ประตูบรันเดนบูร์ก ( Brandenburg Gate) สัญลักษณ์แห่งกรุงเบอร์ลิน

                ประตูเมืองบรันเดนบูร์ก (Brandenburg Gate)  เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของกรุงเบอร์ลิน เป็นประตูที่ถูกสร้างขึ้นใหม่แทนประตูดั้งเดิมของกำแพงเบอร์ลิน ประตูแห่งนี้ได้รับความนิยมอย่างมากเนื่องจากครั้งหนึ่งเคยเป็นสัญลักษณ์ของประเทศที่ถูกแบ่งแยกระหว่างเยอรมนีตะวันออกและเยอรมนีตะวันตก แต่ในปัจจุบันกลายมาเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพและเอกภาพของประเทศเยอรมัน



               ประตูบรันเดินบูร์ก (Brandenburg Gate) สร้างขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้าฟรีดริช วิลเฮล์มที่ 2 เพื่อเป็นตัวแทนแห่งสันติภาพ ประตูถูกออกแบบโดย คาร์ล ก็อทท์ฮาร์ด แลงฮานส์ ผู้อำนวยการสำนักงานศาลสิ่งก่อสร้าง ประตูบรันเดินบูร์กใช้เวลาก่อสร้างระหว่างปี พ.ศ. 2331 - 2334 เพื่อทดแทนประตูดั้งเดิมของกำแพงเข้าเมืองเบอร์ลิน



            ประตูเมืองบรันเดนบูร์ก (Brandenburg Gate) มีความสวยงามและมีเอกลักษณ์ด้วยเสาแบบดอริกทั้งหมด 12 ต้น โดยตั้งอยู่ด้านละ 6 ต้น และมีช่องทางเดินอยู่ 5 ช่อง โดยเราสามารถเดินผ่านได้แค่ช่องซ้ายและขวาริมสุดเท่านั้น



              ด้านบนสุดของซุ้มประตูประดับด้วยประติมากรรมควอดริกา (Quadriga statue)  เป็นรูปปั้นเทพีแห่งชัยชนะ (Victoria)  อยู่บนรถม้าศึกจำนวน 4 ตัว ในท่าโจนทะยาน ซึ่งประติมากรรมนี้เคยถูกยึดนำไปไว้ที่ประเทศฝรั่งเศสแล้วครั้งหนึ่ง ในช่วงปี พ.ศ. 2349 เหตุเพราะปรัสเซียได้พ่ายแพ้สงครามในสมรภูมิจีน่า-ออสเตรดท์ (Battle of Jena-Auerstedt) นโปเลียน โบนาปาร์ต ผู้นำฝรังเศสสมัยนั้น ได้ใช้ประตูบรันเดินบูร์กจัดขบวนพิธีฉลองชัยชนะ  รวมทั้งได้เอาควอดริก้า (Quadriga statue)  กลับไปยังกรุงปารีส แต่ที่สุดแล้วก็กลับมาประดับเหนือประตูนี้อีกครั้ง 


           
                  ซุ้มประตูแห่งนี้อยู่ใจกลางกรุงเบอร์ลิน ระหว่างสองสถานที่สำคัญคือรัฐสภาเยอรมัน (Reichstag) และอนุสรณ์สถานการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว (Holocaust Memorial) มีความวิจิตรจากการก่อสร้างในรูปแบบ “นีโอคลาสสิก” และใช้ทรายเป็นวัสดุในการสร้าง จึงโดดเด่นอยู่ท่ามกลางตึกอาคารที่เป็นเหลี่ยมๆ เรียบง่ายแบบร่วมสมัย และยิ่งมีการสร้างสวนสวยสีเขียวสดใสบริเวณใกล้ๆ ด้วยแล้ว ยิ่งส่งให้ซุ้มประตูบรันเดินบูร์กแห่งนี้มีความเด่น สง่าทั้งในยามกลางวันและค่ำคืนที่มีไฟส่องสว่าง

xit9^

         ซุ้มประตูบรันเดินบูร์ก (Brandenburg Gate) ไม่ได้เป็นเพียงประวัติศาสตร์ และเอกลักษณ์ของกรุงเบอร์ลินเท่านั้นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว  ความงามของทิวทัศน์ที่งดงาม ธรรมชาติที่มีสีสัน ม้านั่งไม้ที่ประจำต้นไม้ ทำให้ที่นี่เป็นสวนสาธารณะสำหรับการพักผ่อน เมื่อนักท่องเที่ยวเดินผ่านประตูที่สูงกว่า 30 เมตรนี้เข้าไป 



             พอดีวันนี้เป็นวันหยุด จึงมีนักท่องเทียวมาเที่ยวชมสถานที่แห่งนี้มาก นอกจากนักท่องเที่ยวแล้วยังประชาชนทำกิจกรรมอื่นๆ อย่างเช่นกิจกรรมประท้วงอะไรสักอย่าง พอดีอ่านภาษาเยอรมันไม่ออกเลยไม่ทราบเหตุการณ์และสีสันในวันนี้




             
             นักท่องเที่ยวที่ไปเยือนกรุงเบอร์ลิน เมืองหลวงของประเทศเยอรมัน คงไม่มีใครพลาดที่จะไปเช็คอินที่นี่ สัญลักษณ์แห่งสันติภาพและเอกภาพของเยอรมัน ณ  ซุ้มประตูบรันเดินบูร์ก (Brandenburg Gate) แห่งนี้ 




 

Create Date : 11 มิถุนายน 2563   
Last Update : 17 สิงหาคม 2563 13:21:35 น.   
Counter : 3215 Pageviews.  


นครเบอร์ลิน (Berlin) ศูนย์กลางการเมือง การปกครอง และวัฒนธรรมของประเทศเยอรมัน

            นครเบอร์ลิน (Berlin) เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ( Federal Republic of Germany  หรือในภาษาเยอรมัน Bundesrepublik Deutschland) ที่เราเรียกกันติดปากว่าประเทศเยอรมัน เบอร์ลิน (Berlin) เป็นศูนย์กลางสำคัญทางการเมือง การปกครองและวัฒนธรรมต่างๆ ของประเทศเยอรมัน  ที่สำคัญคือมีความเป็นมาและมีประวัติศาสตร์มากมายเกี่ยวกับสงครามโลก และสงครามเย็น



           เบอร์ลิน (Berlin) เคยเป็นศูนย์กลางของนาซีเยอรมันในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังจากสิ้นสุดสงครามก็ประสบชะตากรรมกลายเป็นสมรภูมิภายใต้สงครามเย็น ประเทศเยอรมันได้ถูกแบ่งเป็น 2 ส่วน คือฝั่งตะวันตกเป็นส่วนของโลกเสรี กับฝั่งตะวันออกอยู่ภายใต้การยึดครองของโซเวียตซึ่งเป็นลัทธิคอมมิวนิสต์ ชะตากรรมของเมืองเบอร์ลิน (Berlin) คือพื้นที่เมืองเบอร์ลินทั้งเมืองอยู่ในพื้นที่ของเยอรมันฝั่งตะวันออกที่เป็นพื้นที่ยึดครองของโซเวียต และยิ่งกว่านั้นตัวเมืองเบอร์ลินเองก็ถูกแบ่งเป็น 2 ส่วนเช่นกัน  คือฝั่งตะวันออกถูกยึดครองโดยรัสเซีย ส่วนฝั่งตะวันตกถูกควบคุมโดยเป็นฝ่ายเสรีอยู่ภายใต้การดูแลของฝรั่งเศส อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา ประเด็นที่สำคัญคือพื้นที่ทั้งหมดของเบอร์ลินตะวันตกที่เป็นโลกเสรี ไปอยู่ในส่วนพื้นที่ของเยอรมันตะวันออก แปลว่าส่วนของเบอร์ลินตะวันตกถูกห้อมล้อมด้วยฝ่ายโซเวียตทุกทิศทุกทาง (ตามรูป)



           ภายใต้ชะตากรรมที่นครเบอร์ลินอยู่ในสมรภูมิสงครามเย็น รวมทั้งเป็นจุดกันชนของสองระบบการปกครอง และยังถูกซ้ำเติมโดยมีการสร้างกำแพงโดยสหภาพโซเวียตขึ้นมาแบ่งพื้นที่เมืองเบอร์ลินออกเป็นสองฝั่ง จากญาติพี่น้อง เพื่อน ถูกแบ่งแยก และกั้นขวางเสรีภาพด้วยกำแพง  กำแพงเบอร์ลินนี้มีความยาวทั้งสิ้น 155 กิโลเมตร เริ่มสร้างเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2504 (ค.ศ. 1961)



               ประชาชนทั้งสองฝั่งไม่สามารถติดต่อกันได้ มีการลักลอบข้ามกำแพงนี้ตลอดระยะเวลาช่วงสงครามเย็น จนกระทั่งสงครามเย็นสิ้นสุดลง จึงมีการทำลายกำแพงแห่งนี้ลงในวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2532  รวมเวลาปิดกั้นพรมแดนเป็นระยะเวลา 28 ปี ปัจจุบันยังเหลืออนุสรณ์ไว้ให้เราชมกัน



          กรุงเบอร์ลิน(Berlin) ยังเป็นเมืองที่มีการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมใหม่และสถาปัตยกรรมแบบคลาสสิกดั้งเดิมเอาไว้อย่างสวยงาม ลงตัว และที่สำคัญกรุงเบอร์ลินยังมีสถานที่สำคัญและน่าเที่ยวอีกมากมาย เช่น เกาะพิพิธภัณฑ์มรดกโลกขององค์การยูเนสโก ประตูเมืองบรันเดนบูร์ก รวมถึงแหล่งช็อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมด้วย


 



            หอส่งสัญญาณโทรทัศน์ (TV Tower หรือ Berliner Fernsehturm) สถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์แห่งกรุงเบอร์ลิน  ด้วยความสูงเสียดฟ้าถึง 368 เมตรรวมเสาอากาศ เป็นแลนด์มาร์กที่สังเกตเห็นได้ง่ายที่สุดของเมือง 



              ประตูบรันเดินบวร์ค (Brandenburg Gate)   พลาดไม่ได้ที่จะไปเช็คอินที่นี่ สัญลักษณ์แห่งสันติภาพและเอกภาพของเยอรมัน เป็นสัญลักษณ์แห่งกรุงเบอร์ลิน  เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวที่ไปที่นี่จะต้องไปเช็คอิน ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ถ้าไม่ไปเสมือนไม่ได้ไปถึงกรุงเบอร์ลิน 




    

       นครเบอร์ลิน(Berlin) อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี  อยู่ในพื้นที่รวมของแม่น้ำสองสายคือ แม่น้ำชเปรและแม่น้ำฮาเฟิล นครเบอร์ลิน (Berlin) มีพื้นที่ 891.75 ตารางกิโลเมตร บรรยาศที่เห็นในภาพคือริมฝั่งแม่น้ำชเปร (Spree) ที่ไหลผ่ายนครเบอร์ลินบริเวณ East Side Gallery 



                 ความน่าสนใจของเมืองเบอร์ลิน (Berlin) อยู่ที่ ภายใต้สถาปัตยกรรมที่บอกถึงศิลปะแห่งยุคสมัย ภาพศิลปะบนกำแพง พิพิธภัณฑ์ จัตุรัส ฯลฯ ทั้งเมือง ที่ล้วนแล้วแต่มีความหลังที่ควรย้อนรำลึกไปถึงประวัติศาสตร์ในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่กว่าจะกลายมาเป็นเมืองแห่งศิลปวัฒนธรรมที่กลมกลืนเข้าด้วยกัน



           Kaiser Wilhelm Memorial Church หรือ Gedächtniskirche เป็นโบสถ์ทางคริสต์ศาสนาเก่าแก่ สร้างในปี ค.ศ. 1890 และได้ถูกทำลายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อปี ค.ศ.1943 จนเหลือซากโบสถ์เพียงห้องโถง หอระฆัง ต้องมีการบูรณะใหม่โดยอาศัยรากฐานเดิม เพื่อจะใช้เป็นอนุสรณ์สถานแห่งสงครามและสัญลักษณ์ของสันติภาพ ว่าครั้งหนึ่งสงครามทำลายแม้แต่ศาสนสถาน


     


              เมืองเบอร์ลิน (Berlin) เป็นเมืองน่าท่องเที่ยวที่ติดอันดับ Top3 ของเยอรมัน ที่นักท่องเที่ยวแนะนำต่อๆ กันมา ทำให้เป็นเมืองที่สนใจ  น่าเที่ยว มีทั้งความงดงามของสถาปัตยกรรมต่างๆ และอนุสรณ์สถานที่ระลึกถึงเหตุการณ์สำคัญๆในประวัติศาสตร์ ตลอดจนพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับสงครามโลก สงครามเย็น เรามาติดตามชมกันในรายละเอียดในบล็อกต่อๆ ไปครับ




 

Create Date : 10 มิถุนายน 2563   
Last Update : 17 สิงหาคม 2563 13:22:15 น.   
Counter : 1959 Pageviews.  


