ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 
Pentacle ดาวห้าแฉก สัญลักษณ์ของปีศาจบาโพเมท(Baphomet)

Pentagram ที่เคยได้กล่าวมาก่อนหน้านี้ ไม่เคยที่จะเป็นสัญลักษณ์ของการบูชาปิศาจหรือซาตานมาก่อนเลย

ในทางกลับกัน กลับเป็นสัญลักษณ์ของเทพีในลักธิเพแกน(ในที่นี้ผมไม่แน่ใจว่าใช้เทพีวีนัสหรือป่าว)

ซึ่งโดยทั่วไปหลายๆ คนก็จะคุ้นเคยกับภาพของสัญลักษณ์ทางศาสนาที่นอกรีดของศาสนาคริสต์ ซึ่งเป็นลัทธิบูชาปีศาจที่มีบาโพเมทเป็นร่างจำแลงของซาตาน 

เอาละ แล้วทำไมเพนทาเคิลจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของปีศาจไป แล้วทำไมบาโพเมทจึงกลายเป็นร่างจำแลงของซาตาน บาโพเมท (ซึ่งจริงๆ แล้ว บาโพเมทเกิดจากโลกิ ในตำนานแสกนดิเนเวีย) 

บาโพเมท (Baphomet) จะขอกล่าวในตำนานของเทพเนอสก่อนแล้วกัน 

เรื่องราวเริ่มขึ้นเนิ่นนานก่อนเข้าสู่สงครามแร็กนารอค เหล่าเทพเจ้าทั้งหลายยังอาศัยอยู่ ณ สรวงสวรรค์ มิดการ์ด และคอยตรวจตรามิดเดิลเอิร์ธโลกมนุษย์ เพื่อปลุกระดมสงครามไว้รวบรวมเหล่าวิญญาณผู้กล้ามาเป็นนักรบเบอร์เซอก

ณ เวลานั้น มีเมืองอยู่เมืองหนึ่งมีนามว่า ซู โดยเมืองนี้นับถือเทพเจ้าแห่งไฟ นั้นก็คือเทพจอมซนโลกินั้นเอง ที่เมืองซู มีสตรีนางหนึ่ง นามว่า บาร่า นางมีบุตร ที่ผมหาข้อมูลไม่ได้ว่ามีกันกี่คน แต่ นางบาร่าคนนี้ เป็นคนจิตใจคับแคบ ไม่คิดช่วยเหลือใคร จึงไม่เป็นที่ชื่นชอบในเมือง นานวันไปนางยิ่งร้ายกาจจนคนทั้งเมืองพากันรุมเกลียด

จนกระทั่งวันหนึ่ง เทพโลกิ ก็เสด็จมา ณ เมืองซูแห่งนี้ครับ มารับของสังเวยและของบูชายันต์มาอย่างเซงๆ เบื่อๆ เพราะทำอย่างนี้มาตลอด จำเจซ้ำซาก(พอๆ เอาว่าเทพโลกิ เบื่อแล้วกัน) เมื่อเทพโลกิได้รับพวกของบูชาอะไรไปเรียบร้อยแล้ว เหล่าชาวเมืองก็ทูลองค์เทพว่า มีนางบาร่านิสัยเสียในเมืองที่เห็นแก่ตัว ไม่ช่วยเหลือผู้อื่น ฟ้องไปเรื่อย จนมาจบที่ต้องการให้นางบาร่าหายไป

เทพโลกิก็เออออไปด้วย เพราะนางเป็นคนไม่ดีจริงๆ โดยที่เทพโลกิจะสาปนางให้กลายเป็นกวางมูสครับ ว่าแล้วก็ร่ายคาถา สาปซะ แต่เกิดผิดพลาด (แต่ตั้งใจ เพราะเซง อยากเห็นอะไรสนุกๆ) นางบาร่าจึงกลายสภาพไปเป็นแพะภูเขามีเคียวโง้งเป็นอาวุธ และมีพลังอำนาจล้นเหลือ 

บาร่ากลายเป็นปีศาจที่น่ากลัวไปแล้ว (มาถึงตรงนี้ หลายๆ คนก็รู้สักทีว่าบาโพเป็นตัวผู้หรือตัวเมีย) โลกิก็งานเข้าสิครับ เข้าสู้กับบาโพอย่างทุลักทุเล เพราะมันมีอำนาจมาก สุดท้าย โลกิเห็นว่าจะปราบไม่อยู่ เลยผนึกไว้ในวิหารเสีย และก็กลับไป บ้านเมืองจึงเข้าสู่ความสงบ

หลายขวบปีผ่านไป ลูกๆ ของนางบาร่าเติบโตเป็นชายฉกรรจ์ ก็คิดแค้นจะช่วยแม่ บุกเข้าไปในวิหารหมายปลดทำลายผนึกของเทพโลกิ เดือดร้อนชาวเมืองต้องออกมาป้องกัน แต่นายคนนี้มันเก่งครับ คาดว่าน่าจะฝึกฝีมือมาตลอดเพื่อที่จะสามารถปลดปล่อยมารดาตนเองให้ได้ จนในที่สุด งานก็เข้าเทพโลกิอีกจนได้

เมื่อเทพโลกิมาถึง นายคนนี้ก็สู้พระองค์ไม่ได้และถูกชาวเมืองรุมจับครับ ด้วยความคึกและโกรธ ที่มนุษย์อาจหาญมาสู้กับเทพเจ้า เลยสาปเป็นกวางมูสเสียเลย และสำเร็จด้วยครับ คงเพราะโกรธจริงๆ แต่คงเพราะอยู่ใกล้ท่านแม่ที่เป็นจอมปีศาจแล้ว เห็นลูกตนเองถูกทำร้าย พลังของนางจึงเล็ดลอดออกมาจากผนึกและเพิ่มอำนาจให้ลูกชายเป็นเช่นนางครับ นั้นก็คือ เดาถูกไหม เดาถูกไหม 

บาโพเมท จูเนียร์ (ที่เรียกเช่นนี้เพราะมันเป็นปีศาจตนใหม่ แต่เป็นลูกของบาโพเมท ชาวเมืองจึงเรียกมันเช่นนี้ครับ) คราวนี้แหละ กวางน้อยกลายเป็นปีศาจ ประชาชนแตกฮือ เทพโลกิยังจำได้ถึงอำนาจของบาโพเมท จึงจับอัดลงไปผนึกที่เดียวกับแม่เลย ในวิหารของพระองค์ จากนั้นพระองค์ก็กลับ แต่แน่นอนครับ ผนึกนั้นถูกเปิดและปิดอย่างรวดเร็ว นั้นทำให้มีช่องว่างเกิดขึ้น แต่ บาโพเมทใช่ว่าจะออกมาได้ในทันทีครับ

800 ปีต่อมา พลังของนางกล้าแข็งขึ้นจนในที่สุด นางก็คลายผนึกด้วยตนเองและพาลูกชายออกมาจากที่คุมขัง และเข้าสังหารชาวเมืองพร้อมกับรวมรวมกองทัพปีศาจเข้าจนเป็นกองทัพใหญ่ และไปบุกเทพโลกิครับ และแน่นอน พระองค์ต่อสู่อย่างสุดสามารถแต่ ถึงจะเทพแต่มาเยอะมันก็ไม่ไหว จนในที่สุด เทพโลกิก็พ่ายแพ้ให้กับปีศาจที่ตนเองบังเอิญ (นึกสนุก) สร้างขึ้นมาด้วยความไม่ตั้งใจ(จะให้เก่งขนาดนี้) 

ส่วนบาโพเมท ก็ตั้งรกรากที่นั้นเป็นเมืองของเหล่าปีศาจ ปกคลุมด้วยความชั่วร้ายอยู่นานก่อนจะหายไปและเมืองนั้นก็กลายเป็นเมืองร้างในที่สุด

นี่ก็คือตำนานของบาโพเมทในตำนานเทพปกรณัมของชาวไวกิ้ง ซึ่งเป็นชนโบราญที่อยู่บริเวณยุโรปเหนือ และอารยะธรรมของชาวไวกิ้งก็แผ่ไปทั่วยุโรปครับ จนเข้าสู่ยุดของกรีกโรมัน พวกไวกิ้งถูกเรียกว่า บาบาเรียน เพราะชาวโรมถือว่าตนเป็นผู้มีอารยะ แต่ไวกิ้งนั้นเป็นคนเถื่อน ส่วนตรงนี้พักไว้ก่อนครับ ยังไม่ถึง

เอาละมาต่อกันต่อ เมื่อเราทราบความเป็นมาของบาโพเมทแล้ว มาดูที่ดาว 5 แฉกกันบ้างครับ 

ซึ่งจุดเริ่มต้นที่เก่าแก่ที่สุดของสัญลักษณ์นี้ มีมาตั้งแต่สมัยเมโสโปเตเมีย หลายหมืนปีก่อนยุดอียิปโบราณ ซึ่งชาวเมโสโปเตเมียนับถือดวงจันทร์ เป็นเทพมาดร และดวงอาทิตย์ เป็นเทพบิดร เป็นศาสนาที่บูชาเทพเจ้าหลายพระองค์ ซึ่งมีดาวดวงหนึ่งแทนความรักและเป็นเทพีแห่งความอุดมสมบูรณ์ ดาวดวงนั้นคือดาวศุกร์ครับ และตรงกับวีนัส หรือ อโฟรดาย ในกริซพอดี 

หากใครได้อ่านนิยายหรือชมภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง ซึ่งก็คือ รหัสลับดาวินชี ก็น่าจะพอรู้เรื่องราวของเพนทาเคิลในระดับหนึ่ง ซึ่งกล่าวถึงลัทธิแพกินและเหล่าอัศวินแห่งหุบเขาไซออน ซึ่งลัทธิแพกินนี้ นับถือเอาบาโพเมทเป็นเทพแห่งความอุดมสมบูรณ์เพราะ พวกเขาใช้นมแพะในการดำรงชีวิตร่วมกับอาหารอื่นๆ รวมไปถึงความอุดมสมบูรณ์ทางเพศ และการกำเนิด(การคลอดบุตร) และยังมีความสามารถทางดาดาศาสตร์ ที่สามารถคำนวณวิถีโคจรของดาวศุกร์ในแต่ละปี ซึ่งแนวโคจรนั้นตัดกันเป็นรูปดาวห้าแฉกครับ และความหมายของดาวศุกร์ในพวกแพกิน ก็เหมือนกับกับสองอารยธรรมที่กล่าวมาและใช้มันร่วมกับ บาโพเมท ส่วนที่เหล่าอัศวินแห่งไซออนไปเข้าลัทธินี้ได้อย่างไรผมไม่ขอกล่าวถึง เพราะไม่รู้ จำไม่ได้ หาข้อมูลไม่พอ Dark master คนนี้ ขออำภัย

เอาละ เข้าเรื่องกันต่อ เมื่อศาสนาคริสต์และวาติกันมีอำนาจสูงสุดในยุโรป พวกเขาจึงมีการให้ผู้คนเข้ารีต เพื่อนับถือเพราะเจ้า หลายลัทธิแรกๆ ก็ปฏิเสธ จบในที่สุดวาติกันเล่นไม้แข็ง บังคับให้นับถือ รวมถึงแพกินด้วย แต่ด้วยพวกเขามีพิธีกรรมต่างๆที่แสนจะแปลกพิศดาร ที่จะกระทำต่อ Baphomet เพื่อให้ได้มาซึ่งพลังอำนาจและวัตถุประสงค์ต่างๆ พิธีกรรมของ Baphomet มีหลายรูปแบบ ตั้งแต่ขั้นต้นที่อัญเชิญ Baphomet มา การให้ Baphomet เข้าสิงร่างและควบคุมร่างอย่างสมบูรณ์ (ตัวผู้ถูกสิงจะไม่มีสติเลย) รวมไปถึงการติดต่อกับ Baphomet เพื่อให้ได้มาซึ่งพลังอำนาจตอบสนองความปรารถนาต่างๆ รูปแบบของพิธีกรรมมีหลากหลายขั้นตอน แต่สิ่งประกอบสำคัญทั่วไป คือ เลือด และ การบูชายัญด้วยชีวิต

และทำไมบาโพเมทจึงกลายเป็นตัวแทนของซาตาน นั้นก็เพราะตำนานของแสกนดิเนเวียครับ บาโพเมทนั้นเป็นปีศาจ และ แพกิน นับถือพาโพเมท เป็นเทพแห่งความสมบูรณ์ ซึ่งวาติกันคงจะเอาสองสิ่งนี้มาผูกเข้าด้วยกัน จนทำให้พาโพเมท กลายเป็นสัญลักษณ์ของซาตานไป

สัญลักษณ์ดาว 5 แฉกของ Baphomet นี้ ถูกใช้อย่างเป็นทางการในแง่เครื่องหมายของ satan โดยเริ่มโดย Anton Szandor La Vey ในปี 1996 แล้วจึงถูกใช้อย่างแพร่หลายโดยลัทธิบูชา satan ต่างๆทั่วโลก





Create Date : 20 ธันวาคม 2556
Last Update : 20 ธันวาคม 2556 23:14:23 น. 0 comments
Counter : 2938 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.