เช่นเดียวกันกับแรงยกและน้ำหนัก ก็เปรียบกับการถือของ ถ้าคนยกมีแรงยกมากกว่าน้ำหนักที่จะยกก็ย่อมสามารถจะยกของนั้นได้ในทางกลับกันหากคนยกมีแรงน้อยกว่าน้ำหนักก็ย่อมไม่อาจยกของหรือหากถือของอยู่ก็ย่อมเกิดการร่วงหล่น
แล้วอะไรละที่ทำให้เกิดแรงดังกล่าวขึ้น ????
แรงขับ เกิดจากกำลังของเครื่องยนต์ ยิ่งเครื่องยนต์แรงเท่าไหร่ก็ให้แรงขับมากขึ้นเท่านั้น นี่คืออีกหนึ่งเหตุผลที่ว่าทำไม F-16 F-5 จึงมีความเร็วสูงเพราะเครื่องเหล่านี้ใช้เครื่องยนต์ไอพ่นที่แรงขับสูง
แรงฉุด เกิดจากการที่เครื่องบินเครื่องที่ ผิวของเครื่องบินและตัวอากาศยานเกิดการปะทะกับ
มวลอากาศทำให้เกิดแรงต้านขึ้น นี่เป็นเหตุผลว่า การออกแบบเครื่องบินต้องออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ ให้มีแรงต้านน้อยที่สุด
แรงยก หลายคนมีความคิดว่าแรงยกนั้นเกิดจากปีก แต่แท้จริงแล้วแรงยกมิได้เกิดจากปีก อย่างเดียว ตัวอากาศยานก็ช่วยให้เกิดแรงยกเช่นเดียวกัน เช่น การเลี้ยวปีกในมุม bank มาก ๆ rudder ก็จะมี
ส่วนสำคัญในการสร้างแรงยก
* แต่ในที่นี้จะอธิบายถึงตัวกำเนิดแรงยกที่มากที่สุดคือปีก
การออกแบบปีกเครื่องบินมีส่วนสำคัญที่ทำให้เครื่องบินมีแรงยก โดยใช้หลักการที่ว่า อากาศที่มีความดันมากย่อมเคลื่อนที่ไปหาอากาศที่มีความดันน้อย การออกแบบปีกเครื่องบินให้มีส่วนโค้งเพื่อให้ระยะทางในการเคลื่อนที่ของอากาศระหว่างด้านบนปีกและด้านล่างของปีกต่างกัน โดยด้านบนมีระยะทางในการเคลื่อนที่ของอากาศมากกว่าจึงทำให้กระแสอากาศเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงกว่าด้านล่างและส่งผลให้ความกดอากาศด้านบนน้อยกว่าด้านล่างจึงเกิดแรงยก
* ยิ่งมีความแตกต่างกันมากเพียงใดเครื่องบินก็ยิ่งมีแรงยกมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้น การจะเพิ่มแรงยกให้เครื่องบิน จึงทำได้โดยตรงคือ การเพิ่มความเร็ว
น้ำหนัก เกิดจากน้ำหนักของเครื่องบินที่เกิดจากแรงดึงดูดของโลก จากที่กล่าวไปข้างต้นว่า
หากแรงยกมีค่ามากกว่าน้ำหนัก เครื่องบินก็จะสามารถบินได้ ดังนั้นการออกแบบเครื่องบิน จึงต้องคำนึงถึง Performance และการรับน้ำหนัก
หลักใหญ่ใจความ
ขณะเครื่องบินบินระดับ แรงยก = น้ำหนัก
ขณะเครื่องบินไต่ระดับ แรงยก > น้ำหนัก
ขณะเครื่องบินลดน้ำหนัก แรงยก < น้ำหนัก
ขณะเครื่องบินมีความเร่ง แรงขับ > แรงฉุด
ดังนั้น ถ้าไม่อยากให้เครื่องตกก็ต้อง maintain ตามหลักการบินข้างต้นนะ