Bloggang.com : iFreeZero -

[News] อีกแล้ว! Google ฮุบ “Dealmap” ลุยกรำศึกเว็บขายดีล

ส่อแววดุเดือดยิ่งขึ้น สำหรับการแข่งขันในศึกธุรกิจเว็บไซต์จำหน่ายดีลส่วนลดสินค้าหรือบริการ (Shopping Deals Sites) ล่าสุดเบอร์ 1 ในโลกเสิร์ชเอนจินอย่างGoogleประกาศซื้อกิจการบริษัทอันดับ 2 ในตลาดเว็บไซต์ขายดีลส่วนลดนาม Dealmap แล้ว หวังลับคมให้กับบริการ Google Offers ที่Googleเปิดให้บริการค้นหาส่วนลดร้านค้าแบบอิงสถานที่ในสหรัฐฯ มาตั้งแต่เดือนมิถุนายน นับถอยหลังศึกใหญ่ที่ Groupon เบอร์ 1 ในตลาดค้าดีลจะต้องพบแน่นอนในอนาคต

ไม่เพียงแต่Google บริษัทรายใหญ่ในตลาดค้าดีลอย่าง LivingSocial ซึ่งได้เข้าซื้อบริษัทค้าดีลของไทยอย่าง Ensogo.com แล้ว ยังประกาศซื้อเว็บไซต์ขายดีลส่วนลดเพิ่มอีก 1 แห่งซึ่งให้บริการในประเทศเกาหลีใต้ และมาเลเซีย ทั้งหมดถือเป็นสัญญาณว่าตลาดค้าดีลจะมีการแข่งขันที่ดุเดือดและเติบโตยิ่งกว่าเดิมอย่างน่าจับตา

Dealmap จะแสดงผลในรูปแผนที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยระบุพิกัดร้านค้าที่มีดีลสินค้าราคาพิเศษ ส่วนลด และคูปองสมนาคุณ ซึ่งรวบรวมจากเว็บไซต์ค้าดีลหลายแหล่ง

*** Googleซื้อคู่แข่ง Groupon.com ***

บริษัทล่าสุดที่Googleเข้าซื้อกิจการมีนามว่า Dealmap เป็นผู้ให้บริการเว็บไซต์รวบรวมดีลส่วนลดจากเว็บไซต์อื่นนับร้อยแห่ง โดยมีดีกรีเป็นคู่แข่งเบอร์ 2 ในตลาดค้าดีลรองจากยักษ์ใหญ่อย่าง Groupon

การซื้อ Dealmap จะช่วยให้Googleเสริมความแข็งแกร่งบริการ Google Offers ที่Googleเริ่มชิมลางในสหรัฐฯ ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาได้อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะ Dealmap มีจุดแข็งที่การเป็นแหล่งรวมดีลสินค้าราคาพิเศษ ส่วนลด และคูปองสมนาคุณจากเว็บไซต์ค้าดีลหลายแหล่ง ที่น่าสนใจคือ Dealmap จะแสดงผลในรูปแผนที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ทั้งบนเว็บไซต์บริษัทและทางอีเมล รวมถึงทางแอปพลิเคชันบนอุปกรณ์แอนดรอยด์ (Android) ไอโฟนและไอแพด บนจำนวนผู้ใช้มากกว่า 2 ล้านรายในขณะนี้ (Groupon มีฐานสมาชิกปี 2010 ราว 13 ล้านคน คาดว่าจะเพิ่มเป็น 25 ล้านคนในปี 2011)

ในอีเมลแถลงการณ์ Googleระบุว่า การซื้อ Dealmap จะทำให้Googleมีบริการสำหรับผู้บริโภคและบริษัทร้านค้าที่ดีกว่า เช่นเดียวกับ Dealmap ที่ระบุว่าพร้อมเข้าไปพัฒนาบริการร่วมกับGoogle โดยจะยังคงสนับสนุนบริการหลักและพันธมิตรของบริษัทไว้เช่นเดิม พร้อมยืนยันว่าบริษัทจะชะลอการเปิดรับดีลใหม่บนเว็บไซต์และแอปพลิเคชันของบริษัทไว้ชั่วคราว และจะเดินหน้าโน้มน้าวให้บริษัทห้างร้านเสนอดีลสู่บริการ Google Offers แทน

แอปพลิเคชัน Dealmap สำหรับสมาร์ทโฟน ก็แสดงผลในรูปแผนที่เช่นกัน

ที่ผ่านมา Googleนั้นเริ่มต้นทดสอบบริการ Google Offers โดยเปิดให้ผู้อาศัยในเมืองพอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอน สามารถค้นหาส่วนลดจากร้านค้าในท้องถิ่นได้ตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เพื่อหวังท้าชนกับบริการค้าดีลยักษ์ใหญ่ในสหรัฐฯ อย่าง Groupon ที่ให้บริการในเมืองพอร์ตแลนด์ และเมืองใหญ่อย่างซานฟรานซิสโก และนิวยอร์ก โดยGoogleมีแผนจะขยายบริการไปสู่เมืองอย่างออสติน บอสตัน เดนเวอร์ ซีแอตเทิล และวอชิงตัน ดี.ซี. ในอนาคต

แม้การซื้อกิจการครั้งนี้จะไม่มีการเปิดเผยมูลค่าการซื้อขายที่แน่นอน แต่คาดว่าจะมีมูลค่าไม่ถึง 6 พันล้านเหรียญเหมือนที่Googleเคยเสนอซื้อ Groupon เมื่อปี 2010 ที่ผ่านมา แน่นอนว่าความเคลื่อนไหวนี้ทำให้Googleถูกมองว่าจะกลายเป็นคู่แข่งขันกับบริษัท Groupon เต็มตัว ทั้งที่Googleยืนยันมาตลอดว่าต้องการให้บริการจำหน่ายส่วนลดออนไลน์อย่าง Google Offers เป็นช่องทางสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สามารถเชื่อมต่อธุรกิจกับผู้บริโภคในแบบที่Googleไม่เคยทำได้มาก่อน บนจุดประสงค์คือการติดอาวุธให้Googleสามารถแข่งขันในธุรกิจโฆษณาออนไลน์ได้ดีกว่าเดิม

การที่Googleสามารถควบรวม Dealmap ได้ ทำให้Googleสามารถเพิ่มจำนวนพันธมิตรมากมายโดยเฉพาะในสหรัฐฯ และมีโอกาสการยกระดับรูปแบบธุรกิจโฆษณาออนไลน์ได้เร็วขึ้น โดยนักวิเคราะห์เชื่อว่า หากGoogleสามารถเข้าสู่สังเวียนธุรกิจจำหน่ายดีลส่วนลด ธุรกิจนี้จะสามารถทำเงินให้Googleได้อีกมหาศาล โดยเฉพาะตลาดโฆษณาในท้องถิ่นที่คาดว่าจะมีมูลค่าตลาดเฉพาะในสหรัฐฯถึง 91,000 ล้านเหรียญ

*** “ลีฟวิ่งโซเชียล” สยายปีกเอเชีย ***

ไม่เพียงGoogle บริษัท LivingSocial ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในวอชิงตัน ดี.ซี. ก็ประกาศเข้าซื้อเว็บไซต์จำหน่ายดีลส่วนลดเพิ่มอีก 1 แห่งเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา นั่นคือ TicketMonster เว็บไซต์เสนอดีลรายวันและส่วนลดค่าแพคเกจท่องเที่ยวในเกาหลีใต้และมาเลเซีย ถือเป็นการซื้อเว็บไซต์ดีลรายวันต่อเนื่องหลังจากได้เข้าซื้อเว็บไซต์ที่ดำเนินธุรกิจลักษณะนี้ใน 23 ประเทศ ทั้งไทย ฟิลิปินส์ และอินโดนีเซีย

“ดีล” นั้นเป็นข้อเสนอส่วนลดราคาสินค้าและบริการซึ่งยั่วใจนักชอปด้วยคำว่า Sale 50-90% เว็บขายดีลส่วนลดเหล่านี้จะเปิดให้ธุรกิจร้านค้าอย่างร้านอาหาร โรงแรม หรือสปา สามารถทำการตลาดผ่านเครือข่ายสังคมอย่างเฟซบุ๊ก หรือทวิตเตอร์ได้ โดยชื่อเรียกอย่างเป็นทางการของธุรกิจลักษณะนี้คือ Social Commerce เพราะชาวโซเชียลเน็ตเวิร์กคือเรียวแรงสำคัญในการบอกต่อ และเผยแพร่จนทำให้มีการซื้อขายดีล และดึงคนออนไลน์เข้าไปใช้บริการร้านค้าอย่างเป็นล่ำเป็นสัน

ตัวอย่างดีลส่วนลดที่ Google Offers ทดลองให้บริการตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

Create Date : 04 สิงหาคม 2554
Last Update : 4 สิงหาคม 2554 1:40:11 น.
Counter : 348 Pageviews.

0 comment

News!! Android กินตลาด "สมาร์ทโฟน" เกือบครึ่ง

รายงานข่าวล่าสุด เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา Canalys บริษัทวิจัยตลาดเปิดเผยว่า ส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลกเกือบ 50% ใช้แพลตฟอร์ม Android ของ Google โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคในประเทศแถบเอเชียแปซิฟิกจะนิยมใช้สมาร์ทโฟน Android มากเป็นพิเศษ

Android เป็นซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการอุปกรณ์โมบายที่ Google ซื้อมาตั้งแต่ปี 2005 และเปิดตัวบนสมาร์ทโฟนในปี 2008 โดยปัจจุบันมีสมาร์ทโฟนจากผู้ผลิตรายใหญ่ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Samsung, HTC, LG และ Motorola ซึ่ง Canalys เปิดเผยว่า มันเป็นแพลตฟอร์มที่เป็นอันดับหนึ่งในตลาดมากถึง 35 ประเทศในจำนวน 56 ประเทศที่ทำการสำรวจ ข้อสรุปในภาพรวมพบว่า สมาร์ทโฟนที่ใช้แพลตฟอร์ม Android ทั่วโลกมีประมาณ 48% หากเมื่อเทียบกับแอปเปิ้ลที่ขาย iPhone ไปแล้ว 20.3 ล้านเครื่อง มีส่วนแบ่งตลาดทั่วโลกเป็นอันดับสองทิ้งห่างจาก Android ค่อนข้างมากทีเดียวแค่ 19% เท่านั้น แต่ก็สามารถเขี่ยโนเกียตกลงมาอยู่อันดับสามได้ โดย Canals ยังเปิดเผยอีกว่า Samsung ทำยอดขายสมาร์ทโฟนได้ดีกว่า Nokia เช่นเดียวกัน

ปัจจุบัน Samsung จำหน่ายสมาร์ทโฟน Android ไปแล้ว 17 ล้านเครื่อง และมีอัตราการเติบโตเทียบปีต่อปีสูงถึง 421% อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จของ Android กลับกลายเป็นหนามทิ่มแทง Google และเหล่าบรรดาผู้ผลิตสมาร์ทโฟนที่ใช้แพลตฟอร์มนี้ด้วยเหมือนกัน

เนื่องจากระบบปฏิบัติการ Android ถูกฟ้องโดย Oracle ในขณะที่ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนทีใช้โอเอสนี้ยังถูกฟ้องโดย Apple และ Microsoft อีกด้วย ซึ่งแม้ Microsoft จะมีส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนน้อยมากๆ แต่ก็ได้เงินจากบริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟน Android อย่าง HTC ไปเป็นจำนวนไม่น้อยทีเดียว อย่างไรก็ตาม คงต้องดูกันต่อไปว่า การฟ้องร้องดังกล่าวสุดท้ายจะได้ข้อสรุปอย่างไร

Create Date : 02 สิงหาคม 2554
Last Update : 2 สิงหาคม 2554 12:21:44 น.
Counter : 286 Pageviews.

