ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 
อร่อยกับเมนูเสริมวิตามินจากบีทรูท

อาหารเด็ก

อร่อยกับเมนูเสริมวิตามินจากบีทรูท (M&C แม่และเด็ก)
เมนูคุณหนู : อาจารย์เจตนิพัทธ์ บุณยสวัสดิ์ และอาจารย์จักราวุธ ภู่เสม อาจารย์สาขาวิชาอาหารและโภชนาการคณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์

         บีทรูท พืชหัวที่มองแล้วไม่รู้ว่าจะทำอะไรรับประทาน หรือรับประทานกันอย่างไร รู้แต่ว่าต้มรับประทานกับสลัดผัก แต่ประโยชน์มากมายจริง ๆ

บีทรูทหรืออาจเรียกว่า ผักกาดฝรั่ง ผักกาดแดง ลำต้นอยู่ใต้ดิน รากอวบน้ำ มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 4-5 เซนติเมตร ลักษณะของใบ เป็นใบเดี่ยวเรียงตัวสลับ ก้านยาว คล้ายรูปหัวใจรี ดอกเป็นดอกเดี่ยวออกเป็นช่อมีสีเขียวอ่อน ผล มีขนาดเล็ก เป็นพืชที่รับประทานหัว มีรูปทรงกลมป้อม เปลือกสีดำ เนื้อสีแดงเลือดหมูหรือม่วงแดง เป็นผักเมืองหนาว ต้นกำเนิดอยู่ในแถบเมดิเตอร์เรเนียน ปัจจุบันนี้บีทรูทสามารถปลูกได้ในแถบภาคเหนือของไทย โดยปลูกได้ตลอดปีในระดับความสูงกว่า 1,000 เมตรเป็นพืชที่มีคุณค่าทางอาหารสูง รองมาจากมันฝรั่ง

บีทรูทให้วิตามินซีสูง วิตามินเอ บี 1 บี 2 แคลเซียม ฟอสฟอรัส และเหล็ก นอกจากนี้บีทรูทยังมีสรรพคุณทางยา ในการช่วยรักษาโรคมะเร็ง ยับยั้งการเกิดเนื้องอก และมีคุณสมบัติในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ อีกทั้งบีทรูทยังใช้เป็นสีผสมอาหารจากธรรมชาติได้อย่างปลอดภัย โดยเติมลงในผลิตภัณฑ์ขนมหวาน แยม เยลลี่ ซีเรียล เป็นสีที่ให้เกิดความสนใจในเด็กเพราะเป็นสีสันที่สดใส เราสามารถเติมแต่งในขนมหรืออาหรต่าง ๆ ให้เกิดความน่ารับประทาน สีม่วงแดงของบทรูทมาจากรงควัตถุบีตาเลน เบตาเลน ซึ่งเป็นสารพฤกษเคมี มีฤทธิ์ที่ยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอกซึ่งจะพัฒนาเป็นเซลล์มะเร็ง และยังช่วยลดความดันโลหิตลดโคเลสเตอรอล ในประเทศสหรัฐอเมริกาใช้บีทรูทเป็นวัตถุดิบในการผลิตน้ำตาล

ในปัจจุบันทั้งภาคอุตสาหกรรมอาหารและผู้บริโภคมักให้ความนิยมในการใช้สารสีจากธรรมชาติแทนการใช้สารสีที่ได้จากการสังเคราะห์ เนื่องมาจากกลุ่มคนที่ให้ความสนใจเรื่องของสุขภาพกันมากขึ้น ส่วนใหญ่สารสีประเภทนี้มักได้จากพืชและผลไม้ต่าง ๆ เช่น สีเขียวของผักเนื่องจากมีดลอโรฟีลล์ สีเหลือง สีส้ม และสีแดง เนื่องจากสีของแคโรทีนอยด์รวมถึงบีตาเลน ซึ่งเป็นกลุ่มของรงควัตถุที่ให้สีแดงและสีเหลืองคล้ายแอนโทไซยานิน และฟลาโวนอยด์ ซึ่งพบได้ในพืชจำพวกหัวบีทรูท ผลแก้วมังกรสีแดง ดอกอัญชัน เป็นต้น

การบริโภคบีทรูทในการทำอาหารส่วนเริ่มหันมาใช้กันมากขึ้นการใช้นิยมนำมาต้มสุกทั้งหัวก่อน แล้วปอกเปลือกใช้รับประทานได้เลย เมื่อต้มสุกแล้วมีกลิ่นหอมคล้ายกับข้าวโพดต้มสุก สามารถประกอบอาหารได้ทั้งอาหารคาว และอาหารหวาน

ฉบับนี้แม่และเด็กนำเมนูเสริมวิตามินจากบีทรูท ได้แก่ สาคู ไส้บีทรูท ขนมบีทรูทหนึ่ง และเครื่องดื่มสมูทตี้บีทรูท เหมาะเป็นอาหารสำหรับเด็กและครอบครัว



สาคูไส้บีทรูท

ส่วนผสม

สาคูเม็ดเล็ก 2 ถ้วยตวง

เนื้อหมูบด  ½ ถ้วยตวง

กระเทียม 5 กลีบ

รากผักชี 4 ราก

พริกไทยป่น 2 ช้อนชา

หอมดแดงสับ 1 ถ้วย

บีทรูทต้มสุกสับ 1 ถ้วย

ถั่วลิสงคั่วบด ¼ ถ้วยตวง

น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ

ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ

น้ำตาลปี๊บ 1/3 ถ้วยตวง

แบะแซ 3 ช้อนโต๊ะ

เกลือป่นปรุงรส

กระเทียมเจียว

วิธีทำ

1.โขลกกระเทียม รากผักชี พริกไทยป่น ให้ละเอียดพักไว้


2.ผัดส่วนผสมที่โขลกรวมกันไว้ให้หอม เติมเนื้อหมู ผัดพอสุก เติมหอมแดงสับ ผัดต่อสักครู่

3.เติมบีทรูทและแบะแซ ปรุงรสด้วยน้ำตาล ซอสปรุงรสและเกลือ ผัดให้ส่วนผสมแห้ง ชิมรสอีกครั้งเติมถั่วลิสงผัดให้เข้ากัน

4.ยกลง พักให้เย็น ปั้นเป็นก้อนกลม ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 เซนติเมตร

5.ซาวสาคูกับน้ำเปล่า ริมน้ำออกปิดฝา พักไว้นานประมาณ 10-15 นาที นำมาห่อไส้ที่ปั้นเตรียมไว้

6.นำสาคูที่ปั้นเตรียมไว้ นึ่งในลังถึงที่รองด้วยใบตอง ทาน้ำมัน นึ่งไฟแรง นานประมาณ 5-7 นาที

7.พอสุก ยกลง พรมด้วยน้ำมันกระเทียมเจียว

8.จัดเสิร์ฟกับผัดกาดแก้ว หรือผักกาดหอม และใบผักชี

Tip : การต้มบีทรูท ต้มหัวบีทรูททั้งหัวโดยไม่ปอกเปลือกใส่น้ำให้ท่วม ต้มไฟปานกลางนานประมาณ 30-45 นาที หรือจนกระทั่งสุก



ขนมบีทรูทนึ่ง

ส่วนผสม

บีทรูทต้มสุกบด 1 ถ้วยตวง

หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง

แป้งข้าวเหนียว ¾ ถ้วยตวง

แป้งท้าวยายม่อม ¼ ถ้วยตวง

แป้งมัน ¼ ถ้วยตวง

น้ำตาลปี๊บ ¼ ถ้วยตวง

มะพร้าวทึนทึกขูด ¾ ถ้วยตวง

เกลือเล็กน้อย

ใบตอง/ไม้กลัด

วิธีทำ

1.ผสมแป้งทั้ง 3 ชนิดเข้าด้วยกัน เติมกะทิทีละน้อย นวดนานประมาณ 10 นาที เติมน้ำตาลปี๊บ เกลือ นวดให้เข้ากัน

2.เติมบีทรูทและกะทิส่วนที่เหลือ มะพร้าวทึนทึกขูดครึ่งส่วน คนให้ส่วนผสมเข้ากัน

3.ตักหยอดใส่กรวยใบตอง โรยด้วยมะพร้าวทึนทึกขูด นำไปนึ่ง จนขนมสุก นานประมาณ 15-20 นาที

4.นำออกจากที่นึ่ง จัดเสิร์ฟ

Tip : มะพร้าวทึนทึกที่โรยหน้าขนม คลุกด้วยเกลือป่นเล็กน้อยจะทำให้ขนมมีรสชาติอร่อยขึ้น



สมูทตี้บีทรูท

ส่วนผสม

บีทรูทต้มสุก ½ หัว

แอปเปิ้ลเขียวปอกเปลือก 1 ผล

นมข้นหวาน 1 ช้อนโต๊ะ

นมข้นจืด 2 ช้อนโต๊ะ

น้ำแข็งบด ½ ถ้วยตวง

วิธีทำ

1.ผสมส่วนผสมทุกอย่างรวมกัน ใส่โถปั่นน้ำผลไม้ ปั่นให้ส่วนผสมเข้ากันสักครู่

2.เติมน้ำแข็งปั่นต่อให้ละเอียด

3.จัดเสิร์ฟใส่แก้ว แต่งด้วยบีทรูทต้มสุก




ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ปีที่ 35 ฉบับที่ 484 มิถุนายน 2555


Create Date : 18 กรกฎาคม 2555
Last Update : 18 กรกฎาคม 2555 8:26:46 น. 0 comments
Counter : 3336 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.