Group Blog
 
All Blogs
 

Chapter 22 - Universal Studio Hollywood

Universal Studio Hollywood หากใครไปเที่ยวแอลเอแล้วไม่ได้ไปเที่ยวที่นี่ถือว่าเซ่อคับ ไม่ได้ถือว่าไปไม่ถึงหรอก เพราะที่นี่ถือได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับยอดนิยมของแคลิฟอร์เนียเลยทีเดียว ไม่เพียงแต่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่นิยมมาเที่ยวกัน แต่คนอเมริกันต่างรัฐหรือต่างเมืองก็ต้องหอบลูกจูงหลานมาเที่ยวที่นี่สักครั้งนึงเหมือนกัน
Universalเราก็คงจะรู้จักกันดีในนามของค่ายสร้างหนังค่ายใหญ่แห่งนึงของHollywoodหนังที่ดังๆก็เช่นJurasic Park,Back to the future,Terminator,Fast and Ferious แต่ที่นี่ไม่เพียงแต่สร้างหนังอย่างเดียวเขายังมีส่วนของสวนสนุกเอาไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่อยากจะมาใกล้ชิดกับหนังของเขานอกจออีกด้วย

ผมไปเที่ยวที่Universal Studio Hollywoodแห่งนี้2ครั้ง ผมไม่ได้รวยจนสามารถซื้อบัตรผ่านประตูได้ถึง2ครั้งหรอกคับ ใบนึงก็52เหรียญแล้ว แต่ที่นี่เขาใช้บัตรใบที่เราซื้อนั่นแหละอัพมาเป็นบัตรแบบYear Passได้เลย ก็คือเข้าได้ทั้งปีโดยซื้อบัตรแค่ใบเดียว เป็นไงเจ๋งไหมคับ กลยุทธ์ทางการตลาดแบบนี้ใช้กันทั่วอเมริกาแหละคับ
ลองคิดดูสิคับใครมันจะบ้าซื้อบัตรเข้าสวนสนุกที่เดิมปีละหลายๆครั้ง เข้าครั้งเดียวเขาก็ไม่อยากจะเข้าไปอีกแล้วเพราะเขาเห็นแล้วว่าข้างในเป็นยังไง เครื่องเล่นเขาก็นั่งมาหมดแล้ว ถ้าแบบนั้นเราให้เขาสามารถเข้าฟรีตลอดปีเลยไม่ดีกว่าหรือคับ ลองคิดดูว่าใครมันจะบ้ามาเที่ยวสวนสนุกคนเดียวเขาก็ต้องพาเพื่อนพาแฟนพาอาก๋ง อาม่า อาเจ็กเข้าด้วยจริงไหมคับ แบบนี้ก็เท่ากับเป็นการให้แขกคนเดิมนั่นแหละเป็นเซลล์พาคนอื่นๆที่ไม่เคยมา เพื่อให้มาเที่ยวกันเยอะๆ แล้วนอกจากนั้นเวลานอยู่ในสวนสนุกพวกเขาก็ต้องกินต้องดื่มคับ กำไรก็ได้จากตรงนี้ด้วยจริงไหม คนมาเที่ยวก็พอใจสวนสนุกก็ได้กำไร
แบบนี้เขาเรียกว่าการตลาดแบบเซียนคับ กินทีหลายเด้ง

-ผมลืมบอกไปว่าUniversal Studio Hollywoodเป็นสวนสนุกแบบซื้อบัตรเข้าทีเดียวแล้วจะเล่นอะไรข้างในก็ฟรีหมด-

Universal Studioเป็นสวนสนุกที่มีเอกลักษณ์ของตัวเอง คือเครื่องเล่นทุกชนิดจะเกี่ยวข้องกับหนังที่เขาทำ อันแรกที่ผมเข้าไปเล่นเป็นปราสาทVanhelsing
มันเหมือนกับบ้านผีสิง เดินเข้าไปในปราสาทมืดๆ น่ากลัว คนจิตอ่อนไม่ควรเข้าไปคนเดียว เดินอยู่ตั้งนานกว่าจะเจอมนุษย์หมาป่าโผล่มาหลอกก็ตอนจะเดินออกแล้ว ลุ่นอยู่ตั้งนาน ผมไม่อยากเล่ามากเอาคร่าวๆเผื่อเพื่อนๆมีโอกาสได้ไปเที่ยวจะได้ตื่นเต้นให้เต็มที่

จากนั้นเข้าไปดูSherk3D เป็นหนัง3มิติคับ แบบใส่แว่นดู
ดูแล้วก็สนุกดีผมก็คล้ายๆคนกระเหรี่ยงทั่วไปทั้งๆที่รู้ว่ามันเป็นหนัง3มิติแต่ก็อดเอามือยื่นไปลองจับไม่ได้ แล้วก็ไม่เจอตามระเบียบคับ เออ...แล้วกูจะเขียนไปทำไมวะ??
แต่ที่มันพิเศษอีกอย่างนึงของหนังเรื่องนี้นอกจากจะเป็น3มิติแล้วมันยังจะ........???..........เอาไว้ไปหาคำตอบกันเองคับทีUniversal

Water Worldหนังเรื่องนี้ดังมาก ใครยังดูไม่หนำใจก็มาต่อให้จุใจได้ที่นี่ Water worldจะเป็นการแสดงคับไม่ใช่เครื่องเล่น เราก็ไปนั่งดูวันนึงรู้สึกจะมีแค่2รอบ เรื่องราวก็เกี่ยวกับน้ำๆเหมือนในหนังแหละคับ ยิงกันตูมตาม ระเบิดลงตู้มตู้มๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แหมเห็นแค่2ตู้มก็เลือดกำเดาไหลแล้ว
แต่ระวังตอนดูโปรดสังเกตุที่นั่ง โปรดนั่งให้ถูกที่เพราะYou will get wetหากนั่งตรงแถวล่างๆ
ไฮไลท์ของWater worldก็เป็นตอนที่..........?..........เอาไว้ไปดูกันเองคับ ผมไม่บอก555

จากนั้นมาต่อกันที่Back toThe futureหนังเรื่องนี้ใครไม่ดูเรียกเชยคับ ดังมากสมัยผมยังเป็นเบบี้ แต่ผมมาดูเอาตอนแก่แล้ว เครื่องเล่นอันนี้ให้เราขึ้นไปบนรถแล้วมันก็จะพาเราย้อนเวลาไปยุคไดโนเสาร์เพื่อไล่ล่าเหล่าวายร้ายที่ขโมยรถอีกคันของดร.ไป แค่นี้แหละคับขี้เกียจเล่ามาก

Jurasic park อันนี้ธรรมดาไปหน่อย นั่งบนเรือแล้วลอยไปเรื่อยๆแบบล่องแก่งที่The mall บางแคใครเคยเล่นแล้วก็คงจะรู้ว่าเป็นยังไง แต่ดร็ปสุดท้ายนี่สิ ใจจะวายเอา เสียวๆๆ

Terminator อันนี้มันส์คับ เราจะได้สวมบทบาทเป็นแขกผู้มีเกียรติ์เข้ามาชมการแสดงอสวุธของบริษัทนึง แต่พ่อจอน คอร์นเนอร์กับแม่ ดันเข้ามาขัดขวางการแสดงอาวุธในครั้งนี้แล้วบอกว่าให้ทุกคนรีบหนีออกไปซะ แล้ววายร้ายเจ้าT1000ก็ปรากฏตัวขึ้นหมายจะฆ่าเจ้า2แม่ลูกซะ แต่พระเอกของเราคนเหล็กนั่นเองก็ขับแมงกะไซออกมาต่อสู้กับเหล่าร้ายเอาไว้ คับ....เอาไว้.... เอาไว้ไปดูเองไงคับ

อันสุดท้ายละกันเดี๊ยวจะโดนหมั่นไส้กันพอดี Mummy Revenge เป็นRoller Coasterหนึ่งเดียวคับของที่นี่คับ
ผมมีปัญหากับRoller Coasterอยู่แล้วทั้งๆที่ทำงานในสวนสนุกRoller Coaster แหมก็ของแบนี้มันห้ามกันไม่ได้ ผมโดนบังคับให้เล่น ไม่มีทางเลือกเล่นก็เล่น แต่โชคดีที่มันเป็นRoller Coasterในอาคาร ทุกอย่างจะดูมืดๆไปหมด เลยไม่ค่อยเสียวเท่าไร แต่เอฟเฟคที่เขาใช้ทำมันสวยงามมาก เล่นแล้วมันส์ เปนไงไปเล่นกันเองนะคับ

นอกจากเครื่องเล่นทั้งหมดแล้วยังมีการสำรวจกองถ่ายกันอีกด้วย ว่าก้อนนี้ของแบรด พีท ก้อนนี้ของแองเจลลีน่า
ก้อนนี้ของทอม ครูซ........????

ม่ายช่าย........ ไม่ใช่ก้อนทอง
แบบว่านังรถไปดูสถานที่ที่เขาใช้ถ่ายหนังเรื่องต่างๆ เช่นฉากเครื่องบินตกในหนังเรื่องWar Of The Worldและอีกหลายๆเรื่องมาก พร้อมทั้งเอฟเฟคในการถ่ายหนังเรื่องต่างๆถูกเอามาเสนอให้เราดูหมด ใครที่ชอบดูหนังHolywoodไปแล้วกลับมาคงนอนตายตาหลับแล้ว
และถ้าโชคดีอาจจะได้เจอดาราฮอลลีวูดด้วย
ผมก็มองหาเจสซิก้า อัลบ้าอยู่ตั้งนาน ไม่เจอคับ!!
ถ้าวันนั้นเจอผมคงไม่ได้มีโอกาสมาเล่าเรื่องแบบนี้ให้ฟังกันแล้ว

ถามว่าผมจะทำอะไรน่ะเหรอคับ....?

ผมไม่บอกหรอก.....เอาไว้ค่อยไปกันเองคับ555




 

Create Date : 15 กรกฎาคม 2550    
Last Update : 16 กรกฎาคม 2550 22:26:39 น.
Counter : 946 Pageviews.  

Chapter 21 - พี่มืดกับพี่เม็ก

อเมริกามีประชากร300ล้านคนแล้วคับตอนนี้ มากเป็นอันดับ3ของโลก
แต่จริงๆแล้วเชื่อไหมว่ามีคนผิวดำหรือเรียกว่าแอฟริกัน-อเมริกันอยู่แค่10กว่า% ของประชากรทั้งหมด พูดง่ายๆก็คือมีแค่30ล้านกว่าคน

คนดำพวกนี่เมื่อก่อนเป็นทาสที่มาจากแอฟริกา พวกคนขาวเอาเรือไปจับมาเหมือนหมูเหมือนหมาเพื่อเอามาใช้แรงงานในไร่ ตอนที่เอาเรือไปต้อนมานั้นบางคนก็ไม่อยากที่จะไปเป็นทาสของคนขาวในอเมริกาถึงขนาดยอมลงทุนตัดแขนตัดขาตัวเองให้กลายเป็นคนพิการก็เยอะ

คนดำที่โดนจับมาเป็นทาสที่อเมริกาก็ใช้ชีวิตอย่างลำบาก
จนกระทั่งสหรัฐอเมริกาได้ประธาธิปดีคนที่16ที่ชื่อว่าอับบราฮัม ลินคอน
ท่านได้ประกาศเลือกทาส จนส่งผลให้เกิดสงครามกลางเมืองขึ้นระหว่างรัฐเหนือและรัฐใต้ สู้กันอยู่สักพักใหญ่ผลออกมาว่ารัฐฝ่ายเหนือชนะ คนดำก็เลยได้รับอิสระภาพไม่ต้องกลายเป็นทาสอีกต่อไป ไม่มีนายแล้ว ไม่ต้องทำงานหนักๆอีก
พวกคนดำที่เป็นไทแล้วก็งงเต๊กสิ ไม่รู้ว่าชีวิตนี้จะอยู่อย่างไรโดยที่ไม่มีนาย ทำมาหากินก็ไม่เป็น กว่าจะตั้งหลักได้ก็เล่นมาถึงรุ่นลูกรุ่นหลานแล้ว ชีวิตคนดำต้องต่อสู้มาตลอดไม่ว่าจะเป็นเรื่องเหยียดผิว หรือต่อสู้ในเรื่องปากเรื่องท้อง

แต่ในปัจจุบันนี้ฐานะของคนดำเท่าเทียมอเมริกันชนทั่วไปแล้วคับ เป็นนักกีฬาที่มีชื่อเสียงโด่งดัง นักการเมือง นายทหาร นักธุรกิจก็แยะ
ดูเหมือนว่าพวกคนดำจะได้รับการยอมรับจากสังคมอเมริกันแล้ว แต่ไม่ใช่ทั้งหมดหรอกคับ พวกคนดำที่ไม่ทำมาหากินรอรับสวัสดิการณ์จากรัฐบาลอย่างเดียว ให้ไอ้ขาวหรือไอ้เหลืองอย่างเราทำงานงกงกเงี่ยนๆ หรือทำอาชีพผิดกฎหมายเป็นโจร นักวิ่งราว ขายยาก็เยอะ คนพวกนี้สังคมเมริกันรังเกียจเป็นขี้คับ

ทุกวันนี้พวกคนดำเสียตำแหน่งชนกลุ่มน้อยอันดับ1ของอเมริกาไปแล้วคับ มีชนกลุ่มใหม่ไฟแรงกว่าเข้ามาเสียบแทนที่แล้ว พวกเขาเหล่านั่นก็คือพวก
"พี่เม็ก"คับหรือที่เรียกกันอีกอย่างว่า"ไอ้เม็ก"คนไทยในแอลเอเรียกกันน่ะคับ พี่เม็กหรือไอ้เม็กนั้นหมายถึงพวกเม็กซิกันคับ พวกนี้มาอยู่ในอเมริกาโดยเฉพาะในแอลเอเป็นหลายล้านคนคับ เดินไปตามถนนหรือขึ้นรถไฟใต้ดินนี่รู้สึกเหมือนกับว่าอยู่เม็กซิโก พวกเม็กซิกันเหล่านี้แหละคับที่เข้ามาแย่งงานพวกพี่มืดทำ งานที่ไม่ต้องใช้ความรู้สูงเช่นงานบริการต่างๆ พวกพี่มืดก็เลยไม่ค่อยจะชอบพี่เม็กนัก
ผมมีความรู้สึกว่า2กลุ่มนี้เขารังเกียจซึ่งกันและกันอยู่ลึกๆนะ พี่เม็กก็ไม่ชอบพี่มืด
อย่าว่าแต่2กลุ่มนี้เลยคับที่ไม่ชอบกัน พี่ไทยเนี่ยก็รังเกียจพี่เม็กเหมือนกัน เล่นว่ายข้ามแม่น้ำมาอยู่แอลเอซะเป็นโขยงมาแย่งงานพี่ไทยทำ แล้วพวกไอ้เม็กนี่มันประเภทหัวรุนแรงคับ ตั้งแกงค์กันปล่อยยา ปล้น ข่มขืนก็มีเยอะ ความซวยเลยมาตกอยู่กับพวกเราๆกระเหรี่ยงคนไทยที่หาเช้ากินค่ำแบบนี้แหละ เพราะคนขาวมันไม่กล้าไปทำหรอกถือว่าเป็นอภิสิทธ์ชน ไอ้มืดมันก็โหดพอๆกันทำแล้วเดี๊ยวโดนตืบกลับ เอาไอ้ยุ่น อีแดจังกึม ไอ้แม้วแถวๆบ้านเรานี่แหละง่ายดี

พอพูดถึงเรืองความไม่ชอบขี้หน้ากันระหว่างพี่เม็กกับพี่มืดผมก็นึกได้เรื่องนึง
มีอยู่วันนึงในสวนสนุกคับ พี่เม็กแกไปมีเรื่องกับพี่มืด พวกพี่มืดอยู่กันร่วมร้อยแต่พี่เม็กคนนี้แกสวมบทพระเอกหนัง มีอยู่คนเดียว โถ...อนาจ ตัวต่อตัว พี่เม็กก็สู้พี่มืดไม่ค่อยได้อยู่แล้วเพราะรูปร่างเป็นรองเอามากๆ
ทะเลาะกันสักพักใหญ่ พวกSheriffยังไม่มา พี่มืดอาศัยพวกมากจัดการตบพี่เม็กซะเต็มแรง พี่เม็กลงไปนอนชักกับพื้นแหง็กๆๆๆแล้วโดนรุมกระทืบอีก เวรกรรม..........

ฟังแบบนี้อาจจะรู้สึกว่าพวกคนดำนั้นรุนแรง แต่ผมกลับมีความรู้สึกที่ดีกับคนดำนะ คนดำที่ผมเจอมาจะมีคาแร็คเตอร์ที่ที่บ้าๆบอ ตลก รั่วๆ อย่างไอ้จอร์จคนขับรถนักเรียนที่พาพวกผมไปส่งที่ทำงานทุกวันมันก็บ้าบอคอแตก ติ้งต้องนิดๆ
จำได้ว่า มีอยู่วันนึงซึ่งเป็นวันแรกที่มันมาทำงาน มันมารับพวกผมกลับบ้าน มันขับรถหลงทางคับ ไปส่งพวกผมที่บ้านBenton Wayไม่ถูก มันขับเข้าดาวทาวน์ วนอยู่เกือบชั่วโมง พวกผมกระเหรี่ยงที่มาจากประเทศไทยต้องไปบอกให้มันใจเย็นๆค่อยๆนึกทาง คืนนั้นกว่าจะกลับบ้านได้เล่นเอาเหนื่อยไปเลย
แล้วหลังจากนั้น มีอยู่วันนึงไอ้จอร์จมันก็ขับรถไปส่งพวกผมไปทำงานนี่แหละคับ ตามปรกติ มันขับอยู่ดีๆโดนตำรวจเรียกคับ ไม่รู้ข้อหาอะไร น่าจะเป็นเปลี่ยนเลนไม่ให้สัญญาณไฟ ตอนมันโดนเขียนใบสั่งมันแทบจะร้องไห้ออกมาเลย555ตลก ว่ะแค่โดนปรับไม่กี่ร้อยเนี่ยนะ

คนดำที่น่ารังเกียจผมก็เคยเจอคับ วันนั้นผมขายของอยู่ที่ร้านของผม ดึกแล้ว วันนั้นสวนสนุกเปิดถึงตอนกลางคืน มีไอ้ดำกลุ่มนึงเดินเข้ามาในร้านแล้วหยิบหมวกคาวบอย(ของเด็ก)หยิบใส่หัวแล้วเดินออกไปนอกร้านเลย ทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ผมเห็นที่มันทำทั้งหมดคับ ผมจำไอ้หมวกใบนี้ได้เพราะมันแขวนอยู่หน้าRegisterพอดี(ไม่เคยมีใครซื้อเลยหมวกใบนี้)

แหมทำกันแบบนี้มันหยามน้ำหน้าผมคับ ยอมไม่ได้ เลยกะจะล่อไอ้มืดนี่สักหน่อย ผมสวมบทโทนี่ จาทันที ดึงแขนเสื้อขึ้น ทำหน้าโหดหันมองมันเดินออกจากร้าน
แล้วยกโทรศัพท์ขึ้นโทรไปหาหัวหน้าทันที Hey Jenny a black guy stole something in my store พูดยังไม่ทันจบประโยคดี ไอ้มืดนั่นรีบวิ่งเข้ามาในร้านทันที
ผมรีบกระโดดหลบแบบโทนี่ จา ในใจคิดว่ามันคงจะวิ่งมาเล่นเราแน่ ที่กล้าโทรไปฟ้องหัวหน้า ผมกระโดดหลบเหมือนในหนังองค์บาก ในใจคิดว่าจะใช้ความไวหลบหมัดและเท้าของมันก่อนแล้วค่อยสวนกลับ

แต่มันวิ่งเข้ามาหาผมและพูดกับผมว่าhey hey!! my friend I'm so sorry man. I'll put it back so sorry
โอย...ใจหายหมดนึกว่าจะได้บู๊ซะแล้ววันนี้
F**k you Asshole black You must go to the hell

ทุกวันนี้ผมยังนึกถึงคำพูดที่ไอ้จอร์จมันพูดปลุกพวกผมทุกวันก่อนไปทำงาน Wake up Wake up Time to work Time to work!!


Mexican Gang




 

Create Date : 14 กรกฎาคม 2550    
Last Update : 29 กันยายน 2550 21:32:13 น.
Counter : 2816 Pageviews.  

Special Chapter - An Incovenient Truth เรื่องจริงที่ทุกคนไม่อยากจะรับรู้ -

ใช่แล้วคับAn Incovenient Truthเป็นสารคดีเกี่ยวกับโลกร้อน ของคุณอัล กอร์(อิดะ)แต่An Incovenient Truthของผมวันนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องโรคร้อนหรือโลกร้อนอะไรนั้นหรอก แต่จะเป็นอีกเรื่องนึงที่เราทุกคนไม่อยากจะรับรู้มันเหมือนกัน ผมขอเรียกมันว่าAn Incovenient TruthฉบับCAskyแล้วกัน เผื่อจะดังเหมือนของอัล กอร์บ้าง

ตอนที่ผมยังเป็นเด็กผู้คนรอบๆตัวผมบอกกับผมว่า ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้มันช่างสดใสเหลือเกิน เหมือนกับว่าโลกใบนี้กำลังรอให้ผมเติบโตขึ้นมา เพื่อใช้ชีวิตอย่างมีความสุข อนาคตที่สดใสกำลังรอพวกเราอยู่ และเหมือนกับว่าทุกสิ่งบนโลกนี้มันง่ายไปซะหมด

หลายปีผ่านไป...

