สุดฟ้าสิ้นรอยทราย . . . ตอนที่ 04
สุดฟ้าสิ้นรอยทราย . . . ตอนที่ 04
คำสารภาพของบุตรชายวัยหกขวบทำให้ฟาจาอยากจะตีเจ้าตัวดีให้เลือดอาบหากแต่ว่าเมเทเทปบังร่างน้อยนั้นไว้ทำให้หญิงสาวได้แต่เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความโกรธ นางตบอกเหมือนคนกำลังหายใจไม่ออก
ยามนี้นางอยากไม่หายใจได้เลยยิ่งดีจะได้ไม่ต้องมารับรู้อะไร โดยเฉพาะวีรกรรมของลูกชายตัวแสบ ฟาจานั่งลงข้างๆไนล่าที่บัดนี้ตัวสั่นเทิ้มด้วยความกลัว...นางกอดบุตรีแน่นจนทารกน้อยรู้สึกอึดอัดส่งเสียงอ้อแอ้ออกมา ถ้าเจ้าไม่ใช่ลูกข้า ข้าจะเฆี่ยนเจ้าให้ตายตรงนี้เลย ฟาจาหันไปมองหน้าน้องสะใภ้แล้วสงสารอีกฝ่ายเหลือเกินเพราะนิสัยปากสว่างของบุตรชายของตนแท้ๆจึงทำให้เหตุการณ์ที่เหมือนจะดีกลับเลวร้ายลงไปอีก ใจเย็นนะไนล่า ข้าว่าพวกเราต้องมีทางออก ฟาจาพยายามปลอบใจอีกฝ่ายแต่ดูเหมือนหญิงสาวจะไม่รับรู้อะไรแล้ว ฟาจาที่นั่งอยู่พยายามผุดลุกขึ้นยืนยังไงนางก็ต้องจัดการอะไรบางอย่างให้ลูกชายได้สำนึกถึงความผิดของตนบ้าง ดูซะ
เมฟู เพราะเจ้า
เจ้าคนเดียวทำให้ไนล่ากับน้องต้องเป็นแบบนี้ ใจเย็นน่าพี่ฟาจา... ดุหลานไปตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์หรอกเรามาช่วยกันคิดหาวิธีแก้กันดีกว่า เขาพยามเตือนสติทุกคนที่อยู่ในกระโจม ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ขวัญเสียไม่แพ้กัน
เมดูอาลูกพ่อ
พ่อจะช่วยเจ้าได้อย่างไร ??? เมฟูตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวแม่ของเขาไม่เคยโกรธจัดขนาดนี้มาก่อน
แต่ที่กลัวมากกว่าเขากลัวว่าทหารพวกนั้นจะฆ่าน้อง...เขายอมไม่ได้เป็นอันขาด เราจะทำยังไงดี ข้าจะทำยังไงดี โถ่
เมดูอาลูกแม่ ฮื่อๆๆ คนเป็นแม่ขาดสติเสียแล้วนางเอาแต่ร่ำไห้กอดลูกเหมือนจงอางหวงไข่ ใครเข้าใกล้ก็ไม่ได้แม้กระทั่งสามีของนางเอง ไนล่า
พี่จะต้องช่วยลูกให้ได้ ไม่ต้องห่วงนะเขาปลอบหญิงสาวไปอย่างนั้นเอง ทั้งๆ ที่ตอนนี้เขาเองก็หาทางออกสำหรับปัญหานี้ไม่เจอ เอาน้องหลบไปทางด้านหลังดีไหมฮะเมฟูคิดง่ายๆว่าถ้าพวกทหารไม่เจอน้องก็คงจะล่าถอยไปเอง เมเทเทปจึงบอกอีกฝ่ายว่าเป็นไปไม่ได้หรอกถึงจะพาเมดูอาหลบไปแต่พวกมันก็คงตามหาจนได้อยู่ดี...และบางทีอาจจะทำให้คนในเผ่าล้มตายด้วยฝีมือของทหารอียิปต์เขาไม่อยากให้คนอื่นต้องมารับเคราะห์ ข้านึกวิธีช่วยนายน้อยได้แล้วนายท่าน ทาเนราที่ถูกลืมไปชั่วขณะเอ่ยขึ้นมาสายตาทุกคนหันไปจับจ้องหญิงสาวคนหนึ่งในเผ่า
คำพูดของนางเหมือนขอนไม้ที่ลอยมาในกระแสน้ำเชี่ยว
ทุกคนหวังจะพึ่งพาเกาะขอนไม้นั้นลอยคอเพื่อต่อชีวิตรอด วิธีใด รีบพูดมา
