Do you love movies ?

5 อันดับหนังตลกร้ายที่ผมชอบที่สุด

อันดับ 5



Hot Fuzz


หนังตลกร้ายสุดเพี้ยนของผู้กำกับที่ถนัดทำหนังชวนหัวแบบนี้เหลือเกินอย่าง เอ็ดการ์ ไรท์ ซึ่งก็ได้ไซม่อน เป็กกลับมาแสดงนำและช่วยเขียนบทเหมือนเดิม ผนวกรวมกันออกมาเป็นหนังตลกร้ายที่ได้คุณภาพครบรส ทั้งตลก ทั้งแอคชั่น ทั้งมันส์ ทั้งหักมุม ด้วยเนื้อเรื่องที่เอื้ออำนวย ทำให้หนังเรื่องนี้จะดูเอาฮาก็ไหว จะดูเอาความมันส์ระทึกใจก็ไม่มีปัญหา

หนังว่าด้วยนิโคลัส แองเจิ้ล นายคำรวจตงฉินที่ทำหน้าที่ได้อย่างไม่มีที่ติ เขาเป็นคนบ้างานสุดๆ และด้วยความตรงเป็นไม้บรรทัดแบบนี้ ทำให้นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายคนไม่ชอบ และสั่งเด้งเขาไปอยู่ในเมืองที่อัตราการก่ออาชญากรรมน้อยที่สุดในประเทศ ที่นั่นนิโคลัสได้เจอกับเพื่อนตำรวจไม่เอาถ่านที่ชื่อแดนนี่ รวมทั้งตำรวจอีกหลายๆคนที่วันๆเอาแต่นั่งสูบบุหรี่อยู่ในสำนักงาน เพราะทั้งเมืองแทบจะไม่มีงานอะไรให้ต้องทำ นอกจากตามหาสัตว์เลี้ยงของชาวบ้าน หรืออะไรเทือกๆนี้ โดยแทบไม่มีปัญหาการก่ออาชญากรรมใดๆในเมืองเลยตลอดเป็นเวลาหลายปีมาแล้ว

แต่ด้วยความสมบูรณ์แบบจนน่าสงสัย ทำให้นิโคลัสตรวจสอบพบว่าขณะที่อัตราการเกิดอาชญากรรมต่ำเตี้ยเรี่ยดิน แต่อัตราการเกิดอุบัติเหตุกลับยาวเป็นหางว่าว และแล้ววันหนึ่งนิโคลัสก็พบว่ามีคนตายอย่างอนาถในเมืองแห่งนี้ แต่ตำรวจในสน.กลับสรุปอย่างง่ายดายว่า "มันเป็นอุบัติเหตุ" แล้วลงบันทึกมันซะอย่างนั้น ทำเอาคนอย่างนิโคลัสปล่อยเอาไว้ไม่ได้ ก่อนจะสืบลึกลงไปค้นพบความจริงและความลับอันน่าตกใจของชาวเมืองนี้

ฟังพล็อตดูแล้วเหมือนหนังลึกลับมั้ยครับ อันที่จริงมันก็มีฉากการสืบสวนเล็กๆน้อยๆนะครับ แถมหักมุมได้ช็อกใช่เล่น ฉากฮาๆหรือล้อเลียนหนังเรื่องอื่นๆก็มากอยู่ แต่ด้วยทั้งหมดที่กล่าวมามันหนักไม่เท่าความตลกร้ายของเรื่องครับ โดยเฉพาะฉากเปิดเผยตัวจริงของฆาตกรในเมือง ผมไม่อยากสปอยล์ว่ามันเหมือนชุมนุมล่าแม่มดในสมัยโบราณไม่มีผิด คนใส่ฮูดหัวโบราณยืนประชุมว่าจะฆ่าใครดี โอ้ยย ตลกร้ายสุดๆครับเรื่องนี้


อันดับ 4



A Stranger of mine


หนังญี่ปุ่นสุดฉลาด เขียนบทและกำกับโดยเคนจิ อุชิดะ ด้วยความฉลาดในการเล่าเรื่องทำให้หนังเรื่องนี้คว้ารางวัลสำคัญๆในญี่ปุ่นมาแล้วมากมาย ว่าด้วยความสัมพันธ์ของผู้คนภายในระยะเวลาแค่คืนเดียว แต่ถ่ายทอดออกมาหลากหลายมุมมอง แล้วให้คนดูนำไปปะติดปะต่อเอาเอง แต่ก็ไม่ได้ทำให้เข้าใจยากขนาดต้องดูหลายๆรอบ แถมยังดูสนุกและทำให้เกิดความกระหายใคร่รู้ในการกระทำของแต่ละตัวละคร ว่ามันจะนำไปสู่การลงเอยอย่างไรกันแน่

หนังเรื่องนี้เล่าเรื่องย่อลำบากครับ เพราะหนังเล่าผ่านมุมมองของหลายๆตัวละคร เอาไปว่าผมจะเล่าความตลกร้ายของบางฉากในหนังเรื่องนี้ให้ฟังดีกว่า เริ่มจากเรื่องของเจ้าพ่อแกงค์มาเฟียคนนึง ที่เงินก็ไม่ได้มีมากมาย แต่เนื่องจากต้องวางภาพลักษณ์ให้สมเป็นหัวหน้า จึงทำปึกเงินที่ข้างในมีแต่กระดาษเปล่าขึ้นมา (แปะหน้าด้วยเงินจริงสองด้าน) คุณเจ้าพ่อคนนี้เดินถือฟ่อนเงินที่บรรจุแต่กระดาษเปล่าอวดลูกน้องหลายๆคน รวมทั้งแฟนของตัวเองด้วย จนโดนคุณแฟนหักหลัง ขโมยปึกเงินไปจนหมด โดยไม่รู้ว่าแต่ละฟ่อนที่หยิบมาเนี่ย มีแต่กระดาษเปล่าทั้งนั้น

ซึ่งพอรู้ความจริงว่าเงินตัวเองโดยขโมยไป เจ้าพ่อก็ร้อนรนเต็มที่ ไม่ใช่เพราะเสียดายเงิน แต่เพราะกลัวลูกน้องรู้ว่าตัวเองไม่ได้รวยแบบที่อวดอ้าง ขณะเดียวกับแฟนของเจ้าพ่อก็ไปจ้างนักสืบมาปั่นหัวเล่น จัดฉากให้เป็นแพะรับบาปแทนตัวเองซะ ส่วนตัวเองก็เอาเงินของเจ้าพ่อไปแอบวางไว้ในห้องแฟนเก่าที่เป็นพนักงานบริษัทจอมทึ่ม โดยหารู้ไม่ว่าแฟนเก่ากำลังจะยกห้องของตนให้กับผู้หญิงที่เพิ่งรู้จักกันแทนที่ตัวเองซะแล้ว

พล็อตเรื่องฟังดูยุ่งยาก ซับซ้อน วุ่นวายนะครับ แต่พอดูจริงๆแล้วเข้าใจง่ายมาก เป็นหนังตลกร้ายที่มีพล็อตฉลาดๆ ตัวละครเยอะ ไม่เล่นตามสูตร เดาทางยาก แต่ดูสนุกมากกว่าที่คิดไว้แน่นอนครับ


อันดับ 3



Burn After Reading


หนังของสองพี่น้องโคเอน ที่ถนัดนักกับการทำหนังตลกร้าย โดยเรื่องนี้ได้ดารานำแสดงเพียบ ทั้งแบรท พิต , จอร์จ คลูนีย์ , ทิลด้า สวินตัน , จอห์น มัลโควิช และฟรานเชส แม็คดอมาน ซึ่งแต่ละคนก็มีดีกรีออสการ์หรือชิงออสการ์ปะหน้ามากันมาพอตัว ซึ่งต้องบอกว่าในหนังเรื่องนี้ ดาราขาใหญ่ทั้งหลายเล่นกันได้รั่วสุดชีวิต และเมื่อผนวกกับบทหนังฉลาดๆของพี่น้องโคเอน ทำให้นี่เป็นหนังตลกร้ายชั้นดีที่กวนฝ่าเท้าเต็มพิกัด

