คนบางคนเกิดมาเพื่อให้เรารัก แต่ไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นของเรา
Group Blog
 
All blogs
 
Destiny of Love บทที่ 3

รถยนต์โฟร์วีลสีดำของตฤณภพแล่นเข้ามาจอดยังบริเวณลานจอดรถของรีสอร์ท ‘บ้านทะเลโอบดาว’ ทันทีที่เขาลงจากรถ เขาได้ยินเสียงคลื่นกระทบฝั่ง ซึ่งคาดว่าชายหาดคงอยู่ไม่ไกลจากตรงนี้สักเท่าไหร่ ตฤณภพสูดหายใจลึก โดยหวังจะรับอากาศบริสุทธิ์เข้าให้เต็มปอด เนื่องจากอยู่กรุงเทพฯ เขาคงทำแบบนี้ไม่ได้แน่ๆ

ตฤณภพมองสำรวจรอบๆบริเวณรีสอร์ทแบบผ่านตา เขารู้สึกสบายตา เมื่อได้เห็นเหล่าต้นไม้ทั้งน้อยและใหญ่อยู่เต็มไปหมดในบริเวณสวนใกล้ๆกับลานจอดรถ และเมื่อเขายืนสำรวจจนพอใจแล้วนั้น เขาจึงเดินตรงไปยังบ้านเล็กๆชั้นเดียวหลังหนึ่ง ซึ่งมีป้ายเขียนไว้ว่า ‘Reception’

เมื่อตฤณภพเดินเข้าไปภายในบ้านหลังเล็กนั้น สาวสวยที่ยืนอยู่ด้านหลังเคาท์เตอร์ยิ้มให้ตฤณภพ พร้อมกับยกมือไหว้ ตามแบบฉบับหญิงไทยใจงาม

“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าได้จองห้องพักไว้หรือยังคะ” สาวสวยคนนั้นซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นพนักงานต้อนรับ เอ่ยขึ้นอย่างสุภาพ

“คือผมเป็นเพื่อนของสหรัสน่ะครับ สหรัสบอกให้ผมมาเอากุญแจบ้านริมหาดที่นี่น่ะครับ” ตฤณภพตอบอย่างสุภาพ

“รอสักครู่นะคะ”

พนักงานสาวก้มหน้าก้มตาหากุญแจอยู่ไม่นานนัก หลังจากนั้นเธอได้ยื่นกุญแจให้กับตฤณภพ เมื่อตฤณภพได้รับกุญแจมาแล้ว เขาจึงได้มุ่งหน้าขับรถต่อไปอีกตามแผนที่ที่สหรัสได้เขียนไว้ให้ ซึ่งบ้านริมหาดนั้นก็อยู่ไม่ไกลจากรีสอร์ทสักเท่าไหร่ ดังนั้นตฤณภพจึงใช้เวลาขับรถจากรีสอร์ทมาที่บ้านริมหาดแห่งนี้ในเวลาแค่ไม่กี่นาที

รถของตฤณภพได้จอดบริเวณใกล้กับรั้วบ้าน เมื่อเขาลงจากรถ เขาได้มองสำรวจไปบริเวณรอบๆ และเขาก็ได้รู้ว่าบ้านหลังนี้ก็มีชื่อด้วยเหมือนกัน เมื่อเขามองไปเห็นป้ายชื่อของบ้าน ซึ่งเขียนไว้ว่า ‘บ้านทะเลเคียงดาว’

บ้านริมหาดนี้เป็นบ้านไม้สองชั้น หลังไม่ใหญ่มากนัก แต่ก็ดูไม่เล็กเกินไป มีรั้วกั้นบริเวณชัดเจน ที่ดินบริเวณบ้านยกสูง และอยู่ห่างจากชายหาดพอสมควร เพื่อป้องกันปัญหาน้ำทะเลที่อาจจะขึ้นสูง บริเวณหน้าบ้าน จะมีโต๊ะ เก้าอี้พลาสติกให้สามารถนั่งเล่นได้ และเมื่อไขกุญแจเข้าไปในตัวบ้านแล้ว จะเห็นว่าชั้นล่างนั้นน่าจะเป็นห้องนั่งเล่น และห้องรับแขกในตัว ที่ชั้นล่างนี้ยังมีห้องน้ำ ที่ไม่ใช่ห้องอาบน้ำอีกหนึ่งห้อง ถ้าหากเดินไปทางหลังบ้าน ก็จะเห็นห้องครัว และโต๊ะอาหาร

เมื่อตฤณภพสำรวจชั้นล่างจนพอใจแล้ว เขาจึงเดินขึ้นไปชั้นสอง ที่ชั้นสองนั้น มีห้องอยู่สามห้อง เขาจึงเปิดสำรวจทีละห้อง และก็ได้รู้ว่า มีห้องนอนอยู่สองห้อง ซึ่งจะอยู่ตรงข้ามกัน เมื่อเปิดประตูห้องนอนแล้วนั้น จะพบว่าเตียงถูกจัดเป็นระเบียบเรียบร้อย สะอาดพร้อมนอนได้ทุกเมื่อ แต่ทั้งสองห้องนอนนั้นไม่มีห้องน้ำในตัว ห้องน้ำ และห้องอาบน้ำอยู่รวมกันในห้องเดียวกัน ซึ่งอยู่ทางด้านนอกนั่นเอง

ตฤณภพตัดสินใจเลือกห้องนอนที่อยู่ทางด้านขวามือ หรืออยู่ตรงข้าม เยื้องกับบันไดทางขึ้น เขาได้เดินไปเปิดหน้าต่าง และเขาก็ถูกใจเป็นยิ่งนัก เพราะเมื่อเปิดหน้าต่างแล้วนั้น ลมเย็นๆ ได้พัดผ่านผ้าม่านเข้ามาภายในห้อง และสิ่งที่ทำให้ตฤณภพยิ่งหลงรักบ้านหลังนี้มากขึ้นก็เห็นจะเป็นเพราะ เขาสามารถมองเห็นทะเลได้ตลอดเวลาเมื่อมองผ่านหน้าต่างจากห้องนี้นั่นเอง

‘จะมีสักกี่คนกันนะ ที่จะโชคดีได้อยู่แบบนี้ไปตลอดชีวิต’ ตฤณภพคิดในใจ

ฝ่ายทางด้านอลิสานั้น เธอรีบเคลียร์งานให้เสร็จตามตารางงานของเธอ จากนั้นเธอได้ร่ำลาหัวหน้า และเพื่อนร่วมงานทุกคน เนื่องจากเธอเองก็ยังไม่มีกำหนดที่จะกลับมากรุงเทพฯ และเมื่อเธอทำธุระส่วนตัวทั้งหลายของเธอเรียบร้อยแล้วนั้น เธอก็มุ่งหน้าเข้าสู่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ทันที ซึ่งจุดมุ่งหมายของเธอก็คือทะเลปราณนั่นเอง

อลิสาขับรถด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากว่าวันนี้เป็นเย็นวันศุกร์ ถึงแม้จะไม่ใช่วันหยุดยาว แต่เพราะทะเลตั้งแต่ ชะอำ ไล่ไปยังทะเลปราณนั้น คงเป็นที่นิยมกันมาก สำหรับผู้ที่ต้องการมาพักผ่อนยังทะเลใกล้ๆ ทำให้มีรถมุ่งหน้าไปทางเดียวกับเธอเป็นจำนวนที่มากเช่นกัน และระหว่างทางนั้นโทรศัพท์มือถือของอลิสาดังขึ้น เธอจึงกดรับจากอุปกรณ์เสริม

“สวัสดีค่ะ สาพูดค่ะ” เพราะกดรับจากอุปกรณ์เสริมทำให้เธอไม่รู้ว่าเป็นใครที่โทรมา

“สา นี่เอิร์นเองนะ ตอนนี้สาถึงไหนแล้วจ๊ะ” อัญญาพรพูดด้วยน้ำเสียงสดใสเช่นเคย

เมื่อถูกถามแบบนั้น อลิสาจึงมองไปรอบๆ เพื่อจะหาป้ายบอกตำแหน่งพิกัด ที่แน่นอน

“อืม…. น่าจะแถวๆสมุทรสาครแล้วละ มีอะไรเหรอ” อลิสาถามด้วยความแปลกใจ

“อ๋อ ไม่มีอะไรหรอกจ้า เพียงแต่เราจะโทรมาบอกว่าวันนี้เราคงช่วยสาจัดของไม่ได้น่ะ พอดีว่าวันนี้เรามาดูงานที่รีสอร์ทของเพื่อนคุณพ่อที่ชะอำน่ะจ้ะ แล้วคุณพ่อกับคุณแม่ท่านก็ตัดสินใจค้างที่นี่คืนนึง เราต้องขอโทษจริงๆนะ”

“อ๋อ เราก็นึกว่าเรื่องอะไร... ไม่เป็นไรหรอก เรื่องจัดของน่ะเรื่องเล็ก แค่นี้เราทำเองได้” อลิสาพูดด้วยน้ำเสียงสดใส

“งั้นสาไปเอากุญแจบ้านที่พนักงานต้อนรับนะจ๊ะ แค่บอกว่าเราให้มาเอาแค่นี้ก็ได้แล้วจ้ะ ส่วนทางไปบ้านพักก็ไม่ยากหรอกจ้ะ เพราะอยู่เลยรีสอร์ทเราไปนิดเดียวเอง”

“โอเคจ้ะ”

“งั้นเจอกันพรุ่งนี้นะจ๊ะ ขับรถดีๆนะ ค่ำมืดแล้วมันอันตราย” อัญญาพรพูดด้วยน้ำเสียงแสดงความเป็นห่วง

“จ้า ขอบใจจ้า” อลิสาตอบอัญญาพรด้วยน้ำเสียงสดใสเช่นเคย

ส่วนตฤณภพในตอนนี้ก็กำลังเดินเล่นไปเรื่อยๆ คอยเก็บภาพนักท่องเที่ยวที่มาเล่นน้ำยามเย็น ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบริเวณบ้านริมหาดซักเท่าไหร่ จากนั้นเขายังเก็บภาพดวงอาทิตย์ตกยามเย็นที่แสนงดงามไว้อีกด้วย ตอนนี้ดูเหมือนตฤณภพเองก็รู้สึกสบายใจขึ้น เขารู้สึกว่าตัวเองเริ่มจะยิ้มขึ้นมาได้บ้าง หลังจากที่เขาต้องทุกข์ใจมานานหลายเดือน

และในตอนนี้ดวงอาทิตย์ได้ลาลับขอบฟ้าไปแล้ว ความมืดเริ่มมาเยือน ตฤณภพจึงรู้สึกตัวว่าควรจะเดินกลับบ้านพักได้เสียที เมื่อเขาเดินมาใกล้จะถึงบริเวณบ้านริมหาดแล้วนั้น เขาก็เห็นรถยนต์แล่นเข้ามาจอดใกล้รั้วบ้าน ตอนแรกนั้นเขาไม่รู้ว่ารถยนต์คันนั้นเป็นรถของใคร เนื่องจากไฟหน้ารถที่สว่างจ้า ทำให้มองไม่เห็นตัวรถ แต่เมื่อรถคันนั้นดับไฟ และดับเครื่องยนต์เรียบร้อยแล้ว เขาจึงได้รู้ว่านั่นเป็นรถของสหรัสเพื่อนรักของเขานั่นเอง

“มาถึงเร็วเหมือนกันนี่หว่า” ตฤณภพทักทายสหรัส พร้อมกับเดินตรงเข้าไปหาสหรัสใกล้ๆ

“เออ รีบเคลียร์งานแล้วก็รีบมาเนี่ยแหละ กะว่าจะพานายไปหาอะไรกินที่ตลาดโต้รุ่งหัวหินสักหน่อย ที่นั่นของอร่อยเพียบ” สหรัสพูดด้วยสีหน้าเบิกบาน เพราะเวลาที่เขามาที่นี่ทีไรก็มักจะชอบไปเดินเที่ยวตลาดโต้รุ่งที่หัวหินเป็นประจำ ถึงแม้ระยะทางจะไกลสักหน่อย แต่ก็คุ้มค่าที่ได้ไป

“เออ ไปดิ กำลังหิวอยู่พอดีเลย ขอเวลาไปเก็บของแป๊บนะ”

หลังจากนั้นตฤณภพจึงรีบเข้าไปเก็บของในบ้าน และจัดการล็อคบ้านเรียบร้อย เมื่อตฤณภพลงมาถึงยังรถของสหรัสแล้ว ทั้งคู่ได้ขับรถออกไปจากบริเวณบ้านริมหาด จนเมื่อรถของสหรัสได้ขับผ่านรีสอร์ทของตัวเองนั้น เขาก็สวนกับรถคันหนึ่ง ทั้งคู่ไม่ได้รู้เลยว่ารถคันนั้นเป็นรถของอลิสา ซึ่งกำลังมุ่งหน้าไปที่บ้านริมหาดเช่นกัน

เมื่ออลิสาถึงบ้านริมหาดแล้ว เธอได้มองสำรวจรอบบริเวณบ้านอย่างคร่าวๆ ถึงแม้จะมืด และมองไม่เห็นทะเลแล้วก็ตาม แต่อลิสาก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นไอของทะเล รวมทั้งเสียงคลื่นที่กระทบฝั่งเป็นจังหวะ นั่นทำให้อลิสารู้สึกชุ่มชื่นหัวใจขึ้นมาทันที

เมื่ออลิสาเปิดประตูเข้าไป เธอก็ควานหาสวิทช์ไฟ โชคดีว่าสวิทช์นั้นอยู่ข้างประตูพอดี ทำให้อลิสาไม่ต้องเดินหาในความมืด เธอขนของส่วนตัวขึ้นไปยังชั้นสองของตัวบ้าน เมื่อขึ้นไปถึงชั้นสองอลิสาก็ต้องลังเลใจ เพราะไม่รู้ว่าห้องไหนกันแน่ที่เป็นห้องนอน และในมือของเธอตอนนี้ก็ถือของเต็มสองมือ และก็เหมือนโชคช่วย เมื่อโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้นมาพอดี อลิสาจึงเอียงหูแนบกับบ่า เพื่อใช้แรงจากบ่ากดรับโทรศัพท์จากอุปกรณ์เสริมนั่นเอง

“สวัสดีค่ะ สาค่ะ”

“สาถึงหรือยัง”

“เอิร์นเหรอ... เราถึงแล้ว ถึงโดยสวัสดิภาพครบสามสิบสองจ้า”

“อืมๆ ถ้าถึงแล้วเราก็สบายใจแล้วละ แล้วก็ถ้าขาดเหลืออะไรก็โทรเรียกพนักงานได้เลยนะ เขาจะอยู่ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงนั่นแหละจ้ะ” อัญญาพรอธิบาย

“อ๋อจ้ะ เหมือนร้านสะดวกซื้อเลยเนอะ ฮ่าฮ่า เอ้อ... ที่นี่มีห้องนอนกี่ห้องเหรอ ฉันขึ้นมาเห็นมีอยู่สามห้อง”

“อ๋อ มีสองห้องจ้ะ จะอยู่ตรงข้ามกัน ส่วนห้องที่อยู่สุดทางเดิน เป็นห้องน้ำน่ะจ้ะ”

หลังจากนั้นอัญญาพร และอลิสาพูดคุยกันต่อไม่กี่ประโยคทั้งคู่ก็วางหูไป ในเมื่ออัญญาพรได้บอกห้องนอนให้อลิสาได้ทราบเรียบร้อยแล้ว อลิสาจึงเลือกห้องนอนที่อยู่ทางด้านซ้าย เนื่องจากห้องนอนทางด้านซ้ายนั้นไม่ได้อยู่ตรงข้ามบันได เนื่องจากเธอเป็นคนไม่ชอบนอนห้องที่อยู่ตรงข้ามกับบันได เพราะเคยได้ยินเรื่องลี้ลับเกี่ยวกับห้องตรงข้ามบันไดมามาก

อลิสาจัดของอยู่นาน เธอเริ่มรู้สึกว่าดึกมากแล้ว จึงอาบน้ำ เปลี่ยนชุดนอน และเข้าห้องของตัวเอง โชคดีที่บ้านริมหาดนี้ อัญญาพรได้ติดอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงไว้ด้วย ทำให้อลิสาสามารถต่ออินเตอร์เน็ตเล่นแก้เซ็ง และไว้ทำงานได้ อลิสานั่งเล่นคอมพิวเตอร์จนรู้สึกว่าเริ่มจะง่วงแล้ว เธอจึงเหลือบมองนาฬิกาที่อยู่ด้านล่างขวาของจอแอลซีดี ซึ่งขณะนี้เป็นเวลาเกือบจะตีหนึ่งครึ่งแล้ว ดังนั้นอลิสาจึงขึ้นเตียงนอน และก็หลับไปทันทีด้วยความเหนื่อยล้า

หลังจากที่อลิสาหลับไปได้สักพักใหญ่ๆ รถของสหรัสแล่นเข้ามาจอดใกล้บริเวณบ้าน ตฤณภพเปิดประตูลงมาด้วยอาการที่บ่งบอกว่าเมามากพอสมควร สหรัสทำท่าจะลงจากรถเพื่อจะช่วยพยุงเพื่อน แต่ยังไม่ทันที่จะเปิดประตูรถด้านของตัวเอง ก็ถูกตฤณภพร้องห้าม

“เฮ้ยๆ ไม่ต้องหรอกไอ้อาร์ท ฉันเดินเองได้” ตฤณภพพูดด้วยท่าทีเมาๆ มึนๆ แต่สหรัสก็ยังทำหน้าบ่งบอกว่าไม่ค่อยจะไว้วางใจตฤณภพสักเท่าไหร่

“ก็บอกแล้วไงว่าฉันเดินเองได้ นายรีบกลับบ้านไปพักผ่อนเหอะ เจอกันพรุ่งนี้เช้า บาย” ตฤณภพยิ้ม พร้อมกับยกมือเป็นการบอกลา

จากนั้นตฤณภพก็เดินปัดเป๋ผ่านประตูรั้วบ้าน สหรัสมองตามเพื่อนรักเดินเข้าบ้านด้วยความกังวล พอเห็นตฤณภพปิดประตูบ้านเรียบร้อยแล้ว เขาจึงได้เคลื่อนรถออกจากบริเวณนั้น ระหว่างทางสหรัสก็นึกแปลกใจ ที่อยู่ๆวันนี้เพื่อนรักของเขากินเหล้าเยอะเรียกได้ว่ากินแทนน้ำเลยก็ว่าได้ ปกติแล้ว ตฤณภพเองนั้นกินเหล้าไม่ค่อยเก่ง แค่แก้วสองแก้วตฤณภพก็หยุดกินแล้ว แต่นี่สงสัยคงอยากจะปลอดปล่อย

ทางด้านตฤณภพเองนั้น เมื่อเข้ามาภายในบ้านได้แล้ว เขาเดินเซเตะโน่นชนนี่อยู่ในความมืดคลำทางไปเรื่อยๆจนกระทั่งเดินไปถึงบันไดด้วยความทุลักทุเล เขาเกาะราวบันไดเพื่อขึ้นบันได เมื่อเขาขึ้นไปถึงชั้นสอง ตฤณภพลังเลอยู่สักพัก แล้วเขาก็ตัดสินใจเดินเข้าห้องทางด้านซ้ายมือ ซึ่งเขาลืมไปว่าเวลาที่ตัวเองเมานั้น มักจะจำสลับด้านซ้ายและขวา และเมื่อตฤณภพเปิดประตูห้องเข้าไปแล้ว เขาก็ทิ้งตัวลงที่นอนทันที โดยไม่ได้สนใจว่าจะมีใครนอนอยู่บนเตียงก่อนแล้ว และบุคคลที่นอนอยู่บนเตียงก่อนหน้าที่ตฤณภพจะเข้ามานั้น ก็ดูท่าทางว่าจะหลับสนิท เพราะฝ่ายนั้นเหมือนไม่รู้สึกตัวเลยว่ามีคนมานอนอยู่ข้างๆ

เช้าวันรุ่งขึ้น แสงแดดอ่อนๆส่องเข้ามาในห้อง ทำให้อลิสารู้สึกตัวตื่นขึ้น เธอนอนบิดขี้เกียจ โดยที่ยังไม่ได้ลืมตา และเธอก็ต้องตกใจเมื่อรู้สึกว่าแขนไปโดนวัตถุอะไรบางอย่าง อลิสาจึงลืมตาขึ้น และมองไปทางด้านนั้น เธอเห็นอยู่เลือนรางว่าเป็นคน แต่เธอก็ไม่แน่ใจ เนื่องจากสายตาของเธอนั้นสั้น ดังนั้นอลิสาจึงเอี้ยวตัวเพื่อจะหยิบแว่นซึ่งอยู่ที่หัวเตียง และเมื่อใส่แว่นจนทำให้เธอเห็นชัดๆแล้วว่า ที่นอนอยู่ข้างๆนั้นเป็นคนแน่ๆ แถมยังเป็นผู้ชายอีกต่างหาก เห็นแบบนั้นแล้วอลิสาจึงตกใจ เธอกรี๊ดสนั่นลั่นบ้าน และยังถีบผู้ชายคนนั้นตกเตียงอีกด้วย ซึ่งหลังจากถีบชายแปลกหน้าตกเตียงแล้วนั้น เธอก็รีบกระเด้งตัวขึ้นจากที่นอน เพื่อสำรวจตัวเองให้แน่ใจว่าเมื่อคืนนี้ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นกับเธอ

และเพราะโดนถีบตกเตียง ตฤณภพจึงได้รู้สึกตัว เขาค่อยๆลืมตาขึ้น ในขณะที่ยังนอนจุกอยู่ที่พื้น ทางด้านอลิสาเองนั้นเธอได้ลุกขึ้นยืนมองตฤณภพด้วยความโกรธ ที่อยู่ๆเขาก็บุกรุกเข้าห้องของเธอ

“นายเป็นใคร... แล้วมานอนในห้องฉันทำไมยะ” อลิสายืนเท้าเอว และกำลังว้ากคนที่นอนจุกอยู่ โดยที่เธอก็จำเขาไม่ได้ว่าเคยพบเขามาก่อน

“คุณต่างหาก เข้ามาห้องผมแล้วยังจะถีบผมตกเตียงทำไม” ตฤณภพเถียงแบบไม่ค่อยจะเต็มเสียงสักเท่าไหร่ เนื่องจากเขายังนอนจุกอยู่ที่พื้น

“อย่ามามั่ว นี่มันห้องฉัน แล้วนี่นายเป็นใคร เข้ามาบ้านฉันได้ไงยะ” อลิสาพูดด้วยน้ำเสียงและหน้าตาโกรธเกรี้ยว

“คุณนั่นแหละมั่ว นี่มันบ้านผมต่างหาก” ตฤณภพค่อยคลายจากอาการจุกมากขึ้นแล้ว เขาค่อยๆพยุงตัวให้ลุกขึ้นยืน

เมื่อเขาลุกขึ้นยืน และมองเห็นหน้าอีกฝ่ายอย่างชัดเจนแล้ว เขารู้สึกคุ้นหน้าเธอ ทางด้านอลิสาเองก็เช่นกัน เขาและเธอต่างนิ่งคิดว่าเคยเห็นบุคคลที่อยู่ตรงหน้านั้นที่ไหน และภาพในคืนที่มีเรื่องที่ผับก็ผุดขึ้นมาในความทรงจำของทั้งคู่ในเวลาเดียวกัน

“เฮ้ย นายปากหมาบ้ากาม” อลิสาตะโกนด้วยความตกใจ

“ยายป้ามหาภัย” ตฤณภพก็เช่นกัน

เมื่อทั้งคู่ได้รู้แล้วว่าเป็นคู่อริของตัวเอง ยิ่งทำให้ต่างฝ่ายต่างเกลียดขี้หน้ากันมากขึ้น นี่มันอะไรกัน หรือโชคชะตาจะเล่นตลกกับเธอและเขา ให้ต้องมาเจอกันอีก

“อ๋อ... นี่นายแอบตามฉันมาจากกรุงเทพ แล้วก็กำลังคิดจะลวมลามฉันใช่ไหม ออกไปเลยนะ ออกไปก่อนที่ฉันจะแจ้งตำรวจมาจับนาย” อลิสาเริ่มเปิดศึก โดยที่ไม่ปล่อยให้ตฤณภพได้พูดก่อน

“นี่ป้า หลงตัวเองมากไปหรือเปล่า หุ่นอย่างป้าเนี่ยนะ ไม่ได้ดึงดูดใจผมเลย ดูดิ แบนอย่างกับกระดานโต้คลื่น ระวังนะ เดินอยู่ชายหาด คนจะเข้าใจผิด เอาป้าไปโต้คลื่นเล่น ที่นี่น่ะมันบ้านเพื่อนผม แล้วผมก็มีกุญแจบ้านด้วย ผมไม่ได้บุกรุกอย่างที่ป้ากล่าวหาสักหน่อย” ตฤณภพรีบเถียงขึ้น ปกติแล้วตฤณภพเองไม่ใช่คนแบบนี้ แต่อลิสาเป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขาต้องปากเสียได้ขนาดนี้

“มากไปแล้วนะ คำก็ป้า สองคำก็ป้า แล้วนายยังมาหาว่าฉันเป็นไม้กระดานอีกเหรอยะ” อลิสาขึ้นเสียงด้วยความไม่พอใจ แต่เธอก็ต้องยอมรับเรื่องไม้กระดาน ในเมื่อมันก็จริงนี่นา

ทางด้านตฤณภพเองก็รู้สึกดีใจที่เอาคืนอลิสาได้ เขาไม่เคยจะได้อธิบายอะไรให้เธอได้เข้าใจเลยสักครั้ง อลิสาชอบคิดเองสรุปเอง แล้วเขาก็โดนด่าโดยที่ตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิดเลย และแล้วตฤณภพก็นึกอะไรบางอย่างได้

‘แกล้งยายนี่เล่นดีกว่า ผู้หญิงแสบๆอย่างเธอ เรื่องอะไรฉันจะสุภาพ’ เขาแอบคิดอยู่ในใจ พร้อมกับมองอลิสาซึ่งอยู่ในชุดเสื้อกล้าม กางเกงขายาวสบายๆ

“แต่ตอนนี้ป้าในชุดแบบนี้ก็ดูเซ็กส์ซี่ดีนะ เอาเป็นว่าผมจะตัดเรื่องไม้กระดานทิ้งไปก็แล้วกัน” แล้วตฤณภพก็ค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ๆ อลิสา ด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์ เนื่องจากตฤณภพต้องการแกล้งให้ฝ่ายหญิงตกใจกลัว

ส่วนอลิสาเองก็แปลกใจ และไม่ทันตั้งตัว ที่อยู่ๆ ตฤณภพก็เดินเข้ามาใกล้ แล้วทำหน้าหื่นๆ อลิสาจึงค่อยๆเดินหนี แต่เพราะเธอยืนไม่ห่างจากเตียงสักเท่าไหร่ ทำให้เธอเดินถอยหลังได้ไม่กี่ก้าว ขาเธอก็รู้สึกเหมือนแตะที่ขอบเตียงแล้ว อลิสาฉุกคิดได้ว่า ถ้าเธอถอยมากกว่านี้ แน่นอนว่าเธอต้องล้มลงบนเตียงแน่ๆ ดังนั้นอลิสาจึงหยุดนิ่ง และปล่อยให้ตฤณภพค่อยๆยื่นหน้าเข้ามาใกล้เธอมากขึ้นเรื่อยๆ

และในตอนนี้จมูกของเขาเข้าใกล้แก้มใสๆของหญิงสาว ตฤณภพเองก็เริ่มรู้สึกแปลกใจเหมือนกันที่อยู่ๆอลิสาหยุดยืนนิ่ง ปล่อยให้เขาได้ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ แต่ด้วยเพราะอยากจะแกล้งให้ถึงที่สุด เขาจึงยังคงดำเนินการตามแผนของตัวเองต่อไป จนจมูกของเขาเกือบจะชนกับแก้มใสๆของอลิสา แต่แล้ว...

อึก... แล้วเขาก็ต้องตัวงอ เพราะจุกตรงส่วนสำคัญของผู้ชาย เพราะถูกเข่าของอลิสากระแทกเข้าอย่างแรง ส่วนทางอลิสาเองก็ทำหน้าแบบผู้มีชัย และผลักชายหนุ่มให้ออกห่างตัวเธอ

“อย่าคิดนะ ว่าฉันจะยอมนายง่ายๆ นายปากหมาบ้ากาม... อ้อ อีกอย่าง อย่ามาเรียกฉันว่าป้านะยะ ฉันน่ะเพิ่งจะยี่สิบห้าเองย่ะ” พูดจบอลิสาก็เดินออกจากห้องไป ปล่อยให้ชายหนุ่มยืนจุกอยู่ตรงนั้น

“ยายป้ามหาภัยตัวแสบ ฝากไว้ก่อนเหอะ มีโอกาสเมื่อไหร่ผมเอาคืนแน่” ตฤณภพพูดด้วยความแค้น สองครั้งแล้วที่เขาเอาชนะผู้หญิงคนนี้ไม่ได้สักที

ในตอนสายของวันนั้น ทั้งคู่ต่างก็ขับรถคู่ใจของตัวเอง และมุ่งหน้าไปที่เดียวกัน นั่นก็คือฝ่ายประชาสัมพันธ์ของรีสอร์ท เมื่อทั้งคู่ลงจากรถแล้ว ต่างคนต่างก็รีบตรงดิ่งไปยังเคาท์เตอร์ และแย่งกันถามถึงเพื่อนรักของตัวเอง ทำให้พนักงานต้อนรับต้องทำหน้าเลิกลั่ก เนื่องจากไม่รู้จะตอบคำถามใครดี

แต่ทั้งสองก็ทำความวุ่นวายให้พนักงานต้อนรับได้ไม่นาน เมื่ออัญญาพรได้เดินเข้ามา และได้ยินเสียงเอะอะโวยวายของสองคนนั้นพอดี แต่เธอยังไม่รู้ว่าต้นสายปลายเหตุเป็นอย่างไร

“มีอะไรเหรอคะพี่พร เสียงดังไปถึงข้างนอกเลย” อัญญาพรตะโกนถามพนักงานต้อนรับมาจากทางด้านหลังของอลิสา และตฤณภพ ตอนนี้อัญญาพรยังไม่รู้ว่าเพื่อนรักของเธอ และของพี่ชายนั้นเป็นต้นเหตุความวุ่นวายทั้งหมด

“คือคุณสองคนนี้เขามาถามหาคุณ กับคุณสหรัสน่ะค่ะ” พนักงานต้อนรับที่อัญญาพรเรียกว่าพี่พรนั้น ตอบด้วยน้ำเสียงอ้อมแอ้ม

จากนั้นอัญญาพรจึงเดินเข้าไปใกล้คนทั้งสอง และพอมองเห็นหน้าก็ต้องตกใจ ก็นั่นเป็นเพื่อนรักของเธอเองนี่นา

“อ้าวสา มีเรื่องอะไรเหรอ” อัญญาพรถามเพื่อนรักด้วยความแปลกใจ

“ก็นายปากหมาบ้ากามนี่อะดิย่องเข้าบ้านริมหาดอะ แถมยังมาเข้าห้องเราด้วย พอเราจับได้ ก็อ้างว่านี่เป็นบ้านของเพื่อน เราก็เลยจะมาถามเอิร์นให้รู้เรื่องนี่แหละ” อลิสาโวยวายกับอัญญาพร

“ป้านั่นแหละจะให้ท่าผม ขนาดนอนยังไม่ล็อคห้องเลย” ตฤณภพรีบเถียงขึ้นมาทันควัน

“ก็ใครจะไปนึกละยะ ว่าตอนดึกจะมีไอ้โรคจิตบ้ากามย่องขึ้นบ้านอะ” อลิสาก็ไม่ยอมเว้นช่องว่างให้ตฤณภพเช่นกัน

“อ้าวป้า พูดแบบนี้ผมก็เสียหายหมดดิ ป้าหัดหยุดฟังคนอื่นเขาพูดบ้างได้ไหม” ตฤณภพพยายามที่จะเถียงอลิสา แต่ดูเหมือนอลิสาจะไม่ยอมให้เขาเถียงได้ง่ายๆ

“ก็หรือว่ามันไม่จริง นายน่ะมันเป็นไอ้โรคจิต บ้ากาม ปากเสียด้วย สงสัยคงมีเดอะด๊อกวิ่งเต็มปากไปหมดเลยมั้งเนี่ย” อลิสาหันไปแว้ดใส่ตฤณภพ จากนั้นเธอจึงหันไปทางเพื่อนรักของเธอ “เราพูดจริงๆนะเอิร์น หมอนี่เคยจับก้นเราในผับด้วย แล้วพอเราจับได้ก็ไม่ยอมรับผิด”

“อ้าวป้า ทำไมมาว่ากันแบบนั้นอะ” ตฤณภพยิ่งอึ้งกับผู้หญิงคนนี้ขึ้นไปทุกที นี่เธอกะจะกัดเขาไม่ปล่อยเลยใช่ไหม

“เอ่อ เดี๋ยวนะคะ เอิร์นว่ามีอะไรค่อยๆพูดกันดีกว่าไหมคะ คือ... เอิร์นสับสนไปหมดแล้ว” อัญญาพรทั้งสองคนเถียงกันอยู่นาน พูดขัดจังหวะขึ้นเพื่อจะพยายามไกล่เกลี่ย และนั่นก็ทำให้ทั้งคู่เงียบลงได้ แต่ต่างคนก็ต่างเบือนหน้าหนีกันไปคนละทาง

“เอ่อ ขอโทษนะคะ คือคุณมาอยู่ที่บ้านริมหาดได้ยังไงเหรอคะ” อัญญาพรเริ่มต้นด้วยการถามตฤณภพ

“มีเรื่องอะไรกันเหรอยายเอิร์น พี่ได้ยินเสียงโวยวายดังลั่นไปถึงข้างหน้าเลย” ยังไม่ทันที่ตฤณภพจะได้ตอบ สหรัสก็เดินเข้ามาสมทบพอดี

เมื่อสหรัสเดินเข้าไปอยู่ข้างน้องสาว และอยู่ฝั่งตรงข้ามกับตัวต้นเหตุเสียงดังทั้งสอง เขาก็ยิ่งตกใจ เมื่อได้เห็นหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างตฤณภพ เพราะเขาจำได้ดีว่า ผู้หญิงคนนี้มีเรื่องกับเพื่อนของเขาที่ผับ สหรัสจึงรีบละสายตาจากอลิสา และมองไปยังเพื่อนของเขาแทน และเหมือนตฤณภพจะรู้ใจสหรัส เขาจึงพยักหน้าเชิงคำตอบว่าเจอเธอคนนี้อีกแล้ว

“พี่อาร์ทมาก็ดีแล้วค่ะ ช่วยเอิร์นไกล่เกลี่ยสองคนนี้หน่อยสิคะ เพราะเอิร์นคนเดียวคงรับไม่ไหวแน่” อัญญาพรกระซิบบอกพี่ชาย และสหรัสก็พยักหน้าเป็นเชิงตอบรับ

“ขอโทษนะครับ เพื่อนผมทำอะไรคุณเหรอครับ” สหรัสเริ่มตั้งคำถามกับหญิงสาวก่อน

“หมอนี่ย่องเข้าบ้านยายเอิร์นค่ะ” อลิสารีบตอบโดยไม่ต้องคิด และไม่พูดอ้อมค้อมให้เสียเวลา

“คือผมว่าคงเป็นการเข้าใจผิดนะครับ เพราะคนนี้เขาเป็นเพื่อนผม และผมก็อนุญาตให้เขาอยู่ที่บ้านริมหาดเองน่ะครับ” สหรัสพยายามอธิบายให้อลิสาฟังอย่างสุภาพ ทางฝ่ายตฤณภพเองเมื่อได้โอกาส เขาก็ทำหน้าเยาะเย้ยอลิสา

“อะไรกันคุณ ก็บ้านหลังนั้นมันเป็นของยายเอิร์นนี่นา ใช่ไหมเอิร์น” อลิสาพูดกับสหรัส และอัญญาพรแบบไม่ยอมแพ้

“คือ คนนี้พี่ชายเอิร์นเองจ้ะ พี่อาร์ทไง สาจำไม่ได้เหรอ” อัญญาพรแนะนำให้เพื่อนรักได้รู้จักกับพี่ชาย จริงๆแล้วอลิสาก็พอจะเคยเห็นหน้าค่าตาพี่ชายของอัญญาพรมาบ้าง แต่ก็ไม่บ่อยนัก แต่พอเข้ามหาวิทยาลัยแล้วนั้น อลิสาก็ไม่ได้เจอกับอัญญาพรเลย ทำให้อลิสาจำพี่ชายของเพื่อนรักไม่ได้ ซึ่งสหรัสเองก็จำเพื่อนของน้องสาวไม่ได้เช่นกัน

อลิสาเองเมื่อได้ยินแบบนั้นแล้วจึงรีบยกมือไหว้ และยิ้มทักทายสหรัส ซึ่งผิดกับที่เมื่อกี้ทำหน้ายักษ์ใส่ และทางสหรัสเองเมื่อได้รู้ว่าอลิสาคือเพื่อนของน้องสาว จึงได้ทำตัวให้ดูสบายขึ้น

“สวัสดีค่ะพี่อาร์ท หล่อขึ้นจนสาจำไม่ได้เลย” อลิสาพูดกับสหรัสด้วยท่าทางเป็นกันเอง

“อือ พี่ก็จำเราไม่ได้เหมือนกัน เมื่อตอนที่อยู่ในผับวันนั้นก็ว่าแล้วว่าทำไมหน้าคุ้นๆ เรานี่โตขึ้นจนพี่จำไม่ได้เลยนะ” สหรัสก็พูดอย่างเป็นกันเองเช่นกัน

“โตอย่างรวดเร็วจนหน้าล้ำอายุเลยอะดิ” ตฤณภพบ่นพึมพำ กะว่าจะไม่ให้ใครได้ยิน แต่ดูเหมือนหูของอลิสาจะไวพอสมควร อาจจะเนื่องจากนั่งอยู่ข้างๆตฤณภพก็ได้

“นี่นายว่าใครยะ” อลิสาหันมาแหวใส่ตฤณภพทันที

“โห เป็นป้านึกว่าจะหูตึง แต่หูดันไวเหมือน...” ตฤณภพยังคงบ่นพึมพำ แต่แน่นอนว่า อลิสาก็ยังได้ยิน

“เหมือนอะไรยะ” อลิสาพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

“ก็แล้วแต่คุณจะคิด” ตฤณภพลอยหน้าลอยตาตอบ ทำให้อลิสายิ่งแค้น ได้แต่คิดในใจ ว่าฝากไว้ก่อนเหอะ มีโอกาสเอาคืนแน่ๆ

“ทั้งสองคนหยุดทะเลาะกันเถอะนะคะ” อัญญาพรเห็นว่าสองคนนี้เริ่มทะเลาะกันอีกแล้ว จึงรีบห้ามทัพก่อนที่เรื่องจะยิ่งวุ่นไปมากกว่านี้ “เอ่อ... พี่อาร์ท นี่เพื่อนพี่อาร์ทเหรอ” อัญญาพรแอบกระซิบถามพี่ชายของเธอ

“อ้าว ก็นายโต้งไง เพื่อนที่อยู่ข้างบ้านเราตอนที่เราเด็กๆกันน่ะ” สหรัสอธิบายให้น้องสาวได้เข้าใจ

อัญญาพรนิ่งคิดอยู่ไม่นาน เธอก็นึกออกแล้วว่าเมื่อตอนที่เธอยังอยู่ชั้นประถม ตฤณภพ สหรัส และอัญญาพร ต่างก็เล่นด้วยกันมา อัญญาพรนั้นมักจะได้รับความคุ้มครองจากพี่ชายที่แสนดีถึงสองคน แต่ตอนนี้พี่ชายที่แสนดีคนนี้เปลี่ยนไปมากจนอัญญาพรจำเขาไม่ได้เลย

“อ๋อ... พี่โต้ง สวัสดีค่ะ พี่โต้งเปลี่ยนไปเยอะเลย เล่นเอาเอิร์นจำไม่ได้เลยค่ะ” อัญญาพรยกมือไหว้ตฤณภพ และตฤณภพก็รับไหว้ด้วยท่าทีที่ยิ้มแย้มเป็นกันเอง

“เปลี่ยนไปในทางที่แย่ลงใช่มะ” อลิสาได้ทีจึงรีบแขวะตฤณภพ ทางด้านตฤณภพเองก็กำลังจะเถียง แต่ยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไร ก็โดนสหรัสห้ามทัพไว้ก่อน


Create Date : 22 กรกฎาคม 2551
Last Update : 22 กรกฎาคม 2551 0:21:58 น. 0 comments
Counter : 266 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

บุปผาหยกไร้ใจ
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add บุปผาหยกไร้ใจ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.