All Blog
แค้นสเน่หา ... วราภา

แค้นสเน่หา ... วราภา



ความรัก กับ ความแค้น อยู่ใกล้กันนิดเดียว .....


คำโปรยค่า...


ความแค้นอันเกิดจากความภักดีต่อท่านหญิง เป็นแรงผลักดันให้ นางเฟือง คิดปลิดชีวิตของ หม่อมบุหลัน และลูกน้อย แต่การณ์กลับไม่เป็นอย่างคิด...วันหนึ่งเมื่อรู้ว่าเหยื่อยังมีชีวิต การจ้องล้างพยาบาทจองเวรจึงเริ่มขึ้นอีกครั้ง


** คำโปรยนี้ นำมาจากเวปเพื่อนดีนะคะ


เรื่องนี้ได้ยินมาว่าช่อง 3 จะนำมาทำเป็นละครแล้วค่ะ คนแสดงนำคือหมิว ลลิตา ด้วย เราก็เลยไปหามาอ่านสักหน่อย ความจริงอ่านจบไปนานแล้วค่ะ แต่เพิ่งมีโอกาสได้มา review


เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับความรัก และความแค้น เมื่อรักมาก และโดนทำให้เจ็บช้ำ ก็แค้นมากเป็นธรรมดาค่ะ แต่ความแค้นในเรื่องนี้ไปแสดงออกอยู่ที่นางเฟือง คนรับใช้เก่าแก่ของคุณหญิงแขไขเจิดจริส ค่ะ


ท่านชายรังสิโยภาส แต่งงานกับคุณหญิงแขไขเจิดจรัส ค่ะ และสัญญาว่าจะรักและมีคุณหญิงเพียงคนเดียว แต่ผ่านมาไม่นาน ท่านชายก็มีหม่อมมาเพิ่ม คือหม่อมบุหลัน แต่หม่อมบุหลัน ก็เจียมตัว วางตัวเหมาะสมไม่เคยคิดเทียบคุณหญิง


แต่ในใจคุณหญิงนั้นทุกข์ตรมมาก คุณหญิงมีคนรับใช้ที่สนิท ตั้งแต่สมัยหม่อมแม่ของคุณหญิงติดตามมารับใช้ด้วย คือนางเฟือง นั่นเอง เฟือง รักและซื่อสัตย์ต่อคุณหญิงมาก เข้าใจความรู้สึกของคุณหญิงดี อยากปกป้องช่วยเหลือคุณหญิง และเจ็บแค้นแทนคุณหญิง


ส่วนท่านชายนั้นไม่ค่อยชอบเฟือง เพราะรู้สึกว่าชอบเจ้ากี้เจ้าการ และยุยงคุณหญิง


ต่อมาหม่อมบุหลัน ตั้งครรภ์ ช่วงที่ใกล้คลอดท่านชายต้องไปธุระที่อื่น ทำให้เฟืองวางแผนกำจัดหม่อมบุหลัน คืนนั้นหม่อมบุหลันเจ็บท้องจะคลอดลูก เมื่อคลอดลูกออกมาเป็นชาย นางเฟืองจึงให้คนรับใช้กำจัดหม่อมบุหลันเสีย และนำลูกชายไปให้ท่านหญิงเลี้ยงเป็นลูกแทน และบอกว่าหม่อมบุหลันหนีไปกับชายอื่น ... เป็นไงคะ น้ำเน่าไหมคะ ... แต่น้ำเน่าเราก็ชอบอ่านค่ะ


คนรับใช้ที่ถูกสั่งให้กำจัดหม่อมบุหลัน พายเรือพาหม่อมบุหลันไปเพื่อจะกำจัด แต่ด้วยความสงสารจึงเปลี่ยนใจ แต่ปรากฎว่าเรือที่พายไปนั้นโดนเจอะรูให้รั่วจึงพายไปได้ไม่ไกลนัก และระหว่างนั้นหม่อมบุหลันคลอดลูกหญิงออกมาอีกคน


เรือลอยไปที่หน้าบ้านบ้านหนึ่ง และบ้านนี้ก็อุปการะไว้ค่ะ หม่อมบุหลันจึงต้องเปลี่ยนชื่อและปกปิดตัวเอง เนื่องจากกลัวว่าจะโดนเฟืองตามมาทำร้ายอีก และต้องอยู่ในฐานะคนรับใช้ ทำให้ลูกสาว ที่เกิดมาต้องอยู่ในฐานะเดียวกันค่ะ


และระหว่างนี้ก็มีเรื่องราว ของความรัก และความชังเกิดขึ้นค่ะ เอาเป็นว่าตั้งแต่รุ่นแม่จนถึงรุ่นลูกเลยค่ะ


ส่วนท่านชายรังสิโยภาส เมื่อกลับมาไม่พบหม่อมบุหลัน ก็พยามตามหา และสืบเสาะ โดยท่านสงสัยเฟืองคนแรก และจากเหตุการณ์นี้ทำให้เฟืองฆ่าตัวตาย ... แต่ด้วยว่ายังรักและห่วงท่านหญิง วิญญาณของเฟืองจึงยังอยู่ เพื่อคอยช่วยเหลือท่านหญิงค่ะ


สำหรับเรา เฟืองน่ากลัวมาก อ่านไปเห็นภาพเฟืองแล้วสยองค่ะ


เรื่องนี้ สำหรับพล็อตก็ไม่มีอะไรนะคะ แต่เราว่าสำนวนของผู้แต่ง และตัวละครหลายๆ ตัว ทำให้สนุกน่าติดตามค่ะ โดยเฉพาะเฟือง เราอ่านแล้วกลัวอ่ะ ...






Free TextEditor



Create Date : 18 สิงหาคม 2554
Last Update : 18 สิงหาคม 2554 10:28:32 น.
Counter : 1053 Pageviews.

9 comment
พระจันทร์ หวานใจ ... วรรณศุกร์

พระจันทร์ หวานใจ ... วรรณศุกร์



คำโปรยจ้า...


“ลี คุณหายโกรธผมแล้วใช่ไหม
ผมบอกแล้วไง ไม่ได้ตั้งใจจะหลอกคุณ
แค่ล้อเล่นหน่อยเดียวเท่านั้น”

วราลียิ้มหวาน แล้วย้อนถามว่า
“ล้อเล่น ? แล้วสนุกไหมคะ”

“ก็... ถ้าให้ตอบตามตรง มันก็สนุกดี”
เจ้าตัวสารภาพเสียงอ่อย
“แต่ผมขอสาบานด้วยเกียรติของเชวา ว่าต่อไปนี้จะไม่...”

“เดี๋ยวครับ เดี๋ยว !” ลาวิกขัดขึ้นกลางคัน
“ทำไมเวลาสาบาน เชวาต้องเอามือซ้ายซ่อนไว้ข้างหลังด้วยล่ะครับ”

“นั่นสิคะ”
วราลีเอ่ยเสียงเย็น แต่สายตาที่มองเขาเยียบเย็นยิ่งกว่า

ฝากไว้ก่อนเถอะ ลาวิก !!!


********


ด้านบนเป็นคำโปรยของปกหลังนะคะ เป็นตอนหนึ่งที่พระเอกกำลังง้อนางเอกค่ะ


เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในประเทศหนึ่งที่ผู้แต่งสร้างขึ้นมาชื่อ วิปุละ ค่ะ พระเอกเป็นลูกชายคนเดียวของผู้ทรงอิทธิพลคนหนึ่งในประเทศนี้ ส่วนนางเอกมีเชื้อสายเป็นราชนิกูลของประเทศนี้ค่ะ ประมาณว่า คนหล่อ คนสวย รวยของประเทศมาเจอกันเลยค่ะ


เนื้อเรื่องก็ประมาณว่า พระเอกเป็นเพล์บอยรูปหล่อพ่อรวย มีข่าวฉาวกับดารานางแบบได้ทุกวัน จนพ่อส่งตัวมาดูแลแขกพิเศษที่รีสอร์ทของตัวเอง ซึ่งแขกพิเศษก็คือนางเอกนั่นเอง แต่เพียงแค่พระเอกเจอนางเอกแค่วันเดียว ก็มีเหตุการณ์ฆาตกรรมเกิดขึ้น และผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่งก็คือพระเอกค่ะ เนืองจากผู้ตายเป็นนางแบบที่มีข่าวพัวกันกะพระเอกพอดี


ซึ่งพระเอกก็ต้องพยายามที่จะพิสูจน์ ว่าตนเองไม่ได้เป็นผู้ทำความผิด และระหว่างนั้นก็จีบนางเอกไปด้วยค่ะ


เรื่องนี้จบ happy นะคะ ไม่มีอะไรค่ะ อ่านได้เรื่อยๆ ไม่ต้องคิดมาก ค่ะ พอจะเดาตอนจบได้ใช่ไหมคะ...


ความรู้สึกเมื่อได้อ่านแล้วจ้า ...


อันนี้ความรู้สึกของเราเองคนเดียวเลยนะคะ คนอื่นอ่านแล้วอาจต่างกันได้ค่า เรารู้สึกว่า ประเทศวิปุละที่ผู้เขียน สร้างขึ้นมันยังไม่เชื่อว่าเป็นวิปุละน่ะค่ะ ยังรู้สึกว่าเป็นเมืองไทยบ้านเราอยู่ บอกไม่ถูกเหมือนกัน มันอาจจะเป็นเพราะมีรายละเอียดของบ้านเมืองวัฒนธรรมของประเทศนี้น้อยไปหรือเปล่า หรืออาจจะไม่ใช่


และเราขัดใจพระเอกมาก คือเราว่าพระเอกนิสัยไม่ดีอ่ะ เป็นคนรวยที่ใช้อำนาจของตัวเอง เพื่อให้ตัวเองมีอภิสิทธิ์เหนือคนอื่นในประเทศ เหมือนที่เห็นๆ ในบ้านเราทั่วไปว่า ถ้าพ่อชั้นใหญ่ ใครทำไรชั้นไม่ได้ ขับรถผิดกฎตำรวจไม่กล้าให้ใบสั่ง ประมาณนี้น่ะคะ บวกกับพระเอกเป็นพวกชีกอ ชอบฉวยโอกาส ไม่ว่าจะโดยสายตา หรือพฤติกรรม เอาเป็นว่าเรายังหัวโบราณค่ะ ขอบพระเอกสุภาพบุรุษนั่นเอง อิอิ


นางเอกในเรื่องบทบาทก็ดูไม่ค่อยเด่นเลยค่ะ บทน้อยยังไงไม่รู้ และความรู้สึกเหมือนไม่ใช่ท่านหญิงจริงๆ เหมือนประชาชนทั่วไปมากกว่า แม้ว่าในบทจะมีบอกว่าถูกอบรมมาในแบบท่านหญิง


ในเรื่องนี้เรารู้สึกว่ามันมีอะไรหลายอย่างที่ขัดแย้งในตัวเองน่ะค่ะ อย่างเช่น รีสอร์ทที่มีการดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างดี กลับมีคดีฆาตกรรมเกิดขึ้นได้ง่ายๆ และคนร้ายก็เป็นคนงานอยู่ในรีสอร์ทนั้นมานานแล้ว แต่เพิ่งมามีเรื่องเกิดขึ้น 


อืม เรื่องนี้สำหรับแล้ว อ่านแล้วรู้สึกว่ามันยังไม่ครบค่ะ เหมือนยังขาดอะไรไปอยู่ บอกไม่ถูกค่ะ


แต่สำหรับพล็อตเรื่องเราว่าโอเค นะคะ มีบางตอนก็แอ๊ะ ใครเป็นคนร้ายนะ แต่ก็ไม่ได้ลุ้นอะไรมากมายค่ะ


เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรืองนะคะ ที่อ่านได้เรื่อยๆ ค่ะ ไม่ซีเรียส มีบทกุ๊กกิ๊กแทรกเป็นระยะค่ะ


 






Free TextEditor



Create Date : 15 สิงหาคม 2554
Last Update : 15 สิงหาคม 2554 17:19:50 น.
Counter : 620 Pageviews.

1 comment
ศิวาราตรี ... พนมเทียน

ศิวาราตรี ... พนมเทียน


 


ศิวาราตรี จิตนิยาย เรื่องเยี่ยม ของคุณพนมเทียน และคุณพนมเทียน เคยบอกว่า เป็นจินตนิยายที่สมบูรณ์แบบที่สุดของท่านค่ะ


แล้วในที่สุดเราก็ได้อ่านค่ะ ... ขอเลือกอ่านเรื่องนี้ก่อน เรื่องเพชรพระอุมาค่ะ เพราะเรื่องนี้สั้นกว่าเยอะ บอกได้คำเดียวค่ะ ว่าไม่มีคำว่าผิดหวังเลยจริงๆ ภาษาสวยงามมากค่ะ แม้จะมีคำศัพท์บางคำที่เราไม่เข้าใจถึงขั้นต้องไปเปิดพจนานุกรมในช่วงแรก แต่เราก็ไม่รู้สึกว่าสะดุดหรือติดขัดตรงไหนเลย ท่านสามารถบรรยาย ฉาก ตัวละคร ได้เหมือนมีชีวิต มีตัวตนจริงๆ แต่ละฉากที่บรรยาย เห็นเป็นภาพ เป็นเมืองอย่างชัดเจนมากๆ หาได้ยากในนินายยุคปัจจุบันเลยค่ะ ที่จะเขียนได้แบบนี้


การดำเนินเรื่องก็ไม่ช้า หรืออืดอาด สำหรับเราเรื่องนี้มีครบทุกรสชาติเลยค่ะ บางตอนอ่านไปก็อมยิ้ม บางตอนก็น้ำตาซึมเลยค่ะ และบางฉากโดยเฉพาะฉากสงคราม เราอ่านแล้วเห็นเป็นภาพสยดสยองเลยแหละค่ะ


และเรื่องนี้ก็จบเศร้าอย่างที่หลายๆ ท่านบอกไว้จริงๆ ค่ะ แต่ก็คลี่คลายไปในทางที่ดีนะคะ จบสวยงามค่ะ


 


บรรยายความรู้สึกไปแล้วก็ขอเล่าเรื่องย่อในแบบที่เราย่อเองสักหน่อยนะคะ ...


ชนเผ่ามิลักขะ ซึ่งตั้งถิ่นฐานอยู่ในชมพูทวีปอย่างสงบสุขมาเป็นเวลานาน เมื่อถึงเวลาหนึ่งก็ถูกรุกรานจากชนเผ่าอาระยัน ซึ่งนำโดย พิษณุมหาราช ผู้มีความสามารถ และมีกองกำลังที่เข้มแข็ง ชนเผ่ามิลักขะไม่สามารถจะต้านทานได้ และอาณาจักรของมิลักขะก็ล่มสลายไป ในคืนหนึ่งก่อน 1 ปี ที่อาณาจักรมิลักขะ จะถูกครอบครองโดยอาระยัน เกิดเหตุประหลาดขึ้น คือ อาวุธทุกชนิด ณ ดินแดนชมพูทวีปนั้น เกิดเรืองแสงขึ้นเอง ซึ่งเป็นเหตุที่ผิดปกติวิสัยอย่างยิ่ง และเป็นลางบอกเหตุว่า จะมีทารกเกิดขึ้นในคือนี้ ซึ่งจะเกิดจากฤกษ์ ดาวโจร และจะเป็นผู้ที่สามารถล้างผลาญ พระเจ้าพิษณุมหาราชขึ้น


และ ณ คืนนี้พระราชินีแห่งชนเผ่ามิลักขะได้ประสูตรพระโอรส แฝด 3 พระองค์ โดยมีพระนามว่า ทุษยันต์ เวชยันต์ และทัสสยุ ตามลำดับ โดย 1 ในแฝดสามนี้ คือผู้ที่เกิดในฤกษ์โจร


พิษณุมหาราช เรียกโหรมาทำนาย เหตุที่เกิดนี้ เมื่อทราบผลทำนาย ก็สั่งให้ทหาร สังหารเด็กชายมิลักขะทุกคนให้หมด ถ้าพบเจอ


หลังจากนี้ 1 ปี มิลักขะก็ไม่สามารถต้านทานกำลังของพิษณุมหาราชได้ ต้องเสียแผ่นดิน ให้แก่ชาวอารยัน  และพิษณุมหาราชก็สถาปนาเมืองขึ้นมาใหม่


ส่วนเจ้าชายแฝดสามองค์ ก็ถูกไล่ล่า และหนีแยกกันไป โดยคนที่ 1 ทุษยันต์ ถูกเลี้ยงโดย สุภัททะนักบุญผู้บำเพ็ญศีลอดีตกษัติร์ของชาวอาระยัน คนที่2 เวชยันต์ ได้ถูกตามล่าจนตกลงไปในแม่น้ำ แต่ถูกแรดน้ำช่วยไว้ได้ จึงถูกเลี้ยงโดยแม่สิงโต และโจรแห่งผาสิงห์คำรน คนสุดท้ายทัสสยุถูกนักมายากรช่วยเหลือไว้และนำไปเลี้ยงดู