ฟาจานั่งคุกเข่าลงตรงหน้าอีกฝ่ายพลางเขย่าไหล่ของทาเนราเมื่อเห็นอีกฝ่ายยังเงียบเฉย วีธีนี้มีทางเดียวที่จะช่วยนายน้อยได้ก็คือ
นำบุตรของราชิดกับนุตฟาที่พึ่งเกิดได้ไม่ถึงเดือนมาสับเปลี่ยนกับบุตรของนายท่าน ทาเรนาอธิบายหลังจากคิดว่านี่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่จะช่วยชีวิตนายน้อยได้
ที่ต้องเลือกบุตรีของราชิดและนุตฟาเพราะว่าเด็กทารกเพศชายอีกอีกคนนั้นโตเกินกว่าจะเป็นเด็กแรกเกิด ไม่
เราไม่ยอมเด็ดขาดเราไม่ยอมให้ใครต้องมาตายแทนลูกเรา เมเทเทปโพล่งออกมาทันทีโดยไม่ต้องคิดและทำให้คนที่ยืนแอบฟังอยู่นอกกระโจมตัดสินใจได้ง่ายขึ้น แต่ข้ายอม
ผู้ที่ก้าวเข้ามาใหม่จากทางด้านหลังกระโจมของเมเทเทปคือผู้ที่กำลังถูกเอ่ยถึง ราชิด
บุรุษหนุ่มผู้มีรูปร่างกำยำเต็มไปด้วยมัดกล้ามอันทรงพลังและเป็นหนึ่งในสิบสามนักรบประจำเผ่าเดินมาอยู่ตรงหน้าของผู้ที่ตนเคารพเหนือชีวิต นายน้อยไม่ได้เป็นเพียงลูกของนายท่าน แต่ชะตาของนายน้อยได้ถูกลิขิตมาแล้วว่าเป็นผู้นำชาวฮิคโซสได้กลับคืนถิ่นมาตภูมิเพราะฉะนั้นแล้วตอนนี้ที่สำคัญที่สุดคือเราต้องเปลี่ยนตัวนายน้อย
เสียงนั้นกลืนหายไปในลำคอ คนเป็นพ่อทำใจได้ยากยิ่งที่รู้ว่าลูกของตนจะพลีชีพเพื่อนายน้อย
กับลูกของข้า เขาฝืนพูดให้จบประโยค ราชิดก้มหน้าเพื่อซ่อนแววตาเศร้า
ไม่
มันต้องมีทางอื่นที่ดีกว่านี้เมเทเทปยังคงยืนกรานปฏิเสธ หรือนายท่านคิดจะพานายน้อยหนีแต่คงไม่ทันกาลแล้วล่ะ เมื่อกี้ข้าแอบไปสอดส่องแถวกระโจมของทหารอียิปต์...พวกมันกำลังเฝ้ามองดูรอโอกาสและจังหวะที่จะบุกเข้ามาในกระโจมของนายท่านอยู่ เจ้ารู้
ไนล่ามองอีกฝ่ายอย่างฉงน ขออภัยนายหญิงที่ข้าต้องแอบฟังพวกท่านคุยกัน แต่เพราะข้าอยากรู้ว่าพวกทหารนั้นจ้องมองมาที่กระโจมของพวกท่านทำไมลางสังหรณ์ข้าบอกว่า
พวกมันคงจะลงมือทำอะไรสักอย่างแล้วก็จริง
แต่นั่นมันลูกเจ้านะ
เมเทเทปพยายามเตือนสติอีกฝ่าย ถึงเป็นลูกข้า...แต่เพื่อชาวฮิคโซสแล้ว ต่อให้เป็นสิบลูกของข้า...ข้าก็พร้อมที่จะยอมสละได้ ตระกูลของราชิดถูกฝึกให้อยู่เพื่อรับใช้ราชวงค์ของเมเทเทปที่ล่มสลาย
ต่อให้กลายเป็นผีก็ไม่อาจผิดคำสัตย์ที่ให้ไว้ต่อวงศ์ตระกูลได้ โถ่
ไม่น่าเลย ทำไมพวกเราถึงต้องมาเจอโชคชะตาที่โหดร้ายแบบนี้ด้วย ไนล่าคร่ำครวญพลางกอดบุตรสาวที่ยังไม่รู้ชะตาชีวิตของตนไม่ว่าเธอหรือนุตฟาคงเสียใจไม่แพ้กันหากใครต้องสูญเสียบุตรีไป
เสียงร่ำไห้ดังมาจากกระโจมหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลกันนัก หญิงสาวที่อยู่ในกระโจมกอดบุตรของตนไว้แน่นแนบอกพลางตัดพ้อผู้เป็นสามีหลังจากทราบเรื่อง...ต้องเสียสละชีวิตบุตรีของตนใครเล่าจักทนได้ เจ้า