0 comment

[News] Mozilla ซุ่มพัฒนาระบบปฏิบัติการมือถือ

มอซิลล่า (Mozilla) บริษัทผู้พัฒนาเว็บบราวเซอร์ไฟร์ฟอกซ์ (Firefox) กำลังเริ่มพัฒนาระบบปกิบัติการสำหรับอุปกรณ์โมบาย และแท็บเล็ต แม้ว่าโปรเจกต์นี้จะเป็นส่วนหนึ่งของระบบปฏิบัติการ Android ของ Google แต่โค้ดส่วนใหญ่จะถูกเขี่ยนขึ้นใหม่ ซึ่งหากสำเร็จ มันจะเป็นโอเอสที่จะต่อกรกับ Android เนื่องจากสามารถทำงานบนอุปกรณ์เดียวกันได้นั่นเอง

ทีมพัฒนาของ Firefox กล่าวว่า การพัฒนาโค้ดทั้งหมดจะทำในระบบเปิด และแชร์ให้กับผู้ใช้ได้ทดลองใช้กันทันทีที่เขียนเสร็จ สำหรับโปรเจ็กต์นี้มีชื่อเรียกว่า Boot To Gecko ซึ่งหลายๆ ส่วนของโค้ดพัฒนาบนพื้นฐานของบราวเซอร์ Firefox ทั้งนี้ Gecko เป็นกลไกในการเร็นดอร์โค้ดที่ใช้ในการแสดงผลหน้าเว็บในบราวเซอร์ Firefox และโปรแกรมอีเมล์ Thunderbird

mozilla browser

เป้าหมายของการพัฒนา BootTo Gecko ทีมพัฒนาของ Mozilla ตั้งเป้าที่จะรันแอพพลิเคชันโดยไม่จำเป็นต้องใช้บราวเซอร์ หรือพูดง่ายๆ ก็คือ มันเป็นการสร้างระบบปฏิบัติการที่ใช้พื้นฐานการทำงานของเว็บเป็นกลไกหลักนั่นเอง (เอ่อ...มันฟังดูคล้าย Chrome) อย่างไรก็ตาม B2G จะได้รับการพัฒนาโดยใช้แกนหลักของ Android ซึ่งแน่นอนว่า มันจะกลายเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Android และ Chrome ของ Google ไปโดยปริยาย ในขณะเดียวกัน iOS ของ Apple และ Windows Phone 7 ของ Microsoft ก็ต้องเผชิญกับคู่แข่งเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งรายด้วย

อย่างไรก็ดี ทีม Mozilla ยอมรับว่า โปรเจ็กต์ดังกล่าวยังอยู่ในระยะเริ่มต้น แต่ทีมงานกล่าวว่า ได้พัฒนาซอฟต์แวร์พื้นฐานจากบล็อคการทำงานของระบบปฏิบัติการตัวนี้แล้ว นอกจากนี้ ทีมงานยังได้เผยแพร่โปรเจกต์นี้ไปยังกลุ่มผู้เชี่ยวชาญในชุมชน Mozilla และผู้ที่สามารถช่วยพัฒนาโอเอสระบบเปิดตัวนี้ให้สำเร็จเร็วขึ้น

Create Date : 26 กรกฎาคม 2554
Last Update : 26 กรกฎาคม 2554 23:44:07 น.
Counter : 325 Pageviews.

0 comment

7 แท็บเล็ตสุดเจ๋ง ประจำปี 2011

1. ไอแพด 2 (Apple iPad 2)

ขึ้นชื่อว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการคิดค้นโดย สตีฟ จ็อบ ซีอีโอขั้นเทพของแอปเปิ้ล (Apple) แล้วล่ะก็ รับรองได้เลยว่าไม่มีผิดหวังแน่ แถมยังโดนใจสาวกแอปเปิ้ลทั่วโลกอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ "iPad 2" ที่มีดีไซน์โดดเด่นบางเป็นพิเศษ และมีฟีเจอร์ต่าง ๆ ไว้รองรับการใช้งานที่มีความหลากหลาย ทั้งเล่นเว็บ เช็คเมล์ ดูหนัง อ่านหนังสือ และอื่น ๆ อีกสารพัด พร้อมด้วยหน้าจอขนาดใหญ่และมีความละเอียดสูง แถมยังมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานนับ 10 ชั่วโมงอีกด้วย สำหรับ iPad 2 นี้สนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 15,900 บาท เรื่อยไปจนถึง 25,900 บาท ตามแต่รุ่นและขนาดความจำของเครื่อง

2. เอชพี ทัชแพด (HP TouchPad)

TouchPad เป็นแท็บเล็ตที่มีความสวยงาม น่าใช้ และดึงความสนใจให้กับผู้ใช้ได้อย่างมาก มีตัวเครื่องเป็นสีดำมันวาว มีดีไซน์ให้ขอบพลาสติกมีความโค้งมนทำให้สบายมือในขณะถือ แถมมีปุ่มการใช้งานที่น้อยมาก หน้าจอสัมผัสมีขนาด 9.7 นิ้ว ส่วนแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ จะแสดงบนหน้าจอเป็นรูป "บัตรสี่เหลี่ยม" เล็ก ๆ ซึ่งสามารถใช้นิ้วเลื่อนไปด้านข้างเพื่อดูแอพฯ ต่าง ๆ ได้ และเมื่อต้องการใช้แอพฯ ตัวไหนก็แตะเพื่อขยาย หรือดีดมันขึ้นไปเพื่อปิดได้อย่างฉับไว ทั้งนี้ทางเอชพีสนนราคา TouchPad เริ่มต้นอยู่ที่ 15,000 บาท สำหรับรุ่น 16 GB และ 18,000 บาท สำหรับรุ่น 32 GB

3. แบล็กเบอร์รี่ เพลย์บุ๊ก (BlackBerry PlayBook)

ถือเป็นอีกหนึ่งแท็บเล็ตที่กำลังมาแรงและได้รับความนิยมอยู่ไม่น้อย ซึ่งเจ้าเพลย์บุ๊กนี้ ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดีทั้งในเรื่องของรูปลักษณ์อันบางเฉียบ สะดวกต่อการพกพา พร้อมประสิทธิภาพการทำงานชั้นเยี่ยม สามารถท่องเว็บไซต์ต่าง ๆ ได้แบบไร้ที่ติ แถมด้วยระบบการทำงานแบบสลับการใช้งานไปมาระหว่างแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ หรือที่เรียกกันว่า "Multitasking" และระบบมัลติมีเดียที่มีประสิทธิภาพสูง ในส่วนของราคานั้น เริ่มต้นที่ 16,900 บาท และแพงขึ้นตามขนาดของหน่วยความจำเครื่อง สูงสุดอยู่ที่ 21,900 บาท

4. ซัมซุง กาแล็กซี่ แท็บ 10.1 (Samsung Galaxy Tab 10.1)

อีกหนึ่งแท็บเล็ตในตระกูล Galaxy Tab มีขนาดที่ใหญ่กว่ารุ่นแรก ๆ และมีการเพิ่มเติมในส่วนของลูกเล่นการทำงานเข้าไปอีกจำนวนหนึ่ง มีจุดเด่นอยู่ที่ความบางเพียงแค่ 8.6 มิลลิเมตร และหนักแค่ 565 กรัม นอกจากนั้นยังสามารถเล่นวีดีโอจาก Adobe Flash ได้ มีขนาดความกว้างของหน้าจอ 10.1 นิ้ว พร้อมความละเอียด 1200 x 800 พิกเซล สามารถเล่นวีดีโอแบบเอชดี (HD) ได้อย่างสบาย ๆ มีขนาดของหน่วยความจำให้เลือก 16 GB และ 32 GB พร้อมช่องใส่การ์ดหน่วยความจำ SD เพิ่มเติมได้สูงสุดถึง 32 GB ในส่วนของราคานั้น เริ่มต้นที่ประมาณ 15,000 บาท สำหรับรุ่น 16 GB และราคาประมาณ 18,000 บาท สำหรับรุ่น 32 GB

5. เอชทีซี ฟลายเออร์ (HTC Flyer)

แท็บเล็ตตัวแรกของเอชทีซี ที่มาพร้อมหน่วยความจำ 32 GB มีระบบประมวลผล 1.5 GHz พร้อมระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2.3 (Android 2.3) มาพร้อมยูสเซอร์อินเทอร์เฟซ HTC นอกจากนั้นแล้ว เจ้า Flyer นี้ยังมาพร้อมด้วยปากกาไฟฟ้าที่ใช้ถ่านขนาด AA ในการใช้สัมผัสกับหน้าจอขนาด 7 นิ้ว ซึ่งสร้างความแตกต่างกับแท็บเล็ตอื่น ๆ ทั่วไป โดยปากกานี้จะตอบสนองกับแอพพลิเคชั่นที่ทางเอชทีซีพัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะ ทั้งการเขียน วาดภาพ แทรกรูป บันทึกเสียง และอื่น ๆ อีกมากมาย เรียกได้ว่าเป็นแอพฯ จดบันทึกที่สมบูรณ์ที่สุด และเหมาะแก่การพกพาอีกด้วย ด้านราคาของ Flyer ตัวนี้ ทางเอชทีซีสนนราคาไว้ที่ประมาณ 21,000 บาท

6. โมโตโรล่า ซูม (Motorola Xoom)

เป็นแท็บเลตที่มีหน้าจอขนาด 10.1 นิ้ว ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 3.0 (Android 3.0) มีกล้องพร้อมความละเอียด 5 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายวีดีโอได้ที่ความละเอียด HD 720p มีหน่วยประมวลผลแบบ Dual-Core ความเร็ว 1GHz พร้อมด้วยหน่วยความจำภายใน 32 GB และแรมอีก 1 GB นอกจากนั้นแล้วยังรองรับ microSD card สามารถใส่ซิมการ์ดเพื่อใช้งาน 3G ได้อีกด้วย ในส่วนของราคาก็มีการเริ่มต้นอยู่ที่ 19,900 บาท

7. แอลจี ออพติมัส แพด (LG Optimus Pad)

แท็บเล็ตของแอลจีตัวนี้มีความโดดเด่นด้วยหน้าจอขนาด 8.9 นิ้ว ที่สำคัญยังถือเป็นแท็บเล็ตรุ่นแรกของโลกที่ใช้กล้องแบบ 3 มิติ พร้อมความละเอียด 1280 x 768 พิกเซล อีกด้วย จัดเป็นแท็บเล็ตที่มีขนาดกำลังพอเหมาะ ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 3.0 (Android 3.0) รองรับการแสดงผลของทุกแอพพลิเคชั่นบนแอนดรอยด์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ อาทิเช่น Google eBooks Google Maps 5 และ Google Talk นอกจากนั้นยังมีหน่วยประมวลผลแบบ Dual-Core ความเร็ว 1GHz โดยทางแอลจีสนนราคาในการจำหน่ายอยู่ที่เครื่องละ 24,900 บาท

Create Date : 26 กรกฎาคม 2554
Last Update : 26 กรกฎาคม 2554 23:28:52 น.
Counter : 430 Pageviews.

0 comment

[[อย่างละเอียด]] วิธีการใช้งาน 'facebook chat' ตัวใหม่

สำหรับ facebook chat ตัวใหม่ล่าสุดนี้ ต้องบอกว่าบางคนอาจจะได้รับการเชิญชวนการชวนดังรูปด้านล่าง แต่ถ้าใครยังไม่ได้รับแบบนี้ เดี๋ยวระบบทาง facebook จะมีการปรับให้ต้องรอก่อน (ไม่มี invite ครับ)

พอกดคำว่า ‘Try It Now’ หน้าตาใหม่กลายเป็นแบบนี้ครับ

** จะสังเกตุเห็นว่าคนที่มีจุดเขียวๆ หมายถึงเขาออนไลน์อยู่ครับ ส่วนคนที่ไม่มีจุดแต่ขึ้นมาให้เราเห็นในกล่อง หมายถึงคนที่เราเคยพูดคุยด้วยก่อนหน้านี้และข้อความยังค้างในระบบ แต่สถานะของเขาตอนนี้เป็นออฟไลน์ครับ

Sidebar – ถ้าเราทำหน้าต่าง Browser ให้เต็มหน้าจอ ตัวกล่องแชท (Chat) ด้านมุมล่างขวาจะกลายเป็น Sidebar ไปอยู่ทางด้านขวาดังรูปครับ

พอเราคลิ๊กเข้าไป ด้านล่างมุมขวาของกล่องแชท (chat) ก็จะมีหน้าต่างเด้งขึ้นมาเลยครับ พอเราไปคลิ๊กรูปฟันเฟือง จะมีให้เราเลือกดังนี้ครับ

- Available to Chat – ถ้าเราเลือกติ๊กออก เราจะกลายเป็น Offline ไปเลยครับ

- Chat Sounds – ถ้าเราเลือกให้มีเครื่องหมายติ๊กถูก เวลาเพื่อนส่งข้อความมาจะมีเสียงเตือน

- Limit Availability – จะขึ้นกล่องด้านล่างขึ้นมาครับ และจะมีให้เราเลือกอันใดอันหนึ่งครับ

Make me unavailable to: หมายความว่าเมื่อเราจัดกลุ่มเพื่อนของเราให้เข้าไปอยู่ในกรุ๊ปที่เรากำหนด เราสามารถเลือกได้ครับว่ากรุ๊ปไหนจะมองไม่เห็นเราเวลาเราออนไลน์ (สถานะ Offline)โดยการติ๊กเครื่องหมายถูก

Only make me available to: หมายความว่ากลุ่มที่เราติ๊กเครื่องหมายถูกในกรุ๊ปที่เราเลือกจะเห็นเราออนไลน์ครับ

ส่วนเวลาเรา คลิ๊กที่จะเลือกคุยกับเพื่อนเรา ให้เราไปเลือกคนที่ออนไลน์ กดคลิ๊กสองครั้ง จะมีกล่องสนทนาของเพื่อนที่เราเลือกโผล่ขึ้นมา โดยในแถบจะมี

๑. รูปกล้อง – ผมได้รีวิวไปก่อนหน้านี้ครับ อันนี้เราสามารถเห็นคู่สนทนาอีกฝั่งนึงได้ แนะนำว่าควรจะมีกล้อง Webcam

๒.ฟันเฟือง – เวลากดลงไปจะมีให้เลือกครับ ว่าจะเป็นแบบ

See Full Conversation – เราสามารถคุยกับเพื่อนเราแบบเต็มหน้าจอใหญ่

Clear Window – ลบข้อความทั้งหมดที่เราพูดคุยในกล่องด้านล่างที่มีมาก่อนหน้านี้ แต่เราสามารถย้อนกลับไปดูข้อความทั้งหมดที่เราพูดคุยกับเพื่อนเราทั้งหมดได้ โดยให้ไปเลือกที่ Full Conversation ครับ

Add Friends to Chat – อันนี้เราสามารถชวนเพื่อนคนอื่นเข้ามาร่วมสนทนากับเราได้

๓. กากบาท – เมื่อกดลงไปจะปิดกล่องการสนทนา

สรุปการใช้งาน โดนส่วนตัวผมชอบแบบเดิมมากกว่า เพราะลูกเล่นเยอะกว่า เข้าถึงการอ่านข้อมูลย้อนหลังได้รวดเร็วกว่า ส่วนหน้าตาใหม่ของ Facebook Chat ตัวล่าสุดนี้กลายเป็นเหมือนเราคุยพวกโปรแกรม Chat ธรรมดา เพียงแค่ลดปัญหาเรื่องการออนไลน์ของเพื่อนจำนวนมาก เลือกเฉพาะเพื่อนที่เราอยากคุย ผมเชื่อว่าอีกไม่นานคงมีลูกเล่นอะไรใหม่ๆ ที่เปลี่ยนไปมาให้เราลองใช้เพิ่มครับ