ผมตื่นขึ้นมาในเช้าวันนึง ผมรู้สึกว่าทุกสิ่งที่คนรอบตัวของผมเคยบอกมานั้นมันไม่ใช่เรื่องจริงอีกต่อไปแล้ว และทุกคนที่เคยพร่ำบอกแบบนั้น ตอนนี้เขาก็ไม่ได้บอกอย่างที่เคยบอกอีกแล้ว เขาบอกให้ผมตั้งใจเรียน ขยัน อดทน เอาชนะคนอื่นให้ได้ เขาบอกให้ผมเรียนให้เก่ง จบชั้นสูงๆ เพื่ออนาคตของผมเอง และเขาก็บอกว่าในโลกนี้มันไม่มีอะไรที่ง่ายเลยแม้แต่นิดเดียว?????
ผมเป็นคนไม่ค่อยชอบเรียนและการเรียนของผมนั้นก็ไม่ได้ดีอะไรมากนัก ถึงแม้จะไม่ชอบเรียนแต่ผมก็ชอบอ่านหนังสือหรือศึกษาหาความรู้ด้วยตัวเอง อะไรก็ได้ไอ้ที่ไม่ใช่ต้องเข้าไปในห้องเรียน ผมชอบภาษาอังกฤษและประวัติศาสตร์ เพราะผมคิดว่าถ้าผมมีความรู้ภาษาอังกฤษแล้วผมจะสามารถไปอ่านTextหรือความรู้ต่างๆในอินเตอร์เนตเองได้ และถ้าผมมีความรู้เรื่องประวิตศาสตร์แล้ว ผมก็จะมีความรู้ในเรื่องของสังคม การเมือง เศรษฐศาสตร์ การทหารเองไปโดยปริยาย
ผมเป็นคนที่Antiระบบการศึกษาในประเทศไทยที่สอนให้คนแข่งขันกันเรียน เรียนให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เรียนจบออกมาแล้วไปเป็นมนุษย์เงินเดือน จบปริญญาตรีเริ่มต้นที่8พันถึงหมื่นต้นๆ เสร็จแล้วก็ขยันทำงานหามรุ่งหามค่ำเพื่อจะมีเงินไปผ่อนบ้านสักหลังนึง30ปี แต่งเมียแล้วก็ผ่อนรถอีก4ปี มีลูกออกมาคนนึงเก็บเงินส่งลูกเรียนโรงเรียนดีๆ มหาวิทยาลัยดีๆ จากนั้นพอลูกเราเรียนจบก็หางานทำเสร็จแล้วก็เก็บเงินผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ผ่อนเมีย แล้วก็มีหลาน เก็บเงินส่งหลานเรียนโรงเรียนดีๆ ส่งหลานเข้ามหาลัยดีๆต่อ กลายเป็นจงจรอุวาด
สังคมเรามันผิดเพี้ยนไปซะหมดแล้ว ทุกวันนี้เราทำงานเพื่อใครกันทำไมเราขยันทำทุกวันแล้วเรายังต้องเป็นราชาเงินผ่อนอยู่แบบนี้ ทำไมไอ้ข้างบนมันถึงรวยเอาๆ ทำไม7Elevenให้เงินพนักงานชั่วโมงละ25บาท
แต่มันกลับรวยอันดับ2ของประเทศมีเงินเป็นแสนล้าน ทำไม?ทำไม?
หันกลับมาดูที่อเมริกาบ้าง เด็กที่นี่พอจบไฮสคูลแล้วส่วนมากจะไม่เรียนต่อมหา'ลัยทันที เขาจะหางานทำก่อน เพื่อค้นพบตัวเองว่าชอบทางไหนและถ้าหากว่าเจอช่องทางในการทำธุรกิจของตัวเองได้ เขาก็จะไปทางนั้นเลยไม่สนใจที่จะกลับมาเรียนมหา'ลัย บิลเกตก็เป็นคนนึงที่เรียนไม่จบมหา'ลัย(เขาดร็อปเรียนเอาไว้ที่Haward)
แต่ในประเทศไทยแล้วถ้าไม่เรียนอันนี้มันไม่ได้ เพราะสังคมไทยมันเล่นสีเล่นรุ่นกัน เล่นพรรคเล่นพวก ถ้าเราไม่มีสีมีรุ่นไม่มีพรรคพวกเราก็โดนเขารังแก สังคมไทยเป็นสังคมที่เกื้อหนุนซึ่งกันและกัน บริษัทที่ประสบความสำเร็จที่เราเห็นๆกันอยู่ทุกวันนี้ก็เล่นกำลังภายในกันทั้งนั้น ไม่ได้เก่งด้วยตัวเองหรอก พอออกไปสู่เวทีระดับโลกก็โดนฝรั่งมันน็อคเอาทั้งนั้น

ผมติดตามข่าวสารในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ผมได้เห็นน้องๆโรงเรียนดังในกทม.ที่ไปแข่งขันโอลิมปิคคณิตศาสตร์แล้วได้เหรียญทองกลับมากันมากมาย ผมรู้สึกดีใจและภูมิใจแทนด้วยในฐานะคนไทย ผมได้เห็นถึงเศรษฐกิจไทยที่กำลังจะเติบโตอย่างมั่นคงในทุกวันนี้ ผมเห็นถึงความเท่าเทียมกันในโลกใบนี้และเห็นถึงประชาธิปไตยที่กำลังเปล่งบาน

ถ้าผมบอกว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เราได้รับรู้มานั้นมันไม่ใช่เรื่องจริงสักนิดเดียวคุณจะเปิดใจเชื่อผมไหม?

ชาติเอเชียเราเก่งคับ โดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่ทุกวันนี้
ตะวันตกสู้เราไม่ได้แล้ว เราเอาชนะโอลิมปิคคณิตศาสตร์ แบบกวาดเหรียญทองมาซะเรียบทั้งจีน เวียดนาม ไทย สิงค์โปร เราเก่งกว่าตะวันตกแล้วฝรั่งคำนวณสู้เราไม่ได้แล้ว เราเอาชนะการแข่งขันสร้างหุ่นยนต์กู้ภัยที่Atlanta ได้รางวัลชนะเลิศกลับมา ฝรั่งสู้เอเชียไม่ได้แล้ว
แต่ทำไม ทำไมเราซึ่งคำนวณเก่งกว่าฝรั่ง เวลาApplyออกมาใช้จริงๆแล้ว เราคิดค้นอะไรไม่ได้เลย ทำไมรางวัลNobelในแต่ละปีเอเชียไม่ได้เลยล่ะ(ยกเว้นญี่ปุ่น) จะได้ก็แต่สาขาสันติภาพ ทำไมฝรั่งที่มันคำนวณสู้เราไม่ได้ถึงเอาไปซะหมดเลย

ทำไม? เราไปชนะเลิศหุ่นยนต์กู้ภัยที่มีระบบปฏิบัติการง่ายๆ แล้วไอ้เทคโนโลยีที่มันใช้ทำหุ่นยนต์ตัวที่ลงไปสำรวจดาวอังคารล่ะมันอยู่ไหน ทำไมมันไม่ใช้ตรงนั้น

ทำไมล่ะ? ไหนว่าเราเป็นเสือตัวที่5ของเอเชียไง แล้วไอ้จอร์จ โซรอสมันเป็นใคร ทำไมมันคนเดียวทำให้เศรษฐกิจเอเชียตอนปี40ฉิบหายได้ทั้งระบบเลยล่ะ

ทกวันนี้เราเรียนรู้ผ่านสื่อโคตรจะหลายอย่างที่มาจากตะวันตก เรากำลังโดนมันหลอก มันหลอกเราซะหมดตัวเลย มันหลอกว่าเราเก่งแล้ว หลอกว่าเราพร้อมแล้ว เรามีความทัดเทียมกับตะวันตกแล้ว เราพร้อมที่จะเปิดการค้าเสรีกับตะวันตกแล้ว
เราโดนมันหลอกด้วยคำว่าประชาธิปไตย เราต้องมีสภา มีผู้แทน มีการเลือตั้ง มันมีที่ไหนกันประชาธิปไตยในประเทศที่เต็มไปด้วยประชากรรากหญ้าที่เงินซื้อได้
อย่าถามว่าตอนที่ร.7พระราชทานประชาธิปไตยให้ประเทศไทยของเราว่าตอนนั้นพร้อมหรือยังเลย? ตอนนี้เราก็ยังไม่พร้อม

เทคโนโลยีที่ตะวันตกถ่ายทอดให้เรา ทุกวันนี้เราภูมิใจที่สามารถมองเห็นหลังคาบ้านผ่านGoogle Earthได้ แต่เคยคิดไหมว่ามันจะถ่ายทอดให้เราหมดทุกอย่างแบบเต็มเหนี่ยว เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีการบิน เทคโนโลนาโนและหลายๆอย่าง ทุกวันนี้ที่เราใช้อยู่อาจจะไม่ถึงครึ่งนึงที่มันคิดค้นก็ได้ ผมรู้สึกตลกที่ได้ยินข่าวในทีวีบอกว่าเรามีHackerมืออันดับ3ของโลกอยู่ในประเทศ
ไอ้ที่มันHackเข้าไปในฐานข้อมูลของบริษัทมือถือน่ะ จริงๆแล้วโลกของคอมพิวเตอร์มันไม่ได้มีที่แค่เรารู้หรอก มันยังมีอะไรอีกเยอะที่มันไม่ถ่ายทอดให้เรารู้

แล้วการแข่งขันคำนวณในคณิตศาตร์โอลิมปิค ฝรั่งมันไม่เอากันแล้ว เพราะปัจจุบันคอมพิวเตอร์เข้ามาทำงานคำนวณแทนมนุษย์แล้ว แถมยังรวดเร็วและแม่นยำกว่า
แต่ที่คอมพิวเตอร์ยังทำไม่ได้คือการจินตนาการต่างหาก
เหมือนกับที่ไอสไตน์พูดไว้ว่า The imagination is more important than the knowledge

อ่านกันเล่นๆคับอย่าคิดอะไรมาก




 

Create Date : 13 กรกฎาคม 2550    
Last Update : 13 กรกฎาคม 2550 14:35:34 น.
Counter : 503 Pageviews.  

Chapter 20 - My Idiot Job & Supervisor

งานคือเงิน เงินคืองาน ทำไปนานๆ ตูดบานแน่กรู

อย่างที่บอกไปว่างานที่ผมทำในสวนสนุกมันก็คือ
งานที่ให้ผมยืนอยู่เฉยๆ จับไม้กวาดขึ้นมาปัดกวาดบ้างเล็กน้อย แล้วก็รอให้ถึงเวลาClock out เสร็จแล้วก็มารอรับเช็ค ผมว่ามันทรมารนะงานแบบนี้ที่ต้องยืนอยู่ทั้งวันวันละ8ชั่วโมง แถมยังอยู่คนเดียวด้วย ห้ามออกไปไหนอยู่แต่ในร้านที่มีพื้นที่
5คูณ5ตารางเมตร ไม่ได้พูดกับใคร พูดเล่นทักทายลูกค้าบ้างนานๆที แต่ถึงจะเซ็งโคตรๆยังไงผมก็หาความสนุกเล็กๆน้อยๆจากการทำงานที่เหมือนติดคุกอยู่ในสวนสนุกนี้ได้

วันแรกที่ผมเข้ามาทำงานหลังจากผ่านการTrainingมาจากMerchandise Departmentอย่างดี เขาก็ส่งให้ผมไปทำงานคนเดียวเลยที่ร่านTotally Toddlerแห่งนี้
ทีแรกผมถึงกับงง อะไรวะให้กุกระเหรี่ยงผู้มาจากไทยแลนด์ รับผิดชอบหน้าที่ในร้านนี้คนเดียวเหรอ มันเป็นร้านขายของจริงๆ
ไม่ใช่เปิดซุ้มขาย เขาคงจะไว้ใจผม ผมคิดแบบนั้นนะทีแรก แต่ทำไปนานๆเข้าก็รู้ว่าที่นี่มันไม่มีใครอยากจะทำเขาจึงส่งผมมาประจำ

ผมมีSupervisorชื่อว่าDelia เธอเป็นเม็กซิกันคับแต่ผิวขาวเหมือนพวกฝรั่ง เธอพูดภาษาสเปนได้คล่องเชียวแหละ Deliaอายุเท่าๆผมนี่แหละ เธอตัวเล็กดูน่ารักดี ดวงตาสีดำขนตายาวสวยทีเดียว เห็นตัวเล็กๆน่ารักแบบนี้แต่จริงๆแล้วเธอเป็นคนที่แรงคับ เรียกได้ว่าเป็นMean Girlคนนึงเลยทีเดียว ดูเธอจะไม่ค่อยชอบผมเท่าไร อันนี้มันมีที่มาคับ เหตุมันเป็นเพราะว่าไอ้เจเพื่อนคนไทยที่มันทำงานอยู่กับผมด้วยกันนี่แหละ มันไม่มีอะไรทำมันเลยมาล้อว่าผมแอบชอบเพื่อนของDeliaคนนึงที่ชื่อว่าJenny

Jennyเธอก็เป็นสาวเม็กซิกันเหมือนกัน อายุเกือบ30ได้แล้ว และที่สำคัญJennyมีลูกมีครอบครัวแล้ว ไอ้เจมันล้อไปล้อมาไม่รู้Jennyคิดจริงหรือป่าว เธอเลยไม่คุยกับผมไปเลย ผมก็พยายามเข้าไปคุยกับเธอนะแต่เธอก็เหมือนกับว่าไม่อยากที่จะโดนไอ้เจล้อ เลยเมินๆผมไปเลย
ไอ้เจมันเป็นคนบ้าๆบอๆแต่ผมชอบมันนะ
มันเป็นสาวอักษรศิลปากร มันก็ช่วยผมไว้หลายครั้งเหมือนกันในเรื่องงาน

จนในที่สุดแล้วJennyก็รังเกียจผมไปซะงั้น ไม่รู้ว่าคิดจริงๆหรือยังไง โถ่..มีลูก2คนแล้วผมจะไปชอบอีกได้ไงวะเนี่ย หลังจากนั้นไม่นานDeliaก็เป็นเหมือนกันค่อยๆรังเกียจผมอีกคนนึง

งานที่ผมต้องรับผิดชอบวันๆนึก็ไม่มีอะไรมาก แค่หายใจเข้าหายใจออก ปัดกวาดเช็ดถูบ้าง นานๆDeliaจะเข้ามาตรวจสักที พอเข้ามาผมก็รีบวิ่งไปเอาไม้กวาดมากวาดพื้นทันที เหอๆๆๆ บางครั้งก็ได้รับคำสั่งพิเศษบ้าง เช่นไปขนของ แกะกล่องกระดาษ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นงานที่โคตรจะเซ็งทั้งนั้น

ผมมีเพื่อนร่วมงานคนนึงชื่อว่าEloy
Eloyมันเป็นหนุ่มอายุ18ร่างท้วมนิดๆแต่ไม่อ้วน คนอเมริกันจะเรียกว่ามันว่าHispanic Whiteคือมีเชื้อสายเม็กซิกันแต่ผสมไป ผสมมาจนตอนนี้เป็นคนผิวขาวแบบฝรั่งแล้ว Eloyมันบอกว่ามันพูดสเปนได้นิดหน่อย (พูดอังกฤษไม่ได้เลย555) ไม่ใช่ครับมันพูดอังกฤษชัดคับแบบอเมริกันเลย ก็เพราะมันเกิดที่อเมริกา
มันชอบมาถามผมถึงเรื่องมวยไทยอยู่บ่อยๆ มันคลั่งUltimate Fightingมาก มันบอกว่าเวลามันดูUFCมันจะเรียกเพื่อนๆมันมาดูที่บ้าน ดูไปดูมาก็ล่อกันเองเลย

Eloyมันน่าสงสารครับมันฝันอยากจะเป็นตำรวจตงฉิน แต่มันเสือกเคยโดนจับข้อหาเสพกัญชา เลยอดเป็นตำรวจเลย จริงๆแล้วผมว่าEloyนิสัยดีคับผมชอบมัน เห็นมันครั้งแรกก็รู้เลยว่าไอ้นี่หน้าตาไม่มีพิษมีภัย คบได้สนิทใจ มันเป็นคนจริงใจดี คำพูดของมันที่พูดออกมาก็ ฟักฟักซัคซัคทั้งนั้นแหละคับตามแบบวัยรุ่นทั้วไป
แต่เวลาผมจะถามหรือจะขอให้มันทำอะไรให้ มันช่วยผมเต็มที่ มีอยู่ครั้งนึงผมคุยเรื่องเพลงกับมัน ผมบอกมันว่าผมชอบวงRED HOT CHILI PEPPERS วันรุ่งขึ้นมันไรท์เพลงของRED HOTมาให้ผมเลย

อีกคนที่อยากพูดถึงชื่อTing
Tingเป็นคนแล้วแก่คับ อายุสัก60กว่าได้ จริงๆคับไม่ได้เขียนผิด ที่นี่คนอายุ60กว่าก็ต้องทำงานเดี๊ยวผมจะเล่าให้ฟังวันหลังว่าทำไม
Tingนิสัยดีคับ เป็นโปลิสไม่ใช่ตำรวจนะคับ เขาบอกว่าบรรพบุรุษเขามาจากโปร์แลนด์ Tingหน้าตาเหมือนกับGrannyเลย ใครเคยดูการ์ตูนเรื่องTweeztyคงจำคุณยายคนที่ถือไม้กวาดไล่ตีแมวได้ คนนั้นแหละคับTing
ผมให้เหรียญ10บาทไทยกับTingไป วันนึงTingบอกผมว่าเหรียญของผมเดินทางไปอยู่ที่New Jersyแล้ว เพราะเขาให้เหรียญของผมกับหลานชายที่เป็นนักสะสมเหรียญต่อ

ถึงงานของผมมันออกจะธรรมดาแต่บางวันผมก็ได้เจอกับลูกค้าแปลกๆเข้ามาในร้านเหมือนกัน ซึ่งมันก็ทำให้ขำๆได้บ้าง
มีอยู่วันนึงผมทำงานอยู่ในร้านตามปกติ สาวญี่ปุ่นกลุ่มนึงเดินเข้ามาในร้านเลย5คน โอโหหัวใจแทบหยุดเต้น สวยๆเอ็กซ์ๆทั้งนั้น น่ารักอีกด้วย โอ้ววววเราเกิดมาเพื่อสิ่งนี้จริงๆ หลังจากเดินดูของในร้านสักพักสาวสวยคนนึงก็หยิบหมวก(ของเด็ก)ขึ้นมาลองสวมดูแล้วเดินมาจ่ายตังกับผม ผมเลยต้องขอคุยด้วยซะหน่อยเผื่อจะได้รู้จักกันไว้ เผื่อจะได้กินซูชิแกล้มกับซาลาเปาในอนาคต

ผมถามเธอว่ามาเธอจากญี่ปุ่นหรือ?
Are u from Japan? เธองงคับ ทำหน้าเอ๋อ ผมเลยรู้ว่าเธอพูดอังกฤษไม่เป็น แต่แหมน่ารักขนาดนี้ผมเลยพยายามใหม่กะจะชวนเธอให้เธอพูดด้วยให้ได้
Are u a tourist? เธองงอีกคับ แล้วทำหน้าเอ๋อเหมือนเดิม แล้วเธอก็ยกมือข้างขวาขึ้นมาทำมือแบบที่เราวัดความสูงกันน่ะ แล้วพูดออกมาเป็นสำเนียงญี่ปุ่นว่าTall Tall????
ให้ตายสิคับ เธอได้ยินคำว่าTouristเป็นTall เธอคงนึกว่าผมถามเธอว่าเธอสูงเท่าไร? จะบ้าเหรอไง
ผมหมดความพยายามแล้ว เลยให้เธอจ่ายเงินค่าสินค้าเลยไม่ชวนคุยมันแล้ว แต่เธอต้องการจ่ายเงินโดยใช้บัตรเครดิตคับซึ่งตามระเบียบผมจะต้องขอดูพาสปอร์ตเธอก่อน
ผมเลยบอกเธอว่า May I See your Passport? เหมือนเคยคับ แล้วก็ก็หยิบบัตรบ้าอะไรไม่รู้ในกระเป๋าตังมาให้ผม เป็นนามบัตรมีแต่ภาษาญี่ปุ่น ผมเลยพูดใหม่ช้าๆว่าP-a-s-s-p-o-r-t เธอจึงทำหน้าgetคับ
เธอล้วงมือเข้าไปตรงขอบกางเกง!!??!!
ทำให้ผมเห็นผิวขาวๆที่หน้าท้องของเธอ หุ่นดีมากคับ
เธอล้วงเข้าไปหยิบพาสปอร์ตของเธอมาให้ผม
ให้ตายสิ เธอเหน็บพาสปร์อตไว้ตรงขอบกางเกง ผมมองไม่ทันเห็นว่าเธอเหน็บไว้ในกางเกงในหรือนอกกางเกงใน!!??!!
เธอยืนพาสปอร์ตให้ผม ผมรับมาเปิดดูแขนสั่นไปหมดเลย เธอชื่ออายูมิ อายุ18ปี จากนั้นผมก็ส่งคืนให้เธอไป ในใจกะจะเอามาดมสักทีก่อนส่งคืน
แต่กลัวอายูมิจะด่าว่า"ไอ้โรคจิต"เป็นภาษาญี่ปุ่น

อีกรายนึงเข้ามาในร้านของผม4คนคับ ชาย2หญิง2 มีผู้ชายคนนึงเป็นเอเชีย นอกนั้นเผ็นฝรั่งหมด ชายคนที่เป็นฝรั่งเดินเข้ามาคุยกับผม
"คุณมาจากไหนเหรอ มาทำงานที่นี่เหรอ แล้วจะกลับเมื่อไรล่ะ" ผมก็ตอบไปหมดทุกคำถาม
แล้วหมอนี่ก็เริ่มถามว่า "คุณรู้จักJesusไหม"
ผมตอบไปว่า "ผมรู้จักสิคับ ผมเคยเรียนมา โถ่ศาสนาคริสตร์ พระเยซูทำไมจะไม่รู้จักเล่า"
ตาของหมอนี่ดูมีประกายขึ้นมาทันที"แล้วคุณนับถือศาสนาอะไร"เขาถาม
ผมตอบไปว่า"ผมเป็นพุทธ"
เขารีบพูดขึ้นมาทันทีว่า "ถ้าผมไม่ยอมรับในพระเจ้า ตายไปผมจะตกนรกนะ" แล้วเขาก็ชักชวนต่างๆนานาให้ผมยอมรับในพระเจ้าของเขา และให้ผมเปลี่ยนมานับถือศาสนาคริสตร์
เกลี้ยกล่อมผมซะนานเขาก็ถามผมว่า ผมมีคำภีร์ไบเบิลไหม ซึ่งมันแน่นอนอยู่แล้วว่าผมไม่มี เขาทำหน้าตกใจคับ เหมือนกับว่าผมบอกเขาไปว่าผมมี2จู๋
เขารุกต่อทันทีโดยบอกว่าจะส่งไบเบิลมาให้ผมเล่มนึง แล้วก็ขอเมลผมไป เขาย้ำว่าให้ผมเลือกเอาเองว่าอยากจะตกนรกหรือขึ้นสวรรค์ตอนที่ผมตายแล้ว
หลังจากที่ได้เมลของผมไปแล้วเขาก็เอามือขึ้นมากุมไว้ตรงอก 3คนที่มากับเขายกมือขึ้นมากุมเอาไว้เหมือนกันทันที แล้วก็ก้มหน้าสวดอะไรไม่รู้ให้ผมฟังดังลั่นร้านไปหมด ผมฟังไม่ออกเลยสักคำจนมาถึงประโยคสุดท้ายเขาบอกว่าIn the name of god May the god bless PK ทำนองนี้????? งงคับ จากนั้นเขาก็เดินออกจากร้านไปโดยไม่ได้ซื้ออะไรเลย(ผมไม่แน่ใจว่าผู้ชายคนนี้เป็นนักบวชหรือป่าว เพราะเขาสามารถสวดให้พรแก่ผมได้)

อีกรายนึงมีผู้หญิงหน้าตาผมดูไม่ออกว่าจะอยู่จำพวกไหนกันแน่ เอเชียก็ไม่ใช่ อินเดียนแดงก็ไม่เชิง เม็กซิกันก็คล้ายๆ เธอมาถามผมว่า "สุขาอยู่หนใด" ผมก็เลยบอกทางเธอไป แต่มันมีกลิ่นแปลกๆสิคับตอนที่เธอเดินเข้ามา เหม็นมากๆ มันคือกลิ่นอึแน่นอนผมมั่นใจ พอเธอหันหลังเดินออกไปเท่านั้น ผมหายสงสัยที่มาของกลิ่นเลย เธอขี้แตกคับติดเต็มกางเกงเลย สงสัยจะไปเล่นเครื่องเล่นที่มันน่ากลัวมาซะจนราดเลย 555

รายสุดท้ายนี่แปลกแต่จริงคับ มีผู้หญิงคนนึงฝรั่งผิวขาวผมบล็อนหุ่นดูดีเลย เข้ามาเที่ยวในParkโดยใส่บิกินี่แว่นกันแดดกับรองเท้า เท่านั่นไม่มีอะไรอย่างอื่นเลย เดินกลางถนนด้วยชุดแค่นั้นจริงๆ เสียดายตอนนั้นไม่มีกล้อง จะได้ถ่ายมาให้ดูกัน




 

Create Date : 11 กรกฎาคม 2550    
Last Update : 28 กันยายน 2550 1:32:43 น.
Counter : 507 Pageviews.  