หนังเล่าเรื่องของออสบอร์น ค็อกซ์ ซีไอเอขี้เมาที่ถูกเชิญออกจากงาน จนมีความคิดจะออกไปเขียนหนังสือแฉองค์กรณ์ตัวเองประชดชีวิตกันไปเลย แต่ด้วยความซวย ข้อมูลในแผ่นดิสก์ของเค้ากลับโดนสองพนักงานฟิตเนสอย่างแชทและลินดาเก็บได้ และเมื่อพนักงานสองคนนี้เปิดดูข้อมูลก็ต้องตกใจสุดขีดเมื่อพบว่ามันมีแต่ข้อมูลลับทั้งนั้น ทั้งคู่เลยกะจะฟันรายได้จากการแบล็คเมลลุงซีไอเอคนนี้ โดยไม่รู้เรื่องเลยว่าข้อมูลนั้นเป็นเพียงข้อมูลบ้าๆบอๆที่ออสบอร์นจะนำมาไปใส่ในหนังสือของตัวเองเท่านั้น

อีกฝั่งนึงเคธี ภรรยาของออสบอร์นก็นอกใจสามีด้วยการเล่นชู้กับแฮรี่ ซึ่งเป็นเสือผู้หญิงตัวยง ซ้ำร้ายกว่านั้นคือแฮรี่ดันคบอยู่กับลินดาด้วยอีกคน และเรื่องราวเริ่มใหญ่โตขึ้นเมื่อออสบอร์นไม่ให้เงินแก่แชทและลินดาตามที่พวกเขาต้องการ ทำให้แชทและลินดาเอาข้อมูลลับที่จะแต่งเป็นหนังสือของออสบอร์นไปยื่นให้หน่วยสอบสวนพิเศษของรัสเซีย แย่กว่านั้นคือพวกรัสเซียดันเชื่อข้อมูลที่ว่านี่อีก เอาเข้าไป

อ่านแล้วอยากดูมั้ยครับ ผมขอสารภาพว่าดาวโหลดเรื่องนี้มาดูตั้งแต่ก่อนเข้าโรงที่ไทยซะอีก ผมเป็นแฟนลุงจอห์น มัลโควิชน่ะครับ แถมเจอพล็อตเรื่องสุดเพี้ยนแบบนี้เข้าไป หาดูซะเลยดีกว่าแล้วก็ต้องบอกว่าไม่ผิดหวังจริงๆครับ หนังมันฮา รั่ว เพี้ยน ถ่อย และตลกร้ายสุดขีด ใครอยากดูหนังตลกร้ายแบบแรงๆ ผมแนะนำเรื่องนี้แหละครับว่าตลกร้ายได้สุดขีดจริงๆ


อันดับ 2



Little Miss Sunshine


หนังที่หน้าหนังดูน่ารักมาก แต่แฝงไปด้วยความตลกร้ายตลอดทั้งเรื่อง หนังอินดี้ม้ามืดของผู้กำกับโจนาธาน เดย์ตัน ได้ดาราระดับกลางๆมากมายมาร่วมแสดง เป็นหนังที่จะว่าน่ารักสดใสก็ได้ จะว่าตลกร้ายสุดชีวิตก็ได้เหมือนกัน เพราะหนังที่เล่าเรื่องภายในครอบครัวนี้ กลับเป็นหนังโรดมูฟวี่ที่ตีแผ่ความขี้แพ้ของสมาชิกในครอบครัวแต่ละคนออกมาทีละนิด จนมาถึงฉากจบแสนตลกร้ายที่ทั้งขำทั้งสมเพช

เล่าเรื่องง่ายๆของหนังเรื่องนี้ได้ว่า ครอบครัวฮูเวอร์ ที่ประกอบด้วย พ่อผู้เชื่อมั่นในทฤษฏีความสำเร็จ 9 ประการของตัวเอง และคาดหวังจะตีพิมพ์ทฤษฏีของตัวเองเป็นหนังสือ , แม่ผู้ติดบุหรี่และเลิกไม่ได้ซักที , พี่ชายที่ไม่พูดไม่จากับใครเลยจนกว่าจะสอบเป็นนักบินได้ , น้องสาวที่โดนพ่อพูดให้ฟังซ้ำๆว่าจะชนะการประกวด Little Miss Sunshine ได้แน่นอน , คุณปู่ที่ติดยางอมแงม และน้าชายที่เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่ที่เป็นเกย์และเคยฆ่าตัวตายมาแล้ว

ดูจากสมาชิกในบ้านก็น่าจะรู้ซึ้งถึงความตลกร้าย แต่เท่านี้ยังไม่พอ เพราะครอบครัวคนขี้แพ้เหล่านี้จะเดินทางไปทำตามฝันของลูกสาวตัวน้อยที่อยากเป็น Little Miss Sunshine เหลือเกิน โดยพวกเขาจะต้องเดินข้ามรัฐไปยังแคลิฟอร์เนีย ด้วยรถตู้เก่าๆของบ้าน และเผชิญกับอุปสรรคมากมาย รวมทั้งเหตุการณ์ตลกร้ายตั้งแต่เริ่มออกเดินทาง ยันตอนประกวดบนเวทีด้วยซ้ำ แต่ในตอนจบ หลังจากพบเจอกับเรื่องราวมากมายหลากหลาย พวกเค้าก็อาจจะเรียนรู้วิถีทางที่จะหลุดพ้นหนทางแห่งความขี้แพ้แล้วก็เป็นได้

แม้หนังจะตลกร้าย แต่หนังมันสดใสมากๆครับ สีสันของหนังก็เลือกใช้สีสด สะดุดตา ทั้งฉากทัศนียภาพทั่วไปหรือเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของหลายๆตัวละคร ถ้าดูแบบเอาสนุกสนานทั่วไปผมก็แนะนำ เพราะเด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดี แต่ถ้าจะดูในฐานะหนังตลกร้ายแบบซอฟท์ๆ ผมก็แนะนำและยืนยันได้เลยครับว่าไม่ผิดหวังแน่นอน


อันดับ 1



เรื่องตลก 69


เป็นหนังไทยเพียงไม่กี่เรื่องที่ผมประทับใจมากๆ ผลงานกำกับของเป็นเอก รัตนเรือง นำแสดงโดยหมิว ลลิตา และคว้ารางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ผู้กำกับยอดเยี่ยม และนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม จากหลายๆสถาบันมาครองอย่างเป็นเอกฉันท์ รวมทั้งถูกซื้อไปรีเมกโดยนายทุนจากฮอลิวูดแล้วเรียบร้อย และเป็นหนังแนวตลกร้ายที่ผมคิดว่าดีที่สุดในประเทศไทยนับตั้งแต่ผมดูหนังไทยมาเลยด้วยซ้ำ

หนังเล่าเรื่องของตุ้ม สาวพนักงานบริษัทไฟแนนซ์ที่เพิ่งจับฉลากให้ตัวเองต้องออกจากงาน และไม่มีเงินเหลือใช้อีกต่อไปจนอยากฆ่าตัวตาย แต่แล้ววันหนึ่งตุ้มก็เจอกล่องที่บรรจุเงิน 1 ล้านบาทถ้วนมาวางไว้ที่หน้าห้องหมายเลข 6 ของตัวเอง หลังจากตัดสินใจอยู่นาน ตุ้มก็คิดว่าตัวเองจะเก็บเงินนั้นเอาไว้เป็นของตัวเอง จนได้ยินเสียงเคาะประตูห้องจากเด็กค่ายมวย 2 คนที่มาตามเงินคืน ตุ้มไม่ยอมให้เงินคืน และพลาดพลั้งไปฆ่าทั้งคู่ตาย และหมกศพไว้ในห้อง

ต่อจากนั้นตุ้มก็หาวิธีกำจัดศพ รวมทั้งต้องการเชิดเงินหนีไปประเทศอังกฤษ โดยทั้งหมดต้องทำอย่างเร่งด่วนที่สุด ตุ้มจึงไปทำพาสปอร์ตปลอม โดยหารู้ไม่ว่าผู้รับทำพาสปอร์ปลอมคือเจ้าของค่ายมวย และเป็นคนส่งเด็กค่ายมวยไปส่งเงินด้วยตัวเอง และทั้งหมดนี้นำมาซึ่งเหตุการณ์ยุ่งๆตามมา มีอีกหลายๆคนต้องตายในห้องของตุ้ม และเรื่องทั้งหมดเกิดจากน้ำผึ้งหยดเดียวจนลุกลามใหญ่โต กลายเป็นหนังตลกร้ายชั้นดีที่มีสเน่ห์และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนหนังไทยทั่วๆไป

ผมได้ดูหนังเรื่องนี้ผ่านทางเคเบิ้ลทีวี เพราะหาหนังแผ่นลิขสิทธิ์ไม่ได้ซักที เลยต้องเจอกับพวกตัวอักษรศีลธรรมและเซนเซอร์เหล้าบุหรี่ ที่ทำให้อรรถรสของหนังเสียไปพอสมควร แต่อย่างไรก็ตามนี่ก็เป็นหนังดีมากๆอยู่ดี ทั้งบทภาพยนตร์เฉียบขาด ฉลาดหลักแหลม นักแสดงนำระดับคุณภาพ ผู้กำกับระดับอินเตอร์ ผนวกรวมกันเป็นหนังตลกร้ายที่ยอดเยี่ยมและยากจะหาหนังไทยเรื่องใดที่ทำได้ดีเท่ากับเรื่องนี้ ขอแนะนำเป็นอย่างเยิ่ง สำหรับหนังเรื่องตลก 69 สำหรับคอหนังตลกร้ายและคนที่อยากดูหนังไทยดีๆทุกคนครับ


Create Date : 19 มีนาคม 2552
Last Update : 16 ตุลาคม 2553 18:21:56 น. 8 comments
Counter : 8584 Pageviews.  

 
ชอบตลกหกเก้าเช่นกันค่ะ อ่านจบแล้วชักอยากหามาดูอีกแล้วสิ


โดย: anchesa วันที่: 19 มีนาคม 2552 เวลา:19:02:31 น.  

 
ชอบเรื่อง Hot Fuzz เหมือนกัน เเต่โหดไปนิด

สปอยด์







ฉากที่อันเเหลมๆหล่นใส่หัวนักข่าวจนเเบละ!


โดย: ลูกอบรสเขียด วันที่: 19 มีนาคม 2552 เวลา:19:34:31 น.  

 
ชอบ Little Miss Sunshine เหมือนกันครับ
เด็กผู้หญิงแสดงได้มันมาก
เด็กผู้ชายที่ไม่พูดก็กวนดี
ผมรู้สึกเหมือนทุกคนในเรื่องแทนกลุ่มของคนวัยต่างๆในสังคมได้ดีครับ


โดย: โฉมสมัย วันที่: 19 มีนาคม 2552 เวลา:19:49:13 น.  

 
Little Miss Sunshine ตลกร้ายเหรอ?


โดย: Ghoeby วันที่: 19 มีนาคม 2552 เวลา:20:15:02 น.  

 
สวีดัด สวัสดีค่ะ ^^
เย้ เย้ มาแล้วตามคำเรียกร้อง

ทั้ง5 เรื่องได้ดูจริงๆแค่ 2เรื่องเอง
คือ Little Miss Sunshine กับ ตลก 69
ชอบทั้งสองเรื่องนั่นแหละ
ทั้งสองเรื่อง มันมีเสน่ห์ตรงที่การเล่าเรื่อง ทั้งสองใช้เวลาไม่นาน ตลก69 เล่าเรืองคืนเดียวเองด้วยซ้ำ
อีกสามเรื่องยังไม่ได้ดูเลย Hot FuZZ เห็นคนที่บ้านเช่ามาดูแล้วบอกสนุกแต่เราไม่ได้สนใจ สงสัยต้องหามาดูบ้างแล้ว หนังญี่ปุ่นก้อน่าดูนะ A stranger of mine จะจำไว้

ขอบคุณค่ะ จะรอ 5 อันดับต่อไปด้วยใจจดจ่อ ^^"


โดย: i love johnny depp IP: 125.27.51.186 วันที่: 20 มีนาคม 2552 เวลา:16:43:54 น.  

 
รักในบทความคุณมากเลยใ อ่านแล้วได้สาระดี เราอาจเห็นต่างกัน..แต่ไม่เคยปิดกั้นตัวเองในการที่จะรับความคิดผ้อื่นใอ่นProfileร้ว่าศึกษาที่...เลื่อมใส เลื่อมใส......จาก คนแก่


โดย: tew2497@hotmail.com IP: 125.24.78.206 วันที่: 21 มีนาคม 2552 เวลา:13:34:48 น.  

 
11:14 ก็น่าดูนะครับ สนุกดี


โดย: .... IP: 182.52.151.146 วันที่: 21 กันยายน 2553 เวลา:20:41:53 น.  

 
จะหา เรื่องตลก 69 มาดูให้ได้เลยครับ


โดย: คนขับช้า วันที่: 12 กันยายน 2554 เวลา:21:51:11 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Branelay
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




[Add Branelay's blog to your web]