ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 
โศกนาฏกรรม


'นาต' เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากวังน้อย

เมื่อสิ้นเดือนสิงหาคมก็ถือว่าสิ้นฤดูฝน ลมหนาวเริ่มจะพัดโชยมาจากประเทศจีนแล้ว แม้ว่าบางปีอาจจะล่าช้าไปบ้าง แต่ก็เป็นที่รับรู้กันว่าฤดูหนาวกำลังย่างกรายเข้ามา ทำให้อากาศเย็นสบาย ไม่ต้องถือร่มกันฝนอีกต่อไป

ยิ่งหนาวมากเท่าไร สาวๆ ชาวกรุงก็ดูเหมือนจะชื่นชมมากเท่านั้น เพราะเปิดโอกาสให้ได้สวมเสื้อสเว็ตเตอร์สีสวยๆ แข่งกันละลานตา

ตรงข้ามกับพี่น้องทางเหนือและอีสานที่ต้องทนทุกข์ทรมานเพราะอากาศเย็นยะเยือก หนาวเหน็บจับกระดูกจนต้องออกจากบ้านมาก่อไฟกันหนาว บ้างก็นอนขดงอก่องอขิงข้างกองไฟ เด็กนักเรียนต้องออกไปเรียนที่สนามกลางแดดเพราะความหนาวเหลือทน

หนาวเสียจนคนแก่และเด็กยากจน ขาดแคลนเสื้อผ้ากันหนาว โดยเฉพาะผ้าห่มจนถึงกับหนาวตายปีละหลายคน

ที่น่าขนลุกยิ่งกว่านั้นก็คือน้ำท่วมค่ะ!

ไหนจะฝนตกหนักจนน้ำเต็มเขื่อน ต้นไม้โดนลักลอบตัดโค่นจนแผ่นดินไม่อาจจะซึมซับน้ำได้เหมือนสมัยก่อน แม่น้ำทุกสายไหลแรงจนทะลักล้นเข้าท่วมบ้านเรือน ไร่นาสาโทพินาศย่อยยับ...อย่างปีกลายนี้ไงคะ

ดิฉันเป็นคนวังน้อย อยุธยานี่เอง อยู่ใกล้คลองระพีพัฒน์นิดเดียวเท่านั้น พอเกิดเหตุน้ำท่วมใหญ่เขาก็ทำ คันกั้นน้ำคลองไว้ ก้อนน้ำจำนวนมหาศาลก็เลยไม่ไปไหน ผู้คนก็ต้องได้รับความทุกข์ทรมานกันถ้วนหน้า

ลองนึกถึงน้ำที่ท่วมลึกเกือบ 4 เมตรก็แล้วกันค่ะ!

ไม่ว่าไร่นา สวนผักล้วนแต่ตายเรียบ ขนาดบ้านคอนเทนเนอร์ซึ่งอยู่บนที่ถมสูงยังโดนน้ำท่วมมิดหลังคาก็แล้วกัน พวกเรือกสวนไร่นาจะไปมีอะไรเหลือล่ะคะ? ต้นไม้ใหญ่น้อยโดนน้ำแช่นานๆ ก็โค่นล้มล่องลอย หรือไม่ก็ยืนเฉาตายน่าสลดหดหู่จนบอกไม่ถูก

ตอนที่น้ำไหลทะลักเข้าบ้าน ดิฉันกับสามีและลูกๆ ช่วยกันขนของไว้ที่สูง แต่ดูแล้วเห็นจะรับไม่ไหวแน่ๆ ต้องช่วยกันขนขึ้นชั้นบนเท่าที่จะขนไหวล่ะค่ะ

น้ำเจิ่งนองไปทั้งบ้าน ตอนกลางคืนได้ยินเสียงปลาร้อง บ้างก็โดดดิ้นโผงผางจนเราสะดุ้ง มองสบตากันแล้วถอนใจ...ไม่นึกว่าในชีวิตจะได้ประสบกับภัยธรรมชาติรุนแรงขนาดนั้น

