Group Blog
 
All Blogs
 
Midnight in Paris - ปารีสของวู้ดดี้ อัลเลน



ยังจำได้ว่าในสมัยวัยรุ่น มีเพื่อนเคยถามผมว่าชอบผู้กำกับหนังอเมริกันคนไหนมากที่สุด ผมตอบอย่างไม่ลังเล “วู้ดดี้ อัลเลน” หนังของวู้ดดี้ อัลเลนที่ผมชื่นชอบส่วนใหญ่เป็นหนังในทศวรรษ 70 และ 80 ทั้ง Annie Hall, Manhattan, Crimes and Misdemeanors โดยเรื่องที่ชอบสุดคือ Hannah and Her Sisters ผมชอบกลิ่นอายของปัญญาชนในหนัง ตัวละครที่พูดถึง นิตเช่, ตอลสตอย, ดอสโตเยฟสกี้, โฟลแบรต์, อิงมาร์ เบิร์กแมน ฯลฯ

อย่างไรก็ตามหนังที่เขาสร้างในช่วงหลายปีหลังที่ผ่านมา ได้คลายเสน่ห์ดึงดูดใจ ผมแทบไม่สนใจหนังที่เขาสร้างในยุคหลังเลย จวบจนเรื่องนี้ Midnight in Paris !

เพียงเริ่มต้นของหนังด้วยฉากมหานครปารีส พร้อมด้วยเพลง Si Tu Vois Ma Mere ของ Sidney Bechet คลอประกอบภาพ montage ยาว 3 นาที โดยไม่มีบทสนทนาใดๆ ผมรู้สึกได้ว่า วู้ดดี้ อัลเลนที่เคยชื่นชอบในอดีตกำลังกลับมา (ทำให้นึกถึงฉากเปิดเรื่อง Manhattan)

เนื้อเรื่องกล่าวถึง กิล ตัวเอกซึ่งเป็นนักเขียนบทในฮอลลีวูดเดินทางมาพักผ่อนท่องเที่ยวในปารีสกับแฟนสาว เขาไม่พอใจในชีวิตของตน อยากเป็นนักเขียนนวนิยาย และรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ใช้ชีวิตในวัยหนุ่มที่นี่ เขาชอบศิลปิน นักคิด นักเขียนที่อาศัยอยู่ในยุคทองของปารีสช่วงทศวรรษ 1920 ซึ่งตรงข้ามกับแฟนสาวซึ่งกำลังจะแต่งงาน ที่ไม่ได้รู้สึกเสน่หาปารีสในยุค 1920 เช่นเดียวกับเขา

แต่แล้วก็เกิดเรื่องมหัศจรรย์ขึ้น เมื่อคืนหนึ่งขณะที่กิลเดินทอดน่องตามลำพัง เขาได้ย้อนเวลากลับไปยังปารีสในทศวรรษ 1920 ได้พบกับ เอฟ สก็อตต์ ฟิตซ์เจอรัลด์, เฮมิงเวย์, เกอร์ทรูด สไตน์, ปิกัสโซ่, ดาลี, หลุยส์ บุนเยล, ที.เอส.เอลเลียต ฯลฯ เขาได้ย้อนกลับไปในทศวรรษ 1920 ทุกค่ำคืน ได้พบปะสนทนากับฮีโร่ของเขา จะวิเศษเพียงใดกับการใช้ชีวิตในปารีสในทศวรรษ 1920 ได้พบเห็นพูดคุยกับ นักคิด นักเขียน จิตรกร ศิลปินในยุคนั้น

หากได้เจอนักเขียนและศิลปินเหล่านั้นจริงๆ อย่างเอฟ สก็อตต์ ฟิตซ์เจอรัลด์ เฮมิงเวย์ หรือปิกัสโซ่ ผมคงตื่นเต้นแทบช็อคด้วยความลิงโลดใจเหมือนกิล เพราะไม่คิดว่าจินตนาการจะกลายเป็นจริง

อรรถรสในการชมหนังเรื่องนี้จะยิ่งมากขึ้น ถ้าเป็นคนชอบวรรณกรรมและศิลปะ เพราะจะเข้าใจในหลายฉากของหนัง ต้องมีพื้นฐานทางวรรณกรรมและศิลปะด้วย เช่นตอนหนึ่งที่ตัวเอกพูดกับเฮมิงเวย์ว่า "All modern American literature comes from Huckleberry Finn.” นี่เป็นประโยคที่เฮมิงเวย์เขียนไว้ในหนังสือของเขา

หนังพูดถึงประเด็นการโหยหาอดีตกับช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์ทางศิลปวัฒนธรรมที่ได้ผ่านพ้น โดยให้ข้อคิดที่คมคายว่าทุกยุคสมัยผู้คนต่างโหยหาอดีต ซึ่งความโหยหานั้นอาจเป็นม่านบังตาบางอย่าง เป็นการชดเชยการขาดหาย และความไม่สมหวังในปัจจุบัน

Midnight in Paris เป็นหนังมีบทสนทนาที่คมคาย ขบขัน รื่นรมย์ ทำให้ผมยิ้มได้ตลอดทั้งเรื่อง หนังเรื่องนี้เป็นเสมือนจดหมายรักต่อปารีส

หนังสำหรับคนที่ชอบวรรณกรรม ศิลปะ และคนซึ่งมีปารีสเป็นสถานที่พิเศษในหัวใจ


Create Date : 02 กันยายน 2554
Last Update : 2 กันยายน 2554 19:43:26 น. 5 comments
Counter : 1569 Pageviews.

 
น่าดูมากค่ะ


โดย: BoOKend วันที่: 4 กันยายน 2554 เวลา:0:16:08 น.  

 
สวัสดีฮะคุณ BlueWhiteRed เราอยากจะไปนิวยอร์คก็เพราะ Annie Hall นี่แหละ ว่าแต่เรื่องนี้เข้าฉายบ้านเราด้วยเหรอ หนังวู้ดดี้เราได้ดูํไม่ถึงครึ่งของที่เขาทำหรอกแต่ก็หลายเรื่องอยู่เหมือนกัน ใหม่ ๆ หน่อยที่ชอบก็ Match Point

เรื่องนี้สั้นไปนิด คนดังคับคั่ง ตลกด้วยนะ เราไม่ใช่แฟน Owen Wilson แต่ก็บังเอิญดูหนังฮีไปหลายเรื่องเหมือนกัน เฮมิงเวย์ในเรื่องดิบเถื่อนจริง ๆ แต่ดูสูงและหล่อไปนิด หลายคนในเรื่องเพิ่งเคยได้ยินชื่อ ฮานักสืบที่ตามพระเอกมาก หายสาบสูญไปเลย ฮ่า ๆๆ


โดย: prunelle la belle femme วันที่: 5 กันยายน 2554 เวลา:3:44:14 น.  

 
ฉากที่นักสืบหลงไปในอดีตทำเอาผมหัวเราะเหมือนกันครับ :)


โดย: BlueWhiteRed วันที่: 18 ตุลาคม 2554 เวลา:10:52:54 น.  

 
ได้ดูแล้ว ซับอังกฤษ พูดกันทั้งเรื่องเลย ชอบระดับหนึ่งครับ
อยากดู Annie Hall ครับ


โดย: คนขับช้า วันที่: 28 พฤศจิกายน 2554 เวลา:21:49:10 น.  

 
อยากดูมากกก ต้องไปดูที่ไหนได้บ้างคะเนี่ย โอ้ ถ้าเจอตัวเป็นๆนักเขียนที่เราอ่านมาเนี่ยน่าทึ่งมาก ดูหนังเรํ่องนี้ได้วรรณกรรมหนังสือแถมอีกด้วย!!


โดย: narumol_tama วันที่: 8 มกราคม 2555 เวลา:0:21:58 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

BlueWhiteRed
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




Friends' blogs
[Add BlueWhiteRed's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.