้วก็ชอบป้อนให้กระต่ายได้ลิ้มลองด้วย นั่นก็ยิ่งแย่ คนเลี้ยงหลายคนรู้สึกดี เห็นเป็นเรื่องดีซะอีกที่กระต่ายไม่ได้เลือกกิน แต่กินดะซะทุกอย่าง ทั้งส้มตำ ข้าวเหนียว ราดหน้า หรือแม้แต่ขนมถุงกรุบๆกรอบๆ ผลที่ตามมาคือกระต่ายอ้วนๆ อุ้ยอ้ายๆ

ดูยังไงล่ะ “กระต่ายอ้วน” เนี่ย?
คงจะวัดจากการที่ใส่เสื้อผ้าแล้วคับๆ ตึงๆ ติ้วๆไม่ได้หรอก วิธีง่ายๆเลยที่จะดูกระต่ายเราว่าอ้วนขึ้นไหมคือ ลองหารูปเก่าๆของกระต่ายเราที่ถ่ายไว้ แล้วก็เปรียบเทียบกับสัดส่วนที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น ก่อนนี้ตอนกระต่ายชั้นสาวๆอยู่ยังมีขาเรียวๆให้ได้เห็น แต่เดี๋ยวนี้เวลาถ่ายรูปแล้วขามันหายไป กลายเป็นก้อนวัตถุถูกทิ้งไว้อย่างอิสระตามมุมบ้าน สามารถเคลื่อนย้ายตัวเองได้ด้วยการกลิ้ง แทนการกระโดดดุ๊บๆเหมือนเก่า นั่นแสดงว่ากระต่ายมันอ้วนแล้วล่ะ หรือ ลองสังเกตจากการมองกระต่ายจากมุมบนดู รูปร่างเค้าจะเป็นแบบลูกแพร์ ถ้ามันเป็นลูกอย่างอื่นที่กลมๆก็อ้วนแล้วล่ะ

กระต่ายอ้วนๆบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพที่จะตามมา อย่าหลอกตัวเองเลยค่ะ มันอ้วนจริงๆ ลองสังเกตจากการชั่งน้ำหนักก็ได้ เอามันทั้งคนทั้งกระต่ายเลยว่าอ้วนไหม ทุกๆวันเราลองชั่งน้ำหนัก จดดูซิว่าเท่าไหร่ จากนั้นก็อุ้มกระต่ายแล้วเอามาชั่งน้ำหนักด้วยกันเลย ทำดูทุกวันจะได้รู้ว่ากระต่ายและเราอ้วนขึ้นไหม

กระต่ายของเราก็ควรที่จะได้รับการตรวจสุขภาพจากสัตวแพทย์เป็นประจำด้วยเช่นกัน ลองถามคุณหมอดูทุกครั้งที่เราพากระต่ายไปตรวจสุขภาพด้วยว่าน้ำหนักเท่าไหร่ เพิ่มขึ้น หรือลดลงไหมเราจะได้รู้ว่ากระต่ายเราอ้วนเกินไปหรือเปล่า บางครั้งจะเทียบน้ำหนักกระต่ายเราตามลักษณะสายพันธุ์ก็ไม่ได้ เคยแล้วค่ะ Diet มันสุดชีวิตจนมันเดินแทบจะไม่ไหว สุดท้ายก็ต้องปล่อยให้เค้ากิน เพราะโครงสร้างเค้าใหญ่อยู่แล้วด้วย

งด ละ เลิก Junk-Food!
นิสัยการกินอาหารขยะเหล่านี้ ไม่ได้เกิดจากกระต่าย แต่เกิดจากการเรียนรู้ที่เจ้าของส่งเสริม และส่งผลร้ายต่อสุขภาพกระต่าย แม้ว่ากระต่ายจะมีฟันที่ดีแต่ของที่กินเข้าไปก็ทำให้มันอ้วนได้ ดังนั้นเราจึงควรช่วยให้กระต่ายได้กินอาหารอย่างเหมาะสมด้วย จำไว้ว่ากระต่ายไม่ได้อ้วนเพราะมันทำตัวของมัน แต่เราที่เป็นเจ้าของทำให้มันอ้วน หากกระต่ายของคุณมีพฤติกรรมชอบบริโภคอาหารขยะ สิ่งที่ควรทำก็คือ เราต้องงดให้ แล้วเริ่ม Diet กระต่ายของเราซะ

จับกระต่ายมา DIET
ก่อนอื่นให้เราดูสิว่าเราให้อาหารกระต่ายแต่ละวันมีอะไรบ้าง ให้กินยังไง ปริมาณเท่าไหร่ สิ่งที่ช่วยได้คือ “ถ้วยตวง” ดูซิว่าเค้ากินหมดไหม กินเหลือไหม ถ้าเราให้อาหารเม็ดจนเค้ากินหมดแล้ว ก็ไม่ต้องเติมแต่หันมาให้อย่างอื่นที่กินแล้วไม่อ้วน แล้วก็กินได้ทั้งวันอย่างหญ้า หากที่บ้านเลี้ยงอย่างอื่นด้วยอย่างน้องหมา แมว หรือหนู ก็ควรระวังเจ้ากระต่ายน้อยของเราจะไปโขมยอาหารของสัตว์เลี้ยงอื่นในบ้านด้วย เพราะบางบ้านทั้งน้องหมาก็มาแจมอาหารกระต่าย ผลัดกันโขมยกินอาหาร เจ้าของก็ชอบถูกใจกลายเป็นเรื่องตลกไปซะงั้น

น้ำหนักที่ลดต่อสัปดาห์ควรจะไม่เกิน 1%-2% ของน้ำหนักตัว ไม่ควรปุบปั๊บลดโดยที่ไม่ให้กระต่ายได้ปรับตัวเลย สุขภาพกระต่ายจะแย่ลงกว่าเก่าซะก่อน มาดูกันดีกว่าว่าควรให้กระต่ายกินอย่างไร

ผักสด หรือ ผลไม้
ควรให้ผัก หรือ ผลไม้ 1 ถ้วยตวง ต่อ น้ำหนักตัวของกระต่าย 2 กิโลกรัม



หญ้าสด หรือ แห้ง
ควรให้หญ้าไม่ขาด เพราะหญ้ามีไฟเบอร์สูง ไม่มีไขมัน หญ้าที่ควรเลือกให้คือหญ้าอะไรก็ได้ ยกเว้น หญ้าอัลฟาฟ่า เราอาจจะเลือกอาหารเม็ดที่มีหญ้าเป็นส่วนผสมหลักๆแทนสำหรับกระต่ายที่มีนิสัยไม่กินหญ้า อาหารเม็ดที่ว่าต้องแน่ใจว่ามีหญ้าเป็นหลัก ไม่ใช่เป็กกากถั่วนะคะ เพราะจะให้โปรตีนสูงเกินไป

ขนม หรือ Snack สำหรับกระต่าย
ให้หลีกเลี่ยงของที่มีน้ำตาลสูงๆ อย่างเช่น ซีเรียล หรืออาหารที่มีไขมันสูงๆ เราอาจจะเปลี่ยนให้ของกินเล่นกับกระต่ายจากธัญพืชที่ใส่ผสมในอาหารแล้วมาเป็นผลไม้อบแห้ง ซึ่งควรให้วันละ 1/8 หรือ ¼ ช้อนชาต่อวันเท่านั้น หรือเราจะเปลี่ยนมาให้ผักสด หรือ ผลไม้แทนของทานเล่นสำหรับกระต่ายจะดีกว่าค่ะ

ให้อาหารเม็ดยังไงดี?
ส่วนผสมหลักควรเป็นหญ้าที่ให้ไฟเบอร์สูง แทนที่จะเป็นหญ้าอัลฟาฟ่าที่ให้โปรตีนสูง
อาหารเม็ดที่เลือกให้ไม่ควรมีเมล็ดธัญพืชต่างๆผสมลงไปด้วย เพราะจะทำให้กระต่ายเลือกกินเฉพาะที่มันชอบเท่านั้น
ถ้าเราให้ผักสดเค้ามากพอแล้ว ก็ควรลดอาหารเม็ดให้เค้า
การให้อาหารเม็ดแต่ละครั้งควรใช้ถ้วยตวง เราจะได้มั่นใจได้ว่าเราไม่ให้อาหารเค้ามากเกินไป ดูได้ตามนี้ค่ะ

น้ำหนักกระต่าย / ปริมาณอาหารเม็ด

1-2 kg. / ¼ cup

2-3 kg. / ½ cup

3-4 kg. / ½ - ¾ cup

5-7 kg. / ¾ - 1 cup







 

Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2551    
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2551 22:47:03 น.
Counter : 2916 Pageviews.  


catzilla_girl
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





Friends' blogs
[Add catzilla_girl's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.