ชีวิตที่เกื้อหนุนกันของ...ปูน้ำเค็มกับป่าชายเลน
ชีวิตที่เกื้อหนุนกันของ...ปูน้ำเค็มกับป่าชายเลน
ความรัก อีกรูปแบบหนึ่งที่มีอยู่บนโลกนี้ คือความรักแบบพึ่งพาอาศัยกันของสิ่งมีชีวิตต่างชนิดกัน ระหว่างสัตว์กับพืช ที่จะกล่าวถึงในวันนี้ คือการอยู่ร่วมกันของปูน้ำเค็ม กับ ป่าชายเลน...
ปูน้ำเค็ม กับ ป่าชายเลน เป็นการสะท้อนภาพการอยู่อย่างเกื้อหนุนกัน ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้และไม่เคยสังเกต ป่าชายเลนซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีพันธุ์ไม้ป่าชายเลนรวมกันอยู่มากมายหลายชนิด เปรียบเสมือนปราการที่ยิ่งใหญ่ ที่ปกป้องแนวชายฝั่งทะเลไม่ให้ถูกกัดเซาะจากแรงของคลื่น แหล่งที่อยู่อาศัยและอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อน และยังเป็นแหล่งหากินของชุมชนริมฝั่ง ทะเล ขณะเดียวกันหากสังเกตดี ๆ จะเห็นว่าป่าชายเลนทุกแห่งต้องมีปูน้อยใหญ่ ที่วิ่งกันขวักไขว่ไปมา นั่นอาจเป็นเพราะปูกับต้นไม้ในป่าชายเลนมีสัมพันธภาพที่ลึกซึ้ง เกื้อกูลกันเป็นอย่างดี จนเรียกได้ว่า “มีเธอจึงมีฉัน”
เรืองฤทธิ์ พรหมดำ หนึ่งในทีมนักวิจัยในชุดโครงการขนอม-หมู่เกาะทะเลใต้ โดยการสนับสนุนของโครงการพัฒนาองค์ความรู้ และศึกษานโยบายการจัดการทรัพยากรชีวภาพในประเทศไทย และบริษัทโททาล อีแอนด์พี ไทยแลนด์ เล่าว่าจากการศึกษาวิจัยเรื่องปูน้ำเค็มในพื้นที่อุทยานแห่งชาติหาดขนอม -หมู่เกาะทะเลใต้ ทำให้ได้เห็นความสัมพันธ์อันน่าประทับใจของปูน้ำเค็มที่อาศัยอยู่ในป่าชาย เลน
“ต้นไม้ทุกชนิดจำเป็นต้องมีธาตุอาหารสำหรับการเจริญเติบโต แต่คำถามคือต้นไม้ในป่าชายเลนได้ธาตุอาหารมาจากที่ไหน คำตอบก็คือจากเจ้าปูตัวน้อย ๆ ที่เดินกันไปมาในป่าชายเลน ปูจะทำหน้าที่เป็นผู้หมุนเวียนสารอาหาร และ เร่งอัตราการย่อยสลายของอินทรียสารให้กับป่า ชายเลน โดยหลัก ๆ จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ ปูกลุ่มที่กินอาหารได้หลากหลายชนิด เช่น ปูแสม (หรือปูเค็ม) ปูกลุ่มนี้จะกินใบไม้ในป่าชายเลนที่ร่วงหล่นลงบนพื้นป่า โดยการนำมาฉีกตัดให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วนำกลับไปเก็บไว้ในรู เพื่อให้จุลินทรีย์ได้ช่วยย่อยสลายเศษใบไม้ก่อน จากนั้นปูจึงค่อยกินเศษซากใบไม้ อาหารเหล่านี้จะผ่านกระเพาะและทางเดินอาหารอย่างรวดเร็ว แต่จะสามารถดูดซึมสารอาหารได้น้อย ปูจึงต้องกินในปริมาณมาก เพื่อให้ได้สารอาหารที่เพียงพอ ซึ่งอินทรียสารที่ได้รับการย่อยสลายจากปูกลุ่มนี้จะถูกส่งต่อไปเป็นอาหาร ทั้งทางตรงและทางอ้อมให้กับสัตว์ชนิดอื่นที่เป็นสัตว์ที่มีคุณค่าทาง เศรษฐกิจ เช่น ปลากระบอก กุ้งทะเล หอยแมลงภู่ และหอยอีกหลายชนิด
ปูอีกกลุ่มหนึ่ง คือ ปูที่กินดินกินทราย ซึ่งได้สารอาหารส่วนหนึ่งจากมูลของปูกลุ่มแรก เมื่อปูกินอินทรียสารแล้วขับถ่ายออกมา มูลของปูจะกลายเป็นปุ๋ย ที่เป็นแร่ธาตุกลับคืนสู่ดิน และสู่ต้นไม้อย่างเป็นวัฏจักร หรือแม้แต่พฤติกรรมการขุดรูของปูที่ขุดชอนไชลงไปในดินเพื่ออาศัย ยังเป็นเส้นทางนำพาออกซิเจนเข้าสู่ชั้นดินเบื้องล่าง เพิ่มความสามารถในการย่อยสลายอินทรียสารให้กับจุลชีพ ซึ่งสร้างแร่ธาตุให้กับดินอีกด้วย ดังนั้นจึงเป็นคำตอบของคำกล่าวที่ว่า มีเธอถึงมีฉัน นั่นก็เพราะมีปูจึงมีป่าชายเลนนั่นเอง
นอกจากนี้ จากการศึกษาชนิดความหลากหลายของปูน้ำเค็มในพื้นที่ป่าชายเลนบริเวณอุทยาน แห่งชาติหาดขนอม-หมู่เกาะทะเลใต้ ทำให้พบว่าพื้นที่บริเวณนี้มีความหลากหลายของปูน้ำเค็มหลายชนิด โดยขณะนี้สามารถรวบรวมได้แล้วถึง 21 ชนิด จาก 14 สกุล ใน 7 วงศ์ ซึ่งแต่ละชนิดมีสีสันที่สวยงาม จนเปรียบได้ว่าเป็น อัญมณีสีสดใสในผืนป่าชายเลน อาทิ ปูก้ามดาบ หรือเปี้ยวโนรา ปูที่พบมากที่สุดในบริเวณนี้ ด้วยลักษณะพฤติกรรมที่ชอบโบกก้ามข้างใหญ่ไปมาคล้ายกับท่ารำของการรำโนรา และสีสันที่หลากหลาย ทั้งสีส้ม เหลือง ชมพู ปูแสมหลายชนิดที่มีสีสันฉูดฉาดสดใสไม่แพ้กัน
เห็นได้ว่าพื้นที่ชายฝั่งและในทะเลของประเทศไทยมีความหลากหลายทางชีวภาพ มีสิ่งมีชีวิตที่ยังไม่ถูกค้นพบ และสิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดล้วนมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน หากขาดสิ่งมีชีวิตตัวใดตัวหนึ่งไป ก็อาจจะส่งผลกับระบบนิเวศทั้งหมดได้ เป็นเหตุผลที่ว่าเหตุใดมนุษย์อย่างเราจึงควรหันมาให้ความรักกับธรรมชาติ ก็เพราะมนุษย์เองก็ไม่อาจจะอยู่รอดได้ หากขาดทรัพยากรธรรมชาติ ป่าไม้ และสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ. ที่มา:
18 กุมภาพันธ์ 2552 //www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Columnid=70048&Newstype=2&template=2
Create Date : 19 กุมภาพันธ์ 2552 |
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2552 13:44:23 น. |
|
6 comments
|
Counter : 445 Pageviews. |
|
|
|