เจ้าทำร้ายลูกตัวเองได้อย่างไรกันราชิดเจ้ายังมีความเป็นพ่อคนบ้างหรือเปล่า เจ้าคิดว่าข้าไม่เสียใจรึไงที่ต้องทำแบบนี้ แต่เพื่อรักษาชีวิตของนายน้อยไว้
ได้โปรดเห็นใจข้าเถอะนะนุตฟา เห็นใจเจ้างั้นเรอะ !! แล้วเจ้าล่ะ
เคยเห็นใจข้าบ้างไหม...หัวอกของคนเป็นแม่จะต้องทุกข์ทรมานขนาดไหนที่ต้องสูญเสียบุตรสาวของเราไปต่อหน้าต่อตาแต่เจ้า
เจ้ากลับยื่นลูกของเราไปให้เขาฆ่า นางยังคงร่ำไห้เหมือนคนเสียสติ นุตฟา...ส่งลูกมาได้แล้ว เวลามีไม่มากนัก ราชิดตัดบทอย่างรวดเร็ว เมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมเขาจึงแกะมือที่เหนียวยิ่งกว่ากาวออกจากตัวบุตรี...พรากร่างน้อยๆออกจากอ้อมอกที่แสนอบอุ่น เด็กน้อยยังนอนนิ่งราวกับไม่รับรู้ในชะตาชีวิตของตน แรงหญิงพ่ายแพ้แก่แรงชายเมื่อไม่สามารถปกป้องลูกได้นุตฟาจึงได้แต่พร่ำพรรณา ข้าไม่น่ามาแต่งงานกับเจ้า ไม่น่าเลย
ฮื่อๆซาไนเดลูกแม่ เจ้ายังไม่ทันได้เรียกแม่เลยสักคำ
ฮื่อ
ฮื่อ
ฮื่อ...คอยดูนะ!! ข้าจะไปบอกพวกทหารอียิปต์ข้าจะบอกพวกมันว่าบุตรสาวของนายท่านถูกเปลี่ยนตัวกับลูกข้า หยุดนะนุตฟา อย่าให้ข้าต้องลงมือกับเจ้าเลย คำสั่งกึ่งอ้อนวอนของราชิดไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายสงบลงจิตใจของนางยามนี้ถูกแผดเผาไปด้วยไฟแห่งความเคียดแค้น
แค้นพวกทหารแค้นนายท่านและนายหญิง แค้นราชิดสามีของนางที่เห็นเผ่าสำคัญกว่าลูกตัวเอง และที่แค้นที่สุด
เมดูอา ถ้าเด็กนั่นไม่เกิดมาลูกของนางก็คงไม่ต้องมารับชะตากรรมเช่นนี้ เด็กน้อยที่กำลังนอนหลับสนิทถูกวางไว้ในกระด้งก่อนที่ราชิดจะใช้ผ้าคลุมปิดบังร่างของทารกน้อยเอาไว้ เขาเรียกทาเนราที่คอยอยู่นอกกระโจมให้มารับบุตรสาวเพื่อนำไปส่งให้กับนายท่านที่กำลังรออยู่ "ข้าจะเคียดแค้นชิงชังท่านตลอดไป ท่านฆ่าลูกข้า นายท่านกับนายหญิงก็เช่นกัน..." "หุบปากเดี๋ยวนี้นุตฟา..." ราชิดย่างสุมเข้าหาอีกฝ่ายเขาไม่ชอบให้ใครกล่าวร้ายนายท่านและนายหญิง "ไม่ ข้าไม่หยุด... ข้าจะขอสาปแช่งให้ลูกหลานของนายท่านต้องมีอันเป็นไปตายตามลูกของข้าไป..." เพี๊ยะ !! เสียงผ่ามือกระทบแก้มอีกฝ่าย...นุตฟาจับแก้มด้วยความเจ็บปวด ลิ้นสัมผัสได้ถึงรสฝาดของเลือด หญิงสาวถึงกับตัวชาด้วยความตกใจไม่คิดว่าสามีของตนจะถึงกับลงไม้ลงมือ...นางตัวสั่นด้วยความเจ็บแต่เป็นเจ็บใจ ที่ชาตินี้ไม่สามารถต่อสู้เพื่อปกป้องตนเองและลูกได้ "ข้า... ข้าขอโทษ เจ้าไม่น่าทำให้ข้าโกรธเลยนุตฟา" ราชิดมองมือของตนเองสลับกับแก้มของอีกฝ่ายอย่างสำนึกผิดเขาไม่เคยลงมือกับคู่ชีวิตมาก่อน จนกระทั่งวันนี้...