วิจารณ์ The Help (2011)
VIDEO The Help หนังดราม่าย้อนยุคที่ดัดแปลงจากนวนิยายชื่อเดียวกันเรื่องนี้ เป็นผลงานของผู้กำกับโนเนม 'เทต เทเลอร์' ที่เชื่อแน่ว่าหลังจาก (น่าจะ) มีส่วนร่วมในเวทีรางวัลประจำปีนี้ ชื่อของเขาจะเป็นที่จดจำของคอหนังมากขึ้นแน่ๆ หนังได้นักแสดงพลังหญิงมากหน้าหลายตามาร่วมงานด้วย แถมแต่ละนางมีดีกรีฝีมือไม่เป็น สองรองกันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น เอ็มม่า สโตน, ไวโอล่า เดวิส, ไบรซ์ ดัลลัส ฮาวเวิร์ด, เจสซิก้า แชสเทน และอ็อคทาเวีย สเป็นเซอร์ โดยเรื่องราวในหนังจะพาคนดูย้อนกลับไปสัมผัสแวดวงสังคมไฮโซยุค 60 ของอเมริกา ที่เด็กผิวขาวถูกเลี้ยงดูมาโดยคนรับใช้ผิวดำ ก่อนที่เด็กเหล่านั้นจะเติบโตขึ้นมาเป็นเจ้านายของคนรับใช้เหล่านั้นอีกทีหนึ่ง 'สกีเตอร์' (สโตน) ก็เป็นหนึ่งในเด็กผิวขาวกลุ่มที่ว่า ซึ่งสงสัยและตั้งคำถามเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนที่คนผิวดำควรจะได้รับ จนเธอเลือกจะถ่ายทอดความอยุติธรรมนี้ลงในงานเขียนแจ้งเกิดของเธอ แต่ปัญหาคือ สกีเตอร์อาจหาคนรับใช้ผิวดำที่กล้าพอจะเชื่อใจเธอ เข้ามาพูดคุยคลุกคลีกับเธอ และยอมเล่าเรื่องฉาวโฉ่ของเจ้านายผิวขาวของพวกเธอให้สกีเตอร์ฟังไม่ได้ หนังทำได้ดีในการพาคนดูที่แทบไม่มีภูมิรู้เกี่ยวกับลักษณะทางสังคม ชนชั้นวรรณะ และค่านิยมในยุค 60 เข้ามาในโลกยุคนั้นอย่างเข้าใจง่าย - เข้าถึงได้ แม้หนังจะเลือกเล่าเรื่องในประเด็นที่ละเอียดอ่อน แลดูหนักอึ้งหรือชวนให้เครียด แต่หนังก็เลือกจะดำเนินเรื่องแบบสบายๆ ไม่ขยี้ปมให้ออกมาดราม่าน่าอึดอัด หนำซ้ำกลับแทรกอารมณ์ขันขำๆ ที่เสียดสีจิกกัดเหล่าผู้ดีตีนแดงในเรื่องได้อย่างสนุก จนเรียกได้ว่าในความเพลิดเพลินบันเทิงใจที่คนดูได้รับ ก็สามารถสัมผัสได้ถึงปมปัญหาและความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในฉากนั้นๆ ได้ในเวลาเดียวกันด้วย หนังผูกโยงเรื่องราวความรังเกียจเดียดฉันท์เหล่าคนรับใช้ผิวดำได้อย่างสมเหตุสมผลและน่าเชื่อถือ โดยมีข้อสนับสนุนเป็นความเชื่อฝังหัวแบบผิดๆ จากการเลี้ยงดูแบบรุ่นสู่รุ่น และการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของคนผิวดำที่ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนทุกหย่อมหญ้า นั่นทำให้การลุกขึ้นต่อสู้เพื่อ 'แสดงตัวตน' และ 'ตอบโต้การปฏิบัติต่อกันแบบไม่เห็นหัว' ของกลุ่มคนรับใช้ผิวดำในตอนท้ายเรื่องดูมีพลังจนน่าขนลุก และทวีความสะใจให้คนดูไปเต็มๆ นอกเหนือจากหนังจะดำเนินเรื่องได้อย่างเพลิดเพลินลงตัว ตีแผ่และสะท้อนประเด็นทางสังคมได้อย่างยอดเยี่ยมแล้ว อีกข้อดีหนึ่งที่ต้องยกนิ้วให้ก็คือการแสดงของทีมนักแสดงหญิงทุกคน ที่ล้วนแต่สอดรับเข้าขากันทั้งการรับส่งบทสนทนา และมอบการแสดงที่เป็นธรรมชาติ ไหลลื่นไปกับเรื่องราว บทจะปล่อยมุขก็ใส่เต็มทั้งสีหน้าท่าทาง ขณะที่บทจะโศกซึ้งก็บีบเค้นคั้นอารมณ์ได้ถึงที่สุด เมื่อรวมเข้ากับการเก็บรายละเอี ยดเล็กๆ น้อยๆ ของผู้กำกับ ที่ประณีตบรรจง และใส่ใจในทุกองค์ประกอบ ทั้งองค์ประกอบศิลป์ เสื้อผ้าหน้าผม และการใช้ภาษา - บทสนทนาที่สมจริง (อาทิเช่น ประโยคคำพูดของตัวละครผิวดำในเรื่อง ที่แสดงความไม่รู้หนังสือออกมาโดยที่ไม่ต้องอธิบายเพิ่ม จากการไม่ลากเสียง s ในกริยาที่ตามหลังประธานเอกพจน์บุรุษที่ 3) ก็ทำให้ The Help ถือเป็นหนังคุณภาพที่ดูสนุก ได้ความรู้ ได้ข้อคิด ได้แรงบันดาลใจ และน่าสนใจเป็นอย่างยิ่งสำหรับคอหนังทุกเพศทุกวัย8.75/10 ปล. ในช่วงครึ่งแรกของปี 2011 ถ้าพูดชื่อ 'เจสซิก้า แชสเทน' ขึ้นมา ผมคงงงเป็นไก่ตาแตกว่านักแสดงคนนี้เป็นใคร แต่หลังจากเจ้าหล่อนมีชื่อในบทนำ - บทสำคัญของหนังหลายๆ เรื่อง ที่ทยอยกันเข้าฉายแบบรวดเดียวครบ ยก (The Tree of Life, Texas Killing Fields, The Help และจ่อรอฉายกับ Take Shelter) ก็ทำให้ผมต้องมอบตำแหน่ง 'นักแสดงหญิงที่น่าจับตามองที่สุดในชั่วโมงนี้' ให้เธอแต่โดยดี ปล. 2 นักแสดงหญิงในเรื่องนี้ดูสวยสง่าน่าหลงใหลกันทุกคน ไม่รู้ว่าทีมงานแคสติ้งคัดนักแสดงมาจากไหน รู้แต่ว่าตอนนี้นักแสดงประกอบในเรื่องที่ชื่อ 'อะนา โอไรลีย์' เข้าไปอยู่ในใจผมเป็นที่เรียบร้อย จำชื่อแม่นยำ + รอดูเธอซ้ำในหนังเรื่องต่อไปแน่ๆ ปล. 3 สาขานักแสดงนำและนักแสดงสมทบหญิงของออสการ์ปีนี้ ขอเชียร์คู่ซี้ผิวสีของเรื่องนี้ (ไวโอล่า เดวิส และ อ็อคทาเวีย สเป็นเซอร์) เต็มพิกัด
Create Date : 11 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 11 พฤศจิกายน 2554 16:02:59 น.
5 comments
Counter : 4748 Pageviews.