ชิมอาหารฮังกาเรียนพร้อมเสียงดนตรี ในบูดาเปสต์ (Budapest)

           ได้เที่ยวชมสถาปัตยกรรมสวยงามอลังการหลายๆ แห่งในนครบูดาเปสต์ (Budapest) นครหลวงของประเทศฮังการี เมืองท่องเที่ยวที่น่าสนใจที่มีชื่อเรียกเล่นๆ ว่า “ไข่มุกแห่งแม่น้ำดานูบ” ได้อิ่มเอมกับความงามและบรรยากาศมาแล้ว วันนี้จะพาชมร้านอาหารพื้นเมืองสไตล์ฮังกาเรียนที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหมู่ผู้มาเยือนนครบูดาเปสต์กัน



            ร้านอาหารพื้นเมืองนี้มีชื่อว่า Mátyás Pince ซึ่งได้รับการตั้งชื่อตามกษัตริย์แมทเธียส (Matthias) ร้านนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำดานูบ ถัดจากสะพาน Elisabeth   บนฝั่งเปสต์ (Pest) ทางร้านได้คัดสรรไวน์ที่ดีมีคุณภาพไว้บริการ และเมนูที่แนะนำคือ fish soup ซึ่งเป็นอาหารพื้นเมืองขึ้นชื่อของฮังการี



          การตกแต่งภายในร้านอาหารด้านในสวยงามตามรูปแบบพื้นเมืองสไตล์ฮังกาเรียน ตกแต่งรูปแบบโบราณด้วยโทนสีน้ำตาลเขัม  ผนังประดับรูปเขียนแบบโบราณคนฮังกาเรียนโบราณกำลังดื่มเบียร์เฉลิมฉลอง
 



              ร้านอาหาร Mátyás Pince เปิดให้บริการตั้งแต่ปี ค.ศ. 1904 (พ.ศ.2447) ซึ่งเปิดบริการมายาวนานกว่า 116 ปี และเป็นร้านอาหารที่ได้รับความนิยมมากในหมู่ผู้มาเยือนบูดาเปสต์ มีการแสดงดนตรีสดทุกเย็น แต่สำหรับผู้ที่สนใจในนิทานพื้นบ้านพวกเขามีการแสดงเล็ก ๆ ให้แขกของพวกเขาทุกคืนวันพุธและวันพฤหัสบดีเวลา 20.00 น. และตั้งแต่ปี 2011 เป็นต้นมา ร้านอาหาร Mátyás Pince มีการแสดงโอเปร่าฮังการี ในตอนเย็นทุกวันศุกร์ เริ่มต้นเวลา 20.30 น. หากสนใจอย่าลืมสำรองโต๊ะ 


             
               เมนูรายการอาหารมีมากมายให้เลือกสรร แล้วแต่ตามชอบ รายการอาหารที่เรามารับประทานวันนี้คือ
 ไก่อบราดเกรวี่ผสมเห็ดกับแป้งต้ม  ส่วนซุปเป็นซุปครีมหัวหอม  ของหวานแอปเปิ้ลพายราดซอสวานิลลา  มีนักดนตรีเล่นไวโอลินเพลงพื้นเมืองแบบสนุกสนาน ระหว่างเรารับประทานอาหาร 
















     
              รับประทานอาหารมีโดยมีดนตรีบรรเลงกล่อมเพลิดเพลินใจในบรรยากาศ  อาหารอร่อยดนตรีไพเราะ หากสนใจลิ้มลองอาหารฮังกาเรียนในบรรยากาศพื้นเมือง อย่าลืมชื่อร้านอาหารแห่งนี้นะครับ



           สำหรับผู้สนใจหากมีโอกาสได้เยือนนครบูดาเปสต์(Budapest) อย่าลืมมาอุดหนุนร้านอาหารแห่งนี้  Mátyás Pince Restaurant ที่อยู่ 1056 Budapest, Március 15. tér 7-8 สถานีรถไฟใต้ดิน: Ferenciek Tere (รถไฟฟ้าใต้ดินสีน้ำเงิน) รับรองไม่ผิดหวัง




 

Create Date : 28 พฤษภาคม 2563   
Last Update : 17 สิงหาคม 2563 13:23:10 น.   
Counter : 1596 Pageviews.  


ล่องเรือชมความงามแม่น้ำดานูบ เมืองบูดาเปสต์

             แม่น้ำดานูบ (Danube River) เป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดในสหภาพยุโรป  มีต้นกำเนิดที่แถบป่าดำ ในประเทศเยอรมนี เกิดจากแม่น้ำเล็กๆ สองสาย คือ Brigach และ Breg ซึ่งไหลมารวมกันเป็นแม่น้ำดานูบที่เมือง Donaueschingen แม่น้ำดานูบไหลไปทางทิศตะวันออกผ่านเมืองหลวงและเมืองสำคัญๆ ของประเทศต่างๆ ในยุโรปก่อนที่จะไหลลงสู่ทะเลดำที่ประเทศโรมาเนียและยูเครน มีความยาวประมาณ 2,845 กม.



            กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาบูดาเปสต์ (Budapest) คือการล่องเรือชมความงามของแม่น้ำดานูบ ในช่วงที่เราล่องเรือ จะเห็นวิว 2 ฝั่งแม่น้ำ คือ
ฝั่งบูดา (Buda) ที่เป็นเมืองเก่า และฝั่งเปสต์ (Pest) ที่เป็นเมืองใหม่ เรือจะล่องผ่านสถานที่สำคัญของเมืองมากมาย เช่น ตึกรัฐสภา (House of Parliament), เกาะมาร์กาเร็ต (The Margaret Island) และตลาด The Great Market Hall บนฝั่งเปสต์ ส่วนทางด้านของฝั่งฝั่งบูดา (Buda) จะได้เห็นปราสาทบูดา (Buda Castle) และมหาวิหารแมทเธียส (Matthias Church) อันสง่างาม รวมถึงป้อมชาวประมง (Fisherman's Bastion) และสปาเกลเลิร์ตบาธ (Gellért Bath) 



             เกลเลิร์ต ฮิลล์ (Gellert Hill) เป็นจุดชมวิวบนเนินเขาที่มีความสูง 140 เมตร เสามารถมองเห็นวิวได้จากทั้ง 2 ด้าน ทำให้เห็นทัศนียภาพของกรุงบูดาเปสต์ได้โดยรอบแบบพาโนรามิค 360 องศา ของเมืองปูดาเปสต์ บริเวณกำแพงของทางขึ้น เนินเขาเกลเลิร์ต มีการจัดแสดงรูปภาพของกรุงบูดาเปสต์ในปีค.ศ. เพิ่งให้เห็นถึงเป็นมาของเมืองตั้งแต่อดีตจนมาถึงภาพที่ทุกคนได้เห็นในปัจจุบัน



        เกลเลิร์ต ฮิลล์ (Gellert Hill)  บนฝั่งเปสต์ที่มีเรื่องเล่าว่า  ท่านเป็นบาทหลวงชาวสวิสที่มาเผยแพร่ศาสนาที่นี่ แล้วคนพื้นเมืองไม่พอใจจึงจับท่านลงถังแล้วกลิ้ง ลงจากยอดเขาสู่แม่น้ำดานูป ต่อมาเมื่อศาสนาคริสต์เป็นที่ยอมรับจึงตั้งชื่อภูเขาตามท่าน มีรูปปั้นของท่านถือไม้กางเขนอยู่บนหน้าผา 



           อีกหนึ่งจุดน่าสนใจบนเขาเกลเลิร์ต ฮิลล์ (Gellert Hill) คือ อนุสาวรีย์ชิตทาเดลล่า(Cittadella) เทพีถือใบปาล์มไว้เหนือศีรษะ หรือที่รู้จักกันในนามของเทพีเสรีภาพของประเทศฮังการี สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงผู้เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่  2  การขึ้นไปเที่ยวชมความสวยงามของกรุงบูดาเปสต์บนเนินเขาเกลเลิร์ต สามารถเดินทางได้ 2 วิธี คือโดยทางรถ หรือ การเดินขึ้นเขาจะใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที   









             อาคารรัฐสภาฮังการี (Hungary Parliament) เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวอันตระการที่ไม่ควรพลาดมาเที่ยวชม ถือว่าป็นสัญลักษณ์ของฮังการี อาคารรัฐสภาตั้งโดดเด่นอยู่ริมแม่น้ำดานูบบนฝั่งเปสต์ เป็นอาคารรัฐสภาที่ชาวฮังกาเรี่ยนภูมิใจว่าเป็นอาคารรัฐสภาที่สวยที่สุดในโลก เพราะตัวอาคารมีความสวยงามด้วยสภาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิคที่ดูคลาสสิคด้วยหลังคาสีแดง อาคารรัฐสภาแห่งนี้เริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ.1885 และใช้เวลากว่า 20 ปีกว่าจะเสร็จสมบูรณ์ โดยรูปแบบอาคารได้รับอิทธิพลมาจากอาคารรัฐสภาแห่งลอนดอน สหราชอาณาจักร   
         


             ความงามของอาคารรัฐสภาฮังการี (Hungary Parliament)  ตั้งโดดเด่นอยู่ริมแม่น้ำดานูบเป็นไฮไลท์ของการล่องเรือชมความงามของแม่น้ำดานูบในวันนี้ 



                 
ฝั่งแม่น้ำดานูบบริเวณหน้าอาคารรัฐสภาฮังการี มีรองเท้าหล่อขึ้นจากโลหะ หัวรองเท้าชี้ไปที่แม่น้ำ จำนวนหลายสิบคู่ตั้งวางเรียงรายอยู่รองเท้าจำนวนมากเหล่านี้ มีชื่อที่รู้จักทั่วไปว่า The shoes on the Danube Bank รองเท้าโลหะเหล่านี้ถูกนำมาวางเรียงรายกันยาวกว่า 400 เมตร  เป็นอนุสรณ์สำหรับการรำลึกถึงผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวที่ต้องถอดรองเท้าทิ้งไว้ริมแม่น้ำ เนื่องจากเสื้อผ้า รองเท้าเป็นสิ่งหายากและมีราคาแพงในช่วงสงคราม พวกเขาจึงถูกบังคับให้ถอดเสื้อผ้า ถอดรองเท้าออกก่อนที่พวกเขาจะถูกยิงจนร่างร่วงลงไปในแม่น้ำ






                     การล่องเรือชมความงามของแม่น้ำดานูบ เริ่มต้นที่ เกาะมาร์กาเร็ต (The Margaret Island) ล่องเรือไปตามแม่น้ำไปสิ้นสุดที่อาคารรัฐสภาฮังการี (Hungary Parliament) และจึงเดินทางกลับมาขึ้นฝั่งที่เดิม  ใช้เวลาล่องเรือประมาณ 45 นาที แต่เสียดายที่ไม่มีไกด์มาบรรยายให้ฟัง ได้แต่เพียงซึมซับบรรยากาศ  อย่าลืมเมื่อมาบูดาเปสต์ (Budapest) การล่องเรือชมความงามของแม่น้ำดานูบ เป็นกิจกรรมที่ไม่ควรพลาด  




 

Create Date : 27 พฤษภาคม 2563   
Last Update : 17 สิงหาคม 2563 13:23:38 น.   
Counter : 2032 Pageviews.  


Buda’s Castle Hill และโบสถ์แมทเทียส (Matthias Church) สถาปัตยกรรมโบราณอันทรงคุณค่า

               Buda’s Castle Hill เป็นย่านที่เต็มไปด้วยอาคารสถาปัตยกรรมโบราณเก่าแก่อันทรงคุณค่ามากมายเป็นเนินเขาสูงบนฝั่งบูดา (Buda)  ตามที่เคยเล่าไว้ในบล็อกก่อนแล้วว่า บูดาเปสต์ ประกอบด้วยฝั่ง บูดา (Buda) ที่เป็นเมืองเก่า และฝั่งเปสต์ (pest) ที่เป็นเมืองใหม่  Buda’s Castle Hill ประกอบด้วย อาคารเก่าแก่ที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ได้แก่ โบสถ์แมทเธียส (Matthias Church) เป็นโบสถ์ใหญ่เก่าแก่อายุ 700 ปี ป้อมชาวประมง (Fisherman’s Bastion) และอาคารเก่าแก่อีกหลายอาคารและที่สำคัญคือ  ปราสาทบูดา (Buda Castle) ที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 8 ศตวรรษ ซึ่งเป็นตัวอาคารขนาดใหญ่มีหลังคาเป็นรูปโดม



               ปราสาทบูดา (Buda Castle) สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่สุดของกรุงบูดาเปสต์ (Budapest)  เป็นปราสาทที่นักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องตะลึงถึงความใหญ่โตมโหฬาร ตั้งอยู่บนเนินเขา (Buda’s Castle Hill)
 ทำให้สามารถมองเห็นได้ง่าย สร้างขึ้นตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 12 เพื่อป้องกันการถูกรุกรานจากเหล่าศัตรู แต่หลังจากนั้น ปราสาทแห่งนี้ยังโดนทำลายลงและผลัดเปลี่ยนผู้ยึดครองอยู่หลายครั้ง จึงทำให้มีการบูรณะสร้างขึ้นใหม่อยู่เรื่อยๆ ในปัจจุบันปราสาทบูดา (Buda Castle)  มีความยาวกว่า 300 เมตร บริเวณปีกของปราสาทเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์แห่งชาติฮังการี (Hungarian National Gallery) และพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์บูดาเปสต์ (Budapest History Museum)



            ด้านหน้าของปราสาทบูดา เราจะมองเห็นแม่น้ำดานูบ (Danube River) และสะพานเชน (Chain Bridge) ขนาดใหญ่ ในยามค่ำคืน เมืองแห่งนี้จะส่องประกายระยิบระยับไปด้วยแสงไฟอันมากมาย เกิดเป็นเงาสะท้อนบนผืนน้ำ เป็นภาพที่สวยงามเกินบรรยายที่ทุกคนจะต้องไม่พลาดชม ปราสาทบูดา (Buda Castle)  ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์กรยูเนสโก (UNESCO World Heritage) 



                  Buda’s Castle Hill ซึ่งเป็นย่านที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมโบราณเก่าแก่อันทรงคุณค่ามากมายให้มาเที่ยวชมกัน ต้องมีเวลาประมาณ 1 วันเต็ม เราจึงสามารถเดินชมบรรยากาศได้ทั่วถึง เพราะพื้นที่ค่อนข้างใหญ่โตพอสมควร มาชมบรรยากาศกัน













                       เรามาถึงโบสถ์แมทเธียส (Matthias Church) สถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งบน Buda’s Castle Hill เป็นโบสถ์ใหญ่เก่าแก่อายุกว่า 700 ปี เป็นอีกไฮท์ไลท์หนึ่งที่ไม่ควรพลาด อยู่บริเวณเดียวกับ   ป้อมชาวประมง (Fisherman’s Bastion) ที่เยี่ยมชมไปแล้วในบล็อกก่อน





                       โบสถ์แมทเธียส (Matthias Church) เป็นโบสถ์ใหญ่เก่าแก่อายุ 700 ปี โบสถ์แห่งนี้เคยเป็นสถานที่ประกอบพระราชพิธีเถลิงราชสมบัติของกษัตริย์แห่งฮังการี แต่ในช่วงที่ฮังการีถูกรุกรานจากกองทัพเติร์ก สมบัติส่วนใหญ่ถูกขนออกไป และถูกเปลี่ยนสภาพให้เป็นมัสยิสหลักของเมืองภายใต้การปกครองของตุรกีในปี ค.ศ.1541 



                 และในช่วงสงครามขับไล่กองทัพเติร์ก โบสถ์แมนเทียสได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก กระทั่งเมื่อสงครามสงบลงจึงมีการบูรณะโบสถ์แมทเทียสให้กลับมายิ่งใหญ่และงดงามดังเดิม มีหลังคาสลับสีอันสวยงามตามสไตล์นีโอ-โกธิค ส่วนด้านโบสถ์ประดับประดาไปด้วยภาพเขียนสี และกระจกสีที่บอกเล่าเรื่องราวทางศาสนาที่งดงาม           





             หากมาเยือนกรุงบูดาเปสต์ (Budapest) อย่าลืมเเวะเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่สุดของ
สาธารณรัฐฮังการี (Republic of Hungary) จะประทับใจไม่รู้ลืม




 

Create Date : 27 พฤษภาคม 2563   
Last Update : 17 สิงหาคม 2563 13:24:06 น.   
Counter : 1581 Pageviews.  


1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  

camel_27
 
Location :
สมุทรสงคราม Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




[Add camel_27's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com