เกาะพงัน สวรรค์กลางอ่าวไทย
เมื่อมาถึงสมุย โดยบางกอกแอร์แล้วก็ นั่งรถไปที่ท่าเรือลมพระยา เพื่อจะไปเกาะพงัน โดย LIMOUSINE SERVICE รถตู้คันนี้ค่ะ







ราคาคนละ ๑๕๐ บาท







มาถึงแล้วท่าเรือลมพระยา







นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เยอะมาก เข้าแถวชื้อตั๋วยาวมากๆ







พนักงานบอกว่าตั๋วไปชุมพรหมด แต่ก้ยังดีที่มีตั๋วไปพงัน คนละ ๒๕๐ บาท







ระหว่างที่รอลงเรือ ถือโอกาศถ่ายรูปบริเวณท่าเรือ มีรถมาบริการด้านการเงินด้วย








ไปหาอะไรกินที่ร้านอาหารของท่าเรือ ที่มีลูกค้าอยู่เต็มแล้ว







ไปนั่งแล้วรีบสั่งอาหารทันที เพราะมีเวลาเหลือไม่มาก







อาหารจานด่วนมาแล้ว







เป็นข้าวกะเพรา ทะเลไข่ดาว ถึงจะเป็นอาหารพื้นๆดูธรรมดาแต่ก็อร่อยแบบไม่ธรรมดา (สำหรับผู้ที่อยู่ทางไกลอย่างเรา)







อิ่ม ทันเวลาลงเรือพอดี







ช่วงที่ไป มีแดดวันเดียว นอกนั้น ไม่มีแดดแถมฝนตกอีกต่างหาก ถึงท่าเรือสากลเกาะพงันแล้ว







ก็ตรงไปที่พักที่เพื่อนจองใว้ให้ดดยเพื่อนมารับทันที







เป็นรีสอร์ทที่ตกแต่งแบบง่ายๆเป็นธรรมชาติ ดิบๆ







ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้






ด้านหลังเป็นคลองเล็กๆไหลลงทะเล







เข้ามาด้านใน รู้สึกเย็นดี เพราะอยู่ใต้ต้นไม้ เคยไปพักที่อื่น บางทีเข้าไปรู้สึกร้อนไม่ค่อยสบายเลย







เตียงนอนกว้างใหญ่ ใช้โทนสี ขาวและน้ำตาล ทำให้ดูอบอุ่น







มีทีวี และเครื่องดีวีดี ยืมหนังมาดูได้







โต๊ะกินข้าว







โซฟา ใว้นั่งหรือนอนดูหนังก็ได้








ลายฉลุและไฟที่หัวนอน







มีครัวเล็กๆให้ด้วย







มาดูในส่วนของห้องน้ำบ้าง ดูธรรมดาๆ แต่น้ำอุ่นไหลดี







บันไดที่ใช้เป็นที่พาดผ้าเช็ดตัวในห้องน้ำ







อ่างล้างหน้า








ออกมาเดินสำรวจข้างนอกในวันที่ไม่มีแดด ออกมาก็เจอปู สีแดงสวยเชียว







ต่างคนต่างมองกัน ปูคงสงสัยว่าถ่ายรูปไปทำไม







เดินไปสำรวจแถว วกตุ่ม เจอต้นมะพร้าว ถ้ามีแดดคงจะสวยกว่านี้เยอะเลย







ทรายที่นุ่มเท้า







เดินไปตามหาดช่วงที่น้ำลด ปูตัวนี้สีสวยจัง







พืชสีเขียวก็สวย







สัตว์ในทะเล







เรียกว่าอะไรเอ่ย







อีกภาพ







ปูทีอยู่ทะเล







ถึงท่าเรือประมง วกตุ่มแล้ว







จะเห็นว่าเขาขุดเอา หิน ปะการัง ขึ้นมา น่าเสียดายจัง






คงจะสวยงามไม่น้อยถ้ามันยังอยู่ในทะเลตามธรรมชาติ







ธรรมชาติที่สวยงาม







เปลือกหอยสวยดี







เปลือกหอยอีกภาพ







นี่ก็สวยไม่แพ้กัน







ทะเลในวันที่ไร้แดด







ไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนเลย นั่งเล่นนอนเล่น ที่รีสอรท์ อีกอย่างแดดไม่ค่อยมีด้วย ขอจบด้วยภาพ พระอาทิตย์ใกล้จะตกทะเล และชีวิตเรียบง่ายของชายหาปลา














Create Date : 03 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 29 มิถุนายน 2553 18:50:02 น.
Counter : 1603 Pageviews.

3 comments
  
น่าไปนะคะ
อยากไปที่นี่เหมือนกัน
โดย: กางเกงยักษ์ลอยฟ้า วันที่: 5 พฤศจิกายน 2552 เวลา:20:11:40 น.
  
อยากไปด้วย...




สวยๆๆ คะ
โดย: iam_pimchaya วันที่: 9 พฤศจิกายน 2552 เวลา:11:06:08 น.
  
