|
สาระสำคัญกฎหมายสัญชาติ
พระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ. 2508 และแก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 2 พ.ศ. 2535 ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2535
เป็นกฎหมายที่ว่าด้วยการได้มา การเสียไป และการกลับคืนซึ่งสัญชาติไทยของบุคคล โดยกฎหมายฉบับดังกล่าวได้มีการปรับปรุงแก้ไขสองครั้งเมื่อปี พ.ศ. 2535 ดังนี้
การได้มาซึ่งสัญชาติไทย มีด้วยกัน 3 วิธี คือ 1. โดยการเกิด หมายความว่า ผู้ที่เกิดมาย่อมได้รับสัญชาติไทยภายใต้หลักการพิจารณา 2 หลักการ ได้แก่ 1.1. หลักสืบสายโลหิต เช่น ผู้ที่เกิดโดยบิดา หรือมารดาเป็นคนไทยย่อมได้สัญชาติไทย ทั้งนี้ไม่ว่าจะเกิดในหรือนอกราชอาณาจักร 1.2. หลักดินแดน เช่น ผู้ที่เกิดในประเทศไทยย่อมได้รับสัญชาติไทย เว้นแต่ผู้ที่เกิดในประเทศไทยโดยบิดา หรือมารดาเป็นคนต่างด้าวและในขณะที่เกิดบิดา หรือมาดาของผู้นั้นเป็น 1.2.1. ผู้ที่ได้รับการผ่อนผันให้พักอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทยกรณีพิเศษเฉพาะราย 1.2.2. ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เข้าอยู่ในราชอาณาจักรไทยเพียงชั่วคราว 1.2.3. ผู้ที่ได้เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง 1.2.4. หัวหน้าคณะผู้แทนทางทูตหรือเจ้าหน้าที่ในคณะผู้แทนทางทูต 1.2.5. หัวหน้าคณะผู้แทนทางกงสุลหรือเจ้าหน้าที่ในคณะผู้แทนทางกงสุล 1.2.6. พนักงานหรือผู้เชี่ยวชาญขององค์การระหว่างประเทศ 1.2.7. คนในครอบครัวซึ่งเป็นญาติอยู่ในความอุปการะหรือคนใช้ซึ่งเดินทางมาจากต่างประเทศมาอยู่กับบุคคลใน 1.2.4 ถึง 1.2.7 2. โดยการขอมีสัญชาติไทยตามผู้เป็นสามี คือ หญิงซึ่งมิใช่คนไทยที่สมรสกับชายไทย ถ้าประสงค์จะได้สัญชาติไทยก็สามารถยื่นคำขอต่อรัฐมนตรีมหาดไทยเพื่อขอมีสัญชาติไทย การอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้ได้สัญชาติไทยนั้นอยู่ในดุลพินิจของรัฐมนตรีมหาดไทย 3. โดยการแปลงสัญชาติ หมายความว่า บุคคลที่มิใช่ผู้มีสัญชาติไทยขอมีสัญชาติไทยโดยการขอแปลงสัญชาติเป็นไทย ถ้าหากมีคุณสมบัติครบถ้วนดังนี้ 3.1. บรรลุนิติภาวะแล้วตามกฎหมายไทยและกฎหมายที่บุคคลนั้นมีสัญชาติ 3.2. มีความประพฤติดี 3.3. มีอาชีพเป็นหลักฐาน 3.4. มีภูมิลำเนาในประเทศไทยต่อเนื่องมาจนถึงวันที่ยื่นคำขอแปลงสัญชาติเป็นไทยเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี 3.5. มีความรู้ภาษาไทยตามที่กำหนดในกฎกระทรวง การอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้แปลงสัญชาติเป็นไทย อยู่ในดุลพินิจของรัฐมนตรีมหาดไทย เมื่อรัฐมนตรีเห็นสมควรก็ให้นำความขึ้นกราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต เมื่อได้รับพระบรมราชานุญาตแล้วผู้ขอแปลงสัญชาติเป็นไทย ปฎิญาณตนว่าจะมีความซื่อสัตย์สุจริตต่อประเทศไทย
การเสียสัญชาติไทย มีด้วยกัน 2 วิธี คือ 1. สละสัญชาติไทย คือ การที่ผู้มีสัญชาติไทยคนใดคนหนึ่งมีความประสงค์จะขอสละสัญชาติไทยในกรณีดังต่อไปนี้ 1.1. หญิงซึ่งมีสัญชาติไทยและได้สมรสกับคนต่างด้าวและอาจถือสัญชาติของสามีได้จามกฎหมายว่าด้วยสัญชาติของสามี ถ้าประสงค์จะสละสัญชาติไทยก็สามารถยื่นความจำนงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ 1.2. ผู้เกิดมามีสองสัญชาติเมื่อมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์หากประสงค์จะสละสัญชาติไทยก็สามารถแสดงความจำนงสละสัญชาติไทยต่อรัฐมนตรีมหาดไทยได้ ในกรณีนี้รัฐมนตรีอาจสั่งระงับการสละสัญชาติไทยไว้ก่อนก็ได้หากว่าประเทศไทยอยู่ในระหว่างการรบหรืออยู่ในสถานะสงคราม 1.3. ผู้ที่ได้สัญชาติไทยโดยการแปลง หากประสงค์จะสละสัญชาติไทยก็สามารถยื่นคำขอต่อรัฐมนตรีมหาดไทย การอนุญาตหรือไม่อนุญาตอยู่ในดุลพินิจของรัฐมนตรี 2. ถูกถอนสัญชาติไทย คือ ผู้มีสัญชาติไทยถูกถอนสัญชาติไทยในกรณีดังต่อไปนี้ 2.1. หญิงที่ได้สัญชาติไทยโดยการสมรสอาจถูกถอนสัญชาติไทยถ้าหากว่า 2.1.1. การสมรสนั้นเป็นไปโดยปกปิดข้อเท็จจริงหรือแสดงความเท็จอันเป็นสาระสำคัญ 2.1.2. กระทำการใดๆ อันเป็นการกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงหรือขัดต่อประโยชน์ของรัฐ หรือเป็นการเหยียดหยามประเทศชาติ 2.1.3. กระทำการใดๆ อันเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศิลธรรมอันดีของประชาชน 2.2. ผู้มีสัญชาติไทยเพราะเกิดในราชอาณาจักรไทยโดยมีบิดาเป็นคนต่างด้าวอาจถูกถอนสัญชาติไทยถ้าหากว่า 2.2.1. ไปอยู่ต่างประเทศที่บิดาเคยมีหรือเคยมีสัญชาติเป็นเวลาติดต่อกันเกิน 5 ปี นับแต่วันที่บรรลุนิติภาวะ 2.2.2. มีหลักฐานแสดงว่าใช้สัญชาติของบิดาหรือสัญชาติอื่น หรือฝักใฝ่อยู่ในสัญชาติของบิดาหรือสัญชาติอื่น 2.2.3. กระทำการใดๆ อันเป็นการกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงหรือขัดต่อประโยชน์ของรัฐ หรือเป็นการเหยียดหยามประเทศชาติ 2.2.4. กระทำการใดๆ อันเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศิลธรรมอันดีของประชาชน 2.3. ผู้ที่มีสัญชาติไทยโดยการแปลงสัญชาติถ้าหากว่า 2.3.1. การแปลงสัญชาตินั้นเป็นไปโดยปกปิดข้อเท็จจริงหรือแสดงข้อความเป็นเท็จอันเป็นสาระสำคัญ 2.3.2. มีหลักฐานแสดงว่าผู้แปลงสัญชาตินั้นยังใช้สัญชาติเดิม 2.3.3. กระทำการใดๆ อันเป็นการกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงหรือขัดต่อประโยชน์ของรัฐ หรือเป็นการเหยียดหยามประเทศชาติ 2.3.4. กระทำการใดๆ อันเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือ ศีลธรรมอันดีของประชาชน 2.3.5. ไปอยู่ต่างประเทศโดยไม่มีภูมิลำเนาในประเทศไทยเป็นเวลาเกิน 5 ปี 2.3.6. ยังคงมีสัญชาติของประเทศที่ทำสงครามกับประเทศไทย
การกลับคืนสัญชาติไทย มีด้วยกัน 2 กรณี คือ 1. หญิงซึ่งมีสัญชาติไทยและได้สละสัญชาติไทยในกรณีสมรสกับคนต่างด้าว ถ้าขาดจากการสมรสแล้วไม่ว่าด้วยเหตุใดๆ ย่อมมีสิทธิขอกลับคืนสัญชาติไทยได้ 2. ผู้ซึ่งมีสัญชาติไทยและได้เสียสัญชาติไทยตามบิดาหรือมารดาในขณะที่ตนยังไม่บรรลุนิติภาวะ ก็สามารถยื่นคำขอกลับคืนสัญชาติไทยได้ภายใน 2 ปี นับแต่วันที่บรรลุนิติภาวะ การอนุญาตหรือไม่อนุญาตตามกรณีนี้อยู่ในดุลพินิจของรัฐมนตรีมหาดไทย
Create Date : 06 ธันวาคม 2550 |
Last Update : 6 ธันวาคม 2550 15:39:39 น. |
|
4 comments
|
Counter : 2550 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ดพะพะ IP: 58.64.41.131 วันที่: 6 มกราคม 2551 เวลา:19:38:49 น. |
|
|
|
โดย: จุล IP: 87.81.5.1 วันที่: 23 มิถุนายน 2551 เวลา:3:59:43 น. |
|
|
|
โดย: เด็กปางมะผ้า (นาย หม่อง ) IP: 101.51.42.142 วันที่: 11 สิงหาคม 2554 เวลา:13:47:16 น. |
|
|
|
โดย: ตอนนี้อายุเท่าไหร่ขอได้ปี2557 IP: 110.78.173.64 วันที่: 24 มิถุนายน 2557 เวลา:9:59:05 น. |
|
|
|
| |
|
|