Do you love movies ?

10 อันดับนักแสดงชายฮอลิวูดที่ผมชอบที่สุด ( 2 )

อันดับ 5



Robin Williams


โรบิน วิลเลียมส์ นักแสดงวัย 58 ชาวชิคาโก้คนนี้ จากกว่า 35 ปีในวงการการแสดงและจากหนังกว่า 70 เรื่องของเค้า ทำให้เค้าได้รับรางวัลมาแล้วทั้งออสการ์ ลูกโลกทองคำ และรางวัลแกรมมี่ ผมได้โอกาสติดตามงานของเค้าเฉพาะงานในยุคหลังๆเสียเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งก็เริ่มอยู่ในช่วงที่เค้าพยายามฉีกตัวเองออกไปจากภาพลักษณ์เดิมๆ เริ่มรับบทบาทการแสดงที่แตกต่าง ซึ่งก็ทำให้มีทั้งหนังดีมีคุณภาพและหนังแป้กอยู่บ้าง แต่ที่ยังคงเส้นคงวงก็คือฝีมือการแสดงของเค้าที่มีมาตรฐานเสมอๆ

อย่างที่เกริ่นไปตั้งแต่แรกว่า ผมมาติดตามงานของโรบิน วิลเลียมส์ก็ในยุคหลังๆไปแล้ว โดยมีโอกาสหางานเก่าๆของเค้าที่ขึ้นชื่อและได้รับการยกย่องมาดูเท่านั้น และที่ผมเคยผ่านตาไปแล้วก็ได้แก่ Good Morning Vietnam , Dead Poets Society , The Fisher King , Jumanji , Good Will Hunting , Flubber , Patch Adams , What Dreams May Come , A.I.: Artificial Intelligence , Insomnia , One Hour Photo , Man of the Year , Night At The Museum และ Night at the Museum 2 ซึ่งจากทั้งหมดนี้หากเทียบกับนักแสดงคนอื่นๆในลิสต์คงผมก็ต้องบอกว่าเยอะ แต่ถ้าเทียบกับผลงานการแสดงของเค้า ต้องนับว่ายังแค่ 20 % เท่านั้นเอง

ในระยะหลังๆ ผลงานของโรบิน วิลเลียมส์อาจจะไม่มีงานที่น่าจดจำ ตรึงตาตรึงใจเหมือนสมัยช่วงวัยกลางคน แต่ผมในฐานะแฟนประจำก็ยังคงเหนียวแน่น และยังคงเฝ้ารอผลงานดีๆจากเค้าอย่าง Good Will Hunting หรือ Dead Poets Society อีกสักครั้ง ซึ่งผมก็เชื่อว่าจะยังมีโอกาสเห็นงานมือขึ้นของเค้าอีกบ้างในอนาคต สุดท้ายผมได้ข่าวมาว่าหัวใจของโรบิน วิลเลียมส์ไม่ค่อยดี และเพิ่งผ่านพ้นจากการผ่าตัดหัวใจไปได้ด้วยดี ก็ขออวยพรให้ลุงสุขภาพแข็งแรง เล่นหนังไปนานๆแล้วกันนะครับ


อันดับ 4



Steve Martin


สตีฟ มาร์ติน , นักแสดง นักพูด พิธีกร นักมายากล นักเขียน นักดนตรี และผู้อำนวยการสร้างหนัง , วัย 64 ปีคนนี้ เป็นมาแทบจะทุกอย่างในวงการสื่อ และด้วยอายุการทำงานในวงการกว่า 40 ปี ทำให้แทบไม่ต้องหาข้อพิสูจน์อะไรอีกแล้วว่าลุงคือของจริงในวงการนี้ และภาพลักษณ์ของสตีฟในสายตาของหลายๆคนตอนนี้ก็คือคุณลุงอารมณ์ดีที่พร้อมจะปล่อยมุขฮาอยู่เสมอๆ แม้ว่าจากบทบาทการแสดงตลกเป็นส่วนใหญ่ จะทำให้การแจกรางวัลต่างๆหมางเมินฝีมือการแสดงของลุงไป แต่การถูกเชิญไปเป็นโฮสต์งานออสการ์ถึง 2 ครังก็แสดงให้เห็นถึงความเก๋าที่รางวัลไม่ต้องมาเอี่ยวของลุงได้เป็นอย่างดี

ผมมีโอกาสดูหนังของสตีฟ มาร์ตินอยู่บ้าง โดยส่วนใหญ่ก็เป็นหนังตลกแบบครอบครัวที่ขำกันได้แบบไม่มีพิษมีภัย อันได้แก่ The Jerk , Father of the Bride , Sgt. Bilko , Bringing Down the House , Cheaper by the Dozen ทั้ง 2 ภาค , Shopgirl และ The Pink Panther ทั้ง 2 ภาค ซึ่งก็ต้องบอกว่าผมได้ดูหนังของลุงสตีฟไม่มากเท่าไหร่ แต่ถ้านับรวมได้มีโอกาสเข้าไปดูการทอล์กโชว์และแสดงมายากลของลุงสตีฟซึ่งก็สร้างความประทับใจให้ผมได้ทุกครั้งไปใน Youtube ด้วย ก็น่าจะมากพอที่จะทำให้ผมชอบลุงสตีฟได้

ในช่วงหลังๆ สตีฟ มาร์ตินเริ่มผันตัวออกจากการแสดง รับงานแสดงน้อยลง และนั่งแท่นทำหน้าที่ผู้อำนวยการสร้างแทน และผมเดาว่าประกอบกับลุงสตีฟได้พบรักครั้งใหม่เมื่อสองปีที่ผ่านมา ทำให้ลุงสตีฟต้องการพักผ่อน ใช้ชีวิตกับครอบครัวและคนรักให้มากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยชื่อชั้นของลุงสตีฟนั้นคงไม่หยุดการแสดงไว้เท่านี้อยู่แล้ว ก็หวังว่างานชิ้นต่อๆไปลุงสตีฟในวัยเกษียณจะมีหนังตลกอบอุ่นดีๆชิ้นต่อไปออกมาอีก และผมก็ยังอยากเห็นลุงออกมาขโมยซีนบนเวทีออสการ์ของแต่ละปีเหมือนเดิมนะครับ


อันดับ 3



Hugh Grant


ฮิว แกรนท์ ไม่ใช่นักแสดงอเมริกันเหมือนตัวเลือกอื่นๆในลิสต์ของผม หนุ่มอังกฤษวัยใกล้ 50 ปีคนนี้โด่งดังมาจากหนังโรแมนติค ในมาดของพระเอกที่อบอุ่นทว่าโดดเดี่ยวเปลี่ยวเหงา มีชีวิตให้กับหน้าที่การงาน นั่นเป็นภาพลักษณ์ที่ติดตัวเฮียเค้าไปแล้ว และทุกยุคทุกสมัยหนังแต่ละเรื่องที่เค้าแสดงก็มักเป็นหนังโรแมนติคคอมเมดีเสมอๆ แต่แฟนๆก็ยังให้การต้อนรับและสนับสนุนการแสดงในมาดนี้ของหนุ่มเจ้าชู้คนนี้ตลอดมาอยู่ดี ซึ่งนั่นก็นับรวมถึงตัวผมเองด้วย

ผมชอบดูหนังโรแมนติค และการที่ฮิว แกรนท์เป็นหนุ่มที่สัญลักษณ์ของหนังอบอุ่นโรแมนติค ก็เป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับผม และทำให้ผมได้มีโอกาสหาหนังโรแมนติคดีๆที่เค้าแสดงมาดูย้อนหลัง สร้างความประทับใจให้ผมได้พอสมควรเลย ไล่มาตั้งแต่ Four Weddings and a Funeral , Sense and Sensibility , Notting Hill , Mickey Blue Eyes , Bridget Jones's Diary ทั้ง 2 ภาค , Two Weeks Notice , Love Actually , American Dreamz , Music and Lyrics จะเห็นว่ามีแต่หนังโรแมนติคหวานซึ้งแทบทุกเรื่อง แต่เรื่องที่ชอบที่สุดของเค้าสำหรับผมและทำให้ผมกลายเป็นแฟนหนังตัวยงของเค้ากลับเป็นหนังก้าวผ่านวัยดีๆอย่าง About a Boy ที่ผยังมองว่าเป็นการแสดงที่ดีที่สุดในชีวิตของเค้าอีกด้วย

ด้วยวัยที่กำลังมากขึ้นเรื่อยๆ ผมคาดหวังว่าฮิว แกรนท์จะเริ่มเปลี่ยนบทบาทมาแสดงหนังที่หนักขึ้นบ้าง เพื่อแสดงฝีมือในบทบาทอื่นๆนอกเหนือจากหนุ่มใหญ่ตามหารักที่เริ่มจำเจขึ้นเรื่อยๆ อย่างน้อยผมก็อยากเห็นฮิว แกรนท์ขึ้นไปรับรางวัลลูกโลกทองคำอีกสักครั้งในฐานะนักแสดง และมากกว่านั้น ผมอยากเห็นหนุ่มใหญ่คนนี้สร้างความสัมพันธ์แบบจริงๆจังๆ และมีครอบครัวเป็นตัวเป็นตนเสียที จะได้สลัดข้อครหาว่าเป็นหนึ่งในเพลย์บอยแห่งวงการหนังออกได้บ้าง ก็ติดตามข่าวของหนุ่มคนนี้กันต่อไปแล้วกันครับ


อันดับ 2



Aaron Eckhart


แอรอน แอ๊คฮาร์ท นักแสดงวัย 41 ( หนุ่มที่สุดในลิสต์ของผมแล้วนะครับเนี่ย ) ที่เพิ่งจะมามีชื่อเสียงโด่งดังเมื่อไม่กี่ปีให้หลังมานี้ ทั้งๆที่ก็เล่นหนังมานานกว่า 10 ปีเข้าไปแล้ว ซึ่งส่วนตัวแล้วผมก็ยังมองว่าด้วยวัยเพียงเท่านี้ เค้ามีโอกาสสร้างความสำเร็จและเกียรติยศในฐานะนักแสดงได้อีกยาวนาน อีกทั้งด้วยการเล่นบทที่แตกต่าง เครียดก็ไหว โรแมนติคก็ได้ หรือจะตลกก็ยังเนียนตา อนาคตการแสดงของเค้าจึงสดใสและน่าจับตามองผลงานชิ้นต่อๆไปกับบทบาทการแสดงอันหลากหลายของเค้า

แอรอน แอ็คฮาร์ทยังไม่ได้เล่นหนังมากมาย และยังไม่ได้เป็นดาราระดับแม่เหล็ก ผมเองก็เพิ่งจะรู้จักเค้าจริงๆจังๆจาก Thank You for Smoking ที่เล่นเป็นนักประชาสัมพันธ์ที่แพรวพราวและแสบสันต์ได้อย่างกวนสุดๆ หลังจากนั้นผมก็ได้มีโอกาสดู The Dark Knight ซึ่งทำให้ผมรู้ตัวแล้วว่าผมชอบการแสดงของเค้า จึงได้ย้อนกลับไปดูผลงานการแสดงเก่าๆของเค้าที่ผ่านมา อันได้แก่ Paycheck , The Black Dahlia และ No Reservations ซึ่งถ้ารวมทั้งหมดแล้วก็เพียง 6 เรื่องเท่านั้น เรียกได้ว่านอกจากจะเป็นนักแสดงที่อายุน้อยที่สุดในลิสต์แล้ว ผมยังมีโอกาสติดตามผลงานของเค้าน้อยที่สุดอีกด้วย แต่ด้วยรูปหน้าที่ดูหล่อแบบหรูหรา แถมยังดูเพลย์บอยนิดๆ ( ที่จริงหน้าเค้าก็คล้ายๆฮิวจ์ เฮฟเนอร์อยู่นะครับ ) บวกกับการแสดงที่น่าจับตามอง ทำให้ผมชื่นชอบและกลายมาเป็นแฟนคนนึงของเค้าในที่สุด

ด้วยช่วงวัยกลางคน กำลังก้าวขึ้นสู่จุดพีคของชีวิตการทำงานในวงการนี้ อีกทั้งฝีมือการแสดงในระดับน่ายกย่องของแอรอน แอ็คฮาร์ท ผมตั้งตารอหนังที่เค้าจะได้แสดงฝีมือเต็มตัวในบทนำ เหมือนที่เค้าทำใน Thank You for Smoking อีกครั้ง ผมเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งด้วยว่าเค้าจะค่อยๆทวีความนิยมและมีชื่อเสียงมากขึ้นเรื่อยๆตามลำดับ จนก้าวขึ้นมาขายชื่อของตัวเองบนโปสเตอร์หนังใหญ่ๆได้อย่างไม่เคอะเขิน ผมจะรอวันนั้นและเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าคงอีกไม่นานเกินรอเท่าไหร่หรอกครับ


อันดับ 1



John Cusack


จอห์น คุสแซ็ก เข้าวินมาอย่างเซอไพรส์คนอ่าน ( รึเปล่า ) ผมเชื่อว่าคอหนังบางท่านอาจจะยังไม่คุ้นเคยกับหนุ่มวัย 43 ปีคนนี้ด้วยซ้ำ แต่สำหรับผมแล้ว เค้าคือสุดยอดนักแสดงที่ไม่มีรางวัล เป็นเหมือนราชาที่ขาดเพียงมงกุฏมาประดับกาย ด้วยอายุการทำงานในวงการกว่า 25 ปี หรือว่าง่ายๆว่าเข้าวงการมาตั้งแต่อายุแค่ 17 ซึ่งน้อยคนนักที่จะยังรักษาคุณภาพและไม่โดนคลื่นลูกใหม่กลืนหายไปได้เหมือนผู้ชายคนนี้ ผมไม่รู้ตัวว่าชอบจอห์น คุสแซ็กตอนไหน หรือชอบที่ตรงไหน แต่มารู้ตัวอีกที เวลามีคนถามถึงดาราฮอลีวูดที่ชอบ ในหัวผมก็ผุดชื่อเค้าขึ้นมาเป็นชื่อแรกทุกทีอยู่เสมอๆ แม้ว่าตัวเองจะยังไม่ได้ดูหนังของเค้ามากมายขนาดนั้นก็ตาม

หนังที่ผมได้มีโอกาสผ่านตามาของจอห์น คุสแซ็กเรื่องแรกจริงๆคือ Con Air ที่เค้ารับบทเป็นตำรวจนักสืบสุดเนี๊ยบ ซึงตอนนั้นผมก็เริ่มสนใจชื่อของชายคนนี้ แต่ก็ยังไม่ได้ชอบแบบเป็นจริงเป็นจังอะไร ต่อจากนั้นผมก็ได้มีโอกาสดูหนังของเค้ามากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นหนังดีแต่อยู่ในระดับเกือบดังทุกครั้งไป ได้แก่ Grosse Pointe Blank , The Thin Red Line , Being John Malkovich , High Fidelity ( ที่ทำให้ผมชอบ และจับตามองเค้า ) , America's Sweethearts , Serendipity , Identity , Runaway Jury , The Ice Harvest , Martian Child , 1408 และ Grace Is Gone รวมถึงงานพากย์หนังการ์ตูนทุกเรื่องของเค้าด้วย เรียกได้ว่าผลงานในระยะหลังๆของเค้านั้น ผมตามเก็บแทบเรียบ เหลือก็แต่งานคลาสสิกอย่าง The Grifters หรือ Say Anything เท่านั้น ที่ผมยังไม่มีโอกาสได้ชม

น่าแปลกใจที่นักแสดงที่ถือว่าเล่นหนังได้อย่างยอดเยี่ยมและเป็นธรรมชาติแบบจอห์น คุสแซ็กถึงไม่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลใหญ่ๆเท่าไหร่ อาจะเป็นเพราะหนังที่เค้าเล่นนั้นมักเป็นหนังเล็กๆหรือไม่ก็หนังอินดี้ ยากที่จะมีผู้ชมในวงกว้างเหมือนหนังบล็อกบัสเตอร์ทั้งหลาย แต่ผมก็ยังประทับใจในการเลือกรับบทหนังแทบทุกเรื่องของเค้าอยู่ดี แม้ว่าหนังจะเล็กขนาดไหน แต่ผมก็ต้องประทับใจกับการแสดงของเค้าและความยอดเยี่ยมของเนื้อเรื่องทุกครั้งไป นี่อาจเป็นเคล็ดลับหนึ่งของจอห์น คุสแซ็กในการยืนพื้นอยู่ในวงการฮอลิวูดมานานกว่า 25 ปีก็เป็นได้

จอห์น คุสแซ็กมีชีวิตที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว ไม่มีคู่ชีวิต ไม่หวือหวา ไม่มีข่าวคราวเกี่ยวกับนักแสดงคนนี้มากนัก และมักจะโผล่มาเฉพาะตอนที่หนังใหม่ของเค้าได้เข้าฉาย ซึ่งก็เป็นดาบสองคมในแง่ที่ว่า เค้าจะไม่ติดภาพชี่วิตส่วนตัวไปกับการแสดงแต่ละเรื่องเหมือนทอม ครูซ แต่ก็ไม่ได้มีโอกาสโด่งดังเป็นดาราที่พูดชื่อไปแล้วเด็กที่ไหนก็รู้จักเช่นกัน แต่ไม่ว่าเค้าจะใช้ชีวิตยังไงผมก็ไม่สนใจอยู่แล้วครับ เพราะผมปลื้มเค้าที่ผลงาน และหวังให้ซักวันเค้าจะได้ก้าวขึ้นไปรับรางวัลทางการแสดงใหญ่ๆบ้างซักครั้ง อย่างน้อยก็ให้หลายๆคนไม่ทำหน้าสงสัย เวลาผมตอบคำถามของพวกเขาว่า "นักแสดงที่ผมชอบชื่อ จอห์น คุสแซ็ก" ก็เท่านั้นเอง




 

Create Date : 30 พฤษภาคม 2552   
Last Update : 30 พฤษภาคม 2552 20:26:56 น.   
Counter : 1251 Pageviews.  

10 อันดับนักแสดงชายฮอลิวูดที่ผมชอบที่สุด ( 1 )

อันดับ 10



Philip Seymour Hoffman


ฟิลิป ซีมัวร์ ฮอฟแมน นักแสดงดีกรีออสการ์ชาวนิวยอร์กวัย 42 ปีคนนี้ คือนักแสดงที่ผมได้มีโอกาสติดตามดูหนังที่เค้าแสดงมากที่สุดคนหนึ่ง ผมไม่ได้ชอบเค้าตั้งแต่ครั้งแรกๆที่เห็น แต่หลังจากเห็นฝีมือในการแสดงที่หาตัวจับยาก เล่นน้อยแต่ให้มาก เล่นได้ทั้งดรามาข้นๆ เฮฮาเบาสมอง หรือแอคชั่นก็ยังไหว สำหรับผมแล้วผมมองว่า เค้าถือเป็นนักแสดงคุณภาพที่สร้างตัวและชื่อเสียงขึ้นมาจากฝีมือในการแสดงล้วนๆเลยนะครับ

อย่างที่ผมบอกไปตอนแรกว่าผมได้มีโอกาสดูหนังที่ฟิลิป ซีมัวร์ ฮอฟแมนแสดงเยอะ อาจเพราะส่วนใหญ่แล้วหนังที่เค้าเลือกเล่นมักเป็นหนังดี และเลือกงานที่ให้เครดิตในแง่บวกกับตัวเองพอสมควร งานแสดงที่ผมมีโอกาสได้ดูเค้าแสดงก็ไล่มาตั้งแต่ Twister , The Big Lebowski , Patch Adams , Magnolia , Almost Famous , Punch-Drunk Love , Red Dragon , Cold Mountain , Along Came Polly , Capote , Mission Impossible III , Charlie Wilson's War และล่าสุดกับ Doubt

ในจำนวนนี้ทั้งหมดที่ผ่านตาไป ผมชอบการแสดงจากแทบทุกเรื่องของเค้า แต่ส่วนใหญ่แล้วผมจะชอบดูการแสดงในบทสมทบมากกว่า เพราะเวลาเห็นการขโมยซีนนักแสดงนำเหมือนที่เค้าเลยทำใน Charlie Wilson's War หรือ Mission Impossible III แล้วผมรู้สึกสะใจอย่างบอกไม่ถูก เอาเป็นว่าใครยังไม่เคยเห็นผลงานของพี่อ้วนคนนี้ก็ลองหามาดูนะครับ รับรองว่าจะต้องประทับใจกับพลังในการแสดงอันสุดยอดของเค้าเป็นแน่


อันดับ 9



Steve Carell


สตีฟ คาเรลล์ นักแสดงวัย 47 ที่เพิ่งจะมาโด่งดังเอาจริงก็ตอนมีอายุไปแล้ว เคยคว้ารางวัลลูกโลกทองคำมาแล้วจากซีรีย์ที่ตัวเองนำแสดง และได้รางวัลอื่นๆจากภาพยนตร์มาบ้างประปราย เรื่องฝีมือการแสดงก็น่าจะหายห่วงเพราะจะเป็นดารานำเองก็ได้ ขโมยซีนก็ไหว พากย์เสียงก็ได้ เล่นตลกก็เวิร์ก หรือดรามาก็ยังแจ๋ว สังเกตได้จากงานแสดงที่ต้องเรียกว่ายิ่งแก่ ยิ่งมีเข้ามาเยอะ และถ้าเป็นแบบนี ผมก็เชื่อว่าซักวันเค้าจะได้มีโอกาสพิสูจน์ตัวเองกับหนังสเกลใหญ่มากยิ่งขึ้นต่อไป

ผมได้ดูหนังของสตีฟ คาเรลล์ที่ทั้งแสดงและพากย์เสียงอยู่พอสมควร เรียกได้ว่าเกินกว่าครึ่งหนึ่งของที่เค้าเคยแสดง ได้แก่ Bruce Almighty , Anchorman , Bewitched , The 40-Year-Old Virgin , Little Miss Sunshine , Evan Almighty , Knocked Up , Dan in Real Life และ Get Smart แน่นอนว่ารวมถึงงานพากย์เสียงในการ์ตูนอนิเมชันของเค้าทั้งสองเรื่องทั้ง Over the Hedge และ Horton Hears a Who! ด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ก็มีบ้างที่ไม่ประทับใจ แต่ก็ไม่ทำให้ความชอบในตัวของเฮียเค้าลดลงไป

แม้ว่าผมจะไม่ได้ดูซีรีย์อย่าง The Office ที่สร้างชื่อให้กับสตีฟ คาเรลล์ แต่ผมว่าแค่เฉพาะในหนังอย่าง Dan in Real Life ที่เค้าแบกหนังดรามา ฮาเล็กๆเรื่องนี้เอาไว้ได้เป็นอย่างดี เท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่จะชื่นชอบในเอกลักษณ์เฉพาะตัวและการแสดงของเค้า ล่าสุดผมก็ได้ข่าวมาว่าเฮียสตีฟจะกลับมารับบทนำใน Get Smart ภาค 2 อีกครั้ง ก็หวังว่าเฮียจะยังรักษาเอกลักษณ์ตลกหน้าตายและฝากฝีมือการแสดงดีๆเอาไว้ได้ต่อไป แล้วผมจะคอยเชียร์แล้วกัน


อันดับ 8



Sean Penn


ฌอน เพนน์ นักแสดงฝีมือพระกาฬวัย 49 ที่คว้าออสการ์สาขาดารานำแสดงมากอดไปแล้วถึง 2 ตัว และยังได้รับรางวัลจากอีกหลายๆสถาบันอย่างล้นหลาม ด้วยอายุการทำงานกว่า 25 ปีในวงการแสดงของเค้าก็ช่วยยืนยันความสามารถทางการแสดงได้เป็นอย่างดี และหลังจากเริ่มอื่มตัวกับการแสดง เค้าก็หันไปทำงานสายกำกับการแสดง ที่น่าชื่นชมไม่แพ้ฝีมือการแสดงของเค้า ด้วยความเก่งรอบด้านแบบนี้จึงไม่แปลกที่ฌอน เพนน์จะเป็นชื่อแรกๆที่หลายคนนึกถึง เมื่อพูดถึงนักแสดงที่มีคุณภาพ

ถ้าเทียบกับผลงานการแสดงของฌอน เพนน์ที่มีออกมา ก็ต้องบอกว่าผมมีโอกาสดูหนังของเค้าไม่เยอะเท่าไหร่ โดยส่วนใหญ่จะเป็นงานในยุคหลังๆของเค้าเสียมากกว่า ที่ผมเคยผ่านตามาก็มีเรื่อง The Thin Red Line , I Am Sam , Mystic River , 21 Grams , The Interpreter , All the King's Men และล่าสุดก็คือ Milk ที่ยิ่งดูยิ่งเห็นถึงความสามารถทางการแสดงระดับเทพของเค้า และไม่น่าแปลกใจเลยที่ในอนาคต นักแสดงจอมเก๋าคนนี้จะคว้าออสการ์ตัวที่ 3 มาสะสมเพิ่มเป็นเกียรติแก่ตัวเองอีกสักครั้ง

ผมยังไม่ได้ดู Into the Wild หรือหนังเรื่องอื่นๆที่ฌอน เพนน์กำกับ แต่ด้วยเสียงร่ำลือของหนังเรื่องนี้ ก็คงเดาได้ไม่ยากว่าคงจะเป็นอีกเรื่องที่ผมจะต้องชอบ ดังนั้นเมื่อคิดถึงฌอน เพนน์ บทบาทการเป็นนักแสดงของเค้าสำหรับผมจึงชัดเจนกว่าบทบาทการเป็นผู้กำกับ และโดยส่วนตัวแล้ว ผมก็ยังคิดว่า I Am Sam คือหนังที่เค้าเค้นความสามารถและแสดงให้เห็นถึงพลังในการแสดงได้มากที่สุดอยู่ดี แค่นี้ผมก็คงไม่ต้องแนะนำอะไรให้มากมายอีกแล้วสำหรับสุดยอดนักแสดงคนนี้


อันดับ 7



John Mulcovich


จอห์น มัลโควิช นักแสดงรุ่นใหญ่วัย 55 ที่ยังมีงานเสริมเป็นผู้กำกับและผู้อำนวยการสร้างให้หนังดีๆอีกมากมาย แต่ผมก็ยังชื่นชอบเค้าในฐานะนักแสดงอยู่ดี ด้วยอายุการแสดงในวงการหนังฮอลิวูดถึง 25 ปี ทำให้เค้าได้มีโอกาสรับบทบาทหลากหลาย ทั้งโจร ทั้งตาแก่ขี้เมา ทั้งนักบุญใจดี หรือแม้กระทั่งเล่นเป็นตัวเอง แต่ด้วยหน้าตาที่ไม่เหมาะจะเล่นหนังโรแมนติก ทำให้ผมมักจะเห็นเค้าอยู่ในบทสมทบหรือไม่ก็บทนำที่เป็นตัวร้ายประจำเรื่องเสมอๆ แต่ขณะเดียวกันผมก็คิดว่านี่แหละที่เป็นจุดขายของลุงจอห์น

ผมได้ดูงานแสดงของลุงจอห์นไม่ได้มากมายอะไร ออกจะดูเฉพาะงานยุคหลังๆเหมือนของฌอน เพนน์ด้วยซ้ำ แต่ผมก็เชื่อว่าไม่ว่ายุคนี้หรือยุคไหน งานแสดงระดับเขี้ยวลากดินของเค้าก็ไม่น่าจะทำให้ผมผิดหวัง เพราะที่ผ่านตามาบ้างทั้ง In the Line of Fire , Con Air , The Man in the Iron Mask , Being John Malkovich , Johnny English , The Libertine , Eragon , Beowulf , Burn After Reading และ Changeling ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่ว่าตัวหนังจะดีหรือไม่ดี สิ่งที่ไม่แปรเปลี่ยนก็คือฝีมือการแสดงของลุงจอห์นนี่แหละ

ถ้าจะว่ากันจริงๆ ผมชอบให้ลุงจอห์นเล่นบทยียวนกวนอารมณ์หรือเรียกเสียงฮา มากกว่าอยู่ในหนังดราม่าเคร่งเครียดเหมือน Changeling ดังนั้นแล้วหนังเรื่องโปรดของลุงที่ผมชื่นชอบเอามากๆในยุคนี้จึงเป็น Burn After Reading ที่ลุงเล่นได้วายป่วงและรั่วได้อย่างเป็นธรรมชาติสุดๆ หรือบทบ้าๆบวมๆแบบใน Being John Malkovich หรือ Johnny English ก็ยังน่าติดตามในความกวนของตัวหนังที่ส่งไปพร้อมกับจังหวะการแสดงของลุงจอห์นได้เป็นอย่างดี แม้ว่าผมเชื่อมั่นว่าในประเทศไทย ยังไงลุงจอห์นก็ไม่มีทางเป็นที่รู้จักและโด่งดังเท่าดารารุ่นใหญ่วัยเดียวกันอีกหลายๆคน แต่อย่างน้อยก็มีผมคนนึงที่ยังคอยติดตามผลงานและให้กำลังใจลุงจอห์นอยู่เสมอๆนะครับ


อันดับ 6



Jim Carrey


จิม แครี่ พระเอกหน้ายางยืด หนึ่งในสัญลักษณ์ของนักแสดงตลกชาวอเมริกันวัย 47 ปีคนนี้ ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่าอยู่ในวงการมานานถึง 30 ปีเข้าไปแล้ว แต่กว่าจะเริ่มเป็นสัญลักษณ์ของความฮาก็เริ่มเข้าสู่ช่วงวัยกลางคนพอดี ซึ่งหลังจากก้าวเท้าเข้าสู่การแสดงหนังตลกเต็มตัวด้วย Ace Ventura: Pet Detective หลังจากนั้นชื่อของเค้าก็เข้ามาเอี่ยวกับหนังตลกยอดนิยมในยุค 90 เสมอมา แม้ในระยะหลังเค้าจะพยายามเปลี่ยนแนวไปเล่นหนังดรามาหรือหรือโรแมนติคดูบ้าง แต่ภาพจำของเค้าสำหรับแฟนๆทุกคนก็ยังหนีไม่พ้นนักแสดงตลกหน้ายางยืดอยู่ดี

ผมได้มีโอกาสดูหนังของจิม แครี่อยู่เยอะพอสมควร และผมยังมองว่าเค้าเป็นมือ 1 ในวงการนักแสดงตลกอเมริกันอยู่เสมอ ไล่เรียงมาตั้งแต่ Ace Ventura: Pet Detective , The Mask , Dumb and Dumber , Batman Forever , Ace Ventura: When Nature Calls , Liar Liar , The Truman Show , Man on the Moon , The Majestic , Bruce Almighty , Eternal Sunshine of the Spotless Mind , Lemony Snicket's A Series of Unfortunate Events , Fun with Dick and Jane , The Number 23 และ Yes Man รวมทั้งหนังอนิเมชันพี่พากย์เสียงร่วมกับสตีฟ คาเรลล์อย่าง Horton Hears a Who! อีกด้วย

ผมเชื่อว่ามีหลายๆคนไม่ชอบจิม แครี่ ในบทบาทการแสดงที่บางครั้งให้มากจนล้น และก็ต้องมีหลายคนเชื่อว่าเค้าดีแต่แสดงตลกเจ็บตัว ทำหน้าบู้บี้เรียกเสียงฮาในหนังแทบทุกเรื่อง ซึ่งในความเห็นของผมเค้ามีดีมากกว่านั้นเยอะ สังเกตจากหนังดรามาดีๆที่เค้าได้โชว์ฝีมือ ไม่ว่าจะเป็น Man on the Moon หรือ The Truman Show ที่เค้าคว้ารางวัลลูกโลกทองคำในฐานะนักแสดงนำมาได้ทั้งคู่ แต่อย่างไรก็ตามภาพจำของเค้าก็ยังเป็นนักแสดงตลกอยู่ดี ซึ่งผมก็มองว่ามันไม่ได้เสียหายอะไร และยิ่งเป็นข้อดีด้วยซ้ำที่ได้เป็นสัญญลักษณ์ของหนังตลกยุค 90 มาจนถึงปัจจุบัน
ตอนนี้จิม แครี่เริ่มเปลี่ยนตัวเอง หาหนังแนวใหม่ๆที่ท้าทายฝีมือเล่น ผมเองก็ไม่รู้ว่ามันจะรุ่งเรืองหรือไม่ แม้ว่าตอนนี้จะเป็นช่วงที่เลยจุดพีคของเค้าไปแล้ว แต่ผมก็ยังคงจะยืนยันตัวเองว่าจะติดตามผลงานของเฮียจิมไปตลอด ทุกเรื่องทุกแนว จนกว่าเฮียจะแสดงหนังไม่ไหวนั่นแหละครับ




 

Create Date : 27 พฤษภาคม 2552   
Last Update : 27 พฤษภาคม 2552 18:21:07 น.   
Counter : 1063 Pageviews.  

10 อันดับนักแสดงหญิงเอเชียที่ผมชอบที่สุด ( 2 )

อันดับ 5



Liu Yi Fei


หลิวอี้เฟย หรือที่ชื่อในวงการหนังฮอลิวูดเรียกว่าคริสตัล หลิว สาวน้อยน่ารักชาวจีนวัย 22 ปี ที่น่ารักต้องตาจนได้รับการคัดเลือกให้เข้าวงการโทรทัศน์ตั้งแต่อายุเพียง 15 ปี นอกจากกงานแสดงแล้ว เธอยังแอบไปโชว์เสียงใสๆออกอัลบั้มมาแล้วด้วยเช่นกัน แม้เธอจะผ่านงานแสดงหนังมาไม่มาก ไม่ได้เป็นนักแสดงฝีมือเยี่ยมชนิดหาตัวจับยาก แต่ด้วยรูปร่างหน้าตาที่น่ารักน่าทะนุถนอมของเธอ ก็ยากที่จะห้ามใจไม่ให้ชอบเธอได้

ผมเคยดูหนังที่หลิวอี้เฟยนำแสดงเพียงแค่ 2 เรื่องเท่านั้น หนึ่งในนั้นเป็นงานโกฮอลิวูดของเธอที่ชื่อเรื่อง The Forbidden Kingdom และอีกหนึ่งเรื่องเป็นหนังไต้หวันที่ชื่อ Love of May ซึ่งหนังทั้งสองเรื่องก็ไม่ใช่หนังที่ผมประทับใจเท่าใดนัก มีเพียงอย่างเดียวที่ทำให้ผมพอมีความสุขกับการดูหนังได้บ้างก็คือเมื่อหน้าขาวใสของหลิวอี้เฟย ปรากฏขึ้นบนจอเงินนั่นแหละ

น่าเสียดายที่ผมยังไม่มีเวลาหาซีรีย์มังกรหยกที่เธอได้รับบทเป็นเซียวเหล่งนึ๊งคนใหม่มาดู ไม่งั้นผมอาจจะหลงใหลเธอมากไปกว่านี้ก็ได้ เพราะโดยปกติแล้ว ผมได้มีโอกาสติดตามผลงานของหลิวอี้เฟยก็เฉพาะการถ่ายแบบหรืองานโฆษณาเท่านั้นเอง แต่อย่างไรก็ตามไม่ว่าผมจะได้ดูหนังของเธอมากน้อยขนาดไหน ผมก็ยังมั่นใจอยู่ดีว่าวงหน้าขาวสวยของเธอได้เห็นเพียงครั้งเดียวก็จดจำได้ตรึงใจไปนานแสนนานแล้วหล่ะครับ


อันดับ 4



Aoi Miyazaki


อาโออิ มิยาซากิ ที่โดนตั้งชื่อเล่นจากแฟนๆชาวไทยว่า "นานะหวาน" หรือ "นานะแบ๊ว" ไปเป็นที่เรียบร้อย และนั่นก็เป็นภาพจำของเธอสำหรับผมไปเรียบร้อยแล้วเหมือนกัน สาวญี่ปุ่นหน้าหวานวัย 23 ปีที่เป็นฝั่งเป็นฝาไปแล้วคนนี้ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าเธอเล่นหนังมา 10 ปีเข้าไปแล้ว แต่ที่มาเปรี้ยงจริงๆก็คงกับบท ฮาจิ จากหนังเรื่อง Nana ที่แจ้งเกิดให้เธอเต็มที่ และทำให้เธอเข้าไปอยู่ในหัวใจของหลายๆคนรวมทั้งผมด้วย

แม้ว่า Nana จะเป็นหนึ่งในหนังดีและน่าแนะนำให้เพื่อนๆได้ดู และสำหรับผมแล้ว ยังมีหนังของอาโออิอีกเรื่องที่ผมประทับใจไม่แพ้กัน นั่นก็คือหนังที่สร้างมาจากหนังสืออย่างเรื่อง Heavenly Forest ที่เปิดช่องทางให้เธอได้แสดงฝีมือและปล่อยของได้เป็นอย่างดี นอกเหนือจากสองเรื่องนี้ ผมยังมีโอกาสได้เห็นอาโออิประกบหนุ่มเกาหลีใน Virgin Snow และได้เห็นอาโออิเล่นหนังแป้กๆบ้างใน Synesthesia ด้วย

แน่นอนว่าเธอไม่ใช่ดาราขายหน้าตา ( แม้ว่าในแวบแรกผมจะชอบเธอที่หน้าตาก็ตาม ) เพราะได้รับรางวัลเล็กบ้างใหญ่บ้างมาแล้วพอสมควร นอกเหนือจากงานแสดงหนังและซีรีย์ อาโออิก็ยังเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับสินค้ามากมาย มีโฆษณาออกมาหลายตัว และมีงานถ่ายแบบเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายออกมาให้ดูกันเป็นระยะๆเสมอๆ ได้เห็นหน้าเห็นตากันไปเรื่อยๆ แม้ไม่บ่อย แต่ก็ต่อเนื่องเป็นประจำ แค่นี้ก็เพียงพอและพอใจแล้วครับสำหรับอิโออิแฟนคลับอย่างผม


อันดับ 3



Son Ye Jin


ซอน เย จิน นางเอกสาวเกาหลีคนแรกและคนเดียวในลิสต์ของผม แน่นอนว่าเธอสวยเหมือนๆกับนักแสดงหญิงคนอื่นๆ แต่สิ่งที่ผมคิดว่าเธอพิเศษและเป็นเอกลักษณ์ของสาววัย 27 คนนี้ก็คือดวงตาที่สวย ทว่าดูเศร้าสร้อย ไม่รู้ว่าผมติดภาพลักษณ์ของเธอที่เป็นนางเอกหนังเศร้ามาจาก The Classic รึเปล่า เพราะเมื่อผมนึกถึงชื่อของซอน เย จินทีไร ผมก็มักนึกไปถึงหนังรักเศร้าๆอย่าง The Classic , Lovers Concerto หรือ April Snow ไปซะทุกที

ผมคิดว่าผมเองติดตามผลงานของสาวคนนี้มามากพอสมควรนะครับ นอกเหนือไปจาก 3 เรื่องข้างต้นแล้ว ก็ยังมี Crazy First Love , A Moment to Remember , The Art of Seduction และ Open City ซึ่งหนังเหล่านี้ผมก็หามาดูโดยสุจริตบ้าง ไม่สุจริตบ้างนั่นแหละ แต่จากหนังทั้งหมดที่กล่าวมา งานคลาสสิกสมชื่ออย่าง The Classic ก็ยังเป็นหนังที่ผมชอบเธอมากที่สุดอยู่ดี เด็กสาวตาเศร้าผูกผมเปียในเรื่องนั้นทำเอาผมใจเต้นตุ๊มๆต่อมๆ เพ้อถึงเธอไปหลายวนเลยทีเดียว

นอกเหนือจากหน้าสวย ตาเศร้าแล้ว ฝีมือการแสดงของซอน เย จินก็เชื่อมือได้ เพราะได้รับรางวัลการันตีผลงานการแสดงมาพอตัวเลยทีเดียว ทั้งนักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยมจาก Lovers Concerto และนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจาก My Wife Got Married นั่นทำให้ผมเชื่อว่า ที่ผมไม่เคยผิดหวังกับหนังของซอน เย จินเลยแม้แต่เรื่องเดียว ก็อาจเป็นเพราะเสน่ห์และฝีมือทางการแสดงของเธอ ที่ช่วยดึงจากหนังแย่ๆกลายเป็นหนังระดับดูได้ ดึงหนังธรรมดาๆให้กลายเป็นหนังดี และที่สำคัญที่สุดก็คือดึงให้หนังดีกลายเป็นหนังดีมากๆ เหมือนที่เธอเคยทำมาแล้วใน The Classic นั่นเอง


อันดับ 2



Ueno Juri


อูเอโนะ จูริ นักแสดงสาวญี่ปุ่นมากฝีมือวัย 23 ปี ที่ผมรู้จักเธอครั้งแรกในฐานะนักแสดงนำในหนังเกี่ยวกับเพลงที่น่ารักอบอุ่นอย่าง Swing Girls ซึ่งด้วยบุคลิกของเธอในตอนนั้นที่ดูห้าวๆ ลุยๆ ผมจึงยังไม่ได้สะดุดตาเธอเท่าใดนัก แต่หลังจากได้ดูซีรีย์ Nodame Cantabile ที่เธอแสดงนำจบลงแล้ว ผมก็พูดกับตัวเองทันทีว่า สาวคนนี้เป็นใครกันนะ ช่างรั่วได้อย่างน่ารัก และมีเสน่ห์อยู่พอตัวเลยนะเนี่ย มารู้ตัวอีกทีก็พบว่าเป็นสาวห้าวคนเดียวกับใน Swing Girls นี่เอง ยิ่งโตยิ่งสวยนะครับเนี่ย

ผมได้ดูหนังที่อูเอโนะ จูริแสดงแค่ 2 เรื่องเท่านั้นเอง แต่ว่าล้วนแต่ประทับใจทั้งตัวหนังและฝีไม้ลายมือในการแสดงของเธอทั้งสิ้น หนึ่งในนั้นคือ Swing Girls ที่ผมเกริ่นไปห่อนหน้านี้ และอีกเรื่องหนึ่งก็คือ Rainbow Song ของเจ้าพ่อหนังก้าวผ่านวัยชุนจิ อิวาอิ ที่เธอได้รับบทนำและแสดงมันได้อย่างดีเยี่ยม หนังทั้งสองเรื่องว่ายอดเยี่ยมแล้ว แต่ก็ต้องหลีกทางให้ซีรีย์ Nodame ซึ่งเป็นหนึ่งในซีรีย์ที่ผมชอบที่สุดถ้าพิจารณาจากแนวหนัง ทั้งเนื้อเรื่องและตัวละครในเรื่อง ซึ่งก็แน่นอนว่าภาพจำของผมสำหรับจูริ อูเอโนะในปัจจุบันก็ยังคงเป็นสาวรั่วในบท โนดาเมะ จากในเรื่องนี้นี่เอง

นอกเหนือจากงานแสดงแล้ว ผลงานของจูริก็ยังมี Photobook และโฆษณาต่างๆ ซึ่งก้เป็นเรื่องปกติสำหรับนักแสดงสาวๆของญี่ปุ่นอยู่แล้ว ในตอนนี้ที่ผมรอคอยก็คือหนังเรื่องล่าสุดที่เธอเล่น ~ Nodame Cantabile - The Movie ซึ่งผมมีโอกาสจะได้ดูหนึ่งในซีรีย์ที่ชอบที่สุด กลายมาเป็นหนังที่รับบทโดยหนึ่งในนักแสดงนำหญิงที่ชอบที่สุด หวังแค่ว่าผมจะได้ดูหนังของเธอเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สาม และจะประทับใจไม่แพ้กับสองเรื่องก่อนหน้านี้ แค่คิดเท่านี้ก็ตื่นเต้นและมีความสุขแล้วหล่ะครับ


อันดับ 1



Aya Ueto


เซอร์ไพรส ~ ส์ ผมเชื่อว่าคงไม่มีใครคาดคิดว่านักร้องหญิงคนนี้จะเข้าวินมาเป็นอันดับ 1 ในการจัดอันดับของผม เธอชื่อว่าอายะ อูเอโตะ สาวญี่ปุ่นวัย 23 ( อีกแล้ว ) อาชีพหลักจริงๆก็คือเป็นนักร้อง และมีงานรองๆเป็นการแสดงหนังและซีรีย์ เหตุมันเกิดขึ้นจากที่ผมดันชอบฟังเพลงญี่ปุ่น และมาสะดุดหูกับเสียงใสๆของเธอ ตามด้วยสะดุดตาภาพลักษณ์ที่น่ารักสดใสของเธอใน MV หลายๆเพลง นำมาสู่ความชอบและกลายเป็นนักร้องเอเชียคนแรกและคนเดียวที่ผมปวารณาตัวเป็นแฟนคลับตั้งแต่ผมยังอยู่ในช่วงวัยรุ่นตอนกลาง และยังคงเป็นแฟนคลับของเธอจนกระทั่งทุกวันนี้

จากเหตุผลที่ยกไป ก็คงพอจะเดาๆได้แล้วใช่มั้ยครับว่าผมชอบเธอโดยไม่มีเหตุผล ในฐานะไอดอลคนแรกที่ชอบเท่านั้นเอง ก็ในเมื่อผมไม่มีกรุ๊ปบล็อกจัดอันดับนักร้องที่ผมชอบซะหน่อย เพราะฉะนั้นผมก็ลากมาวางในฐานะนักแสดงดื้อๆนี่แหละ อย่างน้อยผมก็เคยดูหนังที่เธอแสดงมาตั้ง 3 เรื่อง และซีรีย์อีกตั้ง 2 เรื่อง เพราะฉะนั้นเธอก็ถือเป็นนักแสดงคนหนึ่งด้วยเหมือนกันนี่นา

ผมเคยดูอายะเล่นหนังมาแล้ว 3 เรื่อง ได้แก่ Azumi , Azumi 2: Death or Love และ Install ซึ่งทั้งหมดก็มีความชอบอยู่ในระดับกลางๆค่อนไปทางบวก เช่นเดียวกับซีรีย์ที่เธอเล่นและผมเคยผ่านตามา ทั้ง Attention Please และ Shimokita Sundays แต่ถึงจะชอบหนังมากๆ ก็ไม่ได้แปลว่าต้องชอบนักแสดงในเรื่องเสมอไปซักหน่อย เพราะฉะนั้นผมก็ด้วย ที่ชอบนักแสดงในหนังหรือซีรีย์เรื่องไหนมากๆ ก็ไม่ได้แปลว่าจะเอนจอยกับตัวหนังเสมอไป ดังนั้นในฐานะการเป็นนักแสดงของอายะจึงต้องพัฒนาต่อไปอีก เพื่อให้แฟนคลับอันดับหนึ่งอย่างผมยอมรับ

ผมติดตามอายะ อูเอโตะเหมือนพวกสตอล์กเกอร์เลยทีเดียวครับ เพราะผมหาทั้ง Photobook ของเธอที่ถ่ายไว้ตั้งแตเล่มแรกยันเล่มสุดท้ายๆมาเก็บ รวมทั้งดาวโหลดงานโฆษณาที่ออกมามากมาย ( เธอเป็นเจ้าแม่โฆษณาของญี่ปุ่น ) ของเธอมาเก็บไว้ในเครื่อง รวมทั้งเก็บเพลงในแต่ละซิงเกิ้ลของเธอที่ออกมาอย่างครบถ้วน

อวยกันขนาดนี้แล้ว ก็เอาเป็นว่าผมขอกั๊กตำแหน่งนี้ไว้ตลอดไปให้กับอายะ อูเอโตะแล้วกันนะครับ ฮาาาาาาาา




 

Create Date : 22 พฤษภาคม 2552   
Last Update : 22 พฤษภาคม 2552 18:11:03 น.   
Counter : 2050 Pageviews.  

10 อันดับนักแสดงหญิงเอเชียที่ผมชอบที่สุด ( 1 )

อันดับ 10



Isabella Leong


อิสเบลล่า เหลียง สาวลูกครึ่งจีน - โปรตุเกสวัย 21 ที่เป็นทั้งนักร้อง นักแสดง และนางแบบเสื้อผ้า ผมจำไม่ได้ว่าเห็นใบหน้าสวยเก๋ของเธอครั้งแรกเมื่อไหร่ แต่เดาเอาว่าน่าจะเป็นหนังดูสบายๆเรื่อง Bug me not ที่ผมดูแล้วรู้สึกเฉยๆ เพราะถ้าจะว่ากันจริงๆ เรื่องที่ทำให้ผมสนใจสาวลูกครึ่งคนนี้มากที่สุดก็คงหนีไม่พ้น Spider Lilies ที่เธอได้มีโอกาสปล่อยของในบทเลสเบียนเสียมากกว่า

นักแสดงเอเชียที่หน้าสวยใสก็มีอยู่เยอะแยะนะครับ แต่ถ้าจะนับรวมนักแสดงที่ฝีมือดีรวมเข้าไปด้วย ผมเชื่อว่าก็ตัดทิ้งจากตัวเลือกเดิมได้กว่าครึ่งนึงเลย และแน่นอนว่าอิสเบลล่าจะต้องอยู่ฝั่งที่ทั้งหน้าตาดีและฝีมือดี เพราะเธอได้รับรางวัลการันตีจากหลายสำนัก ทั้งนักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยมจาก Bug me not ทั้งนักแสดงนำยอดเยี่ยมจากหนังเรื่อง Isabella และทั้งนักแสดงสมทบยอดเยี่ยมจาก Diary

ผมไม่ได้เป็นคอหนังจีนหรือคอหนังฮ่องกงนะครับ แต่ผมก็มีโอกาสได้ติดตามงานที่อิสเบลลาแสดงอยู่บ้าง ล่าสุดก็เป็นหนังฮอลิวูดภาคต่ออย่าง The Mummy: Tomb of the Dragon Emperor ที่เธอโผล่มารับบทสมทบ ซึ่งแม้ตัวหนังไม่น่าประทับใจ แต่การแสดงและความน่ารักสวยใสของเธอยังครบเครื่องเต็มเปี่ยมเหมือนเดิม น่ายินดีครับที่เธอได้มีโอกาสก้าวเท้าเข้าไปแสดงฝีมือในฮอลิวูดบ้างแล้ว และผมก็หวังว่าเธอจะโด่งดังเหมือนสาวจีนรุ่นพี่ที่มีโอกาสเข้าสู่วงการหนังฮอลิวูดอีกหลายๆคนนะครับ


อันดับ 9



Gong Li


กงลี่ นักแสดงสาวชาวจีนแถวหน้าของเอเชีย เรื่องฝีมือการแสดงนี่หายห่วง เพราะโลดแล่นอยู่ในวงการจอเงินมากว่า 20 ปี และยังคงมีงานด้านการแสดงทั้งในวงการหนังจีนและในวงการหนังฮอลิวูดรอจ่อคิวอีกมากมาย กงลี่ถือเป็นนักแสดงรุ่นใหญ่ที่ยังดูดีนะครับ ในวัย 40 กว่าๆของเธอแต่ยังรักษารูปร่างให้ดูดี และยังเซ็กซี่ภายใต้หุ่นอวบนิดๆได้อย่างไม่มีปัญหา เท่าที่จำได้ผมน่าจะรู้จักกงลี่ครั้งแรกจากหนังดีที่ดูงงเรื่อง 2046 ครับ

อย่างที่ผมบอกไปก่อนหน้านี้ว่าผมไม่ใช่แฟนหนังจีน และคงไม่มีโอกาสหาหนังที่กงลี่โชว์ฝีมือเรื่องก่อนๆในอดีตอย่าง Farewell My Concubine , Breaking the Silence หรือ Temptress Moon ดังนั้นผมจึงได้เห็นกงลี่พูดภาษาอังกฤษในหนังที่เธอเล่นมากกว่าพูดภาษาจีน ไล่มาตั้งแต่ Memoirs of a Geisha , Miami Vice และ Hannibal Rising และมีโอกาสได้ดูหนังพูดจีนแค่ Curse of the Golden Flower และ 2046 ซึ่งหนังเหล่านี้ก็มีทั้งหนังดีบ้างไม่ดีบ้าง แต่ก็มีสิ่งเดียวที่เป็นค่าคงที่สำหรับผม นั่นคือฝีมือการแสดงของกงลี่

กงลี่ได้รางวัลด้านการแสดงมาจากหลายๆสถาบันทั้งนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมและนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม และเคยได้รับการลงคะแนนให้เป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในประเทศจีนประจำปี 2006 อีกด้วย ด้วยคุณสมบัติทั้งหมดนี้ทำให้กงลี่เป็นผู้หญิงที่ทั้งสวย ทั้งเก่ง ขนาดไมเคิล มานน์ยังชมว่าเธอคือเมอรีล สตรีพแห่งเอเชีย แล้วผมจะไม่ชื่นชอบและชื่นชมเธอได้อย่างไร ~ กงลี่ อีกหนึ่งความภูมิใจของคนเอเชียครับ


อันดับ 8




Riko Narumi


ริโกะ นารูมิ สาวน้อยจากญี่ปุ่นวัย 17 ที่โลดแล่นอยู่ในวงการหนังและวงการละครของญี่ปุ่นมาตั้งแต่ 10 ขวบ และเป็นนักแสดงดาวรุ่งที่น่าจับตามองที่สุดคนหนึ่งของวงการบันเทิงญี่ปุ่น ผมรู้จักเธอครั้งแรกจากละครดราม่าเรียกน้ำตาอย่าง 1 Litre of tears นอกเหนือจากหน้าตาที่น่ารักสดใสสมวัยแล้ว ความสามารถทางการแสดงของเธอก็ทำให้ผมประทับใจไม่แพ้กัน และหลังจากนั้นผมก็สถาปนาตัวเองเป็นหนึ่งในแฟนคลับของเธอ และตั้งมั่นว่าจะหาโอกาสติดตามผลงานเรื่องต่อๆไปของเธออีกด้วย

ผมคิดว่าผมได้มีโอกาสดูหนังญี่ปุ่นมากที่สุดในบรรดาหนังของเอเชียทั้งหมด และทำให้ผมได้มีโอกาสพบเห็นดาราวัยรุ่นหน้าตาน่ารักมากมายในหนังแต่ละเรื่อง หนึ่งในนั้นก็คือริโกะ นารูมิที่ก้าวกระโดดไปรับบทนางเอกเต็มตัวจากหนังเกี่ยวกับเพลงที่แสนละเอียดอ่อนอย่าง Shindo ซึ่งการรับบทนำจากเรื่องนี้ ก็ยิ่งพิสูจน์ศักยภาพในการแสดงของเธอให้เป็นที่ประจักษ์มากขึ้นไปอีก และล่าสุดกับ Ikigami เธอก็แสดงเป็นเด็กสาวตาบอดที่อ่อนไหวได้อย่างยอดเยี่ยมอีกเช่นเคย ถึงตอนนี้ผมคงพูดได้เต็มปากว่าผมมีความสุขทุกครั้งที่เห็นเธอผ่านทั้งจอแก้วและจอเงิน

นอกเหนือจากหนังและละครแล้ว ริโกะ นารูมิยังเล่นโฆษณาอีกหลายชิ้น , เป็นนางแบบให้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ , ถ่ายอัลบั้ม Photobook ของตัวเอง , พากย์เสียงให้ตัวละครในเกมและในหนัง และยังเล่นเปียโนเก่งอีกด้วย แล้วในเมื่อผมเจอสาวน้อยที่ทั้งน่ารักสดใส แถมยังเก่งรอบด้านแบบนี้ จะไม่ให้ผมตกหลุมรักน้องสาวคนนี้ก็คงไม่ได้แล้วหละครับ


อันดับ 7



Yu Aoi


ยู อาโออิ สาวน้อยมหัศจรรย์ตัวจริงเสียงจริง เธอเป็นนักแสดงหญิงชาวญี่ปุ่นที่ผมได้มีโอกาสชมผลงานการแสดงมากที่สุด ด้วยวัยเพียง 24 ปี เธอปรากฏโฉมบนจอเงินและจอแก้วรวมกันมากกว่า 30 เรื่อง และแต่ละเรื่องเธอก็ฝากฝีมือการแสดงเอาไว้อย่างน่าจดจำเสมอมา ผมได้มีโอกาสติดตามผลงานของยู อาโออิตั้งแต่เรื่องแรกที่เธอแสดง นั่นก็คือ All About Lily Chou-Chou ตั้งแต่ปี 2001 และหลังจากนั้นมาเธอก็เป็นเหมือนหนึ่งในนักแสดงที่เป็นสัญลักษณ์ของหนังญี่ปุ่นยุคใหม่ของผม และเมื่อเห็นหน้าค่าตาบ่อยเข้าก็ทำให้ผมรู้สึกชอบเธอในที่สุด

หลังจากผ่านบทนักแสดงสมทบจาก All About Lily Chou-Chou ไปแล้ว เธอก็รับบทนำเต็มตัวใน Hana and Alice และผลงานต่อๆมาที่ผมได้มีโอกาสชมเธอบนจอเงินก็มีมาเรื่อยๆ เรียกได้ว่าเป็นแบบปีเว้นปี ไล่ตั้งแต่ Yamato , Hula Girls และเรื่องล่าสุดที่ผมได้เห็นเธอก็คือ Rainbow Song เป็นที่สังเกตว่ายู อาโออิมักจะแสดงหนังในเครือของชุนจิ อิวาอิ เจ้าพ่อหนังก้าวผ่านวัยของญี่ปุ่น เรียกได้ว่าเป็นขาประจำในหนังของชุนจิคนหนึ่งเลยทีเดียว ซึ่งผมก็มองว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี เพราะหนังที่มีชื่อของชุนจิ อิวาอิประทับอยู่ไม่ว่ากำกับเองหรืออำนวยการสร้างให้ ก็ล้วนเปนหนังดี มีคุณภาพทั้งสิ้น

ยู อาโออิไม่ได้สวยมากมายหากเทียบกับนักแสดงสาวญี่ปุ่นคนอื่นๆ แต่ผมมองว่าเธอเป็นผู้หญิงที่น่ารัก น่าค้นหา และมีดวงตาดูอบอุ่นและชวนให้หลงใหล อีกทั้งฝีมือการแสดงที่ต้องเรียกว่าเป็นมือวางอันดับต้นๆของนักแสดงวัยเดียวกัน โดยยืนยันได้จากรางวัลด้านการแสดงมากมายที่เธอเคยได้รับ ใครที่ยังไม่เคยดูผลงานด้านการแสดงของเธอ อย่าลืมลองหามาชมกันดูนะครับ ผมเชื่อแน่ว่าม่ว่าใครเห็นยู อาโออิก็เป็นต้องรักเธอทั้งนั้น ถ้าไม่เชื่อผมก็ต้องลองพิสูจน์ดูนะครับ


อันดับ 6



Zhang Ziyi


จางจื่ออี้ หรือที่คนทั่วโลกรู้จักกันในนามจาง ซิยี่ นักแสดงสาววัย 30 กะรัตชาวจีน โลดแล่นอยู่ในวงการจอเงินมากว่า 10 ปี มีงานแสดงกว่า 20 เรื่อง ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลต่างๆกว่า 20 ครั้ง และได้รับรางวัลด้านงานแสดงมากกว่า 10 รางวัล นอกเหนือจากการขายฝีมือที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์แล้ว เธอยังหน้าตาสวยแบบผู้ดีและได้รับจัดอันดับเป็นสาวเซ็กซี่ตามงานประกาศผลสาวเซ็กซี่ของหลายๆสถาบันและหลายๆประเทศอีกด้วย

ผมรู้จักจาง ซิยี่ครั้งแรกจากหนังเรื่อง Rush Hour 2 ที่เธอโกฮอลิวูดไปแสดงสมทบให้เฉินหลง หลังจากนั้นด้วยหน้าตาที่สวยเด่นเป็นเอกลักษณ์ทำให้ผมจำเธอได้ในงานต่อจากนั้นเป็นต้นไป ไล่เรียงตั้งแต่ Hero , 2046 , House of Flying Daggers , Jasmine Women , Memoirs of a Geisha , The Banquet และล่าสุดกับ The Horsemen โดยผมยังได้มีโอกาสย้อนกลับไปดูผลงานดีๆของเธอก่อนหน้านี้ทั้ง The Road Home และ Crouching Tiger, Hidden Dragon อีกด้วย เรียกได้ว่าผมดูหนังของจาง ซิยี่มากถึง 50 % ของงานที่เธอรับแสดง

นักแสดงอย่างจาง ซิยี่อาจเรียกได้ว่าโชคดีที่มีโอกาสร่วมงานกับผู้กำกับดังๆมากมาย เช่น จางอี้โหมว , อั้งลี่ , หว่องกาไว หรือแม้กระทั่งร็อบ มาร์แชล แต่ก็ต้องยอมรับว่าถ้าเธอไม่เจ๋งจริง ไม่สวยจริง ไม่มีความสามารถจริง เธอคงไม่สามารถมีโอกาสต่อยอดการแสดงของเธอได้มากถึงเพียงนี้ และผมยังเชื่อว่าจาง ซิยี่จะเป็นสัญลักษณ์ของนักแสดงเอเชียในวงการหนังฮอลิวูดในอนาคตอย่างแน่นอน

โอกาสในการพิสูจน์ฝีมือแสดงของจาง ซิยี่ยังคงมีเวลาอีกมาก ผมหวังเหลือเกินว่าเธอจะก้าวขึ้นสู่เวทีประกาศรางวัลใหญ่ๆอย่างลูกโลกทองคำหรือออสการ์ในฐานะผู้ชนะรางวัลใดรางวัลหนึ่งบ้าง ด้วยฝีมือที่เต็มเปี่ยม ด้วยโอกาสเลือกรับบทที่หลากหลาย ผมเชื่อว่าวันนึงเธอต้องทำได้แน่ๆครับ




 

Create Date : 07 พฤษภาคม 2552   
Last Update : 18 พฤษภาคม 2552 13:43:16 น.   
Counter : 2852 Pageviews.  

10 อันดับนักแสดงหญิงฮอลิวูดที่ผมชอบที่สุด ( 2 )

อันดับ 5



Scarlett Johansson


สการ์เล็ท โจแฮนสันในวัย 24 ที่เข้าพิธีวิวาห์กับสุดหล่อไรอัน เรย์โนลด์ไปเสียแล้วปีที่ผ่านมา ผมรู้จักเธอครั้งแรกจากเรื่อง Lost in Translation ที่ผมไม่ได้ชื่นชอบตัวหนังเป็นพิเศษ แต่กลับไปสะดุดตาอยู่ที่สการ์เล็ทในวัย 19 ที่สวยสะพรั่ง น่ารักเสียเหลือเกิน และนับตั้งแต่นั้นเธอก็มีชื่อเสียงมากขึ้นเรื่อยๆและฝากฝีไม้ลายมือไว้ในหนังเล็กหนังใหญ่อีกหลายเรื่องเลยทีเดียว

ผมไม่รู้ว่าอย่างสการ์เล็ท โจแฮนสันจะเรียกว่านักแสดงขายฝีมือได้รึเปล่า เพราะในความคิดผมแล้ว ผมชอบเธอที่ภาพลักษณ์และรูปลักษณ์ภายนอกเสียมากกว่า น่าสังเกตว่าหนังที่เธอต้องเล่นประกบกับนักแสดงหญิงอีกคน เธอมักจะโดนกลบหรือไม่ก็ไม่โดดเด่นเท่า ยกตัวอย่างง่ายๆกับหนังที่ผ่านมาเร็วๆนี้อย่าง The Other Boleyn Girl หรือ Vicky Cristina Barcelona ก็จัดว่าเข้าข่าย แต่อย่างไรก็ตามผมไม่สนใจหรอก เพราะในสายตาผมแล้วเธอก็ยังคงเป็นนักแสดงที่น่าสนใจและดูสวยอยู่เสมอๆ

แม้ว่าจะอายุแค่ 24 แต่สการ์เล็ทแสดงหนังมาแล้วเยอะพอสมควร และผมก็จัดว่าเป็นแฟนคลับของเธอคนนึง เพราะรู้ตัวอีกที ก็ดูหนังของเธอไปแล้วตั้ง 10 เรื่อง คือ Lost in Translation , Girl with a Pearl Earring , A Love Song for Bobby Long , In Good Company , Match Point , The Island , The Prestige , The Nanny Diaries , The Other Boleyn Girl และ Vicky Cristina Barcelona ถ้านับว่าหนังเรื่องไหนของสาร์เล็ทที่ดีที่สุด ผมก็ขอตอบแบบไม่ลังเลว่า The Prestige แต่ถ้าถามว่าผมชอบการแสดงของสการ์เล็ทจากหนังเรื่องไหนที่สุด ผมคงต้องตอบว่า The Nanny Diaries ที่ผมเชื่อว่าเป็นบทที่เธอน่ารัก สดใสสมวัย และเหมาะสมกับภาพลักษณ์ของเธอมากที่สุด


อันดับ 4



Haley Bennett


ฮาลี่ เบนเนท อาจจะไม่คุ้นหน้าคนที่ไม่ใช่คอหนังโรแมนติค หรือถ้าเป็นคอหนังโรแมนติค แต่พลาดหนังเรื่อง Music & Lyrics ไป ก็คงจะไม่รู้จักสาวน้อยอายุ 20 ปีคนนี้เช่นกัน และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่ผมเลือกนักแสดงหญิงเข้ามาติดอันดับ ทั้งๆที่เคยดูผลงานของเธอเพียงเรื่องเดียว สงสัยว่าผมจะโดนเสียงใสๆและความขาวสวยของเธอเล่นงานเข้าอีกแล้ว

หนังเรื่อง Music & Lyrics ออกฉายปี 2007 มีฮิว แกรนท์ พระเอกขวัญใจของผมแสดงนำคู่กับน้าดรู แบรี่มอร์ ส่วนฮาลี่ เบนเนทที่ผมชอบนั้นเล่นเป็นนักร้อง และแน่นอนว่าเล่นจริง ร้องจริง และเพลง Way back in to love ที่เธอกับฮิว แกรนท์ร้องคู่กัน ก็ฮ็อตฮิทติดอันดับสถานีวิทยุทั้งในและต่างประเทศอยู่นานเลยทีเดียว นอกจากนี้ ปีที่ผ่านมาฮาลี่ก็ยังมีผลงานอย่าง Marley & Me ที่กวาดรายได้ในบ๊อก ออฟฟิสไปได้เพียบ แม้ว่าเธอจะยังเล่นเป็นตัวละครสมทบก็ตาม

จนถึงปัจจุบันฮาลี่ เบนเนทเล่นหนังไปแล้ว 4 เรื่อง แต่ได้เข้ามาฉายในไทยเพียงเรื่องเดียว คือ Music & Lyrics ส่วน Marley & Me นั้นพี่ไทยส่งตรงลงแผ่น และผมยังไม่ได้มีโอกาสดู ที่ผมได้แต่หวังในตอนนี้ก็คืออย่าให้ฮาลี่ต้องกลายเป็นนักแสดงวัยรุ่นผมบลอนด์อีกคน ที่เล่นเป็นแต่หนังผีกับหนังตลก ก่อนจะหายเข้ากลีบเมฆไปเหมือนดาราวัยรุ่นหลายๆคนเลย อย่างน้อยเสียงร้องของเธอก็ยอดเยี่ยมจนเอามาร้องเป็นซาวแทร็กซ์ของหนังได้อีกหลายเรื่อง หวังว่าทางผู้กำกับที่นั่นจะเล็งเห็นศักยภาพ และให้โอกาสเธอในการแสดงฝีมือและโผล่หน้าสวยๆ เสียงใสๆมาทักทายแฟนคลับอย่างผมต่อไปนะครับ


อันดับ 3



Zooey Deschanel


ซูอี้ เดชาแนล ที่ถ้าบอกว่าเป็นคู่แฝดของนักร้องชื่อดังเคธี่ เพอรี่ ผมก็คงเชื่อ เพราะนอกจากหน้าตาจะเหมือนกันแล้ว นักแสดงวัย 29 คนนี้ยังเป็นนักร้องและมีวงดนตรีกับเค้าด้วยเหมือนกัน แต่ที่ผมชื่นชอบเธอนั้นไม่ได้มาจากฐานะการเป็นนักร้องหรอกครับ แต่เป็นการแสดงที่เล่นได้อย่างน่ารักและมีเสน่ห์ทั้งหลายมากกว่า

แน่นอนว่าด้วยรูปลักษณ์ภายนอกอย่างรูปร่าง หน้าตา มันย่อมเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผมเลือกจะชอบนักแสดงหญิงแต่ละคนอยู่แล้ว แต่สิ่งที่แตกต่างออกไปนอกจากความสวย ก็คือความโดดเด่นและฝีไม้ลายมือนี่แหละ โอเคครับว่าซูอี้ไม่เคยได้รับรางวัลใหญ่ๆการันตีฝีมือของเธอมาก่อน แต่การปรากฏตัวในจอเงินของเธอในฐานะนักแสดงสมทบหลายๆเรื่อง มันดึงดูดความสนใจของผม และหลายครั้งที่ผมเฝ้ารอให้เธอกลับมาปรากฏตัวในจออีกครั้ง ทั้งๆที่เธอไม่ใช่ตัวละครหลักของเรื่องด้วยซ้ำ

ซูอี้เล่นหนังไม่ได้มากมายครับ และส่วนใหญ่ก็เล่นในฐานะนักแสดงสมทบ หรือถ้าเล่นเป็นนักแสดงหลักก็มักจะเป็นหนังขนาดเล็ก - ขนาดกลาง ผมก็มีโอกาสได้ดูหนังของเธอบ้างตามแต่โอกาสที่จะดูได้ ที่ผมผ่านตามาแล้วก็คือ Almost Famous , Failure to Launch , Bridge to Terabithia , The Assassination of Jesse James by the Coward Robert Ford , The Happening และ Yes Man ส่วนบทที่ทำให้ผมชอบเธอมากที่สุดก็มาจากบทคุณครูสาวเก่งจาก Bridge to Terabithia ที่ผมเชื่อว่าใครได้ดูก็คงตกหลุมรักเธอกันได้ง่ายๆ แน่นอนว่าการตกหลุมรักของผมก็เริ่มจากเรื่องนี้แหละครับ


อันดับ 2



Rachel McAdams


ราเชล แม็คสดัมส์ นักแสดงชาวแคนาดาวัย 30 กะรัตอีกคน ที่ถือว่าเข้าวงการช้ากว่านักแสดงอื่นๆในอันดับของผม เพราะกว่าเธอจะได้เริ่มเล่นหนังจริงๆจังๆ และเป็นที่รู้จักก็ปาเข้าไปอายุ 24 กับหนังเบาสมองอย่าง The Hot Chick ตามด้วยผลงานที่ทำให้เธอโด่งดังเป็นพลุแตกกับบทราชินีกลุ่มไฮสคูลในเรื่อง Mean Girls และผมก็เป็นอีกคนหนึ่งที่รู้จักและชื่นชอบเธอจากเรื่องนี้

แม้ว่าผมจะมีโอกาสได้ดูหนังของราเชลไม่มากนัก และเรื่องที่เธอได้โชว์ฝีมือการแสดงแบบเต็มที่ก็ยังไม่ค่อยมี แต่ผมก็ยังคงชื่นชอบสาวผมแดงคนนี้ไม่แปรเปลี่ยน โดยเฉพาะจาก The Notebook ที่เธอและไรอัน กอสลิ่ง นักแสดงขายฝีมืออีกคนที่ผมชอบได้มาประกบคู่กัน และรักกันนอกจอนั้น ผมตื่นเต้นและมองว่าทั้งคู่สมกันดีเหลือเกิน รวมทั้งเชียร์ให้ทั้งคู่ได้ลงเอยเป็นฝั่งเป็นฝากัน แต่ในที่สุดทั้งคู่ก็แยกทางกันด้วยดี คิดในแง่นึงก็เสียใจที่ทั้งคู่ประคองความรักไปไม่รอด แต่อีกแง่ก็ดีใจที่ราเชลยังได้ใช้ชีวิตอิสระและอาจได้พบคนที่ใช่มากกว่าในอนาคต

ผมได้ดูหนังของราเชลเพียง 5 เรื่องเท่านั้น คือ The Hot Chick , Mean Girls , The Notebook , Wedding Crashers และ Red Eye ที่ผ่านตามา 3 ปีเข้าไปแล้ว แม้ว่าหลังจากนั้นหนังของราเชลจะไม่โด่งดังเท่าที่ควร แต่ผมก็ยังเชื่อว่าเธอยังคงรอคอยโอกาสที่จะแสดงความสามารถต่อไป อย่างน้อยในปีนี้ผมก็จะได้ชม Sherlock Holmes ที่น่าจะเป็นหนังสเกลใหญ่อีกเรื่องที่จะทำให้เธอคัมแบก และไต่ขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นต่อไป ยังไงๆผมก็เป็นกำลังใจให้คุณเสมอนะครับ ราเชล แม็คสดัมส์


อันดับ 1



Anne Hathaway


แอน แฮททาเวย์ เจ้าหญิงวัย 26 ของผม ที่ยังคงความน่ารัก น่าทะนุถนอมไว้ได้เหมือนกับวันแรกที่ผมรู้จักเธอ นอกจากหน้าตาน่ารักแล้ว ฝีมือการแสดงของเธอก็ต้องบอกว่าไม่ธรรมดา เพราะล่าสุดก็ได้เข้าชิงออสการ์สาขานักแสดงนำหญิงจากหนังกึ่งสารคดีอย่าง Rachel Getting Married และเชื่อว่าในอนาคตเธอน่าจะมีโอกาสแสดงฝีมือและเข้าชิงรางวัลต่างๆอีกพอสมควร

จากภาพลักษณ์นักแสดงสาวหวาน เจ้าหญิงจอมแก่นแสนซนใน The Princess Diaries ทุกวันนี้ ผมเชื่อว่าทุกคนคงมองเธอเป็นอีกหนึ่งนักแสดงคุณภาพที่ขายฝีมือได้เต็มตัว เพราะนอกจากการพยายามลบภาพเด็กวัยรุ่นไร้เดียงสาของแอนในหนังเรื่องต่อๆมาของเธอแล้ว การแสดงแต่ละเรื่องของเธอยังมีคุณภาพเชื่อถือได้เสมอมาอีกด้วย

ผมชอบแอนมาตั้งแต่หนังเรื่องแรกของเธออย่าง The Princess Diaries และได้มีโอกาสติดตามผลงานต่อๆมาของเธออย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น Ella Enchanted , Havoc , Brokeback Mountain , The Devil Wears Prada , Becoming Jane , Get Smart , Rachel Getting Married และกำลังเฝ้ารอ Bride Wars หนังแนวถนัดที่แจ้งเกิดให้กับเธออย่างตื่นเต้น ผมอาจจะแตกต่างจากคนอื่นๆที่ชื่นชอบเธออยู่บ้างก็ตรงที่ ผมไม่ได้ชอบเธอจากหนังเรื่อง The Devil Wears Prada ที่สุด แต่กลับชอบภาพลักษณ์เจ้าหญิงแก่นแก้วไร้เดียวสาจาก The Princess Diaries ที่สุด และผมเชื่อว่าไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าใด ภาพจำของเธอก็จะยังคงเป็นเจ้าหญิงน้อยๆที่ผมรักตลอดไป




 

Create Date : 13 เมษายน 2552   
Last Update : 7 พฤษภาคม 2552 18:32:58 น.   
Counter : 5192 Pageviews.  

1  2  

Branelay
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




[Add Branelay's blog to your web]