ยี่สิบปีผ่านไป นครเทวทหะ ของชาวอารยัน ซึ่งปกครองโดยพิษณุมหาราชยิ่งเกรียงไกร และเจริญรุ่งเรืองมาก ส่วนเจ้าชายแฝดสาม ก็เจริญเติบโตขึ้น และรอวันเวลาเพื่อกลับมากู้ชาติของชาวมิลักขะ


เอาเป็นว่าย่อแค่นี้นะคะ เดี๋ยวไปอ่านแล้วไม่สนุกค่ะ เพราะนอกจากเรื่องกู้ชาติแล้ว ยังมีเรื่องราวของความกตัญญู ความรักในหลายๆ รูปแบบสอดแทรกอยู่ตลอดค่ะ


เราอ่านแล้วอินมาก ในเรื่องนี้เราประทับใจทุษยันต์มากค่ะ เป็นพระเอกในดวงใจไปเลยค่ะ


ขอจบการ review เท่านี้ดีกว่านะคะ คือบรรยายไม่ถูกค่ะ ว่าดียังไง คงต้องให้เพื่อนๆ อ่านเอง เรื่องนี้เราจะซื้อเก็บเอาไว้อ่านหลายๆ รอบแน่นอนค่ะ






Free TextEditor



Create Date : 11 สิงหาคม 2554
Last Update : 11 สิงหาคม 2554 12:23:58 น.
Counter : 1619 Pageviews.

6 comment
รากนครา ... ปิยะพร ศักดิ์เกษม

รากนครา ... ปิยะพร  ศักดิ์เกษม



คำโปรย ...


ชีวิตที่บัดนี้มิอาจเดินหน้าและถอยหลัง ด้วยด้านหนึ่งคือชายที่เธอรัก...เพิ่งรู้ชัดว่ารักจนสุดหัวใจ ทุ่มเทอุทิศให้ได้แม้ชีวิต ขณะที่อีกด้านหนึ่งคือเกียรติของบ้านเกิด และบุพการีกับภาระหน้าที่ ซึ่งต้องรักษาสืบทอดไว้ด้วยทั้งชีวิตเช่นกัน จะมีใครสักกี่คนที่หวนระลึกถึงคนหลายคน ผู้กลบฝังความต้องการ ชีวิต และหัวใจของตนเองไว้ ภายใต้ภาระหน้าที่แห่งการค้ำจุนบ้านเมืองและสังคม ดุจเดียวกับ ‘ราก’ ต้องฝังตัวอยู่ใต้พิภพ เพื่อค้ำจุน กิ่ง ใบ และลำต้นอันตระหง่านงาม ...ผู้คนเหล่านั้นก็เป็นดั่ง ‘ราก’ แห่ง ‘นครา’


จากใจ เมื่อได้อ่านจ้า ...


เรื่องรากนครานี้ เพิ่งมีโอกาสได้หยิบขึ้นมาอ่านค่ะ ทั้งๆ ที่ได้มีการทำเป็นละครไปเมื่อหลายปีมาแล้ว ตอนเป็นละครเราไม่ค่อยได้ดู และทราบรายละเอียดเพียงคร่าวๆ เท่านั้น ว่ามีใครแสดงเป็นใครบ้าง เมื่ออ่านจบ ก็รู้สึกว่าทางช่องก็เลือกตัวละครได้ใกล้เคียงพอสมควรนะคะ


ส่วนเรื่องย่อ นั้นเราไม่ขอย่อยนะคะ เพราะเรื่องนี้เคยเป็นละครมาแล้ว คงจะพอทราบกันบ้าง ขอบอกแค่ความรู้สึกหลังอ่านนะคะ


เนือเรื่องกดดันมากค่ะ ในความรู้สึกของเรา โดยเฉพาะนางเอง หรือแม้นเมือง เหมือนเธออยู่ในที่ที่ จะเดินต่อไปก็ไม่ได้ ถอยหลังกลับก็ไม่ได้จริงๆ เป็นเรื่องที่ต้องเลือกทำระหว่าง หน้าที่ กับความรู้สึกของตัวเอง อ่านแล้วรู้สึกอึดอัดกดดันมากค่ะ แต่สนุกซาบซึ้งไปตลอดเนื้อเรื่องจนจบเลยทีเดียว อยากบอกว่าประทับใจมากเลยคะ สำนวนของผู้แต่งก็อ่านสบายๆ ไหลรื่น ไม่ผิดหวังเลยค่ะ เสียดายอย่างเดียว ที่นางเอกไม่ได้ยินคำบอกรักของพระเอกเลยตลอดเรื่อง เฮ้อ น่าเศร้า กับเนื้อเรื่องจริงๆ ค่ะ เป็นเรืองที่จบเศร้ามาก  และก็ประทับใจมากอีกเรื่องหนึ่งเลยค่ะ






Free TextEditor



Create Date : 12 กรกฎาคม 2554
Last Update : 12 กรกฎาคม 2554 10:43:12 น.
Counter : 1311 Pageviews.

8 comment
ฟ้าใหม่ ... ศุภร บุนนาค

ฟ้าใหม่ ... ศุภร บุนนาค



 


ฟ้าใหม่ เป็นนิยายอิงประวัติศาสตร์ค่ะ ช่วงปลายของสมัยอยุธา (เสียกรุงครั้งที่ 2)  กรุง ธนบุรี และต้นรัตนโกสินทร์ ค่ะ ดำเนินเรื่องโดยแสน ผู้มีเชื้อสายบ้านท่าตะเภาแขก เนื้อเรื่องบรรยาศ บรรยากาศ การใช้ชีวิตของชาวกรุงศรี ตั้งแต่ก่อนเสียกรุงครั้งที่สอง จนกระทั่ง กู้กรุงกลับคือโดยพระเจ้าตากค่ะ และจบที่ฟ้าใหม่ กรุงรัตนโกสินทร์


รายละเอียดหลักๆ จะเน้นช่วงเสียกรุงค่ะ เรื่องนี้มีนางเอกนะคะ คือแม่เรณูนวล ค่ะ แต่กว่าแม่เรณูนวลจะสมหวังกับพ่อแสน ก็ปาเข้าไปปลายสมัยกรุงธูนบุรีแล้วค่ะ เราก็ว่านานไปนิดค่ะ


แต่เรื่องการบรรยาย การลำดับเนื้อหา ของบอกได้เลยค่ะ ไม่ผิดหวัง คุณศุภร เธอเทพมากๆ ค่ะ ภาษาสวยมาก เราอ่านจบแล้วยอมร้บเลยค่ะว่าอิ่มมาก แล้วก็อินไปกับเนื้อเรื่องมากเลยค่ะ เห็นเลยว่าบรรพบุรุษของเราต้องเอาเลือด เอาเนื้อ แลก เพื่อปกป้องแผ่นดินจริง ๆ


โดยเฉพาะตอนศึกบางระจันค่ะ เราอ่านแล้วซึ้งจนน้ำตาไหลค่ะ (ไม่ได้เวอร์นะคะ) ทั้งหญิง ทั้งชาย ยอมสู้ตายกันหมดทั้งหมู่บ้านค่ะ


เรื่องนี้เห็นมีบางท่านว่าอ่านยากนิดนึง เพราะมีคำโบราณเยอะ แต่สำหรับเรา มีช่วงแรกนิดหน่อยค่ะ ที่ยังไม่คุ้น แต่บอกอ่านไปอีกนิดก็รืนไหลไม่ติดขัดเลยค่ะ โดยส่วนตัวเราว่าอ่านไม่ยากอย่างที่คิดนะคะ


แนะนำให้เพื่อนๆ หามาอ่านหรือครอบครองไว้ได้เลยค่ะ เป็นนิยายอีกเล่มที่น่าซื้อเก็บค่ะ


และถ้ามีโอกาส เรื่องนี้เราอ่านรอบสองแน่นอนค่ะ






Free TextEditor



Create Date : 30 มิถุนายน 2554
Last Update : 30 มิถุนายน 2554 13:21:41 น.
Counter : 2921 Pageviews.

6 comment
1  2  3  4  5  6  

จั๊กกะจุ่น
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]