Chapter 19 - เรื่องรถรถสไตล์อเมริกัน

เรื่องที่น่าแปลกใจสำหรับกระเหรี่ยงอย่างผมที่ได้เห็นในอเมริกาอย่างนึงคือเรื่องรถครับ ทีแรกผมคิดว่ารถในอเมริกาจะมีแต่FordกับGMเท่านั้นที่อเมริกันชนใช้ขับขี่กันรถญี่ปุ่นก็อาจจะมีบ้างเล็กน้อย

แต่พอไปเห็นเข้าจริงๆ Honda, Toyota ปาเข้าไปเกือบครึ่งนึงที่วิ่งกันบนท้องถนนในแอลเอ... เจอไอ้ยุ่นบุกเมืองซะแล้วเป็นไงล่ะ เมื่อก่อนดันไปบอมบ์บ้านเมืองมันสมน้ำหน้า
แต่อเมริกานั้นกว้างใหญ่ครับในพื้นที่อื่นๆอาจจะใช้รถอเมริกันมากกว่าก็ได้ เพราะอย่าลืมว่าที่แอลเอนั้นพวกเอเชียเยอะ อาจจะนิยมรถจากญี่ปุ่นมากกว่า ผมตั้งข้อสังเกตุเอาไว้แบบนี้
แต่ก็อีกนั่นแหละพอพลิกไปดูสถิติจริงๆเข้าในหนังสือAlmanacก็ปรากฎว่ารถอเมริกันแพ้รถญี่ปุ่นแล้วจริงๆ ยอดขายรถเก๋งหรือPassenger Carที่ขายได้มากที่สุดเป็นToyota Camryคับ รองมาเป็นHonda Accord, Toyota Collora, Honda Civicตามลำดับ พุดโท่พุดถังกะลามังตั้งโด่ แล้วFordกับGMอยู่ไหนวะเนี่ย

แต่สถาณการณ์รถอเมริกันไม่ได้เลวร้ายแบบนั้นครับเพราะจริงๆแล้วรถกระบะหรือTruckนั้น รถของญี่ปุ่นทำตลาดไม่ได้เลย ย้ำว่าไม่ได้เลยจริงๆคับ ส่วนแบ่งตลาดเลยเป็นของทางFordกับGMเท่านั้น

ถนนที่นี่ดีอยู่อย่างนึงที่ไม่มีแมงกะไซค์มาขับปาดซ้ายปาดขวาเหมือนกับถนนบ้านเรา ถ้าจะมีรถ2ล้อก็จะเป็นพวกซูเปอร์ไบค์ไปเลยแต่น้อยคับ พวกนี้จะรวมตัวกันในบางสถานที่เท่านั้น เขาจะใส่ชุดแบบนักบิดเต็มยศนะแล้วก็ชอบทำFull turnบนพื้นถนนเป็นรอยวงกลมไปหมด ผมเคยเห็นพวกนี้เขาขับยกล้อหน้าวิ่งเลี้ยงอยู่บนถนนตั้งนานเก่งจริงๆ
รถของคนอเมริกันเขาไม่แคร์หรอกคับว่ามันจะเก่าจะตกรุ่นยังไง ค่านิยมของเขาไม่เหมือนกับบ้านเราผมคิดเองนะ ที่ใช้รถเป็นเฟอนิเจอร์ประดับบารมี ที่นั่นรถผุๆพังๆก็เอามาวิ่งกัน แต่ขออย่างเดียวให้ตรวจควันจากท่อไอเสียผ่านก็พอเพราะเขาเข็มงวดเรื่องนี้มาก

ถ้าจะไปมองหารถบีเอ็มที่แอลเอก็ขอบอกว่าหาให้ตายก็ไม่เจอหรอกครับซีรี่3น่ะ ที่นั่นเขาไม่ขับกัน ถ้าจะซื้อบีเอ็มทั้งทีมันต้องซีรี่5ขึ้นไปคับ ผมเคยเห็นซีรี่7คันนึงถ้าเป็นบ้านเราก็คงใช้สำหรับให้ผู้บริหารนั่งแล้วมีคนขับรถให้ แต่ไอ้คันนี้มันเอาไปแต่งเป็นรถซิ่งคับ ล้อแม็ก20นิ้วได้มั้ง โหลดติดพื้นเลยเห็นแล้วเปรี้ยวบาดใจจริงๆ

ผมว่าคนไทยเป็นคนที่รักรถนะ ซื้อรถมาก็ต้องหาที่จอดดีๆ แดดไม่ให้เลียฝนไม่ให้ตกใส่ แต่ของคนอเมริกันไม่ใช่แบบนั้นซื้อรถมาใหม่ก็จอดมันแม่งหน้าบ้านนั่นแหละ จะโดนแดดโดนฝนยังไงไม่สนขออย่าให้มีใครมาทุบกระจกเป็นพอแล้ว

มีอยู่บ้านนึงที่ผมเห็นมา บ้านนี้เป็นคนเอเชียออกแนวเกาหลีญี่ปุ่น ไอ้บ้านี่มันมีรถอยู่2คัน มีซูบารุคันนึงกับอีโว7ผมเห็นคาตาเลยว่าเป็นอีโว8แต่ซูบารุผมไม่รู้รุ่นไหน เชื่อไหมมันจอดรถของมัน2คันนี้แบบไร้ค่ามากเลย มันจอดตากน้ำค้างตากแดดหน้าบ้านมันนั่นแหละทั้ง2คันเลย จนสีรถจืดไปหมด.. โถนี่ถ้าเป็นบ้านเรานี่คงจะเอาไปนอนกอดแทนเมียแล้ว

ที่นี่ถ้าใครไม่มีรถเหมือนกับไม่มีตีนครับ ไปไหนมาไหนก็ลำบากระบบข่นส่งมวลชนดีที่คุณภาพแต่ปริมาณน้อยมาก
เด็กอเมริกันพอโตพอที่จะขับรถได้ก็จะเริ่มหางานพิเศษทำกันแล้วเพื่อเก็บเงินซื้อรถ

บางคนสงสัยว่าทำไมคนอเมริกันชอบรถรุ่นใหญ่ๆที่มีเครื่องยนต์แบบชนิดที่สูบน้ำมันทิ้ง ผมก็จะตอบให้ว่า
1.รถที่นี่ราคามันถูกเมื่อเทียบกับรายได้ของเขา จึงไม่เป็นหัญหาในการซื้อรถใหญ่ๆมาขับ
2.ราคาน้ำมันถูกเมื่อเทียบกับรายได้
3.การที่คนอเมริกันจะมีรถไว้ใช้งานสักคันนึงเขาจะคำนึงถึงว่าต้องสามารถใช้ประโบขน์ได้ทุกอย่างจริงๆ ประเทศอเมริกาเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ สมมุติว่าผมเป็นคนอเมริกันบ้านผมอยู่แอลเอแต่บ้านแม่ของผมอยู่ชิคาโก้ วันหยุดผมจะไปหาแม่สักที ต้องขับรถข้ามทะเลทรายข้ามเขาหลายพันไมล์ แบบนี้ผมไม่ซื้อโตโยต้าวีออสเครื่อง1500ซีซีหรอก มันต้องเครื่องที่ใหญ่อึดและไว้ใจได้กว่านั้น ที่จะเอาไว้ใช้เดินทางไกลๆ ไม่ต้องอะไรหรอกครับ ผมอยู่กรุงเทพต้องการไปเชียงใหม่ผมยังไม่อยากขับวิออสไปเลย ขับรถใหญ่ขึ้นมาหน่อยสบายใจกว่า

การขับรถในอเมริกานั้นกฏจราจรก็เหมือนบ้านเรา ก่อนอื่นต้องไปทำใบขับขี่ที่DMVก่อน อันนี้ผมเคยไปทำด้วยนะแต่เจ้าหน้าที่ไม่ให้ทำเพราะผมไม่ได้เป็นคนอเมริกัน นักท่องเที่ยวก็ทำได้ เพราะกฏหมายจราจรเป็นกฏหมายสากล แต่เรื่องของเรื่องที่ผมไม่ได้ทำคือวีซ่าของผมจะหมดอายุแล้ว เวลาเหลือน้อยเกินเลยทำไม่ได้

Click or Ticket ผมงงอยู่ตั้งนานว่ามันแปลว่าอะไร สุดท้ายก็มารู้ว่า จะเปิดไฟเลี้ยวหรือจะเอาใบสั่ง คือเวลาขับเปลี่ยนเลนต้องกดไฟเลี้ยวทุกครั้งนะคับ ไม่งั้นโดนใบสั่ง 200เหรียญเองคับถูกๆ บางคนขับรถฝ่าไฟแดงแล้วไม่โดนจับดีใจคับ 2วันให้หลังมีจดหมายส่งมาที่บ้านบอกให้คุณไปเสียค่าปรับด้วยข้อหาฝ่าไฟแดง พร้อมกับรูปถ่าย3ใบ ใบแรกรถคุณตอนแล่นฝ่าไฟแดง ใบที่สองทะเบียนรถ
ใบที่สามโคลสอัพหน้าคนขับ 555ยิ้มเลย นี่คือเรื่องจริงคับ อเมริกาจับกันแบบไฮเทคจริงๆ

นอกจากอเมริกันชนจะมีรถกัน1คันต่อ1คนแล้ว คนอเมริกันก็ไม่ยอมที่จะเดินกันเลย ขนาดจะเข้าไปซื้อแมคกิน มันยังต้องขับรถเข้าไปซื้อแบบDrive Throughพูดง่ายๆว่าชาตินี้ขอตีนไม่ติดพื้น
เหมือนนักศึกษาสาวไทยสมัยนี้ชอบ...ติดเบาะคับ ใครเข้ามาจีบถามก่อนเลยว่าขับรถอะไร? รถญี่ปุนรอก่อน ถ้ารถยุโรปละก็ "คืนนี้ว่างค่ะ"

มีเรื่องเล่าขำๆเกี่ยวกับการซื้ออาหารแบบขับรถเข้าไปซื้อหรือที่เรียกว่าว่าDrive Throughเรื่องนึง คือเพื่อนผมคนนึงมันหิวมากตอนกลางคืน ไม่รู้จะไปหาอะไรกินแล้ว ร้านอาหารก็ปิดซะหมด มีแต่ร้านแมคโดนัลที่เปิดบริการ24ชั่วโมง แต่ทว่าเปิดเฉพาะส่วนที่ขับรถเข้าไปซื้อนะคับ เพื่อนผมคนนี้มันก็เดินเข้าไปยืนต่อแถวเสมือนกับว่ามันเป็นรถยนต์คันนึง ไอ้รถคันหลังมันคงงง "ไอ้ห่านี่มายืนทำอะไรหน้ารถกูวะ" จนกระทั่งถึงคิวของมัน คนขายเห็นถึงความเอน็จอนาจเลยให้มันเดินเข้าไปซื้อในร้าน

รถตำรวจในอเมริกาส่วนมากจะใช้ของFordในรถมีปืนลูกซองประจำทุกคัน ที่เลือกใช้Fordคงจะเป็นเพราะต้องการรถที่มันแข็งๆหน่อยเอาไว้ชนหรือกระแทกได้ อีกอย่างรถFordเป็นความภาคภูมิใจของชาวอเมริกันด้วยเพราะเป็นรถยี่ห้อแรกของคนอเมริกัน ไม่ใช่สิของโลกนี้ด้วยที่ผลิตออกมาแล้วคนทั่วไปสามารถเป็นเจ้าของได้ แต่ตอนนี้ได้ข่าวว่าFordกำลังแย่นะคับโดนรถญี่ปุ่นตีเอาๆ เอ้า.. คนอเมริกันมาช่วยFordกันหน่อยเร็ว อุตสาห์รับใช้คนอเมริกันมาตั้งนาน ปีนี้ใครจะเปลี่ยนรถก็เปลี่ยนเป็นFordแล้วกัน คนละคันไอ้ยุ่นเจ๊งแน่

แต่รถญี่ปุ่นที่นี่มันก็ร้ายกาจใช่เล่นนะคับ มันแตกแบรนด์ออกไปสู้กับรถหรูได้แบบไม่ยอมน้อยหน้าToyotaมันก็เป็นLexus วิ่งกันเยอะใช้ได้เลยในแอลเอ Hondaก็เป็นAcuraอันนี้ไม่ค่อยเห็นเยอะเท่าไร Nissasเป็นInfinity
ผมเห็น350Zวิ่งกันเยอะนะ รู้สึกจะเป็นรถยอดนิยมของวัยรุ่นที่นี่เลย แต่Chevrolet Covettก็ไม่ยอมให้เสียหน้ารถไอ้ยุ่น กู้ศักศรีรถอเมริกันมาได้เหมือนกัน Corvettมีเยอะมากบางทีมันรวมกลุ่มกันเกือบ20คันได้
อยู่ที่กทม.ถ้าเห็นพวกPorcheหรือFerrari วิ่งบนถนนอาจหันมองกันคอเคล็ด แต่ถ้าเป็นแอลเอไม่มีใครมองหรอกคับ เห็นกันอยู่บ่อยๆ

เวลาขับรถบนถนนแล้วโดนตำรวจเรียกหาที่จอดแล้วให้ดับเครื่องยนต์ ห้ามออกมาจากตัวรถโดยเด็ดขาดคับ ตำรวจจะเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหาเราเอง แล้วจะมายืนอยู่ตรงเสารถด้านคนขับเพื่อป้องกันคนขับเปิดประตูกระแทกหรือหยิบอาวุธขึ้นมาต่อสู้ มือของคนขับจะสำคัญมาก ตำรวจจะสังเกตุมือของเราว่าทำอะไรอยู่ ล้วงไปหยิบจับอะไรหรือเปล่า ให้วางไว้ที่พวงมาลัยซะ
พี่คนไทยในแอลเอเขาบอกผมมาน่ะคับ




 

Create Date : 11 กรกฎาคม 2550    
Last Update : 28 กันยายน 2550 0:44:55 น.
Counter : 978 Pageviews.  

1  2  3  4  

CAsky
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




PK worked as a retailler in Totally Toddler store
Six Flags Magic Mountain Valencia California by himself (one man standing) Since March 2006 - June 2006

"In Some Situation the funninest place turn to be the borriest place"

"I'm a working man
I don't understand why clockout
come so slow everytime
That's one line I stay right behind"


free music
Friends' blogs
[Add CAsky's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.