|
James Franco
ชื่อจริง: James Edward Franco
ชื่อเล่น: Ted, Teddy
วันเกิด: 19 เมษายน ปี 1978
สถานที่เกิด: พาโต อัลโต, แคลิฟอร์เนีย
ส่วนสูง: 5 ฟุต 11 นิ้ว
ครอบครัว: พ่อ: Doug Franco แม่: Betsy Verne Levine น้องชาย: Tom และ David
การศึกษา: มหาวิทยาลัย UCLA ความสัมพันธ์: เคยเดทกับเพื่อนนักแสดงด้วยกันอย่าง Sarla Sokoloff ช่วงปี 2000-2004
James said:
การแสดงเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง และคุณก็คงอยากจะรับบทที่มันท้าทาย และผมคิดว่า การรับบทตัวละครที่มืดหม่นก็เป็นความท้าทาย ก็ไม่ใช่ว่าผมอยากจะเล่นบทพวกนั้นตลอดหรอกนะครับ เพียงแต่มันเป็นความท้าทาย และความท้าทายก็ทั้งคุ้มค่าและสนุกด้วยครับ
James Franco หนุ่มน้อยผมเข้ม ผู้มีใบหน้าหล่อเหลาราวรูปสลัก กลายเป็นขวัญใจของสาวน้อยสาวใหญ่
ทั่วโลกจากบทบาทของเขาในซีรีส์ทาง NBC เรื่อง Freaks and Geeks และภาพยนตร์รักโรแมนติกอย่าง Never Been Kissed ที่นำแสดงโดยนางเอกสาวแก้มยุ้ย Drew Barrymore
James Edward Franco ลูกชายคนโตของ Doug Franco ศิลปินชาวอเมริกัน/สแปนิชและ Betsy Verne Levine นักวาดภาพชาวอเมริกันเชื้อสายยิว เกิดในวันที่ 19 เมษายน ปี 1978 ในอัลโต พาโต รัฐแคลิฟอร์เนีย ที่ซึ่งเป็นบ้านของเขาจนปัจจุบัน หลังจากจบไฮสคูลจากพาโล อัลโต ไฮสคูลในปี 1996 เขาก็ได้เข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัย UCLA ในสาขาภาษาอังกฤษ ระหว่างนั้นเองที่เขาเริ่มสนใจการแสดง ด้วยความคิดว่ามันจะช่วยทำให้เขาเลิกเป็นคนขี้อายได้ กลับกลายเป็นว่า เขารักการแสดงมากกว่าที่เคยคิดไว้ และตัดสินใจเลิกเรียนที่ UCLA หลังจากเรียนได้เพียงปีเดียว
จากนั้น เขาก็ได้ศึกษาการแสดงอย่างจริงจังภายใต้การสอนของ Robert Carnegie, Jeff Goldblum และ Tony Savant และทำการฝึกฝนที่โรงละครเพลย์เฮาส์ เวสต์ในถิ่นนอร์ธ ฮอลลีวูดอย่างหนักหน่วงเป็นเวลาถึงสิบห้าเดือนอีกด้วย หลังจากนั้นเองที่เขาเริ่มทำการไล่ตามความฝันในการเป็นนักแสดงในฮอลลีวูดอย่างจริงจัง และไม่นาน เขาก็ได้รับบทนำในซีรีส์อายุสั้นแต่ได้รับความนิยมสูงทาง NBC เรื่อง Freaks and Geeks ในไม่ช้า หลังจากที่เขาได้รับบท Daniel หนุ่มคมเข้มที่มองโลกในแง่ร้ายตลอดใน Freaks and Geeks ซึ่งผู้ชมพบว่าการแสดงของเขาทั้งสมจริงและเข้าถึงได้ James ก็เริ่มได้รับบทในภาพยนตร์วัยรุ่นเรื่องแล้วเรื่องเล่า เริ่มจาก Never Been Kissed ที่เขาได้ร่วมแสดงกับ Drew Barrmore และ Michael Vartan ตามด้วย Whatever It Takes ที่เขารับบทหนุ่มนักกีฬาขวัญใจสาวๆ
แม้ว่าถึงตอนนั้น James จะเริ่มเป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตาของผู้ชมทั้งจอแก้วและจอเงินแล้ว บทบาทที่ทำให้เขาได้รับตำแหน่งขวัญใจสาวๆ อย่างเต็มภาคภูมิคือบท James Dean พระเอกมาดเข้มแห่งวงการ ในภาพยนตร์ที่แพร่ภาพทางโทรทัศน์ของ TNT เรื่อง James Dean ผลงานเรื่องนี้ทำให้เขาได้ลงนิตยสารมากมายหลายเล่มและทำให้ทุกคนได้ตระหนักถึงพรสวรรค์ของเขามากขึ้น เขาพูดถึงความรู้สึกของเขาในการรับบทนักแสดงคนดังว่า การได้สวมบทเป็น James Dean มันเหลือเชื่อมากครับ เขาพูดอย่างตรงไปตรงมา ตอนแรก ผมก็กลัวหน่อยๆ ตอนที่มีคนมาทาบทามผมในเรื่องนี้ แต่ผมก็รู้สึกว่า ผมจะสามารถสวมบทเป็นเขาได้อย่างดี เห็นได้ชัดว่า James ไม่ใช่คนเดียวที่คิดเช่นนั้น เพราะในปีถัดไป เขาก็ได้รับรางวัลลูกโลกทองคำจากการแสดงของเขา และ James Dean ก็กลายเป็นภาพยนตร์ที่เรทติงสูงสุดตลอดกาลทาง TNT
นับแต่นั้นมา เขาก็ได้รับข้อเสนอเข้ามามากมายไม่หยุดหย่อน และหลังจากที่เขาเข้าทำการออดิชัน Spider-Man ในบท Peter Parker และพลาดบทนี้ไปให้ Tobey Maguire เขาก็ได้รับบทเป็น Harry Osborne เพื่อนสนิทของ Spider-Man ในภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์ฟอร์มยักษ์ประจำซัมเมอร์ปี 2002 อย่าง Spider-Man
หลังจากที่เขากลายเป็นที่รู้จักมากขึ้นจากเรื่อง Spider-Man ที่เขาได้ร่วมแสดงกับ Tobey Maguire, Willem Dafoe และ Kirsten Dunst เขาก็มีผลงานในเรื่อง Deuces Wild ภาพยนตร์ดรามาเกี่ยวกับแก๊งอาชญากรสไตล์ยุค 50s ก่อนที่เขาจะได้รับบทที่ท้าทายที่สุดในชีวิตนักแสดงของเขา ซึ่งก็คือบทผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรม ที่บังเอิญเป็นลูกชายของนักสืบแห่งกรมตำรวจนิวยอร์กที่รับบทโดยนักแสดงในตำนานอย่าง Robert De Niro ใน City by the Sea โดย Robert De Niro เป็นคนที่เลือก James มาเล่นในภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยตัวเอง หลังจากที่เขาได้เห็นฝีมือการแสดงของ James ในเรื่อง James Dean
จากนั้น เขาก็ได้เล่นภาพยนตร์ดรามาเกี่ยวกับกลุ่มนักเต้นบัลเลต์ The Company ที่นำแสดงโดย Neve Campbell และภาพยนตร์อินดีเรื่อง The Ape ที่เขาควบหน้าที่มือเขียนบทและผู้กำกับด้วย ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถในการเล่นดรามาของเขามากยิ่งขึ้น ก่อนที่เขาจะกลับไปรับบทที่ทำให้เขาโด่งดังทั่วโลก Harry Osborne อีกครั้งหนึ่งใน Spider-Man 2 โดยเขาได้พูดถึงตัวละครของเขาว่า Harry เป็นคนที่หดหู่และมีจิตใจสับสนมากครับ เขาเป็นตัวละครที่ค่อนข้างมืดหม่น และการได้เล่นบทที่ มืดหม่น แบบนี้ก็มักจะให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าเสมอครับ
จริงๆ แล้ว มันก็เป็นผลตอบแทนที่คุ้มค่าจริงๆ นั่นแหละ เพราะหลังจาก Spider-Man 2 แล้ว เขาก็ก้าวพ้นจากความเป็นนักแสดงสมทบไปเป็นนักแสดงนำอย่างเต็มตัว โดยผลงานเรื่องล่าสุดของเขาที่เรากำลังจะได้ชมกันก็คือ The Great Raid ภาพยนตร์เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่สอง ที่เขาจะมีโอกาสได้แสดงฝีมือการแสดงดรามาที่จริงจังอีกครั้งหนึ่ง
Create Date : 05 มิถุนายน 2550 |
Last Update : 5 มิถุนายน 2550 14:36:53 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1346 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|