Do you love movies ?

5 อันดับหนังอนิเมชั่นฮอลิวูดที่ผมชอบที่สุด

อันดับ 5



Ratatouille


การ์ตูนจากพิกซาร์ที่จับเอาหนูมาเป็นตัวเอกได้อย่างน่าสนใจ ผลงานกำกับของผู้กำกับที่ผ่านงานอนิเมชั่นดีๆอย่าง The Incredibles มาก่อน นั่นก็คือแบรท เบิร์ด ได้นักแสดงรุ่นใหญ่หลายคนร่วมให้เสียงพากย์ เช่น ลุงปีเตอร์ โอทูล หรือ ลุงเอียน โฮล์ม และยังคว้ารางวัลอนิเมชั่นยอดเยี่ยมแห่งปี 2007 จากออสการ์มาการันตีความยอดเยี่ยมอีกขั้น แค่นี้ก็แทบไม่ต้องบรรยายแล้วครับว่านี่คือการ์ตูนที่ยอดเยี่ยมที่สุดอีกเรื่องนึง

หนังว่าด้วยเจ้าหนูท่อเรมี่ที่รักการทำอาหารหมดใจ เกิดตกกระไดพลอยโจรไปเจอกับเชฟที่ฝีมือไม่เอาไหนอย่างลินกุยนี ทั้งคู่จึงพึ่งพาอาศัยกันและกลายเป็นเพื่อนสนิทกันในที่สุด เรมี่คอยเป็นหลังฉากควบคุมการปรุงอาหารของลินกุยนีให้ออกมาอร่อยถูกปากนักชิมปากจัดได้สำเร็จ ส่วนลินกุยนีก็คอยเอาอาหารจากครัวมาให้เรมี่เอาไปเลี้ยงครอบครัวหนูของมัน แต่แล้วเรื่องก็พลิกผันเมื่อเชฟมือใหม่หัดขับดันไปแอบชอบเชฟสาวคอเล็ต แถมหัวหน้าเชฟสกินเนอร์ยังคอยขัดขวางความก้าวหน้าของลินกุยนีอีกคน แต่ก็แน่นอนว่าทั้งเรมี่และสกินเนอร์จะต้องร่วมมือกันฝ่าฝันอุปสรรคนี้ไปจนได้ตามสไตล์พิกซาร์

ผมคิดว่าแรททาทูอี้เป็นการ์ตูนที่เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดี นอกจากจะสนุกสนาน น่ารักสดใสแล้ว ยังแฝงสาระ ข้อคิด คำพูดคมๆไว้อีกมากมาย แถมยังเอาสัญลักษณ์แห่งความสกปรกอย่างหนูท่อ ที่ใครๆก็รังเกียจมาสร้างคาแรกเตอร์อีกมุมนึงเสียจนใครๆก็รัก แน่นอนว่ารวมทั้งผมด้วย และไม่พลาดที่จะเลือกแรททาทูอี้มาเป็นหนังการ์ตูนที่ดีที่สุดเรื่องนึงที่จะแนะนำให้ลองเลือกชม


อันดับ 4



Wall E


การ์ตูนที่ใช้หุ่นยนต์ในการเล่าเรื่อง ~ ว๊อลลล อี ของพิกซาร์อีกแล้ว และคว้าออสการ์สาขาอนิเมชั่นยอดเยี่ยมประจำปี 2008 อีกแล้ว แถมยังได้ผู้กำกับผลงานอนิเมชั่นในใจหลายๆคนอย่าง Finding Nemo และ A Bug's Life ที่สั่งสมประสบการณ์และเคยคลุกคลีอยู่ในวงการอนิเมชั่นมานับ 10 ปีที่ชื่อว่าแอนดรู สแตนตั้นมารับหน้าที่กำกับ ผนึกกำลังกับทีมนักพากย์ที่ทำงานพากย์โดยเฉพาะ ทำให้ใครก็ตามที่ได้ดูวอล อีต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เพอร์เฟ็ค !!