แต่เขาไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ใครจะรู้ถึงหัวอกเขาบ้าง... ยามนี้เขาเหมือนกับตายไปแล้วครึ่งตัวคราใดที่เห็นลูกสาวถูกฆ่าเขาคงตายไปแล้ว...แต่เป็นจิตใจที่ตายไปพร้อมกับบุตรีเหลือเพียงร่างคอยรับใช้และภักดีนายจนลมหายใจหมดลง ทาเนราทูลกระด้งทรงสูงอยู่หนือศรีษะเพื่อตบตาพวกทหารอียิปต์ที่แอบเฝ้าสังเกตุการณ์อยู่ในกระโจมข้างๆ ในนั้นมีร่างของเด็กน้อยนอนหลับสนิท...เมื่อเปิดกระโจมก็พบกับหัวหน้าเผ่าและคนอื่นนั่งหน้าเครียดมีแต่ความเงียบและเสียงลมทะเลทรายพัดผ่านเท่านั้น นายท่านข้าได้นำบุตรีของราชิดมาแล้ว จำเป็นต้องทำแบบนี้จริงๆ ฤๅ เมื่อเปิดผ้าคลุมเด็กน้อยผิวสีน้ำผึ้งใบหน้าจิ้มลิ้มเค้าโครงหน้านั้นพอดูออกได้ว่าหากเด็กน้อยคนนี้โตขึ้นต้องงามเป็นหนึ่งไม่มีสองเมเทเทปไม่อยากใช้เด็กคนนี้เป็นตัวตายตัวแทนกับลูกสาวของตนเลย แต่เพื่อรักษาชีวิตผู้ที่กำเนิดมาพร้อมคำทำนายนั้นไว้
เขาไม่มีทางเลือกอื่นจำต้องทำ
ถ้าลูกเขาไม่ได้เป็นผู้ที่คำทำนายได้ลิขิตไว้เขาคงจะไม่ยอมแลก เร็วเข้าเถอะ
นายท่าน เวลาไม่มีแล้ว ข้าคิดว่าพวกมันคงชิงลงมือก่อนฟ้าสาง ทาเนราบอกเมื่อเห็นอีกฝ่ายนิ่งเงียบคล้ายกำลังตัดสินใจอยู่ ข้าขอโทษนะราชิด
ข้ากับไนล่าและทุกคนในเผ่าเป็นหนี้ชีวิตเจ้ากับนุตฟาและซาไนเดเขาเอ่ยปากขอโทษบุคคลที่ไม่ได้อยู่ในกระโจม ราชิดนั่งเฝ้านุตฟาไว้เพราะคำกล่าวอาฆาตของอีกฝ่ายจะทำให้เสียแผนเสือแม่ลูกอ่อนที่กำลังบาดเจ็บเช่นนางหากเผลอคงจะทำให้แผนการในคืนนี้ล่ม...เขาจึงต้องเฝ้าเอง อีกอย่างที่เขายังคงอยู่ในกระโจม...เขาคงทนไม่ได้หากเห็นคนที่ฆ่าลูกตนเองเขาคงต้องลงมือสังหารมันแน่นอนและอาจจะกลายเป็นศึกที่อียิปต์ตอนบนออกโรงรบด้วยตนเองหากเขาวู่วาม ทารกในกระด้งถูกฟาจาอุ้มออกมาอย่างระวังวางไว้บนที่นอนของเมดูอาเด็กน้อยขยับตัวไปมาเหมือนรับรู้ได้ถึงกลิ่นที่ผิดไปจากอกมารดาตน ในขณะเดียวกัน...เมดูอาถูกจับไปใส่ในกระด้งเดียวกับที่ซาไนเดเคยนอนอยู่เมื่อครู่ ผ้าผืนเดิมปิดคลุมร่างของเมดูอาจนมิดก่อนที่ทาเนราจะทูลกระด้งไว้บนหัวเดินออกจากกระโจมของหัวหน้าเผ่าเบดูอินเหมือนเมื่อตอนขามา...ในใจหวังภาวนาว่าอย่าให้นายน้อยพึ่งตื่นลืมตาตอนนี้เลย ความเคลื่อนไหวของกระโจมเมเทเทปถูกอีกฝ่ายจับตามองตลอดเวลา ท่านแม่ทัพ มีคนออกมาจากกระโจมนั่นอีกแล้ว" ทหารคนหนึ่งหันกลับมารายงานแม่ทัพ "มีอะไรผิดปกติหรอเปล่า" คนที่กำลังนั่งหาวิธีการลอบเข้าไปข้างในเอ่ยปากถามลูกน้อง "ไม่มีขอรับ นางออกมาพร้อมกระด้งอันเดิมที่ทูลเข้าไปสงสัยคงนำอาหารไปให้คนในนั้นทาน..." "อืม...จับตาดูให้ดี โดยเฉพาะถ้ามีใครอุ้มทารกออกมา...ให้เจ้ารีบมารายงานข้าทันที" "ขอรับท่านแม่ทัพ" ทหารที่รับคำสั่งหันกลับไปมองกระโจมของหัวเผ่า สายตาจับจ้องแม้กระทั้งมดทุกตัวที่เข้าออกในกระโจมหลังนั้น ยิ่งดึกสงัดความมืดเริ่มทะยอยคลืบคลานเข้ามาอากาศก็ยิ่งหนาวเย็นขึ้นเรื่อยๆ แสงไฟในกระโจมหลายหลังดับลงทีละกระโจม จนในที่สุดกระโจมที่พวกเขาหมายตาก็ดับไฟลงเช่นกันเหมือนกับกระโจมอื่นๆ นายทหารคนเดิมที่สังเกตุการณ์อยู่รีบหันกลับมารายงานแม่ทัพทันที "กระโจมหัวหน้าเผ่าดับไฟแล้วขอรับ" เนคนุมสั่งให้ลูกน้องคนนึ่งนำใช้หญ้าแห้งไปโยนตามกองไฟ...หญ้าชนิดนี้เมื่อโดนไฟจะกลายเป็นยากล่อมประสาทที่ทำให้คนที่สูดดมควันเข้าไปมีอาการง่วงซึม...และหลับไปในที่สุด ตอนนี้มันก็เริ่มออกฤทธิ์ตามที่เขาคาดการ การรอคอยที่เหมือนจะเนิ่นนานก็ได้สุดสุดลง เมื่อแม่ทัพเนคนุมชักดาบที่อยู่ในฝักออกมาก่อนกระซิบสังการลูกน้องให้ทำไปตามแผน "เจ้าสี่คนไปเอาม้ารอพวกข้าทางทิศเหนือเจ้าอีกสามคนไปขโมยเสื้อผ้าของพวกเบดูอินมาให้ครบจำนวนคน พวกเจ้าอีกสามคนเฝ้าหน้ากระโจมไว้หากมีอะไรผิดสังเกตให้รีบมารายงานข้าส่วนอีกห้าคนที่เหลือตามข้ามา... เราจะเริ่มลงมือเดี๋ยวนี้" แผนการของพวกพวกทหารอียิปต์ตอนบนดูเหมือนจะผ่านไปโดยง่ายไร้อุปสรรค ทั้งๆที่ตลอดการกระทำของพวกเขาเหล่านั้นมีสายตานับสิบคู่จ้องมองการกระทำนั้นอยู่ แต่ไม่สามารถลงมือหรือเข้าไปขัดขวาง คงได้แต่ปล่อยพวกมันทำตามอำเภอใจ (โปรดติดตามตอนต่อไป) น่าสนุกนะคะ อิอิ ;))
โดย: อรัญญาวี (อรัญญาวี ) วันที่: 3 สิงหาคม 2556 เวลา:21:12:13 น.
|
อมฤดา & ธัญณัฐฐ์
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?] ผลงานและบทความทุกชิ้นที่ปรากฏใน Bloggang ของ boonchompu-tunnut ได้รับการคุ้มครองและสงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 (มาตรา 15 และ 27) ไม่อนุญาตให้นำส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมด...ไปเผยแพร่ ทำซ้ำ หรือดัดแปลง จำหน่าย ให้เช่า คัดลอก เลียนแบบ ทำสำเนา การทำให้ปรากฏต่อสาธารณชน ไม่ว่าในรูปลักษณะอย่างใดหรือวิธีใด...โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างเด็ดขาด หากพบเห็นการละเมิดลิขสิทธิ์ที่ผิดกฏหมายของข้าพเจ้า...จะขอดำเนินการทางกฏหมายทั้งทางแพ่งและอาญาโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
All Blog
Link |
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |