All Blog
ประเทศมาลี ทะเลทรายซาฮาร่าและเสียงดนตรีที่ใฝ่ฝัน II
ซาฮาร่าในฝัน ที่หลายๆคน อยากมาสัมผัสด้วยตัวเอง





งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา สามวันพ่านไปงานก็จบลงทุกคนเก็บข้าวของกลับบ้านกัน
ไหนๆมาถึง เมืองทิมบุกตู (Timbukto) ถ้าไม่ได้ไปชม สุเหร่าที่ขึ้นชื่อก็มาไม่ถึงแน่ๆ แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าเขากำลังซ่อมแซมอยู่ก็เลยได้แต่มองรอบๆ
จากนั้นเราก็ไปที่เรือกัน





ชอบแม่น้ำไนเจอร์มากๆ เป็นแม่น้ำที่กว้างใหญ่เป็นเหมือนสายเลือดของคนมาลีก็ว่าได้





รู้สึกสดชื่น เย็นสบายมาก ต่างจากซาอาร่าจริงๆ





ถึงตอนนี้อยากจะบอกว่า บนเรือที่ใฝ่ฝัน ซะแล้ว เพราะว่าอากาศเย็นสบายตัวสบายตา





เราเรี่มเดินทางกันต่อ หนทางยังยาวไกล และต้องพจญภัยอีกแยอะ





เรือแล่นไปเรี่อยๆ เราก็ชมสองข้างทางไป ชิลๆ





สุเหร่า ที่ถ่ายไดจากมุมไกลโขเชียว





จอมปลวกที่ใหญ่สะดุดตา





สุเหร่า ย้อนแสงตะวันใกล้จะตก





เสียงปรึกษากัน ว่าเราจะพักที่ไหนที่ปลอดภัยดีน้าาา
ในที่สุดก็ได้ที่ เหมาะมากๆ ได้ยินเสียงดนตรีพื้นบ้าน หมู่บ้านคงจะอยู่ไม่ไกลแน่ๆ





เมื่อกินข้าวกินปลาเสร็จ คุณลูกและคุณสามีอยากจะไปฟังดนตรีอีก ชอบกันจริงๆนะ คุณสามีเคยเป็นนักดนตรีเก่า ออกเทปด้วยสมัยยังหนุ่มๆ เรายังเคยได้ฟังเสียงด้วย และตอนไปเมืองไทยก็ไปเรียนดีดซึงมา ตอนนี้ลืมหมดแล้วมั้งหุหุ
ณ หมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่ง มีเครื่องปั่นไฟ ชาวบ้าน และเด็กๆ ตื่นตาตื่นใจกับงานในคืนนี้มากๆ






ที่น่าตื่นเต้นของพวกเราคือ เจอนักดนตรีที่ไปเล่นใน เทศกาลดนตรีด้วย และเขาก็เล่นเพลงให้พวกเราฟัง และก็เก็บภาพใว้เป็นที่ระลึก





สวัสดีตอนเช้าพี่น้องชาวไทย





เรือก็แล่นไปอีกอย่างมีจุดหมาย ชอบถ่ายถาพสุเหร่าเขาจังมีเสน่ห์ สะดุดตานะ





ชีวิตที่เรีบยง่าย ปลูกผักปลูกข้าว หาปลากิน มีของใช้ที่จำเป็น เราได้ไปเห็นในบ้านเพื่อนไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ไม้ต้องดี้นรนจนต้องแข่งขันแย่งกันเหมือนในเมือง อากาศก็ดี้ดี






ได้เห็นชีวิตของพวกเขาแล้ว ทำให้อดคิดถึง สมัยเรายังเล็ก อยู่บ้านนอก แม่บอกให้ไปล้างหม้อที่ดำจากการหุงต้มด้วยพื้น ที่แม่น้ำ เสร็จแล้วก็ได้เล่นน้ำ สนุกมากๆเลย





เด็กหญิง จ้องมองเราตั้งนาน คงสงสัยว่าเรามาจากไหน?





มองเลยไปที่ต้นตาล เห็นรังนกเต็มเลย





มาดูกิจกรรมของพวกเรากันบ้าง ช่วยกันร้อยหินให้เพื่อน





เพื่อนขายหินสี และเครื่องประดับ คุณสามีก็ชอบอีกเช่นกัน ซื้อใว้แยอะเลย ไม่นานเราจะย้ายไปอยู่เมืองไทยที่เกาะพงัน บ้านเราก็คงจะมี ห้องที่โชว์ของต่างๆจากแอฟริกาแน่ๆ(แต่ภาพนี้ไม่ใช้ฝีมือพวกเรานะจะ)





การสระผมแบบใหม่





แวะจอดซื้อปลา อาบน้ำ เปลียนเสื้อผ้า





ช่วงบ่ายอากาศดีๆ นั่งรับลมเย็นๆ





อะไรเอ่ยเห็นอยู่ไกลๆ





เป็นหมู่บ้านที่ดูแปลกตา





พอเรือใกล้เข้ามา ก็ดูสวยไปอีกแบบ





มาแถวนี้หินเยอะมาก ลมก็แรง น้ำกระเด็นมาใส่ตัวเราเย็นมากๆ เหมือนโดนสาดน้ำสงกรานต์ ตอนเย็นๆหุหุ





ถ่ายทางฝั่งซ้าย





ย้ายมาทางฝั่งขาว





ในที่สุดความมืดก็มาเยือน เป็นคืนที่สองที่ต้องนอนบนเรือ






เช้าวันใหม่ วันนี้ตื่นเต้นมากๆที่เราจะต้องผ่านทะเลสาบที่กว้างใหญ่ จะเห็น นกต่างๆ ถ้าโชคดีก็จะได้เห็นฮิปโปที่มีตามธรรมชาติไม่ใช้เห็นในสวนสัตว์





เด็กๆโบกมือ บายบาย





ชนบทยามเช้า ผู้หญิง ล้างจาน ซักเสื้อผ้า ดูแลฝูงสัตว์





ผู้ชายออกหาปลามาเลี้ยงครอบครัว





แววะจอดซื้อน้ำสะอาดใว้ใช้





มีลูกค้ามาซื้อน้ำกันมาก เพื่อนบอกว่าที่นี่ น้ำจะมีตลอดทั้งปี ผู้คนจะต้องมาจากที่ไกลๆเพื่อมาซื้อน้ำที่นี่ เวลาหน้าแล้ง





น้ำแถวนี้จะลึกและกว้างมาก





พวกเราก็จองมองว่าเมื่อไหร่จะโชคดีเห็นฮิปโปตัวเป็นๆสักที เห็นแต่ฝูงนก





และแล้วเราก็เห็นแวบๆ ฮิปโปสองตัว เห็นแต่หัว คว้ากล้องมาถ่ายไม่ทัน เอารูปนกมาแทนก่อนนะ หุหุ





จับกล้องมาใว้ที่มือเพราะเพื่อนบอกว่าแถวนี้มีฮิปโป อีกถ้าเห็นให้รีบถ่ายรูปทันทีเพราะฮิปโปธรรมชาติแถวนี้กลัวคน และขี้อายไม่เหมือนฮิปโปในสวนสัตว์





แล้วเราก็ได้เห็นฮิปโป อีกสองตัว พยามยามถ่ายรูป แต่ที่ดูได้มีอยู่ภาพเดียวฮิปโปตัวดำดำ ดำผุดดำโผล่ เล่นกันอยู่สองตัว แล้วก็ดำหายไป เป็นภาพที่สวยงามประทับใจมากๆ





แล่นมาอีกสักพัก ก็เห็นเรื่อข้ามฟาก บรรทุกรถบัสมาด้วย





เรือได้มาถึงทะเลสาบที่กว้างใหญ่สุดตา ท้องฟ้ากับสายน้ำ





เราเรี่ม วนในทะเลสาบ เพื่อนบอกว่า ถ้าไม่มีคนชำนาญทางมาอาจหลงได้ แต่เราไปหาผู้ชำนาญทาง เขาบอกว่าต้องนัดเขาล่วงหน้าถ้าไม่ได้นัดเขามีงานที่ต้องทำ สรุปคือพวกเราต้องไปกันเอง จะหลงทางไหมน้าาา





พวกเราก็มองหาผู้คนเพื่อจะถามทาง แต่ก็ไม่ลืมที่จะนำภาพดีดีมาฝากกัน





นกคู่ฟ้าปลาคู่น้ำ แต่พวกเราจะหลงทางมั๊ย (เกี่ยวกันมั๊ยเนี้ย)





จากความพยายามของเพื่อนที่คอยถามทางตลอด จนเรามาถึง Mopti ซึ่งเป็นคนละที่ที่เราลงเรือมาคือGao





แถวนี้มีชาวบ้านมาหาปลากันมาก





อีก





ภาพย้อนแสงของเด็กชายที่พายเรือเพื่อไปหาปลา





เราต้องขึ้นจากเรือเพื่อไปนั่งรถกลับบ้านเรา





ผลงานจากความอ่อนเพลีย





เราขับรถไปบูร์กินยา ฟาโซ ไปพักและทานอาหารที่โรงแรมของเพื่อน ระหว่างทางรถก็สั่นและโยก จนพวกเราตื่นกัน พอลงไปเช็คดูปรากฎว่ารถยางแบนครับ
จะทำยังงัยดี? ก็ช่วยกันเปลียนยางอะไหล่ และช่วยกันภาวนาให้ถึงโรงแรมของเพื่อน จะได้ให้เขาพาไปเปลี่ยนยาง





ถึงโรงแรมก็มืดพอดี หิวด้วยก็เลยกินอาหารที่อร่อยของเราเหมือนเดิม อิอิ





หลังจากอาหารเช้า เราก็ไปเปลียนยางรถกัน (แพงมาก)





ขับมาใกล้จะถึงกาน่า ยางหลังอีกเส้นก็รั่วอีก





มาถึง ทามาลี ตอนเหนือของกาน่า มืดพอดี ต้องรอเปลียนยางพรุ่งนี้
พักที่เกสเฮ้าท์เดิม





เปลี่ยนยางเสร็จเราก็ขับรถมาถึงบ้านอย่างปลอดภัย
ภาพเก็บตก มะม่วงที่บูร์กินยา ฟาโซ





ภาพความประทับใจ





สวัสดีค่ะ



Create Date : 07 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 29 มิถุนายน 2553 19:00:34 น.
Counter : 2575 Pageviews.

2 comments
  
มันเป็นอย่างงี้นี่เอง...ขอบคุณที่รีวิวให้ดูคับผม
โดย: Title_boy วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:20:49:33 น.
  
อยากไปแถบทะเลทรายซาฮาร่าสักครั้ง
โดย: marzo วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:19:06:01 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

shada
Location :
น้ำหนาว เพชรบูรณ์ , เกาะพงัน สุราษฯ  Ghana

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]



พระไตรปิฏก เป็นตาที่วิเศษยิ่ง.....พระไตรปิฏก เป็นหูที่วิเศษยิ่ง พระไตรปิฏก เป็นจมูกที่วิเศษยิ่ง.....พระไตรปิฏก เป็นลิ้นที่วิเศษยิ่ง พระไตรปิฏก เป็นกายที่วิเศษยิ่ง.....พระไตรปิฏก เป็นใจที่วิเศษยิ่ง พระไตรปิฏก เป็นครู-อาจารย์ที่วิเศษยิ่ง.....พระไตรปิฏก เป็นพ่อ-แม่ที่วิเศษยิ่ง พระไตรปิฏก เป็นมิตรและเข็มทิศที่วิเศษยิ่ง.....พระไตรปิฏก เป็นแผนที่และป้ายบอกทางที่วิเศษยิ่ง
พระไตรปิฏก เป็นแสงสว่างส่องทางสู่นิพพานที่วิเศษยิ่ง

ธรรมวินัยอันพระตถาคตเจ้าประกาศแล้วเปิดเผย ไม่กำบังจึงรุ่งเรือง (เล่ม ๑๐ หน้า ๔๖๕_ปกน้ำเงิน)
บัญญัติของพระพุทธเจ้า จากพระไตรปิฎกชุด 91 เล่ม ของมหามกุฎราชวิทยาลัย เล่ม 3
(ปกสีแดง หน้า 887 ปกสีน้ำเงิน หน้า 940)
พระบัญญัติ อนึ่ง ภิกษุใด รับก็ดี ให้รับก็ดี ซึ่ง ทอง-เงิน หรือยินดี ทอง-เงิน อันเขาเก็บไว้ให้ก็ดี เป็นนิสสัคคียปาจิตตีย์(นิสสัคคียปาจิตตีย์ 1 ตัว ต้องตกโรรุวนรก 1 ชั่วอายุ คือ 4,000 ปีของนรกขุมนี้ เท่ากับ 840,960,000 ล้านปีมนุษย์)

พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2535 ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.ให้ไว้ ณ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2535
เป็นปีที่ 47 ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยคณะสงฆ์ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ทำหน้าที่รัฐสภาดังต่อไปนี้ มาตรา 15 ตรี มหาเถรสมาคมมีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้
...(4)รักษาหลักพระธรรมวินัยของพระพุทธศาสนา
**หยุดทำร้ายพระพุทธศาสนา(โยมควรเรียนรู้) ทำบุญแล้วเป็นบาป ตกนรกทั้งพระและโยม
1.ตักบาตรด้วยเงินและทอง
2.ตักบาตรด้วยสิ่งของที่ต้องห้าม ข้าวสารอาหารแห้ง-ดิบ
3.ทำบุญกับพระทุศีล(ผิดศีลธรรมและไม่ปฏิบัติตามพระธรรมวินัย)รับเงิน รับทอง มีบัญชีเงินฝากธนาคารเป็นของตนเอง มีบัตรเอทีเอ็ม มีบัตรเครดิต
4.ฯลฯ
จากพระไตรปิฎกและอรรถกถาแปลไทยฉบับมหามกุฎราชวิทยาลัย 91 เล่ม
**ชาวพุทธทั้งหลาย ขอให้อธิษฐานเพื่อถวาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดังนี้
"ขออำนาจพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จงบันดาลบุญของข้าพระพุทธเจ้าให้เข้าไปรวมเป็นพระราชกุศลของ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พลังบุญทั้งหลาย ที่พระองค์ได้ทรงกระทำต่อพสกนิกรและราชอาณาจักร ขอบุญนั้นทั้งหมด จงเป็นพลังขับดันโรคภัยทั้งหลายที่กำลังเกิดในพระวรกายของพระองค์ให้อันตรธานไป"

จากหลักฐานเทียบเคียงของการใช้สัจอธิษฐาน ในพระไตรปิฎก 91 เล่ม ฉบับมหามกฎราชวิทยาลัย เล่ม 74 หน้า 447-479 ประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ.2499 มาตรา 1, 3, 341, 342 และ 343 หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักสงฆ์ป่าสามแยก ต.วังกวาง อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ (www.samyaek.com) ผู้มีปัญญาทั้งหลาย ขอจงพิจารณาเอาเถิด เพราะไม่บังคับให้ใครมาเชื่อหรือทำตาม เพียงแต่นำคำสอนของพระพุทธเจ้ามาเปิดเผย เพื่อให้ชาวพุทธปฏิบัติได้ถูกต้องตามคำสอนของพระพุทธเจ้าเท่านั้น
ยินดีในบุญกับทุกท่านที่รวมใจกันเปิดเผยพระธรรมวินัยให้รุ่งเรือง ค่ะ

ชฎา มีโครงการ จะเปิด บ้านพักตากอากาศ ติดถนน ติดทะเล ไม่ไกลจาก ท่าเรือ ท้องศาลา บรรยากาศ เหงียบ สงบ เป็นธรรมชาติ ให้เช่าที่เกาะพงัน

"สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความใน blog แห่งนี้ไปใช้ ทั้งโดยเผยแพร่และเพื่อการอ้างอิง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด"