|
Space Battleship Yamato
Space Battleship Yamato - เป็นหนังที่อยากดูมากมากสมัยหนังเรื่องนี้เข้าโรงที่เมืองไทย แต่พึ่งมีโอกาสได้ดูเมื่อวานนี้เองแบบ DVD เป็นเรื่องที่น่าเสียดายยื่งที่ไม่ได้เสียเงินให้กับหนังเรื่องนี้ แม้จะยังไม่เคยได้ดูเวอร์ชั่นอนิเมะสมัยปี 2517 แต่ความรู้สึกก็บอกว่ามันเป็นหนังที่ทำจากอนิเมะที่น่าดูที่สุดเรื่องหนึ่งของญี่ปุ่น ทาคุยะ คิมูระ รับบทเป็น โคได สุสุมุ เป็นดาราคนเดียวในเรื่องที่รู้จักและมักคุ้นจากการดูซี่รี่ย์ของญี่ปุ่น และ ต่อจากนี้คือเกร็ดเล็กน้อยที่ได้จากการดูหนังและหลังหนังจบ 1. ใครจะดูเพราะมันเป็นหนังอวกาศต้องยิ่งกันมันส์ ไซไฟ เอฟเฟคล้ำยุค ขอให้หยุดไว้ก่อนเพราะจากความรู้สึกมันคือหนังดราม่าที่เล่าเรืองราวของคนบน ยานอวกาศที่ชื่อยามาโต้ 2. โอกาส และความหวัง คือ 2 สิ่งสุดท้ายที่ควรทิ้งจากชีวิต และเนื้อเรื่องทั้งเรื่องก็มีทั้งสองสิ่งเป็นแรงผลักดันและจูงใจ 3. ดูหนังเรื่องนี้แล้วเห็นสีเชียวครั้งหนึ่งจะรู้สึกชื่นใจมากกกกกกว่าหนังเรื่องอื่น 4. เราไม่มีทางเข้าใจเขานอกจากเราจะไปอยู่จุดนั้นซะเอง เหมือนดั่งที่โคไดในตอนแรกที่ไม่มีวันเข้าใจการตัดสินใจของกัปตันโอคิตะจนกระทั่งเขาต้องมานั่งเก้าอี้กัปตันเองเสียก่อน 5. หนังเรื่องนี้ตอนแรกนางเอกไม่มีเสน่ห์เสียเลยจนกระทั่งช่วงกลางที่อะจะบะระเฮ้ยกับพระเอก ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น และตอนจบก็กลับมาม่อยอีกรอบ 6. หนังเรื่องนี้พาฟิวดาวส์ ฟิวอัพ ฟิวดาวส์ ฟิวอัพ บ่อยมาก เหมือนเป็นชีพจรของคนใกล้ตายไม่พาขึ้นสูงและไม่พาลงต่ำ แต่พาขึ้นพาลงอยู่ตลอดเวลา 7. การทำลายโลก เราอาจไม่ต้องรอให้มนุษย์ต่างดาวยิงกัมมันตภาพรังสีมาทำลายพืชบนโลก มนุษย์เราทุกวันนี้ก็ทำลายกันเองอยู่แล้ว แต่เมื่อใดที่คุณได้ดูเรื่องนี้แล้ว คุณจะเข้าใจว่าพืชมันมีความสัมพันธ์ทั้งทางกายและทางใจต่อมนุษย์มาก สีเขียวรูปต้นไม้ใบหญ้ามันความรู้สึกที่เบากว่าโครงเหล็กและสายไฟมากนัก เริ่มอนุรักษ์แต่วันนี้ดีกว่าวันหน้าต้องย้ายดาวเพราะพืชบนโลกหมดไป
Create Date : 27 กรกฎาคม 2554 | | |
Last Update : 12 กันยายน 2554 21:08:45 น. |
Counter : 964 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
Meet the robinson - Keep moving forward
Meet the robinson ภาคยนตร์อนิเมชั่นของ Disney เมื่อปี 2007 ที่บ้านเราดูจะไม่ดังซักเท่าไหร่ หรืออาจจะไม่ดังสำหรับผมคนเดียวก็ได้ ภายในเรื่องจะพาเราไปพบกับหนูน้อย ลูอิส นักประดิษฐ์ ที่ประดิษฐ์อะไรก็ไม่ค่อยจะสำเร็จกับเขาเท่าไหร่ ในตอนที่สิ่งประดิษฐ์ชิ้นแรกจะออกมาได้เรื่องได้ราวก็โดนตัวร้ายมาทำลายเสียอีก จนทำเอากำลังใจแรงบัลดานใจหายไปหมด จนอยากจะเลิกทำการประดิษฐ์(ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก) จนมีไทม์แมชชีนมาปรากฏต่อหน้าได้ออกไปเจอเหตุผลในอนาคตพบเจอกับครอบครัว Robinson