โรงแรมชื่ออะไรพอจำได้ไหมคะ ช่วยหลังไมค์บอกทีสิค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้า
โดย: PookPandaPapanduk วันที่: 14 มิถุนายน 2554 เวลา:14:30:56 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

shada
Location :
น้ำหนาว เพชรบูรณ์ , เกาะพงัน สุราษฯ  Ghana

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]



พระไตรปิฏก เป็นตาที่วิเศษยิ่ง.....พระไตรปิฏก เป็นหูที่วิเศษยิ่ง พระไตรปิฏก เป็นจมูกที่วิเศษยิ่ง.....พระไตรปิฏก เป็นลิ้นที่วิเศษยิ่ง พระไตรปิฏก เป็นกายที่วิเศษยิ่ง.....พระไตรปิฏก เป็นใจที่วิเศษยิ่ง พระไตรปิฏก เป็นครู-อาจารย์ที่วิเศษยิ่ง.....พระไตรปิฏก เป็นพ่อ-แม่ที่วิเศษยิ่ง พระไตรปิฏก เป็นมิตรและเข็มทิศที่วิเศษยิ่ง.....พระไตรปิฏก เป็นแผนที่และป้ายบอกทางที่วิเศษยิ่ง
พระไตรปิฏก เป็นแสงสว่างส่องทางสู่นิพพานที่วิเศษยิ่ง

ธรรมวินัยอันพระตถาคตเจ้าประกาศแล้วเปิดเผย ไม่กำบังจึงรุ่งเรือง (เล่ม ๑๐ หน้า ๔๖๕_ปกน้ำเงิน)
บัญญัติของพระพุทธเจ้า จากพระไตรปิฎกชุด 91 เล่ม ของมหามกุฎราชวิทยาลัย เล่ม 3
(ปกสีแดง หน้า 887 ปกสีน้ำเงิน หน้า 940)
พระบัญญัติ อนึ่ง ภิกษุใด รับก็ดี ให้รับก็ดี ซึ่ง ทอง-เงิน หรือยินดี ทอง-เงิน อันเขาเก็บไว้ให้ก็ดี เป็นนิสสัคคียปาจิตตีย์(นิสสัคคียปาจิตตีย์ 1 ตัว ต้องตกโรรุวนรก 1 ชั่วอายุ คือ 4,000 ปีของนรกขุมนี้ เท่ากับ 840,960,000 ล้านปีมนุษย์)

พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2535 ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.ให้ไว้ ณ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2535
เป็นปีที่ 47 ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยคณะสงฆ์ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ทำหน้าที่รัฐสภาดังต่อไปนี้ มาตรา 15 ตรี มหาเถรสมาคมมีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้
...(4)รักษาหลักพระธรรมวินัยของพระพุทธศาสนา
**หยุดทำร้ายพระพุทธศาสนา(โยมควรเรียนรู้) ทำบุญแล้วเป็นบาป ตกนรกทั้งพระและโยม
1.ตักบาตรด้วยเงินและทอง
2.ตักบาตรด้วยสิ่งของที่ต้องห้าม ข้าวสารอาหารแห้ง-ดิบ
3.ทำบุญกับพระทุศีล(ผิดศีลธรรมและไม่ปฏิบัติตามพระธรรมวินัย)รับเงิน รับทอง มีบัญชีเงินฝากธนาคารเป็นของตนเอง มีบัตรเอทีเอ็ม มีบัตรเครดิต
4.ฯลฯ
จากพระไตรปิฎกและอรรถกถาแปลไทยฉบับมหามกุฎราชวิทยาลัย 91 เล่ม
**ชาวพุทธทั้งหลาย ขอให้อธิษฐานเพื่อถวาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดังนี้
"ขออำนาจพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จงบันดาลบุญของข้าพระพุทธเจ้าให้เข้าไปรวมเป็นพระราชกุศลของ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พลังบุญทั้งหลาย ที่พระองค์ได้ทรงกระทำต่อพสกนิกรและราชอาณาจักร ขอบุญนั้นทั้งหมด จงเป็นพลังขับดันโรคภัยทั้งหลายที่กำลังเกิดในพระวรกายของพระองค์ให้อันตรธานไป"

จากหลักฐานเทียบเคียงของการใช้สัจอธิษฐาน ในพระไตรปิฎก 91 เล่ม ฉบับมหามกฎราชวิทยาลัย เล่ม 74 หน้า 447-479 ประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ.2499 มาตรา 1, 3, 341, 342 และ 343 หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักสงฆ์ป่าสามแยก ต.วังกวาง อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ (www.samyaek.com) ผู้มีปัญญาทั้งหลาย ขอจงพิจารณาเอาเถิด เพราะไม่บังคับให้ใครมาเชื่อหรือทำตาม เพียงแต่นำคำสอนของพระพุทธเจ้ามาเปิดเผย เพื่อให้ชาวพุทธปฏิบัติได้ถูกต้องตามคำสอนของพระพุทธเจ้าเท่านั้น
ยินดีในบุญกับทุกท่านที่รวมใจกันเปิดเผยพระธรรมวินัยให้รุ่งเรือง ค่ะ

ชฎา มีโครงการ จะเปิด บ้านพักตากอากาศ ติดถนน ติดทะเล ไม่ไกลจาก ท่าเรือ ท้องศาลา บรรยากาศ เหงียบ สงบ เป็นธรรมชาติ ให้เช่าที่เกาะพงัน

"สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความใน blog แห่งนี้ไปใช้ ทั้งโดยเผยแพร่และเพื่อการอ้างอิง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด"