To kiss forehead is erase worry.. so I kiss you... To kiss eyes is convinced you to sleep.. so I kiss you
โอ้หนอตะละแม่ขวัญเรือน ณ Horw ลูเซิร์น

กลับมาโม้ต่อ หลังจากไปร่ำเรียนเพียรศึกษาภาษาเยอรมันมาเป็นวันที่สอง กร๊ากกก ดูยิ่งใหญ่มากเจ้าค่ะ พอวันที่มาถึงบ้านที่นี่ Felmiss-Allee บ้านอยู่เนินเขานิดๆ ใกล้เขาหน่อยๆ พอโดนบังคับไปวิ่งตอนเช้า(มาสองวัน) และ
เดินป่าได้ (บ้านตรงไหนก็ใกล้เขาอะกะ ที่นี่) ดาร์ล้ิงก็แนะนำให้ดูทุกซอกทุกมุมของบ้าน เป็นบ้านหลังเล็กๆ น่ารัก พอมีที่จอดรถสองคัน มีสวนเอาไว้นั่งเล่นอย่างที่กล่าวเอาไว้ในตอนที่แล้ว คิดดูขนาดห้องน้ำยังแนะนำ (น่านนะ >>ชี้ไปที่ห้องน้ำแล้วบอกว่า ยูเอาไว้นอนเล่นละกัน ว่างๆ เวลายูขี้งอนน่ะ)
ที่บ้านนี้มีเพื่อนผู้น่ารักอยู่ด้วยอีกสองคน นามหนึ่งเรียกว่า หนูคริส และอีกนามหนึ่งคือลูคัส หนุ่มนามหลังนี่บางวันก็อยู่บางวันก็อยู่บ้านตัวเองที่ซูริค เรารู้สึกว่าดีเหมือนกันนะ ที่เขาได้อยู่ร่วมกับเพื่อน ทำกับข้าวด้วยกัน นั่งคุยกัน ที่ชอบมากๆ ก็คือเวลาต่างคนต่างทำงานของตัวเองหรือไม่ก็อ่านหนังสือเรียน ซึ่งปกติแล้วในวิชาเรียนในระดับมหาลัย จะมีชั่วโมงเรียนที่เรากลับมานั่งทบทวนเองอยู่เช่น 3-2-4 ซึ่งหมายความว่าเรียนในห้องเรียนสามขั่วโมง ปฏิบัติสองชั่วโมงและเรียนรู้ด้วยตัวเองสี่ชั่วโมง (ใช่ไหมคะ ห่างเหินจากการเรียนมานาน เหอเหอ) ซึ่งเพื่อนๆ เขาจะให้เวลากับการเรียนรู้ตรงนี้เองจริงๆ
กรี๊ดดดด กลับมาดูเมื่อวานพิมพ์เอาไว้หายไปไหนฟะ ส่วนหนึ่ง แว๊กๆๆๆ ไม่เป็นไร อุตส่าห์คิดว่าเซฟเอาไว้แล้วนะ พูดถึงสิ่งดีๆ อีกอย่างในสวิสที่หาไม่ได้แถวพัทยากลางซอยสิบหก (บ้านฉัน) รถทุกคนจะหยุดให้คนเดินข้ามถนนก่อนเสมอ (ส่วนสามแยกบ้านฉันละก็ อย่าหวัังเชียวละ แถมฝรั่งบางผู้บางคนไม่เคยได้ทำอะไรบ้าๆ แหกกฎเขาก็มาทำกันที่นี่แหละคุณเอ๋ย สงสาร"พัทยา"จัง เอะอะอะไรก็ว่าเค้าจริงๆ แล้วคนต่างหากที่เป็นคนทำและกำหนด เชอะ
มาเว่าต่อกันถึงสวิสเซอร์แลนด์ บ้านแควนฉัน สิ่งที่ทำตะละแม่อย่างเราละลานตาระเริงใจคือ ทำไมเขาใช้แต่รถแพงๆ กัน(วะ) มีคนจนบ้างหรือเปล่า (มองตาปริบๆ แล้วก็คิดว่าเมื่อไหร่เราจะซื้อรถได้) อย่าหาว่าอวดรวยเลยฮ่ะ กิกิ บ้านนี้มีรถ 5 คน (ใช้กันยังไงวะ) แถมรถบัสก็ไม่เคยขึ้นกันอีกตะหาก ได้ยินแต่ว่าการขนส่งของเมืองเขาสะดวกสบาย ไอ้เราก็อยากลอง กิกิ เมื่อวานไปซื้อตั๋วเดือนมาใช้ เพราะต้องเป็นนักเรียนไปโรงเรียน (เอง)ทุกวัน ถูกมาก (แต่อย่านึกเป็นเงินไทย) 61.5ฟรังก์ (คูณ 26บาทเข้าไปนะคะ) ใช้ได้หนึ่งเดือน นั่งรถบัสกี่เที่ยวก็ได้ ขึ้นลงตรงไหนตามป้ายนะขอบอก ขนาดขึ้นเขายังมีป้ายรถเมล์เลย หากจะนั่งรถไฟก็จะเป็นอีกราคา ไว้จะต้องไปนั่งให้ได้ ตอนไปซื้อตั๋วเดือน ในที่สุดตะละแม่ขวัญเรือนก็ได้ใช้รูปสวยของตัวเองแบบไม่เป็นทางการ (ที่เวลาถ่ายรุปเป็นทางการเมื่อไหร่อย่าได้หวังจะเหมือนคน) ไปแปะบนสมุดเล็กๆ เล่มเหมือนพาสปอร์ต
และเขียนวันหมดอายุเอาไว้ให้ เวลาขึ้นรถเมล์ก็เดินขึ้นไปเฉยๆ ไม่ต้องไปเดินไปโชว์บัตรอะไร แต่หากมีพนักงานมาขอดูสมุด เราก็ต้องมีให้เขาดู อีกอย่าง คนที่นี่ซื่อสัตย์ หากไม่มีตั๋วก็เดินไปจ่ายเงินกับคนขับรถ และรับใบเสร็จมา ค่ารถครั้งแรกตอนเรายังไม่ได้ซื้อตั๋วคือ 2.5 ฟรังก์ คิดดู ไปกลับวันละ 5 ฟรังก์ ซื้อตั๋วเดือนถูกกว่าเป็นไหนๆ เนอะ กร๊ากๆๆ กลับมาถึงความเปิ่นเป๋อของสาวบ้านนอกทั้งในและต่างประเทศ จริงๆ วันนี้รถที่จะขึ้นเป็นเวลา 8.07 น.(จากบ้านเข้าเมืองลูเซิร์นใช้เวลา 19นาที) พอดีรถเวลา 7.52 มาก่อน เราก็เลยจะขึ้น พอเดินถึงประตู แว๊ก ทำไมไม่เปิดวะ (สงสัยคนขับไม่เห็น) เดินไปอีกประตู โอ้แม่เจ้า ฟ้าส่งมาโปรด คนขับเปิดให้ พอนั่งรถมาสักพัก พระเจ้าก็เปิดทางสว่างให้ขวัญเรือน เพราะเห็นคนอื่นที่กำลังจะขึ้นรถ เขาเอามือกดปุ่มตรงประตูให้มันเปิด ฮ่วย...


Create Date : 12 มิถุนายน 2550
Last Update : 22 สิงหาคม 2550 0:13:34 น. 1 comments
Counter : 305 Pageviews.

 
ตลกดีนะคะ ก็ได้เรียนรู้ไปว่ามันเป็นงี้เป็นงี้ ขอให้เรียนให้สนุก ฝึกพูดกับแฟนหนุ่มทุกวันเดี๋ยวเก่งๆ เป็นกำลังใจให้ค่ะ


โดย: Nok (nokjeffus ) วันที่: 14 มิถุนายน 2550 เวลา:13:22:13 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

เค้าว่าหนูเป็น borderline
Location :
ตาก Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ไม่มีเหตุผลในการจากไป
ไม่มีสาเหตุใดที่ทำให้เราจากกัน
ใช่..ดูเหมือนไม่มีเหตุผลเพียงพอ
ความรักนั้นยิ่งใหญ่....
กว่าเสียงระฆังในชานชาลา
ทั้งวันเวลาแห่งความสัมพันธ์
ผ่านเนิ่นนานยาวกว่าขบวนรถไฟ
แต่ชีวิตกลับมุ่งหน้าไปเช่นขบวนรถ
ในคืนเหยียบหนาว
โดดเดี่ยว..ฝ่าความมืดดำ
..ไม่มีเหตุผลในการจากไป....
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add เค้าว่าหนูเป็น borderline's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.