หนังเล่าเรื่องในอนาคตของวอล อี ~ หุ่นยนต์เก็บขยะบนโลกมนุษย์ ที่ไม่มีมนุษย์อาศัยอยู่อีกต่อไป สิ่งแวดล้อมเป็นพิษ แถมสิ่งมีชีวิตเจริญเติบโตไม่ได้ และที่หนักที่สุดคือทั้งโลกเต็มไปด้วยเศษขยะอิเล็กทรอนิกส์ วอล อีนอกจากจะทำหน้าที่กำจัดขยะแล้ว มันยังชอบเก็บขยะมาสะสมในบ้านของตัวเอง และใช้ชีวิตกับการดูวีดิโอหนังเก่าๆและเล่นกับแมลงสาบซึ่งเป็นเพื่อนเพียงหนึ่งเดียวของมัน จนวันหนึ่งอีฟ ~ หุ่นยนต์สำรวจรุ่นล่าสุดก็บินมาถึงโลก และได้รู้จักกับวอล อี และจากมิตรภาพแรกเจอก็แปรเปลี่ยนเป็นความรัก และเมื่อมีเหตุที่ทำให้ทั้งคู่ต้องแยกจากกัน วอล อีจึงฮึดสู้ และออกเดินทางสู่อวกาศเพื่อตามหาความรักของตน นำมาสู่เพื่อนใหม่ ศัตรูตัวฉกาจและการผจญภัยครั้งสำคัญ

น่าสังเกตว่าการ์ตูนของพิกซาร์ในยุคหลังๆ มักจะแฝงประเด็นต่างๆที่สำคัญ รวมทั้งข้อคิดที่น่าสนใจ เช่นเดียวกับวอล อี ที่ใส่เรื่องการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นแบ็กกราวน์ของเรื่องได้อย่างแนบเนียน แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่ไม่แปรเปลี่ยนไปเลยในการ์ตูนทุกๆเรื่อง ก็คือความสนุกสนาน ตัวละครที่น่ารักและมีเสน่ห์ รวมทั้งโครงเรื่องที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย เช่นเดียวกับวอล อี ที่ผมมองว่าจะกลายเป็นการ์ตูนในตำนานต่อไป เฉกเช่นเดียวกับ สโนวไวท์ ซินเดอเรลลา หรือการ์ตูนก่อนหน้านี้ของดิสนีย์ ... ถ้ายังไม่เชื่อผม ก็ต้องลองพิสูจน์ด้วยตัวเองนะครับ อย่างน้อยผมก็กล้ารับประกันเลย ว่าไม่มีผิดหวังแน่นอน


อันดับ 3



The Lion King


การ์ตูนที่เก่าที่สุดที่ผมเลือกมาติด 5 อันดับในครั้งนี้ เป็นผลงานของโรเจอร์ อัลเลอร์และร็อบ มิลคอฟฟ์ ที่ชื่อของทั้งคู่อาจจะไม่ค่อยคุ้นหูในวงการการ์ตูนนัก เพราะหลังจากจบจาก The Lion King ทั้งคู่ก็แยกย้ายกันไปกำกับหนังคนแสดงบ้าง กลับไปทำหนังการ์ตูนบ้าง รุ่งบ้าง แป้กบ้างสลับกันไป แต่สำหรับ The Lion King นี้ ผมต้องยอมรับว่าทั้งคู่มือขึ้นและมือถึงจริงๆ เพราะนอกจากจะเป็นการ์ตูนเรื่องแรกๆในยุคนั้น ที่กล้าใช้สัตว์มาเป็นตัวแสดงหลักทั้งเรื่องแล้ว ยังกล้าให้ตัวละครหลักตายซะอีกด้วย

หนังเล่าเรื่องของซิมบ้า ลูกสิงโตจอมซนที่เป็นทายาทของมุสตาฟา เจ้าป่าแห่งพงไพร ที่โดนสการ์ วายร้ายที่หวังครองบัลลังก์เจ้าป่าต่อจากมุสตาฟาซะเองพร้อมลูกสมุนเป็นบรรดาหมาไฮยีนา วางแผนขับไล่ซิมบ้าออกจากพื้นที่ รวมทั้งลอบฆ่ามุสตาฟาอย่างแนบเนียน ตั้งตนเป็นเจ้าป่าและสร้างความเดือดร้อนไปทั่วอาณาบริเวณ ส่วนซิมบ้าที่ถูกแผนของสการ์ไล่ออกจากฝูงตั้งแต่เด็ก ก็ไปเข้าพวกกับหมูป่าพุมบ้า และสกังค์ทีโมน จนกลายเป็นเพื่อนรักกัน หลังจากที่ซิมบ้าได้ข่าวคราวของฝูงตัวเองจากนาล่า ซึ่งเคยเป็นเพื่อนสมัยเด็กว่าสการ์บ้าอำนาจและสร้างความเดือดร้อนไปทั่ว ซิมบ้าและเพื่อนๆจึงตัดสินใจกลับมากอบกู้ชื่อเสียงของมุสตาฟา และโค่นล้มสการ์เพื่อกลับเป็นเจ้าป่าที่แท้จริง

ผมขอสารภาพว่า ตั้งแต่ผมดูการ์ตูนมา วายร้ายในกาตูนที่ผมเกลียดที่สุดก็คือ สการ์ สิงโตจอมเห็นแก่ตัวจากเรื่องนี้นั่นเอง และนี่อาจจะเป็นส่วนตัวที่ผมเลือก The Lion King มาติดอันดับของผมด้วย เพราะว่าฉากที่สการ์แพ้ซิมบ้า และโดนเอาคืนในกองเพลิง เป็นฉากที่ผมรู้สึกสะใจและเรียกอารมณ์ร่วมจากผมได้มากที่สุดในบรรดาการ์ตูนฮอลิวูดทุกเรื่อง แม้ว่าผมอาจจะใช้ความชอบ ความสะใจส่วนตัวมากไปซักหน่อยในการดึง The Lion King มาติดทอปทรี แต่ผมก็ยังยืนยันว่าการ์ตูนเรื่องนี้ก็สนุกสนาน ตื่นเต้น ตลก เฮฮา สดใส และแฝงข้อคิดต่างๆเอาไว้ไม่แพ้การ์ตูนดีๆเรื่องอื่นๆเลย ลองหามาดูกันนะครับ


อันดับ 2



The Simpsons Movie


การ์ตูนที่ไม่ได้มีภาพสวยงาม ไม่ได้แฝงสาระและปรัชญาใดๆ แถมอุดมไปด้วยมุขตลกแบบคนโง่แทบทั้งเรื่องของผู้กำกับเดวิด ซิลเวอร์แมนที่เคยทำซีรีย์ครอบครัวซิมป์สันมาก่อนจนชินตา และนำเอาความฮาแบบวายป่วงของครอบครัวตัวเหลืองมาขึ้นจอใหญ่ได้อย่างไม่น่าผิดหวัง แบบที่คอซีรีย์ครอบครัวซิมป์สันอย่างผมต้องยกนิ้วให้ในความกล้า บ้า และฮาได้อย่างที่ต้องการ

หนังเล่าเรื่องของครอบครัวซิมป์สัน นำโดยนายโฮเมอร์หัวหน้าครอบครัว และพวกพ้องชาวเมืองสปริงฟิลด์ครบทีม โดยในหนังสเกลของเรื่องก็กว้างขึ้นกว่าในซีรีย์เล็กน้อย แฝงการจิกกัดเสียดสีไว้ตามเคยด้วยการพูดถึงชาวเมืองสปริงฟิลด์ที่ต้องการอนุรักษ์แม่น้ำสายหลักของเมือง และซื้อเครื่องบำบัดน้ำเสียมาใช้ โดยมีกฏข้อนึงที่ชาวเมืองทุกคนจะต้องรับรู้ร่วมกัน นั่คือก้ามนำขยะและของเสียใดๆมาทิ้งในแม่น้ำอีกต่อไป แน่นอนว่าคนที่ไม่รู้คือนายโฮเมอร์ ซิมป์สัน และโฮเมอร์ก็นำความวายป่วงมาสู่เมือง เมื่อเขาทำเจ้าหมู Spider Pig ตกลงไปในแม่น้ำ จนเกิดมลภาวะขึ้นเหมือนเดิม ชาวเมืองสปริงฟิลด์จึงร่วมกันเดินขบวนประท้วงเพื่อขับไล่ครอบครัวซิมป์สันให้ย้ายออกจากเมืองไปอยู่ที่อลาสการ์ แถมเรื่องยังป่วนหนักกว่าเดิม เมื่อประธานาธิบดีอาโนลด์ ชวาซเนเกอร์ออกนโยบายนำโดมแก้วขนาดใหญ่มาครอบเมืองสปริงฟิลด์ เพื่อไม่ให้มลภาวะในเมืองรั่วไหลออกไปที่อื่นได้ โดยไม่สนใจชาวเมืองที่จะไม่มีทางออกและต้องเผชิญมลภาวะอยู่ในโดมแก้ว เอากับเค้าสิเนี่ย ...

การ์ตูนเรื่องนี้ดูเอาฮาอย่างเดียวครับ ถึงไม่เคยดูซีรีย์ซิมป์สันมาก่อนก็ฮากันได้ไม่ยาก เพราะแต่ละมุขที่เอามาเล่นจิกกัด เสียดสีสังคมอเมริกันและดาราศิลปินหลายๆคน และยิ่งจะฮามากขึ้นกว่าเดิม หากรู้จักดารานักร้องและคนมีชื่อเสียงต่างๆในแวดวงสังคมอเมริกัน รวมทั้งติดตามข่าวสารโลกทั่วๆไปบ้างก็จะยิ่งฮากับมุขฉลาดๆที่แสดงผ่านตัวละครโง่ๆในเรื่องนี้ได้มากกว่าเดิม เป็นหนังการ์ตูนฮอลิวูดที่ฮาที่สุดตั้งแต่ผมเคยดูการ์ตูนเรื่องใดๆมา อยากหัวเราะกันกว้างๆล่ะก็ แนะนำครับ รับรองไม่ผิดหวัง


อันดับ 1



Monster Inc


การ์ตูนของพิกซาร์อีกเช่นกัน และเป็นงานของผู้กำกับคนเดียวกับเรื่องข้างบนอย่างเดวิด ซิลเวอร์แมนที่สร้าง Monter Inc เป็นผลงานแจ้งเกิด ร่วมกับพีท ดอกเตอร์ที่เพิ่งมีผลงานอนิเมชั่นล่าสุดอย่าง Up ไปเมื่อเร็วๆนี้ โดยการจับมือกันของสองผู้กำกับในครั้งนี้ ส่งผลให้เกิดการ์ตูนที่น่ารักมากที่สุดเรื่องนึง ที่นำเอาสัตว์ประหลาดมาเป็นตัวละครหลัก และใช้มนุษย์เด็กหญิงเข้ามาเป็นตัวละครเสริม หนังได้ทีมดาราที่พากย์หนังควบคู่กับเล่นหนังมาให้เสียงพากย์นำโดยบิลลี่ คริสตอล จอห์น กู๊ดแมน และสตีฟ บุสเซมี

หนังเล่าเรื่องของสัตว์ประหลาดกลุ่มนึง ที่อยู่ในโลกอีกมิติ และมีหน้าที่เก็บเสียงกรีดร้องของเด็กๆมาดัดแปลงเป็นพลังงานโดยใช้ประตูมิติเปิดเข้าไปยังห้องนอนของเด็กๆ ซึ่งแท้จริงแล้วพวกสัตว์ประหลาดเหล่านี้ก็กลัวเด็กๆ ไม่ต่างกับที่เด็กๆกลัวสัตว์ประหลาดเหล่านี้ และเรื่องก็เริ่มต้นที่ไมค์และแซลลี่ คู่หูจอมป่วนที้เผลอตัวปล่อยให้หนูน้อยน่ารักหลุดเข้ามาในโลกแห่งสัตว์ประหลาด ไมค์และแซลลี่เรียกเธอว่า "บู" เนื่องจากเธอยังพูดไม่ได้ และออกเสียงได้แค่คำว่า บู เท่านั้น แน่นอนว่าเมื่อมีมนุษย์หลุดเข้ามาในโลกที่มีแต่สัตว์ประหลาด ความโกลาหลย่อมเกิดขึ้นตามมา เพราะนอกจากไมค์และแซลลี่จะต้องปกปิดไม่ให้สัตว์ประหลาดตัวอื่นๆรู้เรื่องนี้แล้ว พวกเค้ายังต้องพาบูกลับสู่บ้านของเธออีกครั้ง แต่ดันมีปัญหาสำคัญคือทั้งไมค์และแซลลี่จำประตูมิติที่นำไปสู่บ้านของบูไม่ได้เสียแล้ว ปฏิบัติการนำตัวบูกลับสู่บ้านที่ทั้งตื่นเต้น ลุ้นระทึก เฮฮา น่ารัก และน่าติดตามจึงเกิดขึ้น

นี่เป็นการ์ตูนที่ผมชอบมากที่สุดโดยไม่รู้สาเหตุ อาจเป็นเพราะเสียงร้อง บู ของหนูน้อยที่น่ารักสดใส จนผมเผลอใจใช้เป็นเสียงเรียกเข้าให้คนอื่นได้หัวเราะ หรืออาจเป็นเพราะตัวละครมอนเสตอร์ในเรื่องช่างออกแบบมาได้อย่างน่ารักและมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง อาจจะเป็นเพราะสองคู่หูตัวเอกที่เข้ากันได้อย่างลงตัว แต่อย่างไรก็ตาม นี่เป็นการ์ตูนดีๆที่ผมอยากจะแนะนำให้หาซื้อ หาเช่าให้เด็กๆได้ดู หรือจะดูเองเพื่อความผ่อนคลายและอารมณ์ดีก็ย่อมได้ ผมขอเป็นเสียงเล็กๆที่ยืนยันว่า Monster Inc เป็นการ์ตูนดี ดูสนุก ไม่มีพิษภัย และดูจบแล้วมีความสุขอย่างแท้จริง


Create Date : 09 เมษายน 2552
Last Update : 16 ตุลาคม 2553 18:22:46 น. 11 comments
Counter : 3899 Pageviews.  

 
Ratatouille is one of my favorite ka.



โดย: CrackyDong วันที่: 9 เมษายน 2552 เวลา:4:35:57 น.  

 
ชอบ wall e มาก ๆๆๆ


โดย: เมต (SingleMate ) วันที่: 9 เมษายน 2552 เวลา:9:42:43 น.  

 
กระผมขอเสนอเรื่อง Cars
KungFu Panda ด้วยครับผม


โดย: SavageHuman IP: 125.27.114.12 วันที่: 9 เมษายน 2552 เวลา:21:57:30 น.  

 
จะเป็นไรไหม ถ้าเราจะบอกว่าชอบ

The incredible มากกกก


โดย: i love johnny depp วันที่: 11 เมษายน 2552 เวลา:2:50:07 น.  

 
loved monster inc as well... Heard that there might be part 2, any idea about this rumor?? (But I think part 1 of all the movies are usually the best!)


โดย: SENieez วันที่: 16 เมษายน 2552 เวลา:3:24:31 น.  

 
ชอบมากมายอะ น่ารักมากมายอะ


โดย: dakdee IP: 125.27.206.109 วันที่: 29 พฤษภาคม 2552 เวลา:18:43:53 น.  

 
-///-5555555555


โดย: คิม IP: 125.26.146.242 วันที่: 12 ธันวาคม 2552 เวลา:13:50:19 น.  

 
ชอบ shark tale ค่ะ


โดย: jah (OliveJah ) วันที่: 1 มิถุนายน 2553 เวลา:13:17:08 น.  

 
wall e เป็น animation ที่ผมชอบมากที่สุด


โดย: SiAni_3D วันที่: 12 พฤษภาคม 2554 เวลา:13:34:16 น.  

 
เดี๋ยวนี้ หนัง animation ดินน้ำมันหายไปเลย
ผมชอบความพยายามในการสร้า้งมากๆ
เวลารู้สึกท้อ ก็จะนึกถึงคนเหล่านี้


โดย: SiAni_3D วันที่: 30 พฤษภาคม 2554 เวลา:14:51:06 น.  

 
ขาด The Simpsons Movie เรื่องเดียวครับ
เดี๋ยวหามาดูบ้างดีกว่า


โดย: คนขับช้า วันที่: 12 กันยายน 2554 เวลา:21:46:35 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Branelay
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




[Add Branelay's blog to your web]