Group Blog All Blog
|
ตอนที่ 61 อาหารภาคใต้ เมนูที่ 3 ปลาทรายแดงทอดขมิ้น 17-2-60
ตอนที่ 61 อาหารภาคใต้ เมนูที่ 3 ปลาทรายแดงทอดขมิ้น   วันศุกร์แห่งชาติมาถึงอีกแล้ว หลายต่อหลายคนคงจะพาคนที่คุณรักออกไปทานข้าวนอกบ้านบ้าง หรือออกไปสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนบ้าง มันก็เป็นวิถีชีวิตและเรื่องราวของแต่ละบุคคลไป หากแต่บักอ้ายกลับขออยู่บ้านดีกว่า เพราะเป็นคนติดบ้านมาก แค่ทำอาหารอร่อยๆ อยู่กับคนที่เรารักแค่นี้ก็เรียกว่าความสุขแล้ว ไหนๆก็อยู่บ้าน ก็เลยขอทำกับข้าว หรือว่าจะเรียกว่ากับแกล้มดี ให้คุณแฟนได้ทานกับเบียร์ ดังนั้นเมนูวันนี้บักอ้ายจึงขอเสนอ ปลาทรายแดงทอดขมิ้น ทั้งนี้ทั้งนั้นอาจจะเป็นเพราะไปตลาดตอนใกล้วาย พ่อค้าขายให้ถูกมากๆ ของถูกไม่จำเป็นต้องไม่ดีเสมอไป จริงไหมครับ ดังนั้นวันนี้จึงได้เกิดเมนูนี้ขึ้นมา ส่วนผสมมีดังต่อไปนี้ เชิญทัศนา - ปลาทรายแดง 5 ตัว - ขมิ้น 1 ช้อนโต๊ะ - พริกไทย 1 ½ ช้อนโต๊ะ - กระเทียม 5-7 กลีบ -หอมแดง 5 หัว - กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ - เกลือเล็กน้อย - น้ำมันปาล์ม   ส่วนผสมของของน้ำจิ้ม พริกสด มะนาว กระเทียม น้ำปลา น้ำตาลทราย  มาทำน้ำจิ้มเตรียมเอาไว้ก่อน นำทุกอย่างมาโขลกรวมกัน ปรุงรสตามชอบ แค่นี้ก็ได้น้ำจิ้มแล้ว   ต่อไปเราก็ลงมาทอกปลากันเลย (ถึงจะเป็นผู้บ่าวอีสาน แต่อาหารปักษ์ใต้ บักอ้ายก็ชอบเหมือนกัน) นำปลาทรายมาขอดเกล็ด บั้งซะหน่อย แล้วล้างให้สะอาด พักเอาไว้  ตำเครื่องขมิ้นให้แหลกพอประมาณ  นำเครื่องขมิ้นมาหมักรวมกับปลา เติมซอสปรุงรสลงไป แล้วนำปลาที่พักไว้มาคลุกเคล้าจนทั่ว และหมักไว้ประมาณ 15 นาที  ตั้งกระทะด้วยไฟกลางใส่น้ำพืชจนร้อน นำปลาที่หมักไว้มารูดเอาขมิ้นกับกระเทียมออกให้หมด แล้วนำลงทอดไฟกลางไปจนเหลืองกรอบ ถ้าชอบกินกรอบๆก็ทอดจนกรอบกินได้ทั้งตัวไม่เว้นก้าง ถ้าไม่ชอบกรอบก็กะเอาพอสุก กรอบนอกนุ่มใน ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน นำขมิ้นและกระเทียมลงทอดต่อให้กรอบ  ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน นำมาโรยบนตัวปลา เป็นอันเสร็จพิธียกมากินแกล้มเบียร์ได้เลย   ตอนที่ 60 อาหารอีสาน เมนูที่ 46 หมกเสือ 16-2-60
ตอนที่ 60 อาหารอีสาน เมนูที่ 46 หมกเสือ   มาแล้วครับผมแล้ว บักอ้ายหน้ามนคนเก่า กลับมาพ้อพี่น้องอีกแล้ว ผ่านร้อนผ่านหนาวผ่านฝน ผ่านคนทั้งด่าทั้งชม ฝ่าฟันมาจนถึงตอนที่ 60 จนได้ สำหรับตอนนี้จะเลยสิจัดให้พิเศษขึ้นมาแน่จักหน่อยหนึ่ง เพื่อเป็นการขอบคุณทุกกำลังใจเนาะครับ ที่ว่าพิเศษนั้นกะ เป็นเพราะว่า รายการอาหารที่บักอ้ายที่นำเสนอในมื้อนี้ ถือได้ว่าพิเศษอย่างที่สุด เพราะมันคือ หมกเสือ ครับพี่น้องชาวไทย ก่อนอื่นกะต้องขออธิบายก่อนว่า หมกเสือ บ่ได้เฮ็ดมาจากเนื้อ เสือ แต่ประการได๋ หากแต่เฮ็ดมาจากเนื้องัว ส่วนที่เฮาเอิ้นว่า เสือร้องไห้ จังเป็นเป็นที่มาของชื่อแนวกิน หมกเสือ แต่ถ้าหากผู้ได๋บ่กินเนื้องัว กะสามารถใช้เนื้อหมูแทนได้คือกัน มื้อนี้บักอ้ายกะใช้เนื้อหมู ส่วนที่มีมันติดแทนคือกัน เพราะว่าบักอ้ายบ่กินเนื้องัวนั่นเอง บัดทีนี้กะมาเบิ่งส่วนผสมของหมกเสือกันเนาะครับ เนื้องัว ส่วนเสือร้องไห้ หรือว่าเนื้อหมูติดที่มีมันติด ใบโหระพา น้ำซุป ส่วนผสมของเครื่องแกงหมกเสือ บักพริกดิบ กระเทียม หอมแดง ใบบักกรูด ตะไคร้ ข่า พริกไทยเม็ดขาว (อัตราส่วนกะใส่ตามความมักโลด)  ส่วนผสมของน้ำซุป กระดูกหมู เกลือ น้ำ  สุดท้ายคือเครื่องปรุง มีซอสปรุงรสอย่างเดียวโดดๆ  ส่วนวิธีเฮ็ดกะง่ายๆ เริ่มจากเอากระดูกหมูมาต้มน้ำซุปเอาไว้ก่อน ต้มประมาณ 2 ชั่วโมง เติมเกลือจักหน่อยให้ได้รสชาติ  หลังจากได้น้ำซุปแล้ว กะเอาเครื่องแกงมาตำ ตำให้พอแหลกกะพอ บ่ต้องละเอียดคักดอก ตำแล้วกะตักขึ้นมาพักเอาไว้สาก่อน  เอาเนื้องัวหรือว่าเนื้อหมูมาหั่นเป็นต่อนๆให้พอดีคำ โหระพาเอามาเด็ดเอาแต่ใบ   แล้วเอาน้ำซุปมาใส่หม้อ ท่าให้น้ำซุปเดือด เอาพริกแกงลงไป ท่าให้เดือด ค่อยเอาเนื้องัวหรือว่าเนื้อหมูใส่ ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส ซิมเบิ่ง พอได้รสชาติตามที่เฮามัก เอาใบโหระพาใส่ลงไป ยกหม้อลงจากเตา   แค่นี้ หมกเสือ กะพร้อมเสริฟแล้วล่ะ ป้าด!!! ลืมบ่ลงอีหลีเด เมนูนี้   ตอนที่ 59 อาหารภาคกลาง เมนูที่ 7 แกงเลียงกุ้งสด 15-2-60
ตอนที่ 59 อาหารภาคกลาง เมนูที่ 7 แกงเลียงกุ้งสด   วันนี้บักอ้ายขอเสนออาหารไทยแท้ เรียกว่าเป็นเมนูหนึ่งที่ทุกครั้งที่บักอ้ายไปร้านอาหารจะต้องสั่ง เพราะชอบในรสชาติเผ็ดร้อน รวมไปถึงชอบกินผักมากๆ นอกจากจะมีประโยชน์แล้ว ยังทำให้ไม่อ้วน เรียกว่าทั้งอร่อยและมีประโยชน์อย่างที่สุด เมนูนั้นก็คือ แกงเลียงกุ้งสด นั่นเอง มาดูส่วนผสมของผักที่เราจะเอาใส่ลงไปแกงเลียงกันเลย ชอบผักอะไรก็ใส่มากหน่อย ไม่มีสูตรตายตัว ฟักทอง บวบหอมอ่อน ข้าวโพดอ่อน เห็ดนางฟ้า ตำลึง ใบแมงลัก กุ้งสด เครื่องแกงเลียง กุ้งแห้ง พริกไทยเม็ด (จะให้รสเผ็ดร้อนของพริกไทย ปริมาณตามใจคนกิน) หอมแดง กะปิอย่างดี กระชาย เกลือทะเล พริกสด (ตามชอบ หรือใส่เล็กน้อยถ้าไม่ชอบเผ็ดมาก) เครื่องปรุง น้ำปลาอย่างดีสำหรับปรุงรส น้ำตาลทราย     ขั้นตอนการทำ นำผักทุกอย่างมาล้างน้ำให้สะอาดและปอกเปลือกเอาไว้ และเตรียมหั่นเตรียมเอาไว้  ต่อไปเตรียมเครื่องแกงเลียง ให้นำทุกอย่างมาหั่นแล้วจึงนำมาโขลกรวมกัน โดยเริ่มจากโขลกกุ้งแห้งก่อน ตามด้วยเกลือทะเล พริกไทย กระชาย กะปิ หอมแดง กุ้งสด และพริกสด  กุ้งสดนำไปล้างน้ำ ปอกเปลือก เตรียมเอาไว้  นำน้ำไปใส่หม้อต้มให้เดือด พอน้ำแกงเดือดใส่เครื่องแกงเลียงลงไป พอน้ำแกงเดือดอีกครั้ง ให้เตรียมผักลงใส่ตามลำดับความสุกช้า เร็ว ของผัก คือผักสุกยากใส่ก่อน ตามด้วยผักสุกง่าย (ขออภัยภาพมืดไปนิด ทำตอนกลางคืน แสงไม่พอ)  ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลสักเล็กน้อย ใส่กุ้งลงไป รอจนเดือด ค่อยตามด้วยใบตำลึง ท้ายสุดค่อยใส่ใบแมงลัก ที่เป็นเอกลักษณ์ของแกงเลียงไทย คนให้ทั่ว   แค่นี้ก็ตักแกงเลียงใส่ถ้วยพร้อมอร่อยแล้วครับผม   ตอนที่ 58 อาหารอีสาน เมนูที่ 45 ยำบักม่วงกุ้งดอง
ตอนที่ 58 อาหารอีสาน เมนูที่ 45 ยำบักม่วงกุ้งดอง  บักม่วงข้างบ้านกำลังออกหน่วย กะคือดกคักดกแน่แท้ มื้อนี้บักอ้ายเลยมาแนะนำแนวกินแซบแซ่บ ตามวิถีของบักอ้ายเนาะครับ กินแล้วมันต่อใจพะนะ มื้ออื่นบักอ้ายบ่ว่างเด มื้อนี้กะเลยถือโอกาสนี้ยำบักม่วงนี้ล่ะ ให้คุณแฟนของบักอ้ายกิน เป็นของขวัญวันแห่งความฮัก ส่วนแฟนๆที่ติดตามอ่านเรื่องราวของบักอ้ายมา บักอ้ายกะของส่งเมนูนี้ฝากมาให้คือกัน เพื่อเป็นการส่งความฮักคุคนให้ในวันเลิฟๆ ว่าซั่น ขอให้มีความสุขเด้อครับเด้อ มาเบิ่งส่วนผสมกันครับ กุ้งสด 10 ตัว กุ้งฝอยแห้งสีส้ม 3 บ่วง บักพริก 10 หน่วย น้ำตาลทราย 1 บ่วง บักนาว 1 หน่วย หรือว่า 1 บ่วงกะได้คือกัน น้ำปลา 1 บ่วง น้ำปลาร้า 1 บ่วง บักม่วงเอาส้มๆ 1 หน่วย ผักสะระแหน่ 4 ต้น ปล . ข่อยมักเจ้า บ่วงหนึ่ง ถ่อกับ ช้อนโต๊ะหนึ่งเด้อ      วิธีเฮ็ด กะบ่ยากปานได๋แม้ ขั้นตอนแรก เฮ็ดกุ้งดองก่อน ปลอกกุ้ง เอาส่วนหัวมันออก ผ่าหลังเอาเส้นเมามันออกนำ ล้างให้มันสะอาด เอาใส่ถ้วย ใส่นำปลาให้มันท่วม ใส่น้ำตาลทรายบ่วงหนึ่ง คนให้เข้ากัน แล้วเอาไปแช่ตู้เย็นไว้ 2 ชั่วโมงเด้อ ซั่มนี้กะสิได้กุ้งดองแล้วล่ะ    ปลอกบักม่วง หั่นให้เป็นต่อนๆ มักใหญ่น้อยตามใจโลด แล้วเอาใส่ตู้เย็นไว้ (ตอนยำค่อยเอาออกมา บักม่วงสิกรอบแล้วกะเย็น เพิ่มความแซ่บว่าซั่น)   ใบสะระแหน่เอามาเด็ด กุ้งแห้งกะเทออกมาจากถุง บักพริกเอามาตำไว้ท่า    เอาเส้นบักม่วงออกมา เอาบักพริก น้ำปลา น้ำตาล น้ำบักนาว น้ำปลาร้า ใส่ลงไปโลด เอากุ้งแห้งสีส้มใส่ลงไป ตามด้วยใบสะระแหน่ คนให้มันเข้ากัน         ค่อยใส่กุ้งดอง แล้วคนอีก  แล้วๆกะตักใส่จาน     กินโลดบัดนี้ เป็นจั่งได๋ แนวกินเฮ็ดง่ายๆ แถมยังแซ่บกว่าอ้ายมาริโอ้กับอ้ายเวียร์มาแก้ผ้ารวมกันอยู่ต่อหน้าอีก ตอนที่ 57 อาหารอีสาน เมนูที่ 44 ก้อยกุ้ง
ตอนที่ 57 อาหารอีสาน เมนูที่ 44 ก้อยกุ้ง  พ้อกันอีกแล้วเนาะครับ หลังจากที่บักอ้ายห่างหายไปโดนพอสมควร บ่มีอีหยังดอก กะขี้คร้านกะเลยบ่ได้มาอัพเรื่องราวความแซ่บให้ฟังกัน กลับมามื้อนี้บักอ้ายสิพาไปกิน ก้อยกุ้ง มาเบิ่งกันว่าวิธีทำก้อยกุ้งของบักอ้ายเฮ็ดกันแบบไหน ก้อยกุ้งคืออีหยัง แล้วต้นตำรับก้อยกุ้งแบบอีสานบ้านเฮานั้นเป็นแบบไหน มาเบิ่งกันครับ ก้อยกุ้งในแบบฉบับต้นตำรับของอีสานบ้านเฮานั่นครับพี่น้อง ต้องมีส่วนประกอบหลักนั่นกะคือ กุ้งฝอยตัวเป็นๆ หรือที่เฮาเรียกว่า กุ้งเต้น แต่ว่าก้อยกุ้งของบักอ้ายมื้อนี้ขอประยุกต์มาใช้กุ้งขาวแทน แต่ว่าความแซ่บกะบ่ต่างกันเด้ครับ ส่วนประกอบในการทำก้อยกุ้ง กุ้งขาว บักพริกสด ตะไคร้ ใบบักกรูด ต้นหอม หอมเป ผักไผ่ บักกอก บักนาว โซดา ข้าวคั่ว น้ำตาล น้ำปลา พริกป่น      วิธีเฮ็ดก้อยกุ้ง : ล้างกุ้งให้สะอาด แกะเปลือก ฝ่าหลังเอาเส้นเมาออก ล้างให้สะอาดอีกเที่ย แล้วค่อยเอามาแช่กะโซดา  เอาผักที่ล้างแล้วมาหั่นเตรียมเอาไว้  ใส่น้ำปลา น้ำบักนาว บักกอก น้ำตาล(คันอยากแซ่บขึ้นกะเปลี่ยนเป็นชูรสกะได้คือกัน) เอาทั้งหมดลงไปคลุกกับกุ้ง (บักกอกสีช่อยให้กุ้งขาวเป็นตาแซ่บขึ้น ) ใส่ข้าวคั่ว บักพริกป่น แล้วค่อยตามด้วยต้นหอม ผักชี ผักแพว ผักชีฝรั่ง ตะไคร้ ใบมะกรูด คนให้เข้ากัน กลิ่นหอม     ตักใส่จานพร้อมแซ่บแล้ว    |
บักอ้าย
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 23 คน [?] ทำอาหารทานเองไม่ใช่เรื่องยาก ผมทำได้ คุณก็ทำได้ ผมอยากเป็นแรงบันดาลใจให้คุณ เชพฆฤณ Friends Blog Link |