ไม่อยากจะโทษใครหรืออะไรหรอกค่ะ เพราะทุกคนคงไม่อยากจะให้เกิดเหตุเลวร้ายแบบนี้ อยู่ที่ว่ามีการช่วยเหลือชาวบ้านตาดำๆ อย่างเต็มที่หรือเปล่า? ทำไมจึงมีข่าวว่าบางแห่งแจกถุงยังชีพให้แต่ญาติมิตรเท่านั้น คนอื่นๆ ที่ไม่ใช่พวกพ้องต้องหน้าแห้ง คอยเก้อไปตามๆ กัน

หนักกว่านั้นคือข่าว 'อมเงิน' กับ 'อมของบริจาค' จากเพื่อนร่วมชาติ รวมทั้งปล่อยให้เสื้อผ้ากับของกินของใช้จมน้ำเน่าเสียไปมากมาย

คิดอีกทีก็ต้องบอกตัวเองว่า...ช่างมัน!!

เกิดเป็นคนไทยไม่ว่ายุคไหน สมัยใด ก็ต้อง ก้มหน้าท่องคาถา 'อดทน' จนถึง 'ทนอด' ให้ได้ ไม่รู้ว่าจะร้องแรกแหกกระเชอเอากับใคร ท่านผู้มีอำนาจวาสนาก็ล้วนแต่ทำหูทวนลม หรือไม่ก็ ท่องคาถาว่า 'ทำดีที่สุดแล้ว' เหมือนกันทุกคนแหละค่ะ

ตั้งใจว่าจะเล่าเรื่องขนหัวลุกเล็กๆ สู่กันฟังก่อน แล้วค่อยต่อด้วยเรื่องขนหัวลุกใหญ่ๆ

ตอนน้ำท่วมใหญ่เราลำบากกันหนักหนาสาหัส ไปไหนไม่ได้เลย ของกินของใช้ที่ล้วนจำเป็นโดยเฉพาะน้ำดื่มขาดแคลนไปหมด ยิ่งตอนกลางคืนยิ่งเปล่าเปลี่ยว แสนจะน่าวังเวงใจ ฟังแต่เสียงคลื่นเสียงลมน่ากลัว...

คืนหนึ่งราวสามทุ่ม เราเตรียมตัวจะเข้านอนกันพอดี แต่จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงสะอื้นดังมาจากชั้นล่าง บางครั้งก็ร้องไห้ดังๆ น่าขนลุก

ใครที่ไหนกันจะว่ายน้ำเข้าบ้านมาสะอื้นไห้น่าสยดสยองปานนั้น?

เดี๋ยวดังเดี๋ยวเงียบ แต่เราไม่กล้าลงไปดูหรอกค่ะ คืนนั้นได้แต่สวดมนต์ภาวนาว่าอย่าให้เกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นเลย อีกทั้งหลับๆ ตื่นๆ ด้วยความหวาดระแวงไปทั้งคืน

รุ่งขึ้นรีบโผล่ไปดูก็ไม่เห็นอะไรนอกจากน้ำขุ่นคลั่กเต็มบ้านเหมือนเดิม ตะขาบกับงูเลื้อยคลานอยู่บนกอ ผักตบชวา เล่นเอารีบปิดประตูไม่ทัน...คืนต่อๆ มาถือว่าโชคดีที่ไม่มีเสียงสะอึกสะอื้นร่ำไห้อีกเลย

คราวนี้ก็มาถึงเรื่องขนหัวลุกระดับใหญ่โต คิดว่าท่านผู้อ่านก็คงจะรู้สึกหวาดระแวงแบบดิฉันเช่นกัน

นั่นคือ ใกล้จะถึงเดือนกันยายน-ตุลาคมอีกแล้ว ถ้าเกิดมหาอุทกภัยใหญ่หลวงอย่างปีกลายขึ้นมาอีก พวกเราจะสยดสยองพองขนกันปานใดหนอ? คิดแล้วขนหัวลุกจริงๆ ค่ะ!!

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด



Create Date : 27 สิงหาคม 2555
Last Update : 27 สิงหาคม 2555 8:38:04 น. 0 comments
Counter : 2049 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.