ที่ช่วยทำให้เขากลับมามีกำลังใจแล้วหันกลับมาทำสิ่งที่รักอีกครั้ง Meet the Robinson เป็นหนังที่มีวลีเด็ดว่า Keep moving forward - จงเดินหน้าต่อไป โดยเนื้อหาของหนังก็ปูพรมมาเพื่อทางนี้อยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นตอนที่แม่เลี้ยงพูดกับ ลูอิส ตอนที่ลูอิส จะย้อนกลับมาหาแม่ของตัวเองด้วยเครื่องอ่านความทรงจำ หรือ ตอนที่ลูอิสไปอยู่ในอนาคต ที่ทุกคนในบ้านก็ล้วนผลักดันให้เดินต่อไป ไม่มีใครมานั่งกลนด่ากับความผิดพลาดของลูอิส กลับบอกด้วยซ้ำไปว่า ความผิดพลาดเนี่ยละที่สอนเราถ้าเราไม่รู้จักผิดพลาดความสำเร็จนั้นมันก็ไม่มา ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ล้วนช่วยให้หนังภาพน่ารักๆเด็กๆกลายเป็นหนังที่ไม่ว่าคนวัยไหนก็ดูได้ เด็กดีสนุก ผู้ใหญ่ดูได้แนวคิด โดยในระหว่างเล่าเรื่องและปูพรมให้กับเนื้อหาหลักหนังก็ไม่ลืมที่จะเก็บประเด็นเรื่องเพื่อน เรื่องคนรอบตัว ในช่วงที่เรากำลังทำตามฝัน ทำสิ่งที่รัก ทำอะไรก็ตาม เราก็ไม่ควรลืมมองคนที่ได้รับผลกระทบกับการที่เราทำสิ่งนั้นด้วย เราไม่ใช่ตั้งหน้าตั้งตาล่าฝันอย่างเดียวจนลืมสนใจพ่อแม่พี่น้องคนที่อยู่รอบๆตัว เพราะเราอาจสร้างบาดแผลให้กับเขาไว้เมื่อไหร่ก็ได้ โดยสรุปแล้ว Meet the Robinson เป็นหนังอีกเรื่องที่แนำนำให้หามาดูสำหรับแน่คิดดูและความน่ารักแบบการ์ตูน ปล. จะมีติดอยู่บ้างก็ตรงตัวร้าย บทมันดูงี่เง่าเกินจะทำใจได้ IMDB: 6.9/10 Rottten tomato : 66% & audience 75%
เมื่อดูจบเราจะพบคน 3 ประเภทในหนัง 1. เจออุปสรรค หรือ ล้มเหลว แล้วโทษตัวเองหมดกำลังใจ (ตัวเอกตอนปัจจุบัน) 2. เจออุปสรรค ล้มเหลวแล้วโทษคนอื่น (ผู้ร้ายใส่หมวก) 3. เจออุปสรรค ล้มเหลวแล้วเดินต่อไป (พระเอกในโลกอนาคต) คุณเลือกได้ว่าจะเป็นแบบไหน
Create Date : 25 กรกฎาคม 2554 | | |
Last Update : 25 กรกฎาคม 2554 22:56:00 น. |
Counter : 1012 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
Tranformer 3 dark of the moon
หลังจากได้ดู Tranformers 3 - dark of the moon นี่คือสิ่งที่อยากพูดอยากบ่นถึงหนังเรื่องนี้ 1. เปิดฉากที่คำชมถึงระบบ 3D ของหนังที่ทำออกมาได้ดีดูเนีนยตา และเป็น 3 มิติจริงแทบทั้งเรื่อง โดยที่ไม่ต้องอาศัยของแหลม ของตก ของปา ให้พึ่งออกมาจากจอ ก็รู้ได้ว่า ตูเสียตังค์มาดูหนังแบบ 3D อยู่นะ 2. นางเอกคนใหม่Rosie Huntington-Whiteley เธอ sexy เย้ายวน จนทำผมลืม เมแกน ฟ๊อก ไปเสียสนิท 3. เริ่มบ่นเริ่มที่บทหนัง หลังจากภาคที่แล้วโดยนักวิจารณ์บ่นแหลกเรื่องบท ภาคนี้พยายามปรับปรุงและยัดเหตุการณ์จริงเข้ามาผูกเรื่องไปมาให้ดูน่าสนใจขึ้น แต่ ประเด็นของหนังดูจะโดดไปมาแม้จะผสมเนื้อเรื่องได้ลื่นไหลไปเรื่อยๆก็ตาม 4. เจ้า ผงชูรส ของภาคที่ 2 มันกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับความสามารถชุบชีวิตไม่จำกัดและหยิบยื่นไปมาได้ โอ้ววววววว (ใครงง มันคือ แท้ง 3 เหลี่ยมๆที่เอาไว้ชุบออโต้บอทนั่นละ) 5. ตอนจบ = = เหมือน ไมเคิลเบย์ จะงบหมด หรือ หมดมุข อยู่ดีๆก็จบไปง่ายๆเฉยๆ แมกกะทรอนตัวโครตร้าย นั่งจำศีลเป็น ฤษี ต้องรอให้นางเอกเดินไปบอกว่าต้องทำอย่างไร จึงโผล่มาจัดการ ผู้เฒ่าหุ่นยนต์ ช่วย ออพติมัส แล้วถูก ออพติมัสเอาขวานจามเข้าให้ไปกระบวนท่าเดียว เป็นอันจบศึก และหนังก็จบ 6. ไม่เกี่ยวกับหนัง แต่เป็นโรงหนัง ผมก็ยังคงเกลียดการไปดูหนังที่ paragon เหมือนเคย ไม่ว่าจะด้วยราคาที่แพงกว่าที่อื่นแล้ว แถวซือตั๋วก็จะยาวอยู่เสมอ และที่สำคัญ ห้องน้ำอยู่ไกลโรงหนังมาก ถ้าปวดอะไรซักอย่างแล้วจะเข้าห้องน้ำ มั่นใจว่าคุณจะพลาดหนังไปอย่างต่ำ 5 นาทีแน่นอน
และนี่เธอผู้ทำให้ผมลืม เมแกน ฟ๊อก
Create Date : 24 กรกฎาคม 2554 | | |
Last Update : 24 กรกฎาคม 2554 22:49:06 น. |
Counter : 874 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
hachi หัวใจพูดได้
จากเค้าโครงเรื่องจริงสู่จอภาพยนตร์ เจียรนัยได้อย่างงดงามกับสายสัมพันธ์ระหว่างคนกับสุนัข ฮาชิ : หัวใจพูดได้ ฮาชิ ...ลูกสุนัขพันธุ์อคิตะ ที่ไม่มีใครรู้ที่มาที่ไป ได้ถูกขนส่งขึ้นมากับขบวนรถไฟ ซึ่งไม่มีทราบถึงจุดหมายที่แท้จริงที่เจ้าฮาชิจะถูกนำตัวไปส่ง ระหว่างทางขนย้าย กรงของเจ้าฮาชิได้หล่นระหว่างทาง นั่นเองที่ทำให้ฮาชิได้พบกับศาสตราจารย์ พาร์คเกอร์ วิลสัน และนี่คือจุดเริ่มต้นแห่งสายสัมพันธ์ที่ยิ่งใหญ่ระหว่างฮาชิและศ.วิลสัน คำถามที่เกิดขึ้นกับผมหลังดูหนังเรื่องนี้จบคือ หากผมต้องรอคอยบางสิ่งที่ผมรัก เป็นเวลานาน 10 ปี 20 ปี 30 ปี ..โดยที่ผมไม่รู้ว่าสิ่งนั้น จะกลับมาหาผมหรือไม่ ผมจะทำได้ไหม ? . . . แล้วคุณหละ ? แต่สำหรับสุนัขหนึ่งตัว ที่รอคอยคนหนึ่งคน นั้นทำให้ผมได้รับรู้ ว่าความสัมพันธ์ที่เรียกว่าความรัก ไม่ได้ถูกจำกัดอยู่เพียงแค่คนกันคนเท่านั้น แม้แต่สุนัขยังรับรู้ได้ถึงความใกล้ชิด ที่แปรเปลี่ยนเป็นสายสัมพันธ์ที่ยากจะตัดขาดจากกัน ถึงแม้สุดท้ายบทสรุปของเรื่องราวทั้งหมด จะไม่สวยหรูดั่งในนิยาย แต่นี่คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ ถึงแม้ว่าการรอคอย จะเป็นสิ่งที่น่าเบื่อ เหนื่อยหน่ายสำหรับใครหลายๆคน แต่สำหรับบางคน การรอคอย คือสิ่งที่มีความหมายที่สุด ในชีวิต หากคุณดูหนังเรื่องนี้จนถึงฉากสุดท้าย ผมเชื่อว่าคุณจะได้กลับมาย้อนมองตัวเอง ศรัทธาและความหวัง คือสิ่งที่ ฮาชิ ได้มอบไว้ให้แก่โลกใบนี้ คะแนน: 8.1/10 : IMDB คะแนน: 55% : Rotten Tomatoes BY COSMOZ
Create Date : 08 มิถุนายน 2554 | | |
Last Update : 8 มิถุนายน 2554 0:34:09 น. |
Counter : 1038 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
คนหนึ่งคนที่รอความตาย อาจารย์ยงยุทธ อาจารย์เคยพูดไว้ว่า คนบนโลกนี้มี 2 ประเภท 1.คนที่ตายแล้ว 2.คนที่รอความตาย ผมยังอยู่ประเภท 2 กำลังรอความตาย แต่จะรอความตายอย่างไร? ติดตามผมมาเถอะครับ
|
|
|
|
|
|
|
|