Nichar love Beauty ^^ Beauty love Nichar
 
 

รถไฟเพื่อคนพิการขบวนแรกของไทย

รถไฟเพื่อคนพิการขบวนแรกของไทย
 
พ.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.คมนาคม เป็นประธานในพิธีเปิดขบวนรถไฟเพื่อคนพิการขบวนแรกของไทย ซึ่ง ร.ฟ.ท.ดัดแปลงรถ JR-West เพื่ออำนวยความสะดวกแก่คนพิการ โดยทำโบกี้ต้นแบบสำหรับผู้โดยสารที่ใช้รถวีลแชร์

ส่วนประตูด้านข้างดัดแปลงให้เหมาะสมมีลิฟท์ยกรถวีลแชร์ ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า ผู้พิการสามารถขึ้นได้เอง และด้านในรถดัดแปลงจากเบาะปรับเอน4แถวเหลือ3แถว ขนาดเบาะใหญ่กว่าเดิม สามารถหมุนได้360องศา

เบื้องต้นรถไฟต้นแบบสำหรับคนพิการทำเสร็จแล้ว2โบกี้ สิ้นปีนี้อีก10โบกี้ โดยจะพ่วงกับขบวนรถเที่ยวปกติ ทั้งนี้ รถไฟเพื่อคนพิการขบวนแรกนี้ จะให้บริการในเส้นทาง กรุงเทพฯ-หนองคาย ออกจากหัวลำโพง2ทุ่ม ส่วนอัตราค่าโดยสารสำหรับผู้โดยสารที่ใช้บริการจะสูงกว่าปกติเล็กน้อย



teenee.com




 

Create Date : 21 มิถุนายน 2555   
Last Update : 21 มิถุนายน 2555 10:28:02 น.   
Counter : 1049 Pageviews.  


เผย10อันดับงานฮิตของผู้หญิง

เผย10อันดับงานฮิตของผู้หญิง
 
ภาพประกอบจาก อินเตอร์เน็ต
ภาพประกอบจาก อินเตอร์เน็ต

แมนพาวเวอร์กรุ๊ปเผยผลสำรวจ 10  อันดับงานฮิตของผู้หญิง พบงานธุรการ-การตลาด-ประชาสัมพันธ์นิยมสุด

แมนพาวเวอร์กรุ๊ป เปิดเผยผลสำรวจความต้องการของตลาดแรงงานสำหรับผู้หญิง โดยสายงานที่ผู้หญิงสนใจทำงานมากที่สุด 5 อันดับแรก คือ งานธุรการ อันดับ 2 งานด้านการตลาดและงานประชาสัมพันธ์ อันดับ 3 คือ งานด้านโฆษณา อันดับ 4 งานด้านการเงินการธนาคาร อันดับ 5 งานด้านการโรงแรมและท่องเที่ยว

สุธิดา กาญจนกันติกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด แมนพาวเวอร์กรุ๊ป กล่าวว่า จากผลสำรวจของทีมบริหารงานบุคคลของแมนพาวเวอร์กรุ๊ป พบว่าจากปัจจัยทางเศรษฐกิจหลายด้าน ส่งผลให้ผู้หญิงออกมาหางานประจำนอกบ้านทำมากขึ้น เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัว

นอกจากนี้ ยังพบว่าสายงานที่เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานสำหรับผู้หญิง พบว่า 10 อันดับแรก ได้แก่ งานบริการลูกค้าสัมพันธ์ ธุรการ งานการผลิต งานขาย งานการตลาด และประชาสัมพันธ์ คอลเซ็นเตอร์ งานบัญชี งานสุขภาพโภชนาการ สายงานบริการเฉพาะทางและงานธนาคารการเงิน

teenee.com




 

Create Date : 20 มิถุนายน 2555   
Last Update : 20 มิถุนายน 2555 18:02:50 น.   
Counter : 1220 Pageviews.  


เคล็ดลับ 10 ข้อในการจำศัพท์ภาษาอังกฤษ

เคล็ดลับ 10 ข้อในการจำศัพท์ภาษาอังกฤษ
 

รู้สึกเหนื่อยใจกับการท่องศัพท์แบบเดิมๆ ใช่มั้ยคะ วันนี้เรามีวิธีเด็ด ช่วยจำมาฝากค่ะ ช่วยมำให้การท่องศัพท์ เป็นเรื่องง่าย และน่าสนุกขึ้นทันที


1. ความเกี่ยวเนื่อง ถ้าน้องๆ จัดคำศัพท์ออกเป็นหมวดหมู่ ขึ้นอยู่กับความเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กันระหว่างคำศัพท์ แล้วเขียนออกมาเป็นแผนผัง จะทำให้น้องๆ จำคำศัพท์ได้ง่ายขึ้น

2. เขียน การนำคำศัพท์นั้นๆ มาใช้ จะทำให้น้องๆ จำได้ฝังใจยิ่งขึ้น ลองแต่งประโยค โดยนำคำศัพท์ใหม่ที่เรียนมาใช้ดูสิคะ แต่งเป็นเรื่องราวๆ ง่ายในชีวิตประจำวัน หรือเขียนเป็นไดอารี่ภาษาอังกฤษเลยได้ยิ่งดีค่ะ

3. วาดรูป ดึงวิญญาณศิลปินในตัวออกมาใช้ โดยการวาดรูปที่แสดงถึงคำศัพท์ที่เราเรียนอยู่ ภาพที่วาดจะช่วยกระตุ้นความทรงจำถึงศัพท์นั้นในอนาคต (วิธีนี้ใช้สอนภาษาจีนให้กับเด็ก ได้ผลดีมากเลยค่ะ)

4. แสดง ท่าทางประกอบคำศัพท์ หรือสำนวนที่กำลังเรียนอยู่ หรือจินตนาการว่าจะแสดงออกอย่างไร ในสถานการณ์ที่ต้องใช้ศัพท์คำนั้น

5. สร้าง ลองออกแบบสมุดศัพท์ภาษาอังกฤษ พร้อมความหมาย แล้วเปิดอ่าน หรือท่องในยามว่าง ทำเล่มใหม่ทุกอาทิตย์ น้องๆ จะได้คลังคำศัพท์ในหัวเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัวเลยล่ะค่ะ

6. ความสัมพันธ์ กำหนดแต่ละสี ให้แต่ละคำศัพท์ ความสัมพันธ์ของแต่ละคู่ จะช่วยให้จำศัพท์นั้นได้แม่นยำขึ้น เมื่อนึกถึงคำนั้นในคราวต่อไป

7. ฟัง นึกถึงศัพท์คำอื่นที่ออกเสียงคล้ายๆ กับศัพท์ใหม่ที่กำลังเรียนอยู่ ใช้ความสัมพันธ์ตรงจุดนี้ในการช่วยให้น้องๆ จำการออกเสียงของคำใหม่นั้นได้ง่ายขึ้น

8. เลือก จำไว้ว่า การเรียนในหัวข้อที่น้องๆ ชอบ จะทำให้รู้สึกว่ามันง่ายขึ้น ดังนั้นควรใส่ใจในการเลือกคำศัพท์ที่คิดว่ามีประโยชน์ หรือน่าสนใจ เพราะแม้แต่การเลือกคำที่จะเรียน ก็มีผลให้จำได้แม่นและเร็วขึ้นเช่นกัน

9. ข้อจำกัด มันเป็นไปไม่ได้ที่คนเราจะจำศัพท์ในดิกชันนารี่ได้หมดในวันเดียว ดังนั้นจำกัดการเรียนศัพท์ใหม่แค่วันละ 10-15 คำ ก็พอแล้ว อย่าพยายามยัดเยียดให้สมองตัวเองเยอะเกิน เพราะจะทำให้สมองตื้อ และเบื่อหน่ายแทนค่ะ

10. สังเกต พยายามสังเกตคำศัพท์แปลกใหม่จากสิ่งรอบตัว ไม่ว่าจะจากเพลง หรือนสพ. ภาษาอังกฤษ ซึ่งนั่นก็หมายความว่า น้องๆ ต้องรู้จักฟังเพลงและอ่านนสพ. ภาษาอังกฤษบ้างนั่นเอง นอกจากจะได้เจอศัพท์ใหม่ แล้ว ยังเพิ่มทักษะการฟัง และการอ่านไปในตัวด้วยค่ะ


Credit kasettutor





 

Create Date : 20 มิถุนายน 2555   
Last Update : 20 มิถุนายน 2555 17:50:57 น.   
Counter : 762 Pageviews.  


นักบู๊วัยเรียน ปัญหาสังคมที่แก้ไม่ตก

นักบู๊วัยเรียน ปัญหาสังคมที่แก้ไม่ตก
 

เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดก็เป็นข่าวครึกโครมขึ้นอีก สำหรับกรณี 'ปัญหาการวิวาทรุนแรงของวัยเรียน" เน้น ว่านี่คือ "ปัญหา" เป็นหนึ่งใน 'ปัญหาสังคม" ที่หมักหมมในสังคมไทยมานาน และยังแก้ไม่ตก


บ่อยครั้ง รวมถึงล่าสุด ถึงขั้นเกิดการเสียชีวิตบางครั้ง รวมถึงล่าสุด มีเหยื่อเป็นคนที่ไม่เกี่ยว
 

" 1. ครอบครัวละเลย จนเกิดความเก็บกด ใจช้ำ, 2. ถูกปฏิเสธจากโรงเรียน เครียด มีปมด้อยจากการหาที่ยืนที่มีศักดิ์ศรีไม่ได้ จึงต้องหาศักดิ์ศรีนอกโรงเรียน, 3. คบเพื่อนเสีย เพื่อนพาเสี่ยงเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น, 4. ถูกโอบล้อมด้วยพื้นที่เสี่ยง สื่อร้ายอบายมุข ยั่วยุให้เร่าร้อน รุนแรง, 5. ติดกระแสบริโภคนิยม มีการยั่วยุให้ทำทุกอย่างแลกชีวิตฟุ้งเฟ้อ ชอบเสี่ยง ชอบรวยลัดวัดดวง, 6. ขาดแบบอย่างที่ดี ขาดโอกาสในการฟื้นตัวตนใหม่ "


นี่เป็น '6 วิถีเสี่ยง" ที่ทางโครงการ Child Watch โดย ดร.อมรวิชช์ นาครทรรพ เคยระบุไว้ในการประชุมระดมความคิดเห็นเพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เมืองน่าอยู่สำหรับเด็กและเยาวชน ที่สนับสนุนการจัดโดย สสส. เมื่อนานมาแล้ว ซึ่งล่วงเลยมาถึงปัจจุบันนี้ "6 วิถีเสี่ยง" ที่ว่านี้ก็ดูจะยัง-ดูจะยิ่ง "เข้มข้น-ข้นคลัก" มากทีเดียว


วัยเรียนก่อคดี 'ยิง-ฆ่า" ล่าสุด คือภาพสะท้อน


อย่างไรก็ตาม กับปัญหาเกี่ยวกับเด็กและเยาวชนในไทยนั้น แม้จากการศึกษาเชิงลึกจะพบว่าต้นเหตุอาจมิได้เกิดจากตัวเด็กและเยาวชนเองโดยตรงไปเสียทั้งหมด โดย 6 วิถีเสี่ยงที่ว่ามาข้างต้นเป็นตัวขับ แต่กระนั้น กับ "ปัญหาการวิวาทรุนแรงของวัยเรียน" ก็มีเสียงวิพากษ์ว่า 'สำนึก" ของตัวที่ผู้ก่อเหตุเอง ก็สำคัญ??


ขณะที่ในเชิงของ "จิตวิทยา" ก็ฉายภาพปัญหาสังคมปัญหานี้ได้ในมุมหนึ่ง โดย ดร.วัลลภ ปิยะมโนธรรม นักจิตวิทยา เคยสะท้อนผ่าน "สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์" ไว้ว่า เด็กบางคนอาจไม่รู้จะเก่งด้านไหน เรียนก็สู้คนอื่นไม่ได้ กิจกรรมก็ทำไม่ดี จึงหันไปก้าวร้าว คิดผิด ๆ โดยอาศัยความรุนแรงและความก้าวร้าวสร้างความเด่นให้กับตนเอง ผนวกกับธรรมชาติของมนุษย์มีสัญชาตญาณของความก้าวร้าวอยู่ในตัว และมีความต้องการให้คนอื่นสนใจ ไม่ว่าจะชม หรือจะด่า เด็กจึงอาจเลือกใช้ความรุนแรงและความก้าวร้าวเป็นวิธีสร้างความสนใจ


ยิ่งถูกกระตุ้นด้วยสภาวะทางสังคม ครอบครัวที่มีปัญหา ผนวกกับสื่อต่าง ๆ ในสังคมปัจจุบันที่เป็นการยั่วยุ ความรุนแรงและความก้าวร้าวก็ยิ่งแสดงออกมา 'พฤติกรรมโหด" ก็ยิ่งเกิดขึ้นได้ แรงขึ้น-มากขึ้น ขณะที่การ 'นิยมชมชอบความรุนแรง" ก็อาจจะเป็นการต่อต้านสังคมทางหนึ่ง


ในทางจิตวิทยา นักจิตวิทยาคนเดิมยังเคยชี้ไว้ด้วยว่า วัยรุ่นวัยเรียนในไทยในยุคปัจจุบันมักจะมีพฤติกรรมเลียนแบบจนเป็นอาการทางสังคม ทำอะไรตามใจชอบกันมากขึ้น รวมถึงในมุมลบ-แหกกฎสังคม จนตามมาด้วยอาการทางใจ กลายเป็นคนใจแตก ทำอะไรที่ไม่ดี ซึ่งที่สุดอาการทางกายก็จะตามมาซ้ำให้ทรุดโทรม


สังคมวัยรุ่นไทยเปิดกว้างมากขึ้น ทำให้มีการเลียนแบบกันมากขึ้น จนทำให้มีเอกลักษณ์สับสน ทำตามกันเป็นแฟชั่น แข่งขันกันเองสูง ไม่เพียงแค่ทำไปเพราะต้องการให้เพื่อนยอมรับเหมือนในอดีต แต่ยังเกิดการ 'คิดผิด ๆ ว่าทำอะไรที่ไม่ดีให้แรงกว่าเพื่อน ๆ ได้ คือเรื่องที่ดี คิดผิด ๆ ว่าทำอะไรที่ไม่ดีให้มากกว่าเพื่อน ๆ ได้.หมายถึงแน่กว่า-เจ๋งกว่า-เท่กว่า" ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้วคือ 'ผิดมากกว่า!!"


บาดเจ็บ-ตาย-เป็นฆาตกรในวัยเรียน นี่หรือแน่??

นี่ก็แค่อาการของคนหลงผิด-ไม่ฉลาด มิใช่หรือ??


และตามกฎหมายอาญา การฆ่าผู้อื่นโดยการไตร่ตรองไว้ก่อน โทษสูงสุดถึงประหารชีวิต ถ้าร่วมกันทำหลายคนทุกคนก็มีโทษฐานร่วมกันฆ่าคนตาย หรือแม้อีกฝ่ายไม่ถึงตาย ก็เป็นการพยายามฆ่า ก็มีโทษสูงสุด 2 ใน 3 ส่วนของโทษประหารชีวิต คือจำคุก 50 ปี ซึ่งแม้ผู้กระทำที่อายุเกิน 18 ปี แต่ไม่เกิน 20 ปี และอายุเกิน 15 ปี แต่ต่ำกว่า 18 ปี อาจได้ลดโทษกึ่งหนึ่ง หรือลด 1 ใน 3 หรือขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาล ยังไงก็ "โทษหนัก!!"


นอกจากตัวผู้กระทำแล้ว ผู้ที่ถูกกระทำ ครอบครัวผู้ที่ถูกกระทำ รวมถึงครอบครัวของผู้ที่กระทำเอง ต่างก็ต้อง 'เดือดร้อน-เสียใจ-ทุกข์ใจ!!!" กับพ่อแม่ผู้ปกครองของผู้ที่กระทำก็อาจต้องโทษจำคุก 3 เดือนด้วย ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ฐานปล่อยปละละเลยไม่ดูแลเอาใจใส่ลูก และฝ่ายผู้ที่ถูกกระทำ-ครอบครัวผู้ที่ถูกกระทำ ก็อาจมีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย-ค่าชดเชยจากฝ่ายผู้ที่กระทำ ซึ่งถ้ายังไม่บรรลุนิติภาวะก็สามารถฟ้องร้องเอาจากพ่อแม่ผู้ปกครองของผู้ที่กระทำ ก็ยิ่งไปกันใหญ่ เหล่านี้ไงล่ะ 'รางวัลของการแน่แบบไม่ฉลาด!!!"


ทั้งนี้ "นักบู๊วัยเรียน" ที่เคยโดนคนอื่นทำให้เจ็บ ที่ทำให้คนอื่นเจ็บหรือตาย ก็คงจะ "ซึ้ง" กันดีไปเรียบร้อยแล้วกับรางวัลการแน่แบบไม่ฉลาด ส่วนรายที่ยังไม่เคยโดนคนอื่นทำ และยังไม่เคยทำคนอื่น ก็ลองดูจากข่าวจากกรณีครึกโครมที่เพิ่งเกิดขึ้นก็ได้ ว่าเอาเข้าจริงแล้ว "ผลเป็นเช่นไร?" "ใครที่ต้องทุกข์สาหัส?"


'ฆ่านิยมในวัยเรียน" มีแต่เสีย-ไม่มีใครได้อะไร ไฉนจึง 'ไม่ฉลาด!!!!" ตามแห่กันเกร่อ????

teenee.com




 

Create Date : 20 มิถุนายน 2555   
Last Update : 20 มิถุนายน 2555 17:39:35 น.   
Counter : 767 Pageviews.  


10 กิจกรรมวันฝนตกหนัก

10 กิจกรรมวันฝนตกหนัก
 

วันหยุดที่ฝนตกหนักจนทำให้การออกไปเที่ยวเล่นนอกบ้านต้องผิดแผน

แต่ใช่ว่าเราจะเพลิดเพลินอยู่ที่บ้านไม่ได้

มีกิจกรรมเพื่อกระชับความสัมพันธ์มาแนะนำ

1. เล่นน้ำฝน

ตอนเด็กๆ พอฝนตกลงมาแต่ละที เราเป็นต้องยื่นมือออกไปรับน้ำฝน ถ้าพ่อแม่อนุญาตก็วิ่งถลาออกไปกระโดดโลดเต้น 
แต่แปลกที่พอโตมา ความรู้สึกอยากออกไปเล่นน้ำฝนกลับหายไป ถึงวัยที่ไม่มีใครห้ามให้เราออกไปเล่นน้ำฝนแล้ว
ฝนตกคราวนี้ ลองออกไปยืนกระโดดโลดเต้นด้วยกันราวกับเป็นเด็กๆ ก็คงทำให้คึกคักขึ้นมาได้ไม่น้อย

2. ทำความสะอาดบ้าน

ไหนๆ ฝนก็ตกลงมาชะล้างบริเวณบ้าน ช่วยกันขัดถูทำความสะอาดลานจอดรถ ระเบียง ทางเดินริมสนามให้เอี่ยมอ่อง
ต่อด้วยปัดกวาดเช็ดถูห้องนั่งเล่นห้องนอน ทำไปอย่างช้าๆ สบายอารมณ์ เราไม่ต้องรีบออกไปไหนอยู่แล้วนี่

3. จดหมายน้อย

เขียนกระดาษโน้ตบอกความรู้สึกแปะซ่อนไว้ให้ทั่วบ้าน แล้วสลับกันค้นหา ลองคิดค้นคำที่มันเป็นของพวกคุณสองคน
มากกว่าคำว่า “ฉันรักเธอ”

4. เล่นเกมส์     

เกมส์กระดาน หมากรุก หมากฮอส เกมเศรษฐี เกมส์กด เกมส์เพลย์สเตชั่น เกมส์วี เกมส์คอมพิวเตอร์
มีเกมส์อะไรอยู่ที่บ้านขุดออกมาเล่นให้หมด การเล่นเกมส์ทำให้เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วเหลือเชื่อ

5. ดูหนังมาราธอน

เลือกหนังที่อยากดูร่วมกัน เตรียมเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวไว้ใกล้ๆ เพียงแค่นี้ก็ไม่ต้องออกไปไหนได้ทั้งวัน

6. ฟังเพลง

ค้นหาซีดี (หรือคาสเซต?!) เพลงโปรดสมัยที่คบกันใหม่ๆ เพลงเก่าๆ
ดึงเราให้กลับไปสู่ช่วงเวลาหวานชื่นกระชุ่มกระชวยนั้นได้อีกครั้ง

7. แลกหนังสือเล่มโปรดกันอ่าน

ลองอ่านหนังสือเล่มที่คนรักของคุณชอบ หนังสือที่เขาชอบจะทำให้เรารู้จักกันมากขึ้น

8. ทำอาหาร

เปิดตู้เย็นดูว่ามีอะไรเหลืออยู่บ้าง คิดค้นเมนูใหม่จากสิ่งที่มี แล้วช่วยกันทำอาหารจานเด็ดสูตรพิเศษที่ไม่เคยกินมาก่อน

9. จัดโต๊ะอาหารแบบโรแมนติก

ไม่ว่าอาหารบนโต๊ะจะเป็นอะไร จัดโต๊ะ จัดบรรยากาศให้สวยเข้าไว้ สบตากันเป็นระยะ อาหารก็จะมีรสชาติที่น่าจดจำ

10. เล่านิทานก่อนนอน               

บริหารต่อมจินตนาการ เล่านิทานเพ้อเจ้อต่อกันคนละประโยค สังเกตดูว่าเรื่องราวที่เล่าออกมา มักมาจากเรื่องจริงในส่วนลึกของทั้งสองคน

...จากนั้นก็เลือกตอนจบด้วยตัวเอง ว่าคืนนี้อยากให้จบแบบไหน


ขอบคุณ : live-everymoment




 

Create Date : 18 มิถุนายน 2555   
Last Update : 18 มิถุนายน 2555 13:35:17 น.   
Counter : 1124 Pageviews.  


1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  

chiza_love
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




New Comments
[Add chiza_love's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com