[News] ติดตาม - ศึกการตลาดของ 4 อิทธิพลยักษ์ออนไลน์
เป็นที่จับตามองอย่างใกล้ชิด เมื่อ Facebook หนึ่งในยักษ์ใหญ่ที่ทรงอิทธิพลของโลกออนไลน์ ประกาศเข้าตลาดเมื่อต้นเดือน ตอกย้ำความสำคัญของวงการออนไลน์ ที่มีผลต่อโลกธุรกิจอย่างแท้จริง
 
เมื่อสงครามแห่งนวัตกรรมและการชิงพื้นที่สัดส่วนการตลาดดิจิทัลระอุอย่างทุกวันนี้ จึงเลี่ยงไม่ได้ที่ Apple ผู้กำหนดพฤติกรรมผู้บริโภค Google แหล่งข้อมูลและเจ้าแห่งการสืบค้น อเมซอน นักการตลาดค้าปลีกออนไลน์ผู้ยิ่งใหญ่ และ Facebook เจ้านครผู้ทรงอิทธิพลแห่งโซเชียลเน็ตเวิร์ค พากันเปิดศึกที่เข้มข้นด้วยกลยุทธ์ และนวัตกรรมไม่หยุดยั้ง
 
สาเหตุที่ผู้นำทั้ง 4 รักษาความเป็นผู้ทรงอิทธิพลนั้น มาจากความสามารถในการสร้างสรรค์ กำหนดความเป็นไปของเทคโนโลยี โทรศัพท์เคลื่อนที่ สิ่งพิมพ์ ค้าปลีก รวมถึงดิจิทัลและเอ็นเตอร์เทนเมนท์แพลตฟอร์ม
 
เมื่อการแข่งขันในธุรกิจนี้มีผลกระทบกับผู้บริโภคทั้งโลก ย่อมเป็นสิ่งที่นักการตลาดควรศึกษาและเก็บข้อมูลเพื่อประยุกต์ใช้ในกลยุทธ์ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งในบ้านเรา



*** Apple จากนวัตกรรมสู่สินค้าที่คนทั้งโลกต้องการ ***
 
ความสำเร็จของ Apple เกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อราคาหุ้นทุบสถิติสูงสุด 500 ดอลลาร์เมื่อต้นสัปดาห์ และอาจสูงขึ้นไปอีก เมื่อถึงการเปิดตัว ไอแพด 3 ในเดือน มี.ค. ที่คนทั่วโลกจ้องมองว่า Apple จะรักษาตำแหน่งสุดยอดผู้นำด้านนวัตกรรมและการผลิตเอาไว้ได้หรือไม่
 
Apple เป็นตัวอย่างของบริษัทที่มีความพร้อมทั้งด้านเงินทุน การผลิต นวัตกรรม เทคโนโลยี มีเดีย และแพลตฟอร์มค้าปลีกออนไลน์ สามารถส่งผลงานที่ผู้บริโภคชื่นชอบและสร้างรายได้ให้บริษัทที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น ไอพอด ไอทูนส์สโตร์ ไอโฟน ไอแพด ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง แถมยังเปิดบริการ ไอคลาวด์ เพื่อเสริมกำลัง ไอทูนส์สโตร์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นหน้าร้านอีคอมเมิร์ซขนาดใหญ่
 
หากคำนวณดูปริมาณของคนที่มีอุปกรณ์ Apple กว่าพันล้านคนทั่วโลก สิ่งที่นักการตลาดคาดการณ์ต่อไป คือ ผลิตภัณฑ์ที่บริษัทจะนำเสนอในอนาคต จะเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมและธุรกิจที่เกี่ยวข้องอีกขนานใหญ่ ซึ่งเราต้องปรับตัวตามให้ทัน



*** แหล่งข้อมูลยักษ์ Google บนสังเวียนโซเชียล ***
 
ในโลกของวงการโฆษณาออนไลน์ ซึ่ง Google เป็นเจ้าตลาดที่มีอิทธิพลสูง คิดเป็นสัดส่วนโฆษณาผ่าน เสิร์ช แอด ถึง 76% และคาดว่าปริมาณรายได้จากโฆษณาทาง โมไบล์ แอด น่าจะสูงกว่า 2,500 ล้านดอลลาร์ โดย Google มีความเชื่อว่า ยอดการใช้สื่อโฆษณาจะสูงถึง 200,000 ล้านดอลลาร์ต่อปีในอีก 2-3 ปี
 
ปีที่แล้ว แม้ว่าการเปิดตัว Google+ เพื่อชิงชัยในสนามโซเชียลเน็ตเวิร์คกับ Facebook อย่างเต็มตัว จะไม่เป็นไปตามที่คาดหวังมากนัก แต่การซื้อกิจการ โมโตโรล่า โมบิลิตี้ โฮลดิงส์ เชื่อว่าจำนวนสิทธิบัตรกว่า 17,000 รายการ จะช่วยลดปัญหาด้านการละเมิดลิขสิทธิ์ให้แอนดรอยด์ และมีความเป็นไปได้ในการทำตลาดในจีนง่ายขึ้น ผ่านบริษัทในเครือโมโตโรล่า
 
นอกจากแพลตฟอร์มหลักที่แข็งแกร่งแล้ว Google ยังก้าวเข้าสู่ธุรกิจทีวีด้วย Google ทีวี และการพัฒนา ยูทูบ ให้ใกล้เคียงกับทีวี รวมถึงพยายามสร้างแพลตฟอร์มเพื่อปูทางเข้าสู่ โทรศัพท์เคลื่อนที่ แทบเล็ตและเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านอีกมากมาย เพื่อสร้างสถานะเป็นแหล่งความบันเทิงมากขึ้น ให้ทุกคนในบ้านเข้าถึง เชื่อมกับ Google+ หรือFacebook เพื่อติดตามเพื่อนในแพลตฟอร์มอื่นๆ เหล่านี้จะนำไปสู่การใช้ชีวิตในบ้านของคนรุ่นใหม่ที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง



*** แชมป์นักขายไซเบอร์ อเมซอน ***
 
ปลายปีที่แล้ว อเมซอน แนะนำ อเมซอน ไฟร์ คินเดิลรุ่นใหม่ในราคาเพียง 199 ดอลลาร์ และเป็นไปได้ว่าอาจนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาเสริมทัพระบบอีคอมเมิร์ซของเว็บท่า อเมซอน.com ซึ่งเตรียมรุกเข้าสู่พื้นที่เอ็นเตอร์เทนเมนท์แพลตฟอร์มเช่นเดียวกับคู่แข่งรายอื่นๆ พร้อมกับการรุกเข้าสู่เอเชียอย่างมั่นคง เริ่มจากการสร้างพันธมิตรกับร้านค้าและตลาดในอินเดีย
 
ในฐานะผู้ค้าปลีกยักษ์ใหญ่ สิ่งที่ อเมซอน ใช้เป็นกลยุทธ์สำคัญ คือ จำนวนของศูนย์จัดการคลังสินค้า ที่เก็บและระบายสินค้าในทวีปต่างๆ กว่า 50 แห่งทั่วโลก ยังเปิดบริการให้คู่ค้ารายย่อยใช้บริการจัดส่งสินค้าและลูกค้าสัมพันธ์ โดยคิดค่าใช้จ่ายกับร้านค้าย่อยที่ขายสินค้าผ่านมาร์เก็ตเพลสของตน นับเป็นกลยุทธ์อีคอมเมิร์ซที่น่าเรียนรู้จากผู้ค้าปลีกออนไลน์รายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกรายนี้



*** Facebook น้องใหม่ไฟแรงท้าข้ามรุ่น ***
 
โซเชียลเน็ตเวิร์ตที่มาแรงที่สุด คือ Facebook ซึ่งก้าวเข้าสู่ธุรกิจหมื่นล้านในตลาดหุ้นได้ในเวลาไม่กี่ปี และเป็นที่ต้องการสำหรับแบรนด์ต่างๆ ด้วยแต้มต่อของสมาชิกกว่า 812 ล้านคนในขณะนี้ และยิ่งมีมูลค่าทางการตลาดมากขึ้นจากนโยบายของ มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ที่มุ่งสู่การเป็นศูนย์รวมความบันเทิง ทำให้องค์กรรุ่นพี่ทั้งหลายต้องจับตามอง
 
สาเหตุที่ Facebook มีรายได้ 3,700 ล้านดอลลาร์ ในปีที่ผ่านมา อาจเป็นเพราะลักษณะและปริมาณการใช้งานของผู้บริโภคทั่วโลก โดยข้อมูลจาก คอมสกอร์ เปรียบเทียบชัดเจนว่า เดือน พ.ค. 2554 มีผู้ใช้ Google และยูทูบ กว่า 180 ล้านครั้ง เรียกดูข้อมูลกว่า 46,300 ล้านหน้า และใช้เวลาเฉลี่ยในเว็บไซต์เกือบ 4 ชั่วโมง ขณะที่มีผู้ใช้ Facebook 157 ล้านครั้ง เรียกดูข้อมูลกว่า 100,000 ล้านหน้า และใช้เวลาเฉลี่ยมากกว่า 6 ชั่วโมง
 
กล่าวกันว่าในเดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว มีสมาชิกกว่า 425 ล้านคนเข้าใช้ Facebook ผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคหันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตมากขึ้น และสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียจนเป็นเรื่องปกติ
 
นอกจาก 4 บริษัทในโลกออนไลน์ที่กล่าวมาแล้ว ยังมีบริษัทที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจดิจิทัลอีกมากมายอย่าง ไมโครซอฟท์ อีเบย์ โนเกีย กรุปปอง และซิงกา ที่พร้อมเสนอนวัตกรรมและบริการใหม่ทางดิจิทัลให้กับผู้บริโภค ดังนั้น นักการตลาดบ้านเราต้องหันมาให้ความสนใจกับธุรกิจระดับโลกเหล่านี้ เตรียมพร้อมรับมือกับดิจิทัลแพลตฟอร์มที่รวดเร็ว และใช้ให้ทันเพื่อบรรลุเป้าหมายขององค์กร



Create Date : 18 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 18 กุมภาพันธ์ 2555 2:43:39 น.
Counter : 500 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

iFreeZero
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



All Blog