Do you love movies ?

วิจารณ์ Green Lantern (2011)



Green Lantern


หนังซูเปอร์ฮีโร่ระยะหลัง ถูกพัฒนาต่อยอดให้มีมิติมากยิ่งขึ้น ใส่ปมปัญหาในใจตัวละครทั้งฝ่ายธรรมะและอธรรม จนเรื่องราวเข้มข้นน่าสนใจ เห็นได้จาก The Dark Knight (2008), Watchmen (2009), Kick-Ass (2010) หรือล่าสุดกับ X-Men: First Class (2011) ผมจึงแอบหวังเล็กๆ ว่าฮีโร่ตัวเขียวที่หล่อกว่า The Hulk คนนี้ จะสานต่อความสำเร็จของหนังซูเปอร์ฮีโร่ได้ต่อไป น่าเสียดายที่ความคาดหวังกลับไม่ถูกเติมเต็ม เมื่อหนังของผู้กำกับรุ่นเก๋า 'มาร์ติน แคมป์เบล' ไม่สามารถฉีกกรอบซูเปอร์ฮีโร่แบบฉบับเดิมๆ ออกไปได้ ซ้ำร้ายกว่านั้นคือ หนังกลับทำได้แย่กว่าเดิม ทั้งในด้านความสนุกตื่นเต้นที่ไม่เต็มอิ่ม และความอ่อนชั้นเชิงในการเติมอรรถรสให้คนดู จากฉากโรแมนติคกุ๊กกิ๊ก - ฉากตลกกรุ้มกริ่ม และฉากไซไฟกรุบกริบ ที่ล้วนแต่ทำออกมาไม่ได้มาตรฐานทั้งสิ้น

หนังได้นักแสดงระดับแนวหน้าของวงการ ไล่ตั้งแต่ ไรอัน เรย์โนลด์ (ฮาล จอร์แดน - กรีน แลนเทิร์น) ประกบดาวรุ่งน่าจับตามองอย่าง เบลค ไลฟ์ลี่ย์ (แครอล เฟอริส - แฟนเก่าของฮาล) ร่วมด้วย ปีเตอร์ ซาร์สการ์ด (เฮ็คเตอร์ แฮมมอนด์ - วายร้ายประจำภาค), มาร์ค สตรอง (ซีเนสโตร - ผู้มีอำนาจของกลุ่มกรีนแลนเทิร์น) และคุณลุงทิม ร็อบบินส์ (ส.ว.แฮมมอนด์ - พ่อของเฮ็คเตอร์) มาร่วมแจม โดยเรื่องราวในหนังเล่ีาถึง ฮาล จอร์แดน หนุ่มนักบินเสเพลที่ถูกเลือกจากแหวนผู้พิทักษ์ ให้มาทำหน้าที่แทนกรีนแลนเทิร์นคนก่อนที่เสียชีวิตไป โดยฮาลต้องพิสูจน์ตัวเองให้สมาชิกกลุ่มกรีนแลนเทิร์นคนอื่นเห็น ว่าเขามีศักยภาพพอที่จะดูแลและปกป้องจักรวาล ด้วยการปกป้องโลกจากเงื้อมือของนักวิทยาศาสตร์ตัวร้าย ที่ได้รับพลังพิเศษจากต่างดาวด้วยเช่นกัน การต่อสู้ระหว่างกรีนแลนเทิร์นคนใหม่ กับวายร้ายบ้าอำนาจจึงเริ่มต้นขึ้น

น่าเสียดายที่ผู้กำกับไม่สามารถถ่ายทอดจินตนาการในฉากแอ็คชั่น - แฟนตาซีในเรื่องให้สร้างสรรค์ได้มากเท่าที่คนดูต้องการ ยิ่งประกอบกับความแห้งแล้งทางอารมณ์ ที่จะตลกก็ไม่เท่าไหร่ จะดราม่าก็ไม่มีปมน่าสนใจ หรือจะหยิบโยงยกเหตุผลใดมาอภิปรายปรัชญาใดๆ ก็ยังไม่หนักแน่น ทำให้ซูเปอร์ฮีโร่อย่างกรีนแลนเทิร์นกลายเป็นฮีโร่ดาดๆ ที่ไม่ได้น่าเอาใจช่วย หรือเทใจเชียร์ ประกอบกับการที่หนังเปิดเรื่องด้วยการตอกย้ำความไม่รับผิดชอบ และนิสัยแบบเด็กไม่รู้จักโตของฮาล จอร์แดนไว้ด้วย ก็ยิ่งทำให้คนดูรู้สึกผูกพันกับตัวละครน้อยลงไปอีก สุดท้ายแล้วส่วนที่น่าชื่นชมของหนังเรื่องนี้ จึงมีเพียงงานด้านภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจ และเคมีที่เข้้ากันของสองนักแสดงนำ ที่ใช้ความหล่อสวยเฉพาะตัวดึงความสนใจจากคนดูได้ตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง แต่นอกเหนือไปจากนั้นแล้ว Green Lantern ถือเป็นหนังจืดๆ ที่ไม่โดดเด่นสักด้าน และน่าจะทำให้คอหนังซูเปอร์ฮีโร่ต้องผิดหวังไปตามระเบียบ

4.5/10


Create Date : 17 มิถุนายน 2554
Last Update : 17 มิถุนายน 2554 22:30:10 น. 4 comments
Counter : 1152 Pageviews.  

 
มาเยี่ยมชมบล็อกค่ะ

อย่าลืมไปเยี่ยมบล็อกหนูบ้างนะค่ะ

//thailandtravel.bloggang.com/


โดย: nonguide วันที่: 17 มิถุนายน 2554 เวลา:23:29:26 น.  

 
ดูจากตัวอย่าง ก็พอเดาได้


โดย: fvdfg IP: 124.122.47.156 วันที่: 18 มิถุนายน 2554 เวลา:14:26:03 น.  

 
ไม่น่าดูตั้งแต่ตัวอย่างหล่ะ :( (thaicinema.org/board/index.php?topic=696.0) รบกวนเเวะไปอ่านในลิ้งครับเผื่อสนใจ


โดย: pinocchio IP: 1.47.137.95 วันที่: 18 มิถุนายน 2554 เวลา:15:42:47 น.  

 
ผมเห็นด้วยว่าเทคนิคดี, พระนาง หน้าตาดี รูปร่างดี ดูแล้วเพลินจริง ๆ ครับ

แต่บทหนัง หรือการกำกับ ผมว่าดีครับ
ทำผมหัวเราะได้หลายฉากมาก ไม่มีให้ติ เลยครับ

ผมชอบเรื่องนี้ครับ ให้คะแนน 10 เต็มครับ
เหมาะกับคนเครียด ๆ กับงาน และอยากผ่อนคลาย แบบผม เป็นที่สุดครับ ^^


โดย: coconut IP: 202.28.179.5 วันที่: 20 มิถุนายน 2554 เวลา:8:37:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Branelay
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




[Add Branelay's blog to your web]